หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 646 ความทรงจำที่ลึกล้ำที่สุด

บทที่ 646 ความทรงจำที่ลึกล้ำที่สุด

ช่วงหนึ่งของทางด้านใน เดิมทีควรจะมืดทึบ แต่ทุกหนทุกแห่งของถ้ำล้วนแตกร้าว แต่ละเส้นรอยแยกเล็กใหญ่แตกต่างกันกระจายไปทั่วทุกทิศทาง แสงสว่างก็เข้ามาจากรอยแยกเหล่านี้

ฉะนั้น ในถ้ำก็ไม่ได้มืดสนิทไร้แสงสว่าง

บนพื้นคราบเลือดเก่าใหม่เหล่านั้นไม่เหมือนกัน ยิ่งไปถึงด้านในคราบเลือดยิ่งมากขึ้น

ไม่ช้า บนพื้นก็สามารถเห็นกระดูกเล็กละเอียดได้รางๆ ไม่ต้องดูอย่างละเอียดก็รู้ว่านั่นคือกระดูกมนุษย์ มีนิ้วมือนิ้วเท้าประเภทนั้น ถึงด้านในแล้ว กระดูกยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็สามารถเห็นกะโหลกที่ถูกฉีกขาด

เวลานี้ เสียงดั่งฟ้าร้องดังขึ้นอีกครั้ง

เสียงดังมาก

เหมือนดั่งระฆังใหญ่ของวัดในภูเขา ดังทีหนึ่ง ก้องกังวาน ดังไกลไปถึงฟากฟ้า

จื่อซีจื่อเฟิงติดตามอยู่ข้างกายติดๆ เพิ่มความระมัดระวังตัวขึ้นมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์

สุดท้าย พวกเขาเห็นแล้วว่าเสียงคือวัตถุใดปล่อยออกมากันแน่ เป็นใบหน้าคนชราหน้าหนึ่งที่ใหญ่กว่าคนธรรมดาทั่วไปสองเท่า บนกำแพงหินตรงสุดทางของถ้ำ เหมือนกับว่าถูกฝังเข้าไปเช่นนั้น เผยให้เห็นเพียงใบหน้าออกมา

เวลานี้ใบหน้าใหญ่นั้น ดวงตาทั้งสองปิดสนิท ขมวดคิ้วแน่น ไม่รู้ว่าเจ็บปวดหรือเหตุผลอะไร ใบหน้ายับย่นเข้าหากัน

แม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ก็ยังสามารถมองออกว่าเขาเป็นใบหน้าของคนที่มีชีวิต

เสียงของพวกเขาไม่ดัง แต่ก็ไม่เบา อย่างน้อยขณะที่เข้ามา ก็เกิดความเคลื่อนไหวออกมาแล้ว แต่หากเป็นคนธรรมดา จะพบเห็นการมาถึงของพวกเขาแล้วเป็นแน่

แต่ทว่า ใบหน้าใหญ่ๆนั่นยังไม่ได้สังเกตเห็นพวกเขา กระทั่งเมื่อใบหน้าใหญ่นั่นลืมตาขึ้น หลานเยาเยาและจื่อซีจื่อเฟิงก็ได้หลบไปด้านหลังของกำแพงหินที่โผล่ออกมา เขากลับมองถ้ำที่ว่างเปล่าด้านหน้าอย่างสงสัย

จากนั้น!

เปิดปากเล็กน้อย เสียงที่ใหญ่ดังกังวานนั่น ดังผ่านออกมาจากปากถ้ำรวมถึงรอยแยกที่แตกออกมาทุกทิศทาง แล้วเปลี่ยนเป็นเสียงเหมือนฟ้าร้อง

อันที่จริงนี่เหมือนกับคนเป่าขลุ่ยไม้ไผ่เช่นนั้น เสียงที่ใบหน้านั้นเปล่งออกมาก็เหมือนดั่งคนเป่าลมออกมา และขลุ่ยไม้ไผ่ก็เหมือนกับถ้ำเล็กๆยาวๆที่มีรอยแยกมากมาย เสียงขลุ่ยที่ออกมาก็เหมือนกับเสียงฟ้าร้องที่ทุกคนได้ยินในตอนนี้

หลานเยาเยาเห็นเพียงใบหน้าที่ยับยู่ยี่ใบนั้น

แต่เพียงแค่ใบหน้านี้ ทิ่มแทงสมองของนางให้เจ็บปวดในทันที ความแปลกหน้าอีกทั้งความคุ้นเคย ทั้งยังความทรงจำแสนลึกล้ำที่ถูกปิดผนึกดั่งเศษเสี้ยว ผุดขึ้นมาอย่างไม่หยุดหย่อน

ปวด……

ปวดหัวจนแทบจะระเบิดออก แต่ความเจ็บปวดเช่นนี้ จากสมองขยายไปถึงกระดูกแขนขานับร้อย ทุกที่ที่ไปถึง ล้วนเจ็บปวดจนทำให้นางสั่นเทา

ในสมองปรากฏความทรงจำแต่ละเหตุการณ์ที่ถูกปิดผนึกไว้เนิ่นนานมาก…….

“แม้ว่าจะใช้ทั้งชีวิต เสียสละทุกอย่าง ข้าก็ต้องการย้อนกลับไปช่วยเขา ให้เขาอยู่บนโลกมนุษย์”

“ถึงขีดจำกัดที่สุดแล้ว แม้ว่าเจ้าจะมีสามหัวหกแขนก็ไม่สามารถแบกรับได้ ครั้งนี้ อาจจะเป็นเพียงการไปที่ไม่ได้กลับ แม้ว่าเช่นนี้ เจ้ายังต้องการลองอีกหรือ?” เสียงสอบถามที่แก่ชราเสียงหนึ่ง

“ไม่ลังเลและเปลี่ยนใจ”

ชีวิตมนุษย์ในโลก ก็ไม่ใช่เพราะความดื้อรั้นเล็กน้อยนั่นหรือ?

ไม่ลังเลและเปลี่ยนใจแล้วจะอย่างไรอีก?

เขาคุ้มค่านี่!

นั้นคือในครั้งแรกนางข้ามเวลามาถึงยุคแรก หลังจากที่ตายตามกันไปกับฮ่องเต้รุ่นแรกหลังจากกลับไปยุคปัจจุบันแล้ว ทรุดโทรมไปช่วงเวลาหนึ่ง และบ้าคลั่งช่วงเวลาหนึ่ง เพื่อหาทางกลับมาก่อนหน้าที่ฮ่องเต้รุ่นแรกจะตาย ใช้ทั้งชีวิต ตลอดมาก็ไม่สามารถพบหน้าเขาดั่งปรารถนาได้อีก

แม้ว่านางจะเคยข้ามเวลา

แต่ก็เป็นเพียงหลังจากที่เคยได้มาถึงโลกนี้ไม่กี่ครั้ง แต่ล้วนไม่สามารถอยู่อย่างยาวนาน แม้แต่การกลับชาติมาเกิดของฮ่องเต้รุ่นแรกก็ไม่มีปัญญาหาพบได้ ก็ถูกกาลเวลาที่แตกออกดูดเข้าไปแล้ว

แต่เรื่องการข้ามเวลาชนิดนี้

ต้องแบกรับความเจ็บปวด เป็นหลายเท่าของคนทั่วไป บนโลกแทบจะไม่มีคนที่สามารถแบกรับได้

นางคือคนแรกที่แบกรับได้ ทั้งยังฝืนรับความเจ็บปวดของการข้ามเวลาไม่กี่ครั้งอีก ครั้งสุดท้ายได้ถึงขีดจำกัดแล้ว แม้แต่ร่างกายก็รับไม่ไหว ประสบกับอันตรายมากมายยังสามารถมีชีวิตรอดได้ แต่คิดไม่ถึง ร่างกายกลับไม่สามารถข้ามเวลาไปได้แล้ว

เดิมทีคิดว่านางก็จะตายในตอนนี้

ไม่เคยคิดว่าสุดท้ายจิตวิญญาณจะข้ามเวลามาได้จริงๆ ในส่วนของความทรงจำและระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บเหมือนกับถูกลบและเริ่มใหม่อีกครั้ง

แต่ทว่า ร่างกายที่จิตวิญญาณข้ามเวลามาจะเหมาะสมเท่าไหร่ ก็ไม่มีทางใช้ได้ทั้งชีวิต

คิดไม่ถึงโดยสิ้นเชิง การเดินทางของทะเลทราย ร่างกายเพิ่มความแห้งเหี่ยวอย่างรวดเร็วโดยสมบูรณ์ กาลเวลาแยกออกกลับส่งร่างกายเดิมของนางมา นางก็ได้มองเห็นทุกอย่างของโลกนี้อีกครั้ง

พูดได้เพียงประโยคเดียว สวรรค์สงสารนาง!

ตอนนี้เห็นใบหน้าใหญ่ๆนี้แล้ว กระเทือนความทรงจำทุกอย่างที่ปิดซ่อนไว้ของนาง ในเวลานี้

ระเบิดออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ

คนจากนอกแผ่นดิน…….

นี่ก็คือใบหน้าของคนจากนอกแผ่นดิน

คนจากนอกแผ่นดินเหล่านั้นไม่เพียงใบหน้าเป็นสองเท่าของคนทั่วไป แม้แต่ทั้งร่างกาย ก็สูงกว่าคนปกติสองเท่า

นึกย้อนถึงใบหน้านั้น คาดว่าถูกขังไว้ที่นี่เนิ่นนานหลายปีแล้ว

มานานเท่าไหร่แล้ว แล้วเป็นคนจากนอกแผ่นดินจำพวกไหนอีก?

จื่อเฟิงเห็นสีหน้าของนางซีดขาวขึ้นเรื่อยๆ บนหน้าผากเต็มไปด้วยเหงื่อเล็กๆ อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าใกล้เล็กน้อย แต่ไม่รู้ว่าจะเอ่ยปากอย่างไร ก็ถอยกลับไปเล็กน้อยอีก ใช้ข้อศอกกระทุ้งจื่อซี บอกใบ้ให้เขามองไปทางซ่างกวนหนานซู่

เมื่อจื่อซีมอง!

ตกตะลึงในพริบตา สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันที ตบไหล่ของซ่างกวนหนานซู่เบาๆ กดเสียงให้ต่ำเป็นที่สุด

“ท่านเป็นอะไรขอรับ? คุณชายซ่างกวน!”

หลานเยาเยาส่ายศีรษะ กำหนดให้สภาพจิตใจมั่นคง

มองดูโดยรอบทุกทาง เห็นกำแพงหินด้านขวาที่ฝังใบหน้านั่นของคนจากนอกแผ่นดินไว้พอดี มีรอยแยกสองสามรอยพอดี รอยที่ใหญ่ที่สุดจุคนได้คนถึงสองคน และประจวบเหมาะกับพวกเขาอยู่ไม่ไกลจากรอยแยกจุดนั้นพอดี

หลานเยาเยาไม่พูดจา

ใช้เพียงสายตาบอกใบ้ จื่อเฟิงจื่อซีก็เข้าใจความหมายของนางแล้ว

รอจนคนจากนอกแผ่นดินเจ็บปวดจนปิดตาลง ระหว่างที่เสียงคำรามดัง สามคนแฉลบตัวผ่านที่กำบังจุดหนึ่งตามลำดับ จากนั้นก็แฉลบตัวเข้าไปที่รอยแยกที่ใหญ่ที่สุดรอยนั้นตามลำดับอีก

รอยแยกใหญ่ๆที่แตกออกไม่สม่ำเสมออย่างมาก บางที่กว้าง บางที่แคบ พื้นผิวของที่แยกออกก็ล้วนไม่ราบเรียบ เว้าโค้งขรุขระ กระทั่งกลับเหมือนหนามที่แหลมคมเช่นนั้น

เพียงแต่……

ตั้งแต่เดินมาในรอยแตก

หลานเยาเยาก็พบร่องรอยมากมาย ใหม่เก่าไม่เหมือนกัน

เห็นได้ชัด ที่นี่ไม่ว่าอดีตหรือระยะนี้ล้วนมีคนเคยเหยียบย่ำมาก่อน

แต่ทว่า ทำให้คนคิดไม่ถึงคือ ขณะที่เดินได้ประมาณช่วงกลางภูเขา ด้านในว่างเปล่าเป็นที่ว่างใหญ่มากอย่างคาดไม่ถึง

เมื่อมองทางด้านบน ทั้งหมดเป็นแสงสว่างส่องเข้ามาไม่เป็นระเบียบ ทำให้ด้านในนี้ไม่ได้มืดสนิทขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้สว่างมาก

แต่ ในนี้เคยมีคนอยู่มาก่อน

มีเทียนที่ยังจุดไม่หมด ยังมีคบไฟเสียบอยู่ที่รอยแตกเล็กๆ ล้วนมีใยแมงมุมเต็มไปหมด

“คุณชายซ่างกวนขอรับ ตรงนี้มีคบไฟที่เหมือนเพิ่งจุดเมื่อคืน ตอนนี้มอดหมดแล้ว ขี้เถ้ายังอุ่นๆอยู่ขอรับ”

เมื่อคำพูดนี้ออกไป!

ทุกคนล้วนคิดถึงส้งเย่นกุย

หลานเยาเยาก็ไม่ยกเว้น

อีกทั้งนางสามารถสัมผัสได้ เวลานี้ส้งเย่นกุยก็อยู่ที่นี่ เพียงแค่ไม่รู้ว่าอยู่ในรอยแยกเส้นไหน

แต่นางสัมผัสได้อย่างเลือนราง เหมือนกับว่าส้งเย่นกุยไม่สงบเป็นอย่างมาก และเหมือนกับว่าหวาดกลัวเป็นอย่างมาก

นางจำเป็นต้องหาเขาให้พบให้เร็วที่สุด!

ส้งเย่นกุยตั้งแต่โบราณมา วิทยายุทธกำลังภายในล้วนไม่เหมือนกับคนที่นี่ ยุคแรก พลังเหนือธรรมชาติเต็มเปี่ยม บรรยากาศดีเป็นที่สุด ทรัพยากรน้ำสะอาดเป็นพิเศษ เวลานั้นการเจริญเติบโตของต้นไม้ใบหญ้าเทียบกับตอนนี้ สภาพแตกต่างกันอย่างมากมาย

ดังนั้น แม้ว่าส้งเย่นกุยอยู่ในยุคแรก วิทยายุทธกำลังภายในสามารถนับได้เพียงแค่ค่อนข้างสูงส่ง แต่เทียบกับคนในปัจจุบัน แม้ขณะที่ราชครูเทียนเวิงแข็งแกร่งเป็นที่สุด ก็ไม่มีทางเทียบกับเขาได้

แต่…….

ส้งเย่นกุยกลัวของสิ่งหนึ่งที่สุด

นั่นก็คือผีพุ่งไต้เป็นอันๆ

และก็คืออุกกาบาตที่ตกลงมาจากท้องฟ้า

ตัวของส้งเย่นกุยเดิมทีเป็นเพียงหัวใจสำคัญของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ปลูกถ่ายในสมองของนาง ต่อจากนั้นแปรเปลี่ยนเป็นรูปร่างของคน หลังจากนั้นอีกสามารถอยู่ร่วมกันคนที่มีชีวิตได้ สามารถฝึกฝนวิทยายุทธเขียนอักษรดั่งคนทั่วไปได้

หลังจากนั้น ร่างกายนางตาย ถูกกาลเวลาที่แตกออกดูดกลับยุคปัจจุบัน

ระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บและหัวใจสำคัญในสมองของนางแยกออกจากกัน หลังจากกินยาฉางตานแล้ว ใช้ชีวิตร่วมกับส้งเย่นกุยในเดิมที แต่แม้ว่าผ่านไปพันปีแล้ว ส้งเย่นกุยมีส่วนหนึ่งที่ยังคงเป็นหัวใจสำคัญของระบบการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ อุกกาบาตก็คือศัตรูที่แข็งแกร่งของเขาโดยกำเนิด

หากว่าส้งเย่นกุยกลัว ที่นั่นก็จะต้องมีอุกกาบาตเป็นแน่

จำได้ว่ายุคแรก ดาวนับหมื่นร่วงตก คิดว่าจะต้องมีอุกกาบาตมากมายที่ยังไม่มอดดับกระทบบนพื้น เดิมทีภูเขานี้ทั้งลูกก็อาจจะเป็นอุกกาบาต

ในไม่ช้า หลานเยาเยาก็พบเครื่องหมายที่ส้งเย่นกุยทิ้งให้นาง

ตามเครื่องหมายชี้ทางเข้าไปในรอยแยก ไม่ช้าก็เห็นเลือดสด……

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท