หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 659 ไปดูเรื่องสนุกๆกัน

บทที่ 659 ไปดูเรื่องสนุกๆกัน

บทที่ 659 ไปดูเรื่องสนุกๆกัน
อย่างไรก็ตาม!
มานั้นง่าย คิดอยากจะกลับไปนั้นยาก
กองกำลังข้าศึกที่ถอยทัพกลับไม่ดุดันเหมือนตอนที่พวกมันมาอีกต่อไป อีกอย่างใจของทหารก็พลิ้ววุ่นวายไปแล้ว แต่ละคนเหมือนหมาที่สูญเสียเจ้าของ พวกมันพยายามจะหนี แต่กลับมีหอกยาวและโล่หนักอยู่ในมือ เป็นสิ่งกีดขวางทำให้พวกเขาหลบหนีได้ช้า
ในฐานะที่เป็นทหาร พวกเขาคงไม่สามารถที่เกราะกันบังได้หรอกมั้ง?
ดังนั้นการล่าถอยของพวกเขาจึงช้าลง และจุดอ่อนที่ร้ายแรงของพวกเขาก็ถูกเปิดเผย เพราะโล่ไม่สามารถป้องกันข้างหลังพวกเขาได้ และข้างหลังพวกเขามุ่งเป้าไปที่กำแพงเมือง…
ดังนั้น!
คำสั่งที่อยู่ภายใต้ความเงียบสงบของอ๋องเย่ ลูกธนูนับไม่ถ้วนพุ่งทะลุอากาศราวกับฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก เจาะร่างกายของข้าศึกที่หนีกลับไปโดยตรง
การโจมตีของฝ่ายข้าศึกที่เสร็จสิ้นลงมา
ทหารเกือบสองหมื่นคนที่มาแล้วก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย แต่ทหารและม้าของอ๋องเย่ไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆเลย ทำให้ศัตรูมองเห็นได้อย่างแท้จริง ว่าตำนานไร้พ่ายไร้เทียมทานของอ๋องเย่นั้นได้มาได้อย่างไร
บนกำแพงเมืองที่สูงตระหง่าน ร่างสีดำที่ยืนอยู่เหนือกำแพงเพลิง ด้วยท่ายืนที่สง่างาม เต็มไปด้วยความรู้สึกของผู้ชนะ เขากลายเป็นความกลัวอย่างลึกล้ำในใจของข้าศึก และมันก็ยังได้ทิ่มแทงใจผู้นำข้าศึกให้เจ็บปวด
อ๋องเทพสงครามยังคงน่ากลัวมาก!
……
รอจนกระทั่งข้าศึกถอยกลับไปจนหมด
อ๋องเย่ให้เหล่าแม่ทัพสั่งการเก็บกวาดสนามรบ และจัดการเรื่องต่างๆหลังจากการสู้รบ
กองกำลังได้รับขวัญและกำลังใจเป็นอย่างมาก ความสุขของชัยชนะได้กวาดล้างหมอกควันตรงหน้าจนสะอาด และภาพลักษณ์ที่เข้มแข็งและแข็งแกร่งของอ๋องเย่ที่อยู่ในใจของพวกเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้นไปอีก
ไฟบนกำแพงเมืองยังคงลุกไหม้อยู่
หลานเยาเยายืนเอามือไขว้อยู่ข้างหลัง หันหน้ามองไปทางร่างที่สูงใหญ่ สวมใส่ชุดดำ ยืนต้านสายลม เสื้อผ้าพลิ้วไหวไปตามลม ไม่เพียงแต่ดูแล้วน่าเกรงขาม แต่ยังแสดงให้เห็นถึงลักษณะของผู้ชนะโดยกำเนิด
มุมปากของนางโค้งงอขึ้นด้วยรอยยิ้มบางๆ
ผู้ชายที่งดงามดั่งเทพ ชาติก่อนชาตินี้ก็ได้มาพัวพันกับนาง นางนั้นโชคดีขนาดไหน
ไม่เสียแรงที่นางพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อเดินทางมาหาเขา
เหมือนเขาจะสังเกตเห็นสายตาของนาง
เย่แจ๋หยิ่งหันหน้ามา สายตาที่เฉียบคมเยือกเย็นหยุดอยู่บนตัวนาง วินาทีที่สายตาประสานกันกับนาง สายตาที่เย็นชาไร้ความปรานี ก็ได้ถูกทดแทนด้วยสายตาที่อ่อนโยนทันที
แต่สายตาที่อ่อนโยนนี้คงอยู่ไม่นาน
ทันใดนั้นเย่แจ๋หยิ่งเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาเหมือนยังโกรธอยู่ ภายในใจเหมือนได้ต่อสู้กันไปครู่หนึ่ง ดูว่าควรที่จะโกรธต่อไปหรือเปล่า
เห็นหลานเยาเยายิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
ยังจะมายิ้มอีก?
เย่แจ๋หยิ่งทำเสียงฮึ่มไปหนึ่งที สะบัดแขนเสื้อสีดำอย่างแรง หันหลังลงไปจากกำแพงอย่างรวดเร็ว
ห๊า?
ทำไมโกรธอีกแล้วล่ะ?
หลานเยาเยาที่อยากให้อ๋องเย่กอดหอมแล้วยกตัวขึ้นสูง ก็ตัดสินใจทันที จะตามติดอยู่ด้านหลังของเย่แจ๋หยิ่ง จากนั้นเมื่อไปถึงตรงที่ไม่มีคน จะใช้ความสวยของตัวเองทำให้เขายอมสยบ ให้เขาระบายความโกรธทั้งหมด
เช่นนี้แล้วนางจึงได้รีบลงไปทางกำแพงอีกด้าน
เส้นเงินเส้นเล็กๆยาวๆได้ถูกถอดลงมาหมดแล้ว นอกจากกลิ่นคาวเลือกที่คลุ้งไปทั่ว ไม่ว่าจะเป็นศพหรือม้าของข้าศึก ได้ถูกจัดการไปกว่าครึ่งแล้ว
เย่แจ๋หยิ่งที่ก้าวเท้าไปข้างหน้า ด้วยฝีเท้าที่รีบร้อน สายตาได้เหลือบมองไปข้างหลังเล็กน้อย เห็นร่างที่อรชร ก็ยิ่งเร่งฝีเท้าเข้าไปอีก มุมปากก็โค้งขึ้นเผยรอยยิ้มที่มีเลศนัย
และแล้ว!
เดินๆอยู่ เย่แจ๋หยิ่งก็รู้สึกถึงความผิดปกติ เขาค่อยๆหยุดฝีเท้าลง เหมือนจะหันหลังไปแอบมอง ว่ายังมีร่างของหลานเยาเยาเดินตามมาอยู่หรือเปล่า?
คนล่ะ?
เย่แจ๋หยิ่งสงสัย
หรือว่าเดินเร็วเกินไป นางเลยตามไม่ทัน?
จึงมองหาโดยรอบ ยังคงไม่เจอร่างที่คุ้นเคย
สีหน้าของเย่แจ๋หยิ่งก็แย่ลงทันที
เดิมหลานเยาเยาที่จะไล่ตามเย่แจ๋หยิ่งทัน ก็ถูกคนผู้หนึ่งมาขวางทางเอาไว้
คนผู้นี้เหมือนไม่ได้มาดี มองนางอย่างระมัดระวัง ราวกับว่าจะจ้องจนหน้าของนางทะลุเป็นรูแล้ว
สุดท้ายจึงได้พูดคำขู่ออกมา “ข้ามีเรื่องสำคัญต้องคุยกับเจ้า เรื่องเกี่ยวกับอ๋องเย่ ข้อมูลนี้สำหรับเจ้าต้องเป็นข้อมูลที่น่าทึ่งอย่างแน่นอน”
คนผู้นี้ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นคนที่เห็นนางเหมือนเป็นคู่แข่งด้านความรักอย่างโม่เหลียงเฉิน
แม้ไม่รู้ว่าโม่เหลียงเฉินคิดจะมาไม้ไหน แต่เรื่องเกี่ยวกับเย่แจ๋หยิ่ง ไปสักครั้งจะเป็นไร?
ครู่ต่อมา!
โม่เหลียงเฉิงได้พานางไปถึงร้านเหล้าแห่งหนึ่งในเมืองโยวกวง
ทางร้านรู้ว่าพวกเขาชนะศึกสงคราม ยังรู้ว่าพวกเขาเป็นเพื่อนที่อ๋องเย่พามา ทางร้านจึงเป็นมิตรกับพวกเขาอย่างมาก เลี้ยงต้อนรับด้วยกับแก้มและสุราชั้นดี
แน่นอน!
พวกหลานเยาเยาไม่มีทางที่จะมีกินโดยไม่จ่ายเงินอยู่แล้ว ต่อให้นางจะงก แต่สิ่งที่ควรจ่ายก็ต้องจ่าย ไม่ว่ายังไงมันไม่ใช่นางเป็นคนจ่าย
ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองคนจึงได้ยิ้มให้กับเจ้าของร้าน
แต่เมื่อเจ้าของร้านเดินจากไป รอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไปทันที
“พูดมาเถอะ!”
เมื่อทั้งสองคนนั่งลงแล้ว หลานเยาเยาไม่จับแม้แต่ตะเกียบ ก็พูดออกมาโดยตรง
แม้จะมีสุราชั้นดีอาหารเลิศรส แต่ในใจนางกลับอยู่ที่เย่แจ๋หยิ่ง อยากจะรีบคุยให้จบ
สำหรับนางทำไมถึงต้องมากลับโม่เหลียงเฉิน ไม่ใช่เพียงเพราะเรื่องของเย่แจ๋หยิ่งเพียงอย่างเดียว
นางยังมีเรื่องอื่นด้วย
โม่เหลียงเฉินก็ตรงไปตรงมา ไม่พูดจาอ้อมค้อม พูดกันตรงๆ
“ในใจอ๋องเย่มีคนที่ชอบแล้ว เคยเป็นสาวงามที่ขึ้นชื่อของประเทศหลานเยาเยาพระชายาของอ๋องเย่ จากนั้นก็เป็นเทพธิดาที่งามสง่า ข้าในฐานะคนที่เป็นเพื่อนของอ๋องเย่ เข้าใจนิสัยของอ๋องเย่ดี เมื่อเขารักใครแล้ว ต่อให้ตายก็ไม่เปลี่ยนใจ”
ดังนั้น ความรู้สึกของอ๋องเย่ที่มีต่อความรักของพวกเขามันลึกซึ้งดั่งทะเล แม้ว่าทะเลจะแห้งและหินจะเน่าเสียก็ไม่มีทางจางหายไป สำหรับทำไมอยู่ดีๆถึงได้มาชอบบุรุษ อาจเป็นเพราะว่าเจ้ากับนางสองคนมีจุดที่คล้ายกัน
แต่ไม่ว่าจะทำไม เจ้าก็เป็นเพียงตัวแทนตัวสำรอง
ซ่างกวงหนานซู่ เจ้าเป็นผู้ชาย เจ้าต้องรู้เพศของตัวเองให้ชัดเจน
ข้าขอเตือนให้เจ้าสังเกตสีหน้าคนอื่นบ้าง อย่าทำให้อ๋องเย่ต้องเสียชื่อเสียง
ยังจะถือโอกาสพูดหนึ่งคำ การเป็นคน อย่าโลภเกินไป ใจหนึ่งก็อยากมีอ๋องเย่ อีกใจหนึ่งก็ไปจีบผู้หญิงคนอื่น หลายใจแบบนี้ จุดจบต้องน่าอนาถอย่างแน่นอน
ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดอยู่ห่างๆพวกเขาเอาไว้ สั่งสมบุญให้ตัวเองหน่อย!
หลังจากฟังจบ
หลานเยาเยาพยักหน้าอย่างครุ่นคิด
“ที่แท้คำพูดประโยคสุดท้ายถึงจะเป็นคำพูดที่สำคัญที่สุดในคำพูดเหล่านั้น หลังจากที่สรุปเสร็จ บทสนทนาของนางก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว จึงถามอย่างสอดรู้สอดเห็น เจ้าเพียงแค่ชอบเสี่ยวฮัวฮัว? หรือเจ้ารักนางเข้าแล้ว?”
“อะ อะไรนะ?” โม่เหลียงเฉินอึ้งไปทันที
จะไปรู้ได้อย่างไรว่าซ่างกวงหนานซู่จะถามเช่นนี้ ถามจนเขาตั้งตัวไม่ทันและไม่รู้จะตอบยังไง “สิ่งที่ข้าคุยกับเจ้าไม่ใช่เรื่องนี้……….”
ไม่อย่าฟังเขาพูดจาไร้สาระ
หลานเยาเยาก็ขัดจังหวะเขาโดยตรง
“อย่าอ้อมค้อมอีกเลย ตอบข้ามาโดยตรง เวลาของข้ามีจำกัด ไม่อยากเสียเวลากับเจ้าที่นี่ ในเมื่อเจ้าเป็นเพื่อนของอ๋องเย่ อีกทั้งยังทำงานให้อ๋องเย่อีก พวกเราถือว่าเป็นคนที่มีผลประโยชน์ร่วมกัน สามารถเป็นเพื่อนกันได้
หากเจ้าตอบข้าตามจริง ข้าก็จะบอกกับเจ้าว่าคนที่เสี่ยวฮัวฮัวชอบคือใคร?”
“ใครจะเป็นเพื่อนกับเจ้า ข้าโม่เหลียงเฉินตีให้ตายก็ไม่มีทางเป็นเพื่อนกับเจ้าที่พยายามจะยุ่งเกี่ยวกับความเป็นชายของอ๋องเย่”
โม่เหลียงเฉินรู้สึกว่าตัวเองนั้นหยิ่งมาก
เขายังนึกว่าซ่างกวงหนานซู่จะโต้เถียงกับเขาด้วยเหตุผล
ใครจะไปรู้………
คนอื่นหยิ่งกว่าเขาเสียอีก ลุกขึ้นเดินไปโดยตรง ยังถือโอกาสกล่าวอย่างสุภาพ
“ขอตัวก่อน!”
“เฮ้ย เฮ้ย เฮ้ย เจ้ารอก่อน หยุดเดี๋ยวนี้ ข้ายังพูดไม่จบเลย………..”
แต่หลานเยาเยาทำเป็นเหมือนไม่ได้ยิน เอามือข้างหนึ่งไขว้ไว้ข้างหลัง เดินออกไปจากร้านด้วยฝีเท้าที่ไม่เร่งรีบ ไม่คิดจะหันหลังกลับ ทำเหมือนกับว่าโม่เหลียงเฉินจะตอบเขาหรือไม่ก็ไม่เกี่ยวกับนางอะไร
ไม่นานนัก เสียงที่กระหืดกระหอบของโม่เหลียงเฉินก็ดังมาจากด้านหลัง
“ข้ารักนางเข้าแล้ว หากไม่ใช่นางข้าจะไม่แต่งงาน แม้แต่ชีวิตก็สละเพื่อนางได้ หวังว่าจะสามารถปกป้องนางทุกภพทุกชาติ แบบนี้ได้หรือยัง เจ้ารีบบอกความคิดของนางกับข้า คนที่นางชอบคือใคร?”
คำพูดนี้หลานเยาเยาพอใจมาก
นางหยุดฝีเท้าลง หันหน้ากลับไปมองโม๋เหลียงเฉิน ใบหน้าเหมือนไม่หวังดีขึ้นมาทันที แววตายิ่งให้ความรู้สึกแปลกๆ
เห็นเขาที่เป็นแบบนี้ โม่เหลียงเฉินร้อนใจแล้ว
นึกว่าแค่เอาเขามาล้อเลียน ก็รีบก้าวเดินไปข้างหน้า อ้าปากก็จะถาม หลานเยาเยากลับยื่นมือออกมาแล้วสะบัดไปหนึ่งที ในมือไม่รู้ว่าเป็นผงอะไรได้ถูกโปรยไปทางจมูกของโม่เหลียงเฉิน
โม่เหลียงเฉินก็รู้สึกเวียนหัวขึ้นมาทันที ร่างกายอ่อนเพลียไปไม่น้อย เขาทำได้เพียงยื่นมือชี้ไปทางนาง ถามด้วยใบหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้า เจ้าทำอะไร?”
“ก็วางยาไง!” หลานเยาเยายิ้มเล็กน้อย เสียงยังคงเบิกบานสบายอารมณ์
ร่างกายไร้เรี่ยวแรง โม่เหลียงเฉินที่มองเห็นภาพเบลอ ก็ทนไม่ไหวในไม่ช้า ได้ล้มลงไปบนพื้น ค่อยๆหมดสติ
“อาส้ง มาพาคนไป พวกเราไปดูเรื่องสนุกๆกัน”

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท