หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป – บทที่ 661 ข้าศึกรบกวนเรื่องที่สวยงามอีกแล้ว

บทที่ 661 ข้าศึกรบกวนเรื่องที่สวยงามอีกแล้ว

ด้านนอกห้อง

ต้นไม้ต้นหนึ่งใบไม้เขียวชอุ่ม รับลมโบกพลิ้ว ราวกับว่าผุดขึ้นมาจากพื้นดินในบ้าน เหมือนว่ามันจะเป็นสักขีพยานให้คู่รักคู่แค้นของคู่รักคู่หนึ่งที่กำลังเปิดใจต่อกันและกันในห้อง

และหลานเยาเยาที่ยังเดินไปได้ไม่ไกล เวลานี้ก็อยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นนี้ แอบจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวทุกการกระทำด้านในห้อง ขณะที่เห็นพวกเขาสองคนจูบกันด้วยอารมณ์ที่ระงับไว้ไม่อยู่ มุมปากของนางยกเป็นรอยยิ้มอย่างอดไม่ได้

เพียงแค่น่าเสียดายเล็กน้อย…….

หากว่าทั้งสองเผยความจริงใจกันเร็วกว่านี้ ก็ไม่ต้องเจ้าไล่ตามข้าหลบเลี่ยงตลอดเป็นเวลานานขนาดนี้แล้ว

พวกเขาเป็นสุขสราญใจ

ราวกับว่าเข้าใจเรื่องที่เก็บไว้ในใจของตัวเองอย่างชัดแจ้งแล้ว

ดังนั้นจึงแอบลงจากต้นไม้ กำลังเตรียมจะไปหาเย่แจ๋หยิ่ง แต่กลับชนเข้ากับกำแพงเนื้ออย่างฉับพลัน ไม่นับว่าแข็งมากนัก บนร่างที่ชนยังมีความอุ่นอยู่บ้าง

เมื่อเงยหน้ามอง!

สะท้อนเข้าในม่านตาคือเงาร่างที่สูงโปร่งกำยำ ชุดสีดำทรงพลังที่ปักด้ายทองทั้งตัว มองขึ้นด้านบน ใบหน้างดงามอันรุ่งโรจน์ดั่งเทพเซียน ทั้งๆที่เห็นหลายรอบแล้ว แต่ทุกๆครั้งล้วนถูกทำให้ตกตะลึง

เย่แจ๋หยิ่งเอ๊ยเย่แจ๋หยิ่ง เป็นคนที่นางเอาไว้บนยอดของหัวใจจริงๆ

เย่แจ๋หยิ่งพบนางแล้ว หรี่ตาลงเล็กน้อย ราวกับว่าแฝงด้วยความไม่ประสงค์ดี และไม่สนใจแยแสอะไรสักน้อย คว้านางเข้ามาทันที เสียงที่ดึงดูดดังขึ้นข้างหูเบาๆ

“หลบอยู่ตรงนี้ดูคนอื่นเขาพลอดรักกัน เจ้าก็ไม่หวั่นไหวสักหน่อย?”

เสียงนั่นแฝงไปด้วยความสงสัยเล็กน้อย แววตาที่ไม่ประสงค์ดีก็ค่อยๆเปลี่ยนเป็นรักและเอ็นดู เย่แจ๋หยิ่งเปลี่ยนจากคว้าเป็นจูง จับข้อมือของนางไว้แน่น เกรงว่าทันทีที่ปล่อย นางก็จะวิ่งหนีเช่นนั้น

“ไม่มี ไม่มีเลยสักนิด”

ขณะที่พูดคำนี้ หลานเยาเยาจ้องมองริมฝีปากบางๆที่น่ามองของเย่แจ๋หยิ่ง กลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้

ยังไงซะนางก็คือคนปากแข็ง!

ยั่วจนทำให้เย่แจ๋หยิ่งหัวเราะเบาๆ อดที่จะยื่นมือออกไปปาดบนสันจมูกของนางเบาๆไม่ได้ จากนั้น มือชะงัก นิ้วมือที่เรียวยาวหมุนไปสัมผัสบนริมฝีปากของนาง

อ่อนนิ่ม จะทำให้คนอยากจูบอย่างอดกลั้นไม่ได้

“ปากไม่ตรงกับใจ!”

จากนั้น

หลานเยาเยาก็รู้สึกประหลาดใจมาก

แม้ว่าตัวเองจะไม่ใช่คนตัวอ้วน เพียงแค่หุ่นที่เพรียวบาง รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น แต่ก็มีน้ำหนักพอควร

แต่ในมือของเย่แจ๋หยิ่ง นางก็เหมือนดั่งขนนกเบาหวิวแผ่นหนึ่ง นางรู้สึกเพียงร่างกายเบา คนก็อยู่บนไหล่ของเย่แจ๋หยิ่งแล้ว

“…….”

นึกไม่ถึงว่าเขาจะแบกนางขึ้นมาแล้ว

ต้องรุนแรงขนาดนั้นเชียวหรือ?

อุ้มแบบเจ้าหญิง หรือให้นางเดินเองก็ได้นี่! นางก็ไม่ได้จะวิ่งหนีซะหน่อย

“เย่แจ๋หยิ่ง ท่านรีบปล่อยข้าลงมา ให้คนอื่นเห็นเข้าจะไม่ดีขนานไหน”

“มีอะไรไม่ดี? ข้าไม่สามารถจะแบกภรรยาของตัวเองได้หรือ?” เย่แจ๋หยิ่งไม่เข้าใจ

ยังไงอยู่ในเมืองหลวงก็ดีกว่า

เขาอยากทำอะไรก็ทำอย่างนั้น ไม่จำเป็นต้องสนใจคนอื่น

“แต่ตอนนี้ข้าสวมชุดผู้ชาย พวกเหล่าทหารล้วนคิดว่าข้าเป็นผู้ชาย อีกทั้งล้วนสงสัยว่าอ๋องเย่เทพสงครามผู้สูงส่งชอบผู้ชายด้วยกัน หากให้พวกเขาเห็นพวกเราเช่นนี้ เรื่องที่ท่านชอบผู้ชายก็ได้ผลสรุปแล้ว แพร่ไปในกองทัพผลกระทบไม่ดีเป็นอย่างมาก”

ได้ยินคำพูดของนาง

เย่แจ๋หยิ่งเดินได้ไม่กี่ก้าวหยุดฝีเท้าลงในที่สุด เขาถามด้วยสีหน้าไม่เข้าใจ:

“พวกเขาทำให้เจ้าลำบากใจหรือ?”

“ก็ไม่นับว่าลำบากใจ แต่ ท่านไม่ต้องสนใจ ข้าสามารถแก้ไขเองได้”

พวกทหารเหล่านั้นก็แค่ไม่มีเรื่องอะไรทำหาเรื่องทำ หากว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นจริง ตัวเองก็ยังต้องวุ่นวายหัวหมุนไปหมด! จะมีเวลาสนใจสิ่งนี้ที่ไหนกัน?

แค่เทียบกับข้าศึกโจมตีเมืองในปัจจุบัน

ทหารที่ยังไม่ได้ผลัดเวรปฏิบัติหน้าที่ เหมือนกับนาง ได้ยินเสียงกลองรบก็รีบร้อนปีนขึ้นมา พุ่งไปทางกำแพงเมืองอย่างเร่งรีบไปพลาง สวมชุดเกราะไปพลาง เห็นนาง ยังอดที่จะทักทายไม่ได้

“คุณชายซ่างกวนก็ไปที่กำแพงเมืองสิขอรับ! ไปด้วยกันนะขอรับ!”

ชายชาตรีที่แข็งกระด้างน่ารักๆเพียงนี้ อยู่ในกองทัพก็นับว่าเป็นความครึกครื้นรื่นเริงชนิดหนึ่ง

หากว่าเย่แจ๋หยิ่งไปเหน็บแนมแล้ว เช่นนั้นต่อจากนี้ผู้อื่นเห็นเขาแล้ว จะต้องหลบหลีกเป็นแน่ แบบนั้นหลังจากนี้อยู่ในกองทัพก็ไม่มีความรื่นเริงอะไรแล้ว?

“ไม่ต้องสนใจจริงๆ?” เย่แจ๋หยิ่งสงสัย

หากว่าไม่ต้องสนใจ เยาเยาของเขาถูกรังแกแล้วจะทำอย่างไร?

สำหรับสิ่งนี้ เย่แจ๋หยิ่งรู้สึกไม่วางใจเป็นอย่างมาก

“แน่นอนว่าไม่ต้อง ท่านอย่าไปกลั่นแกล้งพวกเขาเชียว ยึดแย่งเอาความรื่นเริงเพียงอย่างเดียวในค่ายของข้าไป”

“ความรื่นเริงเป็นอย่างเดียว?” เย่แจ๋หยิ่งไม่กล้าเห็นด้วยต่อประโยคนี้ กระทั่งยังมีความหึงหวงเล็กน้อย “หรือว่าอยู่กับข้า เป็นการอยู่นอกเหนือจากความรื่นเริงของเจ้า บอกมา ข้าเทียบพวกเขาไม่ได้ตรงไหน?”

เพราะประโยคหนึ่งทำให้เขาสงสัยตัวเองขึ้นมาในพริบตาแล้ว

“………” หลานเยาเยาไม่มีอะไรจะพูด จนกระทั่งอยากจะหัวเราะ

นางไม่ได้หมายความเช่นนั้น

แต่ตัวอักษรของประเทศจีนที่เกรียงไกรก็คือกว้างและลึกซึ้งเช่นนั้น ทั้งๆที่เป็นอักษรเดียวกัน ในความเข้าใจของแต่ละคน ความหมายก็ไม่เหมือนกัน

“ไม่เช่นนั้นท่านวางข้าลงก่อน ข้าจะอธิบายกับท่านให้ดีๆ?”

คิดไม่ถึงว่าจะถูกเขาปฏิเสธไปตรงนั้น ทิ้งไว้เพียงประโยคหนึ่ง ก็เห็นเขาเดินไปอย่างรวดเร็ว

คำพูดนั้นก็คือ: “ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าอะไรคือความรื่นเริง!”

“……” ไม่ใช่หรอกนะ!

อย่าให้เป็นความหมายนั่นที่นางคิดเด็ดขาด

ในไม่ช้า!

“ปึง” เสียงหนึ่ง

ประตูใหญ่ห้องอ๋องเย่ถูกเท้าถีบออกทันใด ประตูห้องเปลี่ยนเป็นความอันตรายอย่างมากในทันที เย่แจ๋หยิ่งที่หลอกหลานเยาเยามาถึงข้างเตียง กลับไม่ได้หยาบกระด้าง เอานางโยนลงบนเตียง แต่วางนางลงอย่างระมัดระวัง ให้นางนั่งบนเตียง

แล้วตอนที่หลานเยาเยาโล่งใจ ขณะที่คิดไม่ถึงว่าเย่แจ๋หยิ่งจะสามารถสงบใจลงมาได้

ก็ถูกมือใหญ่ๆสองข้างจับที่ไหล่ จากนั้นผลักไปข้างหลัง นางก็ล้มลงบนเตียง ยังไม่ทันจะดึงสติกลับมาได้ เย่แจ๋หยิ่งก็ก้มลงมาอยู่บนร่าง ทับนางไว้ด้านล่างของร่างกาย

มองดูใบหน้าหล่อเหลาที่อยู่ใกล้มากๆ หลานเยาเยาอดที่จะอึ้งเล็กน้อยไม่ได้!

“กลางวันแสกๆ ประตูห้องไม่ปิด ท่านก็ไม่กลัวว่าจะมีคนบุกเข้ามา?”

“ห้องของข้า ไม่มีการแจ้ง ใครจะกล้าเข้ามา?”

พูดจบ!

เย่แจ๋หยิ่งดึงปกเสื้อตัวเอง ยังถือโอกาสปลดเข็มขัดด้วย แล้วต้องการก้มตัวไปจูบริมฝีปากที่คิดถึงมานาน ทำอะไรไม่ได้ระหว่างที่จะใกล้ชิด เสียงที่เร่งรีบเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านนอก

“รายงานอ๋องเย่ ข้าศึกมาโจมตีเมืองอีกแล้วขอรับ”

มาอีกแล้ว?

เมื่อเช้าเพิ่งจะถูกโจมตีล่าถอยไป ตอนนี้เพิ่งจะเที่ยงนะ!

ประเทศเชียนหลิงทำบ้าอะไร?

แม้แต่หลานเยาเยาก็อดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้

แต่จากการเฝ้ารักษาเมืองเมื่อเช้าตรู่ การปรับและการจัดวางกำลังป้องกันของพลทหารของเราล้วนเปลี่ยนแล้ว ข้าศึกมาก็ไม่มีประโยชน์

แต่เพื่อป้องกันไว้ก่อน เย่แจ๋หยิ่งจำเป็นต้องไปรอบหนึ่ง

มองเห็น กินไม่ได้

ใจในที่ตื่นเต้นเป็นที่สุดของเย่แจ๋หยิ่ง ถูกสาดน้ำเย็นถังหนึ่ง เขาค่อยๆปล่อยหลานเยาเยา ยังจะปลอบเบาๆเสียงหนึ่ง

“อยู่รอข้าที่นี่อย่างเชื่อฟัง ข้าไปครู่หนึ่งก็กลับ”

“อืม ไปเถอะ! ข้าจะเชื่อฟัง”

งั้นก็เห็นผีน่ะสิ!

เรื่องที่สวยงามถูกขัดจังหวะแล้ว เย่แจ๋หยิ่งไม่พอใจ ขณะที่ออกจากประตูสีหน้าเคร่งขรึม ทั้งร่างไอเย็นยะเยือกปะทุโดยรอบ ราวกับว่ามีคนติดหนี้เขาอยู่แปดแสนเช่นนั้น

ทำให้คนที่มารายงานเหงื่อเย็นผุดออกมาทั้งร่าง!

ในห้อง!

หลานเยาเยาปิดปากหัวเราะเสียงเบาๆ จากนั้นลุกขึ้นจัดระเบียบเสื้อผ้าให้ดี

ขณะที่ออกจากห้อง มุมปากที่ยกขึ้นเล็กน้อย หลังจากที่เห็นเงาร่างสีแดงแล้ว จึงค่อยๆมลายหายไปอย่างไร้เงาไร้ร่องรอย ต่อจากนั้นเปลี่ยนเป็นความตกตะลึงเล็กน้อย

“เจ้าอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”

เงาสีแดงนั่นก็คือหานแส ท่าทางที่ชั่วร้ายของเขาเป็นเหมือนดั่งที่ผ่านมา ชั่วร้ายบ้าคลั่ง พิงอยู่ข้างๆของภูเขาปลอม เพียงแค่สีหน้าปรากฏความเหนื่อยล้าเล็กน้อย สีหน้าหดหู่

ที่นี่มีระยะทางห่างไกลจากชายฝั่งมาก

หานแสสามารถมาถึงที่นี่ได้ แน่นอนว่าไม่ได้มาจากบนทะเล น่าจะมาตามลำธารจนถึงเวลานี้

“แน่นอนว่ามาตามทางของลำธาร อยากมาพบเจ้าศัตรูผู้นี้ที่ไม่ค่อยเป็นมิตรต่อเพื่อนเก่า”

เห็นเขาแล้ว ไม่มีเรื่องดีเป็นแน่

หากว่าหลานเยาเยาดีใจนั่นถึงเป็นการเจอผี

“จงใจมาพบข้าที่นี่? มีเรื่องอะไรหรือ?”

หานแสไม่ทำการค้าที่ขาดทุนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร

เขาสร้างเรือแห่งความสิ้นหวังขึ้นใหม่อีกครั้ง เดิมทีก็เพื่อทรัพย์สินเงินทอง

เดินทางไกลพันลี้มาถึงที่นี่ ก็เพื่อพบนาง ไม่เหมือนลักษณะของเขา

อย่างไรเสีย!

ภูมิประเทศเมืองโยวกวงเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ไม่ใช่สถานที่ที่ล้อมรอบด้วยความสมบูรณ์ อีกทั้งปัจจุบันยังอยู่ระหว่างสงคราม โดยปกติของคนทำการค้าจะหลีกเลี่ยงสถานที่เช่นนี้เป็นที่สุด

“มีก็มี แต่เจ้ามั่นใจว่าจะไม่เชิญข้าดื่มสักแก้ว?”

เอาเถอะ!

ไม่ใช่แค่ชาแก้วหนึ่งหรือ? นางรับผิดชอบได้

แต่……

“ข้าเลี้ยง เจ้าจ่ายเหรียญเงินหรือ?”

ทำให้หานแสหัวเราะเบาๆในพริบตา มีการกัดฟันเล็กน้อย:

“สร้างเรือแห่งความสิ้นหวังใหม่ เดิมทีค่าใช้จ่ายก็มากมาย ตลอดทางไม่ได้หยุดพักมากมาย ข้าขาดทุนเยอะแยะ เจ้ายังจะนิสัยเด็กเช่นนี้อีก อดีตในด้านทรัพย์สินเงินทอง ข้าก็ไม่เคยเอาเปรียบเจ้านะ!”

ยังเหมือนเดิม ทรัพย์สินมากกว่าใครๆ แต่กลับขี้งกเป็นที่สุด

“เช่นนั้นเจ้าต้องการให้ข้าเชิญเจ้าดื่มชาหรือไม่?”

“…….ต้องการ!”

“งั้นก็ได้แล้ว”

“……” เขาไม่มีอะไรจะพูดแล้วจริงๆ

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป

อ่านนิยาย เรื่อง หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ หวางเฟยเสด็จ ท่านอ๋องหลีกไป
ได้ยินมาว่าท่านอ๋องเป็นคนโหดร้าย เขาไม่ชอบเข้าใกล้ผู้หญิง?ไม่ใช่เลย ตั้งแต่เขาแต่งงานกับคุณหนูหกของจวนแม่ทัพก็เปลี่ยนไปแล้ว “เยาเยาร่างกายอ่อนแอ ไม่ชอบพูดคุย ข้าไม่วางใจให้เขาไปคนเดียว”รู้สึกอับอายนัก!พระชายาใช้ไม้ตีรัชทายาท นังเสแสร้ง ปากนั้นสามารถทำให้คนตายกลับมามีชีวิตได้ ยังไม่วางใจอีกหรือ?“เยาเยา นางไม่มีความรู้ที่เกี่ยวกับสงคราม ฝีมือทางการแพทย์ก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ พวกเจ้าอย่ารังแกนาง”ทหารของฝ่ายศัตรูกระอักเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ทหารสิบหมื่นที่ถูกพระชายาวางแผนมาเป็นเชลยศึกกำลังรอการถอนพิษอยู่ นี่ไม่ใช่กลยุทธ์ของพระชายาเย่ หรอ?“ เยาเยานางไร้เดียงสา ไม่เคยยุ่งกับคนอื่น” ทหารทั้งหลายเหลือบมองเจ้านายที่กำลังหลีกเลี่ยงเพื่อความรัก เจ้านาย จริยธรรมของท่านที่อยู่ไหน?

เรื่องย่อ

“อูว์……”

เสียงหมาป่าเห่าหอนยาวอย่างน่าสยดสยองข้างหู หลานเยาเยาที่ค่อยๆ ได้สติงงเล็กน้อยอย่างช่วยไม่ได้

เสียงหมาป่าเหรอ?

มีองค์กรผู้ก่อการร้ายปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือลับในใจกลางเมือง รอบทิศเต็มไปด้วยตึกอาคารสูง

จะมีหมาป่าได้อย่างไร?

หลานเยาเยาต้องการลืมตาเพื่อสำรวจ แต่พบว่าเปลือกตาหนักราวกับพันกิโลเปิดยาก

ทั่วร่างกายเหมือนถูกแทงด้วยมีดร้อนนับหมื่นเล่ม เจ็บปวดเหมือนใจจะขาด

ทันใดนั้น!

“กรุ๊บๆ……”

ราวกับเสียงกระดูกที่ถูกเคี้ยวละเอียดทีละนิด ตามด้วยกลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าไปที่จมูก

หลายเยาเยารู้สึกไม่ดี……

เธอพยายามลืมตาทันที หลังจากที่เธอดิ้นรนนับครั้งไม่ถ้วน ในที่สุดดวงตาของเธอก็เปิดออก

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นหลังจากที่สายตาปรับแสงได้

ภาพที่เห็น ทำให้หลานเยาเยาเสียวสันหลังในทันที

หมาป่าผอมหนังติดกระดูกที่หิวโหยตัวหนึ่ง กำลังกัดกินศพหญิงในชุดโบราณอย่างบ้าคลั่ง

หลานเยาเยารีบพยุงร่างกายที่เจ็บปวดสุดจะทนถอยหลังอย่างช้าๆ ……

“ฉับ……”

หินแหลมคมแทงบาดแผลของเธอ ทำให้เธอคร่ำครวญอย่างช่วยไม่ได้

ทันใดนั้นหมาป่าผู้หิวโหยก็หันมามอง พบว่าเธอยังมีชีวิตอยู่ ขนบนร่างกายลุกซู่ทันที เขี้ยวเต็มไปด้วยเลือด

กระโจนเข้ามาทันที

เขี้ยวอันแหลมคมของหมาป่าผู้หิวโหยเล็งไปที่คอหลานเยาเยา ก่อนที่จะถูกหมาป่าผู้หิวโหยกระโจนเข้าใส่ หลานเยาเยาบิดตัว

หมาป่าผู้หิวโหยพลาดท่า เมื่อหันตัวกลับมาก็ถูกหลานเยาเยาใช้มือทั้งสองบีบคอมันอย่างดิ้นไม่หลุด

ไม่ว่าหมาป่าผู้หิวโหยจะดิ้นรนอย่างไร และแม้เล็บเท้าทั้งสี่ของมันจะฉีกเสื้อผ้าและเลือดเนื้อของเธออย่างไร

เธอก็ไม่ยอมปล่อย

ค่อยๆ ……

แรงดิ้นรนของหมาป่าผู้หิวโหยลดลงต่อเนื่อง กระทั่งสูญเสียแรงขัดขืน หยุดหายใจในที่สุด

“เฮ้อ……”

หลานเยาเยาถอนหายใจโล่งอก

ขณะนี้!

เธอเพิ่งพบว่าตนอยู่ใต้หน้าผาสูง ล้อมรอบด้วยหินเย็บเฉียบสีเทา มีซากกระดูกที่ยุ่งเหยิงและไม่สมบูรณ์หลายชิ้นบนหิน

ใบหน้าซีดเผือดของหลานเยาเยาค่อยๆ ขยับไปที่ข้างศพหญิงชุดโบราณนั้น พอเห็นใบหน้าของเธอ

เหมือนในหัวของหลานเยาเยาเปิดออก ความทรงจำประหลาดเป็นส่วนๆ เติมเต็มเข้ามาสมอง……

“โอ๊ย……”

ความรู้สึกปวดหัวทำให้เธอทนไม่ไหวและร้องออกมา!

ผ่านไปค่อนข้างนาน

หลานเยาเยาก็ได้สติหลังจากตกใจ ตะโกนด่าออกไปอย่างอดมิได้

“แม่เอ๊ย ข้ามภพซะแล้ว!”

ใบบัตรเครดิตมีวงเงินตั้งแปดหลักเชียวนะ!

คิดถึงจุดนี้ ในใจก็โศกเศร้าอย่างบอกไม่ถูก

หลานเยาเยาขยับร่างกายราวกับร่างกายกำลังจะกระจุย ก็ดึงถูกบาดแผลที่เกิดจากตกลงมาจากหน้าผาในทันที

ทันใดนั้น มีเสียงฝีเท้าเบาๆ เดินมา และยังเข้าใกล้เรื่อยๆ แรงอาฆาตที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ……

มีคนมาแล้ว!

สายตาของหลายเยาเยาคมชัดขึ้นในทันที ดึงหินแหลมคมก้อนนั้นออก

หัว แล้วหันหลังกลับทันที ทำให้องครักษ์ที่คนเป็นๆ ทั้งสองสัมผัสเงียบๆ จากด้านหลังเธอตกใจ

องครักษ์ผอมและอ้วนทั้งสองคือคนที่บังให้เจ้าของร่างและหญิงที่นอนอยู่กับพื้นกระโดดผา……

“นางยังไม่ตายหรือ?”

คนเลวอายุยืนจริง!

แต่ดูท่าคงใกล้ตายแล้ว องครักษ์อ้วนที่ใบหน้าดุดัน เห็นสายตาที่แหลมคมหลานเยาเยา ใจสั่นอย่างไร้เหตุผล

“จะตายอยู่แล้ว งั้นรีบส่งนางไปพบยมบาลล่วงหน้า กลับไปจะได้รายงานได้”

องครักษ์ผอมจ้องหลายเยาเยาที่ที่เหลือลมหายใจแผ่วเบา ความรู้สึกกลัวเล็กน้อยในตอนนั้นหายไปหมดแล้ว

หลายเยาเยาถูกบังคับให้กระโดดผาแล้ว คุณหนูสี่ไม่เห็นศพก็ไม่วางใจ

เลยสั่งให้พวกเขาไปยืนยันความเป็นความตายใต้หน้าผา

คาดไม่ถึงว่ากระโดดจากหน้าผาสูงขนาดนั้นแต่เธอไม่ตาย……

องครักษ์ผอมตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยว ดึงดาบแล้วฟันลงไปที่หลานเยาเยา

หลานเยาเยาหยีตาเล็กน้อย หลบดาบที่ฟันลงมาอย่างรวดเร็ว พลิกมือที่ถือหินทุบไปที่หน้าขององครักษ์ผอม

และมืออีกข้างก็คว้ามีดจากมือของเขา แทงตรงไปที่องครักษ์อ้วนที่ไม่มีการตอบสนองที่อยู่ข้างๆ

การกระทำทั้งหมดเสร็จสิ้นเพียงชั่วขณะเดียว รวดเร็ว แม่นยำ โหดเหี้ยม!

“โอ๊ย……”

“โอ๊ย……”

เสียงโอดครวญทั้งสองดังขึ้น องครักษ์อ้วนตายคาที่ องครักษ์ผอมถูกฟันเข้าที่หน้า เลือดท่วมเต็มหน้า ตาบอดไปอีกข้างหนึ่ง

ขณะนี้นอนร้องทุรนทุรายอยู่กับพื้น

เมื่อกี้เอาแรงที่มีทั้งหมดออกมาใช้ หลังฆ่าองครักษ์อ้วนตาย หลานเยาเยาก็เข่าอ่อนแทบล้มลง

เธอใช้มีดค้ำกับหิน พยุงร่างของตนเอง!

ในนามทหารแพทย์ที่มาจากกองกำลังพิเศษ เข้าใจสัจธรรมหนึ่งอย่างลึกซึ้ง ไม่จะไม่สามารถฆ่าศัตรูให้ตายได้ก็ตาม

อย่างน้อยก็ต้องทำให้เขาสูญเสียแรงต่อต้าน

ฮึๆ ……

ตอนนี้เธอไปไกลเกินมาตรฐานแล้ว!

ไม่เพียงฆ่าตายทันที ยังทำให้อีกคนสูญเสียแรงต่อต้าน

หลังจากหลานเยาเยาดีขึ้นบ้างแล้ว ค่อยๆ เดินเข้าใกล้องครักษ์ผอมพร้อมดาบ

เมื่อองครักษ์ผอมเห็นว่าองครักษ์อ้วนตายแล้ว เสียขวัญ ตอนแรกอยากลุกขึ้นและอาศัยจังหวะที่เธอเผลอฆ่าเธอให้ตาย

แต่เมื่อเขาเห็นตัวตนของหลานเยาเยา มีดก็จ่ออยู่ที่คอของเขาแล้ว……

เขาตกใจรีบร้องขอชีวิต:

“คุณหนูหกไว้ชีวิตข้าด้วย ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ เป็นคำสั่งของคุณหนูสี่ ข้าเพียงแค่รับคำสั่ง……อ่า……”

เอ็นดูเขาเอ็นเราขาด!

จัดการกับองครักษ์ผอมเรียบร้อย หลานเยาเยาทิ้งดาบลง ล้มลงกับพื้นทันที เธออยากปิดตาแล้วหลับไป……

แต่เมื่อเห็นดวงอาทิตย์กำลังจะลับฟ้า เธอพยายามทนกับความเจ็บปวดแล้วลุกยืนขึ้น

มายืนข้างศพหญิงที่กระดูกทั้งร่างกายแทบละเอียด เธอคือเสี่ยวจู๋ หญิงรับใช้ส่วนตัวเพียงคนเดียวของเจ้าของร่าง

และเป็นเพราะตอนโดดลงผา มีเสี่ยวจู๋คอยปกป้อง เจ้าของร่างจึงไม่เป็นอะไรมาก

ลากร่างศพของเสี่ยวจู๋ขึ้นมา เดินไปยังป่าที่ไม่ลึก…….

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลง เธอต้องการฝังร่างศพเสี่ยวจู๋ก่อนที่ฟ้าจะมืด มิเช่นนั้น

ศพเธอจะถูกสัตว์ป่ากิน

ในที่สุดก็ขุดหลุมตื้นและฝังร่างศพของเสี่ยวจู่เสร็จ

“ติ๊ด……”

ทันใดนั้น เสียงหุ่นยนต์ก็ดังขึ้นในหัว

หลานเยาเยาแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ!

เสียงนี้เป็นเสียงที่เธอคุ้นเคยที่สุด นี่คือระบบทางการแพทย์ที่ฝังในร่างเธอในยุคปัจจุบัน

เทียบเคียงได้กับโรงพยาบาลที่มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย สามารถเลือกเวชภัณฑ์ได้อย่างอิสระผ่านทางความคิด

คิดไม่ถึงว่าระบบการแพทย์ติดตามเธอไปด้วย……

แต่ระบบทางการแพทย์นี้จะต้องมีการอัพเกรดถึงจะสามารถเปิดใช้งานด้านเวชภัณฑ์ได้

และเธอก็เสียชีวิตหลังจากที่ปลูกฝังระบบไม่นาน ดังนั้น ในระบบสิ่งที่เปิดใช้งานได้จึงถูกจำกัด

แม้จะเป็นเช่นนั้น หลานเยาเยาก็แอบหัวเราะ……

ใช้ความคิดนำผ้าพันแผลผ้าก๊อซและยาแก้อักเสบแก้ปวดอย่างง่ายออกมาอย่างเร่งรีบ

หลังจากจัดการกับแผลบนร่างกายอย่างเรียบง่าย ก็ได้เอายาที่ขมสุดขีดทำเหมือนเป็นขนม “กรุ๊บๆ”

เคี้ยวละเอียดแล้วกลืนลงไป

ในขณะที่ตัดสินใจปีนไปหลับบนต้นไม้……

ทันใดนั้น!

“ตุ๊บ……”

วัตถุที่ไม่รู้จักตกลงมาจากต้นไม้ ทำให้ดอกไม้ป่าเหล่านั้นที่กำลังเบ่งบานบนดินตาย

“โอ้มายกอต!”

วัตถุชิ้นนั้นตกอยู่ข้างเท้าเธอ ทำให้หลานเยาเยาตกใจอดไม่ได้ที่จะตบลูบหน้าอก

ค่อยยังชั่ว!

เกือบจะหล่นใส่เธอแล้ว

กลิ่นคาวเลือดคลุ้งแตะเข้าที่จมูก……

เพ่งมองดู นั่นมันเป็นคน เป็นชายที่สวมชุดจีน เรือนร่างของเขาประกายด้วยท่าทางที่คนไม่ควรเข้าใกล้

ไม่รู้ว่าตายหรือยัง?

แค่เหลือบมองชายคนนั้นอย่างไม่ใส่ใจ หลานเยาเยาถึงกับเบิกตาสว่างอย่างช่วยไม่ได้ แม้ชายคนนั้นเส้นผมยุ่งเหยิง และใบหน้าซีดเผือดเหมือนกระดาษที่เปื้อนเลือด……


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท