ตอนที่ 502 ไปเยือนสกุลอวิ๋น
ไม่ช้าภาคเรียนนี้ของอีลั่วเสวี่ยก็จบลง หนึ่งสัปดาห์ต่อมาเธอสอบไล่เสร็จ แสดงว่าการปิดภาคฤดูหนาวมาถึงแล้ว
อีลั่วเสวี่ยเพิ่งเข้าบ้านก็รู้สึกถึงอากาศอบอุ่นในห้องทันที นอกจากนี้ยังมีกลิ่นอาหารหอมฟุ้ง
อาเหมาได้ยินเสียงจึงเดินคาดผ้ากันเปื้อนออกมาจากครัว เขายิ้มพลางชี้ไปที่ของบนโต๊ะในห้องรับแขก “คุณหนูใหญ่ มีของของคุณ ท่านแม่ทัพให้คนนำมาให้”
“พ่อฉัน?” ครั้งนี้เขาส่งอะไรมาให้อีลั่วเสวี่ย? เธอนั่งลงบโซฟา แล้วแกะห่อของ
แม้อวิ๋นเว่ยจะไม่อยู่ แต่ยังพูดคุยกับเธออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ยังส่งของขวัญมาให้ไม่ขาด ทั้งเสื้อผ้า ทั้งของกิน ให้คนส่งมาทางเครื่องบิน
ที่อวิ๋นเว่ยรักลูกสาวอย่างสุดชีวิตเช่นนี้ แม้แต่เฉวียนหมิงเห็นแล้วก็ยังรู้สึกหึง
“การ์ดเชิญ?” อีลั่วเสวี่ยมองดูการ์ดเชิญขอบทองแล้วพึมพำออกมา เธอเคยเห็นการ์ดเชิญแบบนี้มาก่อน เธอได้ร่วมงานเลี้ยงในเมืองเอฟหลายครั้งแล้ว ครั้งนี้ทำไมพ่อเธอเองถึงส่งการ์ดแบบนี้มาให้
หลังจากเธอเปิดออกอ่านเนื้อความในการ์ดเชิญแล้วเลิกคิ้วขึ้น “อาเหมา อีกครึ่งเดือนเป็นวันเกิดนายท่านผู้เฒ่าหรือคะ?”
อาเหมาครุ่นคิด แล้วเข้าใจทันที เขาพยักหน้าแล้วพูด “ใช่ครับ ดูเหมือนจะอีกครึ่งเดือน ผมคิดว่าท่านแม่ทัพคงอยากอาศัยโอกาสพาคุณหนูใหญ่กลับไปให้ทุกคนรู้จัก”
ที่จริงเป็นการแนะนำตัวเข้าสู่ตระกูล ประกาศฐานะของเธอ ดูตามระดับความรักที่อวิ๋นเว่ยมีต่อเธอนั้น แม้เธอจะเป็นลูกสาวบุญธรรมแต่ฐานะเธอไม่ต่างจากลูกแท้ๆ เลย
อาเหมาเห็นอีลั่วเสวี่ยไม่พูดอะไร จึงเช็ดมือที่เปียกแล้วเดินออกมา “คุณหนูใหญ่ หรือว่าคุณไม่อยากไป? นี่เป็นโอกาสที่ดีมาก ผมได้ยินท่านแม่ทัพบอกว่านายท่านผู้เฒ่าอยากพบคุณหนูใหญ่มาก”
“ไปสิ ต้องไปแน่นอน” พ่อเธอให้คนเอาการ์ดเชิญมาให้ เห็นชัดๆ ว่าเพราะต้องการให้เธอไป แล้วจะไม่ไปได้อย่างไร
อาเหมาได้ฟังก็ยิ้มร่า “วางใจเถอะครับ คนทางนายท่านผู้เฒ่าล้วนดีมาก ถึงตอนนั้นให้คุณชายเฉวียนไปเป็นเพื่อนด้วย ยังไงลูกสะใภ้ก็ต้องเจอพ่อผัวแม่ผัว”
มุมปากอีลั่วเสวี่ยกระตุก “อาเหมารู้จักพูดล้อเล่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่” ถ้าเฉวียนหมิงได้ยินคงโมโหแน่ แต่แน่นอนว่าเขาคงไม่กล้าแสดงความโกรธออกมาต่อหน้าเธอ
“นี่ไม่ใช่เอาอย่างคุณหนูใหญ่หรือครับ ก่อนหน้านี้คุณพูดเสมอว่าต้องหัวเราะบ่อยๆ จะได้ดูหนุ่มขึ้น ดูอาเหมาสิ ผมดูหนุ่มขึ้นไหมครับ” อาเหมายิ้มอย่างอ่อนโยนยิ่งขึ้น
เขาคอยรับใช้อีลั่วเสวี่ยมาระยะหนึ่ง ราวกับได้พบกับช่วงเวลาที่มีความสุขในชีวิต จริงสิ ภรรยาเขาจากไปนานแล้ว ต่อไปนี้เขาควรใช้ชีวิตให้มีความสุขจึงจะถูก
“อย่างนี้ดีแล้วค่ะ ฉันต้องไปสกุลอวิ๋นอยู่แล้ว เดี๋ยวหาเวลาบอกให้เฉวียนหมิงจองตั๋วเครื่องบิน” ที่จริงอาเหมาไม่ต้องเตือน เธอเองก็อยากพาเฉวียนหมิงไปด้วย เพราะนี่เป็นงานวันเกิดของนายท่านผู้เฒ่า
แม้เธอจะเป็นลูกสาวบุญธรรม แต่อย่างไรก็ต้องเรียกขานฝ่ายนั้นว่าปู่ ส่วนเฉวียนหมิงเป็นสามีในนามของเธอ ไม่สิ เดี๋ยวนี้เป็นสามีเธอแล้ว มีเหตุผลอะไรที่จะไม่ไป
“ถ้าท่านแม่ทัพรู้ต้องดีใจมากแน่” อาเหมาได้ยินก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย ยิ้มร่าแล้วกลับเข้าไปจัดการงานในครัว
ถึงตรงนี้มือถืออีลั่วเสวี่ยดังขึ้น เธอเห็นชื่อบนหน้าจอ จึงรับสายทันที “พ่อคะ…”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูไม่ใช่เด็ก หนูจัดการเองได้ พ่อวางใจเถอะ จริงๆ นะคะ หนูไปกับเฉวียนหมิง พ่อคงวางใจแล้วใช่ไหม” อีลั่วเสวี่ยคุยโทรศัพท์ มีรอยยิ้มบนใบหน้า
อวิ๋นเว่ยบอกว่าจะมารับเธอ แต่ถูกปฏิเสธ เธอไม่ได้เซ่อซ่า ยิ่งไม่ใช่เด็ก ทำไมจะไปไม่ถูก
ตอนที่ 503 ฝันไป
“ค่ะ ค่ะ หนูรู้แล้วค่ะ อืม…” จากนั้นอีลั่วเสวี่ยจึงวางสาย
ถึงตอนนี้อาเหมายกอาหารออกมา “ท่านแม่ทัพต้องดีใจแน่ๆ” เขาไม่ได้เจอลูกสาวที่เฝ้าคิดถึงตลอดเวลา ถ้าได้พบกัน ไม่ดีใจก็คงแปลกล่ะ
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม ฉันฟังออกจากที่ได้ยินทางโทรศัพท์แล้ว” อวิ๋นเว่ยดีใจมาก
ทางด้านนี้เฉวียนกรุ๊ปมีเสถียรภาพแล้ว ยังฉวยโอกาสนี้โต้กลับย้อนกินฝ่ายตรงข้าม รอให้บริษัทมีสภาพมั่นคงแล้ว จะมีอิทธิพลสูงขึ้นกว่าเดิมอีก
ผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้พนักงานของเฉวียนกรุ๊ปยิ่งนับถือเฉวียนหมิงอย่างหมอบราบคาบแก้ว ทำให้ทำงานด้วยความกระตือรือร้น งานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น หลังจากเฉวียนหมิงแจ้งให้ปู่ของตนรู้แล้ว ก็เดินทางกับอีลั่วเสวี่ยไปยังสกุลอวิ๋น
แน่นอนว่านายท่านผู้เฒ่าทางนี้ก็ต้องไปร่วมงาน แต่อีลั่วเสวี่ยยังไม่หายแค้น เธอยังไม่บอกเรื่องที่ตนเองเป็นลูกสาวบุญธรรมของอวิ๋นเว่ยให้เขารู้ เธอยังจำได้ดีเรื่องที่เขาเคยพูดกับเธอก่อนหน้านี้
จำเป็นต้องเล่นงานนายท่านผู้เฒ่าคนนี้บ้าง ถือว่าเป็นการแก้แค้นเล็กๆ ของเธอ
ดังนั้นนายท่านผู้เฒ่าจึงคิดว่าแค่เฉวียนหมิงกับอีลั่วเสวี่ยจะไปที่ไหนสักแห่งเพื่อผ่อนคลายเท่านั้น จึงเร่งเร้าให้ทั้งคู่รีบออกเดินทาง
บนเครื่องบินเฉวียนหมิงและอีลั่วเสวี่ยนั่งอยู่ในห้องโดยสารชชั้นเฟิร์สคลาส ติดหน้าต่าง หลังจากเครื่องบินบินขึ้นสู่ท้องฟ้าไม่นาน เฉวียนหมิงก็เอนหลับไปบนเก้าอี้
อีลั่วเสวี่ยยิ้มที่มุมปากขณะที่มองดูใบหน้าที่หล่อเหลาของเขา แล้วหยิบผ้าห่มวางเบาๆ ลงบนร่างเขา ช่วงนี้เขาวุ่นวายมากเพราะเรื่องของเฉวียนกรุ๊ป ถึงตอนนี้จึงได้ผ่อนคลายลง หลับสนิทไปทันที
พอเธอคิดเช่นนี้จึงไม่อยากรบกวนเขา แล้วหยิบนิตยสารตรงหน้าพลิกอ่านไปเรื่อยเปื่อย
เธอไม่รู้เลยว่าขณะนี้เฉวียนหมิงกำลังฝัน เป็นความฝันที่ประหลาดมาก
“แม่?” ผู้หญิงสวยสวมกระโปรงสีขาวมีกลิ่นไอแบบคนโบราณดูสง่างามยืนหลังหลังให้เขา แต่เฉวียนหมิงเห็นแวบเดียวก็มองออกว่าเธอคือมารดาตนเอง
นับจากที่เกิดอุบัติเหตุทางเครื่องบินในสมัยที่เขายังเด็ก เขาก็ไม่เคยเจอผู้หญิงคนนี้อีกเลย สมัยเด็กเขามักเห็นเธอในฝันเสมอ แต่พอตื่นขึ้นจากฝันก็จะปวดร้าวใจเพราะความผิดหวัง จึงเลิกฝันถึงตามสัญชาตญาณ
นับจากนั้นไม่รู้กี่ปีแล้วที่เขาไม่ฝันถึงแม่อีกเลย
หญิงคนนั้นได้ยินเสียงก็ผงะ หันมาจ้องมองเฉวียนหมิงด้วยความแปลกใจและอ่อนโยน “หมิงเอ๋อ เธอคือหมิงเอ๋อ”
“แม่!” เฉวียนหมิงรู้สึกเหมือนอยากร้องไห้ แล้วเดินไปข้างหน้า แต่กลับพบว่ามีอะไรบางอย่างที่เหมือนกระจกขวางพวกเขาไว้ ผู้หญิงตรงหน้าได้แต่ยืนอยู่กับที่ ไม่สามารถเดินมาข้างหน้าได้
ทันใดนั้นเธอก็หลั่งน้ำตาออกมา เฉวียนหมิงประหลาดใจมากที่น้ำตาเธอเป็นสีชมพู ตอนแรกเขาตกใจนึกว่าเป็นน้ำตาเลือด เมื่อเพ่งมองจึงพบว่าเป็นน้ำตาจริงๆ
“ลูกแม่ ลูกมีชีวิตที่ดี แม่ก็วางใจแล้ว” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน แล้วจู่ๆ เธอก็หายวับไป ขณะที่เฉวียนหมิงพุ่งเข้าหาฉากกั้นที่ไร้รูป
แต่ไม่มีอะไรเลย ทุกอย่างเหมือนเขานึกหลอนไปเอง
“นี่คือความฝันหรือ ทำไมถึงเหมือนจริงมาก” ที่นี่คือที่ไหน เขาจำได้ว่าเขากับอาเสวี่ยนั่งเครื่องบินไปยังบ้านสกุลอวิ๋นไม่ใช่หรือ แล้วทำไมเขาจึงมาอยู่ที่นี่ตามลำพังล่ะ?
“อาเสวี่ย?” เฉวียนหมิงร้องเรียก ขณะที่เขาหันไปก็ตะลึงงัน ตรงหน้าเป็นมนุษย์น้ำแข็ง ร่างถูกห่อหุ้มด้วยน้ำแข็ง เห็นใบหน้าลางๆ คล้ายตนเองมาก
เฉวียนหมิงหรี่ตาลง “พ่อ!” แต่ขณะนี้เองเขาก็รู้สึกว่าหัวใจตนเองเต้นเร็วขึ้น รู้สึกทรมานจนแทบทนไม่ไหว บีบจนเขาลืมตาขึ้น