ตะเกียงน้ำมันก๊าดรูปทรงแปลกตาถูกแขวนอยู่บนผนังห้องที่ทรุดโทรม ตะเกียงน้ำมันเก่าๆ นั้นเปื้อนไปด้วยคราบเลือดเเห้งกรัง ทำให้แสงไฟสลัว ๆ ที่ส่องออกมานั้นมีสีแดงเข้ม
นี่เป็นห้องใต้ดินขนาดเล็กที่มีเพดานต่ำ และมีเศษขยะอยู่เต็มห้องไปหมด พื้นไม้เพดานของห้องบางส่วนโค้งงอลง…ลักษณะเเบบนี้เพียงเเค่ต่อยหรือเหยียบเพดานของห้องใต้ดินก็พร้อมที่จะพังพินาศลงมาได้ ด้านในห้องนั้นมีโต๊ะไม้ยาวๆ อยู่ตรงกลางห้อง แสงของเทียนริบหรี่บนโต๊ะนั้นสะท้อนให้เห็นสีผิวของโต๊ะไม้ที่ถูกฝุ่นจับจนเป็นสีมัวๆ ตามชั้นวางของในห้องนี้มีเเต่สิ่งสกปรก เเม้กระทั่งโต๊ะยาวที่ว่านั้นยังมีเชื้อราเเละคราบสีดำกัดเกาะจนเเทบจมลงไปในเนื้อไม้ ทำให้โต๊ะนั่นดูสกปรกมากยิ่งขึ้น
ตรงกลางโต๊ะยาวนั้นดูเหมือนว่าจะมีศพของสิ่งมีชีวิตเเปลกประหลาดประดุจมนุษย์ต่างดาวนอนอยู่ กลิ่นเหม็นนั้นลอยสู่ชั้นเพดานอย่างต่อเนื่อง ควันสีเขียวจากซากศพนั้นเหม็นจนน่าสะอิดสะเอียน หากเเต่ว่าท่ามกลางกลิ่นเหม็นๆนั้นมีร่างบางของใครบางคนกำลังยืนเเหกตาดูอยู่
ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ‘กู้จวิน’
กู้จวินเเค่ต้องการดูให้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น เขาจ้องมองที่ซากศพบนโต๊ะ หากก็เเต่…เขาได้มองเพียงครู่เดียว ฉับพลันภาพเเสงสีเเดงเเละเงาน่ากลัวเบื้องหน้านั้นก็ได้หายไป ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งกู้จวินก็ยืนเหรอหราอยู่ข้างโต๊ะผ่าตัดเหมือนเดิมเเล้ว
“ เนื้อเยื่อของปอดอันนี้ดูเหมือนจะคล้ายกับปอดที่ได้ชื่อว่าเป็นถุงลมนิรภัยของนก” น้ำเสียงเเละความหมายของหวังรั่วเซียง สร้างความประหลาดใจให้กับทุกคน และดวงตาของเธอก็เบิกกว้าง “ ดูสิ! มันขยายใหญ่ได้มากกว่านี้”
“ นี่มันแปลกมาก” ไช่ฉีซวนย่นดวงตาสีแดงก่ำของเขาเล็กน้อย คำพูดของเขาสะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกในใจของอาจารย์และนักศึกษามากมายที่กำลังมองดูสถานการณ์บนบนหน้าจอขนาดใหญ่ พวกเขาเเปลกใจกับปอดของศพมนุษย์….คนนี้มาก
มีถุงเยื่อขยายนอกปอดหกถุง ทั้งหมดเชื่อมต่อกับหลอดลมและผนังของหลอดเลือดฝอย ปอดอันใหญ่โตทั้งหมดถูกปกคลุมไปด้วยเส้นเลือดฝอยแสดงให้เห็นถึงการทำงานในขณะที่ศพยังมีชีวิต เเค่จินตานาการก็รู้เเล้ว่าผู้ตายก่อนตายนั้นเเข็งเเรงขนาดไหน
กู้จวินมองปอดใหญ่โตที่มีลักษณะเหมือนถุงลมนิรภัยของศพ และความตื่นเต้นก็พุ่งขึ้นในใจของเขา โครงสร้างดังกล่าวนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างแท้จริง
มนุษย์มักอ้างว่าเป็นวิญญาณที่อยู่เบื้องหลังทุกสิ่ง ร่างกายของมนุษย์นั้นงดงามและน่าอัศจรรย์จริง ๆ แต่มันก็ไม่สมบูรณ์แบบ!
เเท้จริงเเล้วร่างกายคนนั้นมีข้อบกพร่องมากมาย ร่างกายของคนนั้นมีโครงสร้างอวัยวะบางส่วนไม่ได้ใช้ตามธรรมชาติมากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่น ๆ บนโลกเสียอีก
เเละปอดเองเป็นหนึ่งในนั้น!
ปอดของมนุษย์เป็นอวัยวะเเบบทำงานสองทาง นั้นคืออากาศจะเข้าและออกผ่านเส้นทางเดียวกัน
และยังทำหน้าที่แลกเปลี่ยนลมและกักเก็บก๊าซอีกด้วย สิ่งนี้ทำให้อากาศที่เข้ามาใหม่ถูกเจือจางด้วยอากาศที่ขาดออกซิเจนตกค้างในปอด
ซึ่งการทำงานของมันไม่มีประสิทธิภาพเป็นอย่างมาก เเละนอกจากนี้ผิวของผนังปอดยังเเสนจะเปราะบางมาก เเละถ้าสูบบุหรี่หรือสูดควันเข้าไปมากๆก็มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคถุงลมโป่งพองก่อนวัยอันควร
แต่ปอดของนกต่างกัน!!
ปอดของนกนั้นมีถุงลมนิรภัยด้านหน้าปอด ตรงกลางและถุงลมนิรภัยด้านหลังอีกหนึ่งอัน ซึ่งแต่ละส่วนทั้งสามส่วนนี้มีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน
ปอดมีหน้าที่เพียงให้อากาศผ่านเท่านั้น ด้วยวิธีนี้…อากาศบริสุทธิ์จะยังคงไหลเข้าสู่ปอดด้วยความเร็วคงที่ อากาศที่มีออกซิเจนจะผ่านเข้าสู่ปอดด้วยการหายใจเพียงครั้งเดียวทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า “การหายใจสองครั้ง” ของนก
เป็นผลให้นกนั้นสามารถบินได้เป็นเวลานาน และสามารถบินขึ้นไปถึงที่สูงกว่ามนุษย์ได้ ในขณะที่มนุษย์ทั้งหลายได้เเต่มองมันจากพื้นดิน
มนุษย์อาจจะโต้แย้งได้ว่า “ สิ่งมีชีวิตที่ต่างกัน ย่อมมีความสามารถที่แตกต่างกัน”
ทว่า! มนุษย์ที่นอนเเผ่หลาอยู่บนโต๊ะชำแหละนี้ดันมีปอดของนกอยู่….
“ทุกคนมาตรงนี้เเล้วดูสิ” กู้จวินจดจ่ออยู่กับความคิดของเขาเองโดยถือมีดผ่าตัดด้วยท่าทางคล่องเเคล่วไม่เเตกต่างอะไรจากปากกา จากนั้นเขาก็เอนตัวลงเพื่อตัดเยื่อหุ้มปอด เส้นประสาทและเส้นเลือดที่เชื่อมต่อกับปอดรวมทั้งท่อที่ติดกับส่วนรอบข้างออกทีละชิ้นด้วย เเต่หลังจากตัดก็ยังคงมีเส้นเลือดของปอดและเอ็นซึ่งเป็นเพียงกองเนื้อเยื่อเหลืออยู่
เนื่องจากสิ่งที่เหลือเหล่านี้ไม่ได้อยู่ในการอ้างอิงทางกายวิภาคที่ไม่สมบูรณ์จากระบบที่ถูกเก็บเอาไว้ในจิตใจของเขา ดังนั้นกู้จวินจึงต้องระมัดระวังในทุกการดำเนินการ เขาไม่สามารถตัดท่ออะไรก็ได้มั่วซั่ว
นี่ไม่ใช่แค่เพราะศาสตราจารย์ฉินจ้องมองพวกเขา!
แต่นี่เป็นข้อกำหนดในการปฏิบัติภารกิจกายวิภาคให้สำเร็จต่างหาก!
หลังจากที่กู้จวินเอาปอดออกแล้ว เขาก็จะทำการผ่าตัดปอดโดยขอให้หวังรั่วเซียงและฉีซวนช่วยสนับสนุน
ในขณะที่ทำการผ่าตัด ทุกคนรอบโต๊ะก็สามารถสังเกตรายละเอียดเพิ่มเติมในขณะนี้ได้ชัดเจน ทว่าทุกคนยิ่งมองก็ยิ่งประหลาดใจกับปอดอันนี้
ทุกคนเห็นได้ชัดเจน ว่าหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำทุกเส้น ดูเหมือนจะทำตามเเบบแผนอย่างประณีตและงดงามอย่างพิถีพิถัน ราวกับสวรรค์สร้างขึ้นมา มันเป็นปอดที่สมบูรณ์เเบบที่สุด
“ สิ่งมีชีวิตชนิดนี้น่าจะสามารถปีนขึ้นไปบนสูงได้ดี และดำน้ำได้ลึกกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นใด” ไซ่ฉีซวนกล่าวอย่างมีอารมณ์ขันปนอิจฉา “ ปอดนี้มีประสิทธิภาพมากเกินไปเเล้ว ฮ่า ฮ่า”
“ ฉันเองก็อยากมีปอดแบบนี้เหมือนกัน” หวังรั่วเซียงกล่าวเเบบติดตลกเเต่เอาจริงๆ เธอก็อยากได้ “ มันจะสมบูรณ์แบบเเค่ไหนสำหรับการแข่งขันร้องเพลง…อา พลังเสียงคงสามารถถล่มได้ทุกเวที”
หลังจากเข้าร่วมผ่าตัดไม่นาน หวังรั่วเซียงก็ต้องการหัวใจของสิ่งมีชีวิตนี้มากขึ้น
หลังจากผ่าปอดทั้งสามเสร็จ กู้จวินก็ย้ายมีดผ่าตัดไปที่เยื่อหุ้มหัวใจต่อ จากนั้นกู้จวินก็ทำการตัดเส้นเลือดใหญ่ด้วยมีดผ่าตัดบริเวณที่เยื่อหุ้มหัวใจและเอาหัวใจออกมาอย่างง่ายดาย
หัวใจดวงนี้มีขนาดใหญ่กว่าหัวใจจากร่างกายมนุษย์หนึ่งเท่า แม้ว่าตอนนี้มันจะเป็นหัวใจที่ตายแล้ว แต่ก็ยืนยันได้ว่ายามที่มันยังมีชีวิตมันจะต้องเเข็งเเกร่งเเละทรงพลังมากเเน่นอน
เเต่พวกเขาก็ยังคงสังเกตและผ่าหัวใจต่อใจอย่างไม่เร่งรีบเเม้เวลาจะไล่ตูดมากเเล้วก็ตาม และหลังจากผ่าได้ไม่นาน พวกเขาก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น
นักเรียนเเพทย์ทุกคนล้วนทราบ หัวใจของมนุษย์นั้นเเม้จะงดงามเเต่มันไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับข้อบกพร่องที่ค่อนข้างน่าขบขัน
หัวใจมนุษย์นั้นมีหลอดเลือดแดงเพียงเส้นเดียว ทำให้หลอดเลือดเพียงเส้นเดียวนี้ต้องส่งเลือดไปเลี้ยงทั้งสองบริเวณของหัวใจ
นั่นคือหัวใจด้านบนขวาและหัวใจด้านล่างขวา โดยมีหลอดเลือดเดียวเท่านั้นที่ให้เลือด
หากหลอดเลือดแดงนี้ถูกปิดกั้น หัวใจห้องบนขวาและหัวใจห้องล่างขวาจะขาดออกซิเจน เเละสิ่งที่จะตามมาก็คือ กล้ามเนื้อหัวใจตาย และหัวใจวายในที่สุด
ไม่ว่ามนุษย์จะถูกสร้างขึ้นโดยมหาเทพผู้สร้าง หรือผ่านวิวัฒนาการจากสัตว์อะไรบางอย่างมาแล้ว
ทว่า! ในเเง่ของการออกแบบ ต้องขอบอกว่าผลงานนี้ห่วยบรม! เพราะข้อดีของระบบหัวใจเเบบนี้ไม่ได้มีข้อดีเลย มีเเต่จะทำให้ตายเร็วก็เท่านั้น
ต้องแจ้งให้ทราบว่าบางทีสิ่งมีชีวิตต่างสปีชีส์ก็ไม่จำเป็นต้องมีความแตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดในสปีชีส์เดียวกัน
เช่นสุนัข
สุนัขนั้นมีเส้นเลือดหลายเส้นที่มีทางส่งเลือดไปเลี้ยงหัวใจที่ต่างกัน หากมีการติดขัด อีกเส้นหนึ่งก็สามารถใช้เพื่อถ่ายโอนเลือดได้ แม้ว่าปอดของสุนัขจะไม่ดี แต่หัวใจของสุนัขดีกว่านั้นมาก!
“ มีหลอดเลือดหัวใจสี่เส้นที่แยกจากกัน มันส่งเลือดไปยังห้องหัวใจทั้งสี่ห้อง” หวังรั่วเซียงผ่าตัดไปก็นับเส้นเลือดไปด้วยอาการตื่นตระหนก “ สิ่งนี้จะทำให้อายุยืนยาวขึ้นมากมายอย่างแน่นอน”
อาจารย์และนักศึกษาที่ดูต่างก็พึมพำอย่างตื่นเต้นกับการค้นพบ และต่างก็ถอนหายใจด้วยความสังเวชตนเอง
ศาสตราจารย์ฉินและคณะกรรมการคนอื่น ๆ ต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียด อวัยวะที่แปลกประหลาดและมหัศจรรย์เหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่น่ายกย่องในสายตาของพวกเขาเลย…
“ ศาสตราจารย์กู้ นี่อาจเกิดจากโรคในมนุษย์หรือเปล่าครับ!?” ซูไห่ถามอย่างงุนงง จางฮ่าวหลันและเฮ่ออี้หานก็คิดไม่ออกเหมือนกัน พวกเขาเเค่อยากรู้ว่าไอ้ตรงหน้านี้มันใช่โรคเเน่นอนไหม?
“ นักศึกษาเอ๋ย ข้อนี้ฉันไม่รู้จริงๆ” ศาสตราจารย์กู้ถอนหายใจด้วยความจริงใจอย่างเเท้จริง ใบหน้าเเก่ชราของเขามีความสับสนอย่างมาก ในใจของเขาก็ครุ่นคิด โอว….นี่ฉันเรียนอะไรมาตั้งหลายปี? ทำไมฉันถึงไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง…..
ในทางกลับกันกู้จวินยังคงทำงานต่อไปโดยผ่าหลอดเลือดหัวใจเหล่านี้ทีละเส้น
ทุกครั้งที่เขาตัดชิ้นส่วนออก หัวใจของเขาคล้ายจะจมดิ่งลงเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันเขาก็ค่อยๆ เข้าใจความรู้สึกที่อยู่เบื้องหลังการบันทึกเอกสารการอ้างอิงทางกายวิภาคที่ไม่สมบูรณ์ของคนเขียน…
คนเขียนคนนั้นคงทั้งประหลาดใจกับโครงสร้างของสิ่งมีชีวิตนี้และรู้สึกตื่นตระหนกกับโครงสร้างที่บอบบางของตัวเองเเน่ๆ
เหอะๆ! ปอดและหัวใจของศพๆนี้ไม่มีความบกพร่อง เเล้วอวัยวะอื่นมีความบกพร่องหรือไม่กันนะ?
อืม! แล้วสมองของมันล่ะ?
สาเหตุที่มนุษย์สามารถปกครองเหนือสิ่งมีชีวิตชนิดอื่น และปราบปรามสัตว์นักล่า เช่น เสือและสิงโตได้เนื่องจากความฉลาดที่เหนือกว่า ใช่! คนนั้นมีดีที่สมอง….
เเล้วสิ่งมีชีวิตนี้มีสติปัญญาระดับใด…
ถ้าร่างกายมนุษย์ไม่มีข้อได้เปรียบเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ล่ะก็….หรือเเม้เเต่สมองก็ไม่มีประโยชน์ล่ะก็ …
ในจิตใต้สำนึกของเขามีอารมณ์ที่ซับซ้อนพัวพันกันอย่างหนักหน่วง ทันใดนั้นหัวของกู้จวินก็รู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรง และภาพลวงตาของแสงและเงาประหลาดก็สว่างวาบต่อหน้าเขาอีกครั้ง
เขารู้สึกเหมือนเข้ามาในห้องใต้ดินที่มืดและแคบอีกครั้งเลย เเต่คราวนี้มีเสียงพึมพำอยู่ข้างๆหูของเขาพร้อมกับพูดเป็นภาษาต่างประเทศแปลก ๆ
แม้ว่าจะยังคลุมเครือเล็กน้อย แต่เขาก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในครั้งนี้ บนโต๊ะไม้ยาวสกปรกมีศพคล้ายมนุษย์ที่มีผิวสีดำคล้ำและมีแขนขายาววางอยู่ หน้าอกของศพถูกผ่าออกแล้ว และกระดูกก็ถูกโยนทิ้งไปจนเกลี้ยง แสงสลัวของตะเกียงน้ำมันก๊าดและเทียนทำให้ฉากนองเลือดเบื้องหน้านี้สว่างไสวดูชัดเจนขึ้น
มีแผ่นเหล็กเป็นสนิมอยู่ข้างๆโต๊ะและมีหัวใจของศพวางอยู่บนจานนั่น เลือดสีแดงเข้มไหลออกมาจากจานเเละหยดกระจายไปติดตามทางเดิน รวมถึงบนโต๊ะและหยดลงบนพื้นอย่างน่าขยะเเขยง
กู้จวินมองไม่ชัดว่าร่างจาง ๆ ที่ยืนอยู่ที่โต๊ะกำลังถือปากกาขีดเขียนอะไรอยู่ ร่างจางๆนั่นวางกองกระดาษสีเหลืองไว้บนโต๊ะ เเละดูเหมือนเขาเขียนอะไรบางอย่าง มันน่าจะเป็นชิ้นส่วนอ้างอิงทางกายวิภาคที่ไม่สมบูรณ์ที่ใกล้เปื่อยเเผ่นนั้น! ทว่าในตอนนี้ชิ้นส่วนอ้างอิงทางกายวิภาคที่ไม่สมบูรณ์ยังใหม่อยู๋
ชายคนนั้นกำลังวาดโครงสร้างบนกระดาษ ในขณะที่เขาอ้างอิงร่างบนโต๊ะ เเละตอนนี้เขากำลังทำคำอธิบายประกอบและจดบันทึก
เขาบ่นไปด้วยในขณะที่เขียน กู้จวินไม่เข้าใจใบหน้าของเขาและไม่เข้าใจคำพูดที่ชายคนนั้นพูดพึมพำด้วย แต่เขาสามารถทราบความประหลาดใจ ความวิตกกังวล ความตื่นตระหนกและงุนงงในน้ำเสียงของชายคนนั้นได้
ในขณะที่ชายคนนั้นจดบันทึก ท่าทางของเขาก็ดูตกใจมากขึ้นเรื่อย ๆ และน้ำเสียงของเขาก็เย็นชาเเละสั่นมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาพูดคำพูดช้าๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับว่าเขากำลังจะตายถ้าไม่ได้พูดคำนี้
เมื่อเขาบ่นเป็นครั้งที่สี่ นั่นคือตอนที่เขาเขียนย่อหน้าที่สี่บนแผนที่
กู้จวินรู้สึกปวดร้าวในใจอย่างกะทันหัน ราวกับว่าเขาสามารถเข้าใจประโยคนี้ได้อย่างกะทันหัน และรู้ว่าข้อความภาษาต่างดาวที่ซ้ำกันสี่บรรทัดในตอนท้ายของโน้ตนั้นหมายถึงอะไร
“ พวกเขาดีกว่าพวกเราใช่ไหม?
พวกเขาดีกว่าพวกเราใช่ไหม?
พวกเขาดีกว่าพวกเราใช่ไหม?
พวกเขาดีกว่าพวกเราใช่ไหม?”