Infinite Competitive Dungeon Society – ตอนที่ 248

ตอนที่ 248

บทที่ 248 สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ… (8)

ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์พุ่งตรงเข้าไปหามันในทันทีหลังจากนั้น อย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้เลยมันได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของเอทเต้และเปิดปากออกมา

[นี้คือสําหรับหางของข้า]

“แกจะไม่ได้แตะล็อทเต้หรอก”

ฉันแทบจะไปป้องกันลือทแต่ไม่ทัน แต่ว่าโชคดีที่ฉันรู้ก่อนว่ามันจะเข้าไปหาใคร ฉันจึงได้ปาหอกไปที่เพดานปากของมันในทันที

[ข้าจะไม่พลาดซ้ำสองแน่]

“ฉันก็เหมือนกัน”

ก่อนที่หอกของฉันจะโดนมัน มันได้ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาจากท้องและยิงสายฟ้าจํานวนมากออกมา หอกโกลาหลได้เสียพลังและถูกผลักกลับมา ฉันได้คิดเอาไว้แล้วว่าเรื่องนี้มันจะต้องเกิดขึ้น ฉันได้ดึงเอาพลังวิญญาณสัมบูรณ์และโคจรวงจรเพรูต้าในทันทีด้วยความมั่นใจ

“ไพก้าทุ่มทั้งหมดออกไป”

[ไม่ต้องห่วงนายท่าน เชื่อในตัวข้าที่เชื่อในนายท่าน]

วงจรเพรูต้าได้หมุนปั่นอย่างรุนแรงและวังวนได้หมุนรอบๆตัวฉัน สายฟ้าที่ทรงพลังของราชาแห่งการจําศีลได้ถูกดูดเข้ามาในวงจรเพรูต้าและไหลอยู่ในร่างกายของฉัน ถ้าหากฉันขยับล็อทเต้ก็จะถูกสายฟ้านี้โจมตีอีกครั้งแน่ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครต้องบาดเจ็บจากสายฟ้านี้ อีกฉันได้วางแผนที่จะรับเอาสายฟ้าทั้งหมดนี้มาด้วยตัวเอง

[เจ้าอยากจะตายงั้นหรอ]

“แกอยากจะฆ่าฉันด้วยสายฟ้าแบบนี้งั้นหรอ ฝันไปเถอะน่า”

วังวนขนาดยักษ์ที่ฉันได้สร้างขึ้นมันได้บังมุมมองของฉัน แต่ว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะหยุดการเคลื่อนไหวและสายฟ้าของราชาแห่งการจําศีล แต่ถึงแม้ว่าจะผ่านการหมุนวนที่ทรงพลังของวงจรเพรูต้าแล้วมันก็ยังดูเหมือนจะต้องการทําลายร่างกายของฉัน ฉันได้เร่งความเร็วขึ้น โดยไม่ลังเลได้ ด้วยวังวนเพรูต้านี้ทําให้สายฟ้าของราชาแห่งการจําศีลเส็งมาที่ฉันเพียงคนเดียว

“ฟู….ฮาร์”

ฉันได้ทนต่อความเจ็บปวดเอาไว้เพื่อให้ไพก้าส่งสายฟ้านี้มาในร่างของฉันและโคจรวงจรเพรูต้าเพื่อจัดการกับมานาเหล่านี้อย่างเหมาะสม นอกไปจากนี้ก็ยังเปลี่ยนพลังของศัตรูมาเป็นของฉันแทนด้วยวิญญาณสัมบูรณ์

ฉันได้เปิดตาสีทองและตะโกนออกมา

“ไปกันเถอะ”

[เจ้าโง่ เจ้าคิดว่าดวงตามารของเจ้าจะหยุดข้าได้หรอ]

“ฮ่าาาาาาห์”

ในไม่ช้าสายฟ้าที่บ้าคลั่งส่วนหนึ่งของราชาแห่งการจําศีลได้เริ่มขยับตามการควบคุมของฉัน สายฟ้าสีน้ำเงินได้เริ่มเปลี่ยนไปสีทอง ราชาแห่งการจําศีลได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ

[ดวงตามารของเจ้าควบคุมสายฟ้าได้]

“ฉันก็หวังแบบนั้น”

ถึงแม้ว่าร่างกายของมันจะปล่อยสวายฟ้าออกมามากยิ่งขึ้น ฉันก็รับสายฟ้าพวกนั้นมาทั้งหมดโดยไม่ลังเล พลังชีวิตของฉันได้ลดลงในขณะที่พลังเวทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉันได้ใช้พลังเวทย์นี้ฟื้นความเสียหายที่ร่างกายของฉันได้ มันเป็นการเปลี่ยนแปลงของทั้งมานาและพลังชีวิต วงจรเพรูต้าที่ฉันใช้ได้รักษาอวัยวะภายในเอาไว้

[สามีที่รัก คุณจะตายนะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป]

“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ดูแลล็อทเต้ไปแล้วก็โจมตีราชาแห่งการจําศีลในตอนที่มีโอกาส”

[ลาลาลาล้า-]

ในขณะนั้นเสียงร้องที่ฟังไม่ออกก็ดังขึ้นในหัวของฉัน เสียงร้องเพลงของพลินได้ดังขึ้นมา เสียงของเธอได้ทําให้ฉันสงบขึ้นและเติมเต็มพลังในร่างกาย

สายฟ้าสีทองส่วนใหญ่ได้หมุนรอบๆร่างกายฉันด้วยวงจรเพรูต้าและปะทะเข้ากับสายฟ้าสีน้ำเงินที่โจมตีฉันอย่างต่อเนื่อง ฉันได้ถือหอกขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนี้ราชาแห่งการจําศีลดูจะยอมแพ้ที่จะกินล็อทเต็ไปแล้วทําให้มันเข้ามาหาฉันด้วยสายตาแน่วแน่

[ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารู้จักราชาลาวาได้ยังไง แต่ข้าจะทําให้เจ้าจําใส่สมองเอาไว้ว่าข้าแข็งแกร่งกว่ามัน]

“เข้ามาสิ”

ราชาแห่งการจําศีลได้หายตัวไปอีกครั้งในทันที สําหรับคนที่ครอบครองขอที่เปราะบางอย่างราชาแล้วแต่มันกลับทําตัวเหมือนกับนักฆ่าที่ต่ำต้อย

สายฟ้าสีทองได้พุ่งขึ้นมาเนื่องจากฉันได้ใส่มันลงไปในหอกและปล่อยออกไปข้างหน้า สายฟ้านี้ไม่ได้สลายไปเพียงแค่เพราะฉันอยู่ใต้น้ำ มันเหมือนกับลําแสงเลเซอร์ สายฟ้าของฉันได้พุ่งเข้าใส่ปากของราชาแห่งการจําศีลที่โผล่มาในทางที่ฉันโจมตีไป ดูเหมือนว่าแม้มันจะใช้สายฟ้าได้แต่มันก็ไม่สามารถจะป้องกันสายฟ้าได้เนื่องจากว่าผิวปากของมันได้ถูกเผาจนเป็นสีดํา มันได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ

[เจ้ารู้ได้ยังไงกัน]

” ก็เพราะกลิ่นแกเหม็นมากไงล่ะ”

[ก้าชชชชชช]

สายฟ้าบริสุทธิ์ได้ส่งประกายออกมาราวกับว่าจะต้มน้ำมหาสมุทรรอบๆ ฉันได้คิดที่จะแทงหอกออกข้างหน้าทันทีในตอนนั้นเองฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันควรจะใช้พลังใหม่ที่ได้มา

” ตรีศูล”

[ตรีศูลได้สถิตอยู่ภายในหอกของคุณเป็นเวลาห้านาที เทคนิคหอกของคุณเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ในตอนที่โจมที่มีโอกาส 1096 ที่จะสร้างความเสียหายต่อเนื่องสามครั้ง]

เมื่อฉันได้ใช้พลังของพระศิวะ ตรีศูล แสงออร่าสีแดงก็ส่องลงมาบนหอกโกลาหลของฉัน เพียงแค่ผลข้างเคียวของตรีศูลที่ทําให้พลังของเทพมาสภิตอยู่ในอาวุธของฉันเป็นเวลา 30 นาทีมันก็น่าฟังแล้วนี้มันหมายความว่าฉันสามารถจะฆ่าศัตรูของโลกได้โดยไม่ต้องใช้โอเวอร์ลอร์ตอีกด้วย

[ออร่านั้นเป็นของเทพที่อันตราย]

ตัวตนของราชาแห่งการจําศีลไต้หายไปอีกครั้งหนึ่ง ฉันได้เหวี่ยงตรีศูลออกไปอย่างไม่แยแสและยิงออร่าสีแดงออกไป

” หยุดซ่อนตัวแล้วมาสู้กันตรงๆได้แล้ว”

[ก๊าาาาา]

ลูกบอลสายฟ้าสีน้ําเงินขนาดใหญ่ได้พุ่งมาทางฉัน ราชาแห่งการจําศีลได้ปรากฏตัวขึ้นมาด้านบนของฉันและพ่นสายฟ้าออกมา ไม่ใช่ว่ามันเป็นกระเบนหรอกหรอ

[ความสามารถในการใช้สายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะมีได้]

“แต่ว่าแกกําลังจะตายเพราะมนุษย์คนหนึ่ง”

ฉันได้ใช้พลังของวงจรเพรูต้าหุ้มร่างของฉันเอาไว้ด้วยความเชื่อมั่นและพุ่งไปด้านหน้าทางบอล สายฟ้าในตอนนั้นเองลิโคไรท์ก็ได้ใช้เวทย์ของเธอ เพราะว่าเธอไม่ได้โจมตีมาซักพักแล้ว ฉันจึงคิดว่าเธอคงจะใช้เวทย์ใหญ่ขึ้น แต่แล้วกลับเป็นฉันที่เดาผิด ออร่าสีแดงจากเวทย์ของเธอได้ลอยเข้า มาทางฉัน

[อย่าตายนะสามีที่นัก]

“อะไรนะ ฉันได้บัฟอีกแล้วหรอ”

ในตอนที่เวทย์ของลิโคไรท์โดนฉัน ฉันรู้สึกได้ว่าทุกๆสิ่งในโลกกําลังวิ่งเข้าหาฉัน

[เวทย์ระดับสูงของราชินีซัคคิวบัส “ความรัก” ทํางาน ความสัมพันธ์กับทุกๆอย่างใน โลกเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นจะเพิ่มตามสัดส่วนเสน่ห์ของผู้รับ]

พระเจ้า ฉันเข้าใจได้เลยว่าทําไมเธอถึงได้ใช้เวลาร่ายเวทย์นี้เป็นเวลานาน เมื่อเธอรู้ว่าไม่สามารถจะทําอะไรกับราชาแห่งการจําศีลได้มากนัก เธอได้เลือกที่จะใช้เวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาสนับสนุนฉันแทน

ค่าความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยที่น่าสะพรึงในการต่อสู้ เพียงแค่มีความสัมพันธ์กับสักอย่างเพิ่มขึ้น ทักษะการควบคุมธาตุจะเพิ่มขึ้นและความต้านทานธาตุนั้นๆก็จะเพิ่มขึ้นด้วย บอลสายฟ้าขยาดยักษ์ของราชาแห่งการจําศีลไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้เนื่องจากความสัมพันธ์กับน้ําของฉันก็เพิ่มด้วยทําให้การเคลื่อนไหวของฉันกลายเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ยิ่งความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆมากยิ่งขึ้นมันยิ่งทําให้เกิดปาฏิหารย์ขึ้นได้

ในเวลาต่อมาฉันก็ได้ปะทะเข้ากับบอลสายฟ้า ฉันได้ยินเวลาใครบางคนร้องออกมา แต่ว่า

[เจ้าจะไม่มีเวลาแม้แต่รู้สึกเจ็บ]

แน่นอนว่า ไม่”

บอลสายฟ้าขยาดยักษ์ได้ถูกดูดเข้าไปในร่างกายของฉันอย่างช้าๆ วงจรเพรูต้าก็ยังหมุนวนด้วยความเร็วรุนแรงมากยิ่งกว่าครั้งก่อนๆและไต้ฝุ่นคลั่งที่ได้รับการเสริมพลังขึ้นขั้นหนึ่งจากพลังของตรีศูลก็ได้หมุนวนปล่อยออร่าที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา

[เพรูต้า – ไต้ฝุ่นคลั่งได้กลายเป็นเลเวล 5 คุณสามารถกระตุ้นกรไหลเวียนของวงจรเพรูต้าได้ด้วยหอกของคุณอย่างสมบูรณ์แบบคุณได้รับพื้นฐานในการตัดหรือแบ่งพลังใดๆก็ตามในโลกได้]

“เหมาะเหม็งเลย”

บอลสายฟ้าได้เริ่มหดตัวลงและเปลี่ยนสี สิ่งที่ฉันทําก็ไม่ได้มีอะไรมาก ด้วยพลังที่ลิโคไรท์ให้ฉันมาทําให้ฉันสามารถจะควบคุมสายฟ้ายังไงก็ได้ตามที่ฉันต้องการ แม้ว่ามันจะเป็นพลังของศัตรูของโลกก็ตามที

“สายฟ้า…อยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน”

“ย้าาาาาาาาา

โคุณได้ใช้เสียงคํารามเยือกแข็ง ศัตรูทั้งหมดในสนามรบจะถูกแช่แข็งอยู่กับที่พรรคพวกทั้งหมดจะได้รับสถานะสุดยอดเกราะและพลังทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50% ชั่วคราว คุณจะมีโอกาสโจมตีติดคริคอลเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อโจมตีศัตรูที่ได้รับผลของเสียงคําราม

[เยือกแข็ง]

[มันไม่ได้ผสมากนักกับศัตรูของคุณ]

[เจ้าคิดว่าเสียงคํารามระดับนั้นจะมีผลกับข้าหรอ]

แม้ว่าจะมีพลังของเสียงคํารามเยือกแข็งแต่สายฟ้าของมันก็ยังคงรุนแรงขึ้น ฉันได้เบิกตาขึ้น ในขณะที่เปลี่ยนสายฟ้ามาเป็นของฉัน ด้วยไต้ฝุ่นคลั่งฉันได้บังคับตั้งสายฟ้าที่ฉันไม่สามารถจะควบคุมได้อย่างเต็มกับลังและใส่มันลงไปในหอกของฉัน ในทันที่ที่ฉันทําแบบนั้นฉันก็ทําเพียงแค่ยิ่งพลังที่เก็บในหอกออกไป

“กินนี้ไปซะ ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ฮีโรฮิค สไตรค์”

ฉันไม่ได้แทงหอกออกไปหรือโยนมัน ไม่เลยแม้แต่นิด ตราบใดที่ฉันรวบพลังทั้งหมดไว้ในจุดๆ เดียวแล้วปล่อยมันออกไปในรูปแบบออร่า ฉันก็สามารถจะเรียกมันได้ว่าฮีโรอิคสไตรค์แล้ว

ฮีโรฮิคสไตรค์เวอร์ชั่นใหม่นี้ได้ส่องแสงสว่างออกมาจากสุดยอดเทคนิคหอกและการควบคุมมานาทําให้เห็นถึงประสิทธิภาพในทันที ออร่าสีเงินแพตตินั่มได้ถูกยิงผ่านอากาศออกไปเหมือนเส้นแสงและโดนเข้ากับราชาแห่งการจําศีลตรงๆ

การโจมตีนี้ได้ทะลุปากของราชาแห่งการจําศีลและผ่านไปจบลงตรงที่ห่างของมัน การโจมตีนี้ แตกต่างไปจากการโจมตีก่อนหน้านี้ที่เพียงแค่เผามันเอามากๆ มันแตกต่างกันเหมือนกันปืนพกและปืนไรเฟิล

ถึงแบบนั้นการโจมตีก่อนหน้านี้ก็ใช้มานาถึง 100,000 มานาจากมานาสูงสุด 180,00 มานา แต่ว่าด้วยจํานวนมานาที่ฉันได้รับมาจากการโจมตีตัวยสายฟ้าของมันนี้มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก

[ก๊าชชชชชชชชช]

“ฉันยังไม่ได้บอกแกอีกหรอว่าฉันควบคุมสายฟ้าได้”

[อย่า อย่าคิดว่าเจ้าจะยโสได้เพียงแค่การสร้างแผลเล็กๆนี้

ด้วยแบบนั้นมันก็ได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง ร่างกายที่มีขนาดใหญ่ที่มากพอจะกลืนบ้านกิลด์ของเราลงไปง่ายๆได้ลบเลือนหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์

[ข้ายอมรับ]

เสียงของมันได้ดังขึ้น

[เข้าคือราชาทั้งห้าที่อ่อนแอที่สุด]

ฉันได้ยิ้มกวางออกมา ในท้ายที่สุดแล้วสายฟ้าของมันก็ถูกควบคุมโดยฉันได้ไหล่ด้วยสีทองผ่านวงจรเพรูต้า ทําไมน้ำถึงรวมอยู่ด้วยล่ะ น้ำก็ยังอยู่เป็นชั้นอยู่เหนือสายฟ้าสีทองหมุนเวียนรอบตัว ฉันเป็นวังวน ฉันรู้สึกได้เลยว่าฉันได้เชี่ยวชาญวงจรเพรูต้าขึ้นอีกนิดหน่อย

[ทุกคนต้องการให้ข้าตายและต้องการจะเอาฉายาราชาไปจากข้า]

“ฉันมั่นใจเลยว่าพวกนั้นทําแบบนั้น”

มันไม่ได้สนใจในคําพูดแตกดันของฉันและพูดต่อไป

[แต่ว่าข้าก็รอดมาจนนับไม่ถ้วนและได้มาถึงที่โลกแห่งนี้ ถ้าเจ้าอยากจะรู้ ข้าก็จะบอกเหตุผลนั้นให้เจ้าได้รู้]

แขนซ้ายของฉันได้ถูกเจาะในทันที จู่ๆมันก็เกิดขึ้นโดยไม่มีร่องรอยใดๆทิ้งไว้

[สามีที่รัก]

“อย่าเข้ามาใกล้ ระวังตัวเอาไว้”

พื้นที่ที่มันเจาะนั้นมันเล็กมากจนผ่านช่องว่างของเกราะฉันมาได้ นอกไปจากนี้มันยังเป็นความจริงที่ว่าการโจมตีนี้มันทะลุแขนของฉัน ฉันได้ฝืนทนความรู้สึกเจ็บปวดและถือหอกเอาไว้ ความรู้สึกภายในแขนซ้ายของฉันมันแปลกๆ มันจะไม่หายเองโดยธรรมชาติแต่ฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ได้จะอยู่นานนัก ฉันจําเป็นจะต้องใช้อิลิกเซอร์ที่อยู่ในช่องเก็บของ เพื่อที่จะใช้มันได้ฉันจะต้องฆ่าราชาแห่งการจําศีล

[ต่อไปก็หัวใจ]

“โอเวอร์ลอร์ด”

ฉันได้รีบใช้โอเวอร์ลอร์ตอย่างรวดเร็ว ฉันเก็บมันไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว การต่อสู้นี้จะต้องจบลงไปในห้านาที ไม่สินาที่เดียวเท่านั้น

[เจ้ามีออร่าที่ทรงพลังจริงๆ เจ้าสมแล้วที่เรียกตัวเองว่าฮีโร่ ยังไงก็ตามพลังที่แข็งแกร่ง…]

ขาซ้ายของฉันได้ถูกทะลวงอีกแล้ว ฉันได้กัดฝันแน่นเอาไว้และปลุกพลังของโอเวอร์ลอร์ด สายฟ้าสีทองที่อยู่รอบๆตัวฉันได้ถูกย้อมเป็นสีดํา วงจรเพรูต้าที่อยู่ในร่างของฉันได้ส่งเสียงออกมา

[จะกลายเป็นอ่อนแอลงเมื่อเจ้าไม่ระวังตัว ข้าสงสัยจังเลยว่าพลังที่อยู่ตรงหัวใจนั้นจะอยู่นานแค่ไหน ต่อไปก็ต้นขา]

ต่อมาต้นขาของฉันก็ถูกเจาะในทันที พลังงานอินิกม่ากําลังเดือดพล่านแต่ว่าก็ยังไม่สามารถที่จะป้องกันการโจมตีของราชาแห่งการจําศีลได้ ฉันไม่มีตัวเลือกแล้ว สําหรับในตอนนี้ฉันไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้เลยแม้แต่นิด

[อึก พลังนี้มันทรงพลังจริงๆ คนที่สามารถจะมาคุกคามราชาอย่างเราได้ไอเวรนี้ การทําตามคําสั่งของเขามันชั่งเจ็บปวด ดังนั้นข้าจะต้องฆ่าฮีโร่ที่นี่และกินพลังของโลกมา]

คราวนี้เป็นท้องของฉัน แต่ๆ ฉันแทบจะเสียการควบคุมโอเวอร์ลอร์ด แต่ฉันก็กัดฟันแน่นและ เร่งวงจรของมานาขึ้น ราชาแห่งการจําศีลได้ระเบิดหัวเราะออกมา

[คุฮ่าฮ่า ความมั่นเมื่อตะกี้ไปไหนซะแล้วละ เจ้ามีเคล็ดลับอะไรที่จะต่อแขนเจ้าไหม ใช้เจ้า สิ่งที่เข้าเรียกว่าทักษะชะสิ มันน่าขําจริงๆเมื่อได้เห็นเจ้าใช้พลังงานที่เหมือนๆกันแต่ว่าเรียกชื่อมันต่างกัน คุฮ่าฮ่าฮ่า]

แขนขวา จากนั้นก็หน้าแข้ง หลังจากโดนโจมตีอีกสองครั้ง ฉันก็สูญเสียการควบคุม โอเวอร์ลอร์ด พลังที่อยู่ภายในหอกของฉันมันมากเกินกว่าจะพูดว่าน้อย แต่ว่าหากไม่มีเป้าหมายมันก็ไม่สามารถจะทําอะไรได้

[เจ้าเตรียมตัวตายหรือยัง]

“อึก… ไอเวรแกนี้เหมือนแมลงเลย”

[แมลงเหมือนกับคนที่กําลังดิ้นรนอย่างแกอะไรแบบนี้]

มันกําลังมา มันเล็งที่หัวใจของฉัน

ฉันได้เปิดตากว้างและเปิดใช้งานความเร็วศักดิ์สิทธิ์ในทันที ฉันได้ใช้ทักษะสังเวย เสริมพลังด้วยรอยสักโอเกอร์สองหัวที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับทักษะโจมตีระยะประชิด และใช้ ทักษะกลืนกินหลังจากที่ยืนยันนว่าพลังชีวิตลดลงต่ำกว่า 1096 ในเวลาเดียวกันฉันก็ล้มเลิกการป้องกันทั้งหมดและเน้นไปที่การโคจรวงจรเพรูตาให้ไปสู่ใต้ฝุ่นคลั่ง มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เหลือให้ทํา

ฉันได้แทงหอกออกไปด้านหน้า หอกได้พุ่งตรงไปโดยที่ไม่สั่นแม้แต่นิดและทันใดนั้นเองที่หยุดลง ยังไงก็ตามพลังงานที่ไม่สิ้นสุดที่เก็บอยู่ในหอกก็ถูกใช้ออกไปอย่างสมบูรณ์ เมื่อแรงกระ แทกกลับมาอีกสองครั้งดูเหมือนจะผลของตรีศูลจะใช้ได้ผล

[ติตคริติคอล]

[แค่กๆ]

ฉันได้ไอเลือดออกมา เนื่องจากว่าเลือดของฉันได้ไหลออกมาผ่านน้ำออกมาอย่างมาก ฉันจําเป็นจะต้องดื่มโพชั่นถ้าหากว่าฉันยังไม่อยากจะตาย

[จะ เจ้ารู้ได้ยังไง อีก]

เคียวยักษ์ได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศตัดไปที่ว่างเปล่าก่อนจะหายไป

นั่นแหละ เมื่อตอนก่อนหน้านี้มันต่างออกไป แต่ว่าหลังจากที่ฉันได้โจมตีด้วยที่อย่างที่มีโดยที่ไม่สนใจอะไรแล้วแม้แต่จักรพรรดิแห่งการจําศีลก็ยังไม่น่าจะรอด แล้วนี้จะนับประสาอะไรกับราชาแห่งการจําศีล

[การจู่โจมที่ยิ่งใหญ่สําเร็จ]

เมื่อได้ยินเสียงของพี่สาวส่งข้อความขึ้นฉันได้หยักหน้ารับและพูตออกมา

” นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเรียกแกว่าแมลงไง”

เพราะแบบนี้มันจึงจบลงด้วยการที่ฉันเอาชนะศัตรูด้วยตัวเองเพียงลําพัง ถ้าหากว่ามันยังไม่ตายฉันก็คงจะต้องจบลงด้วยการกลายเป็นรังผึ้งแน่ๆ ให้ตายเอ้ย

Infinite Competitive Dungeon Society

Infinite Competitive Dungeon Society

Status: Ongoing

เหตุการณ์ดวงจันทร์แฝดคือจุดเริ่มต้นชองการเปลื่ยนแปลงทุกอย่าง

เพราะการปรากฏตัวของมอนสเตอร์และดันเจี้ยนในสังคมยุคใหม่ และผู้ที่ใช้ความสามารถของเขาต่อสู้กับมัน โลกได้กำลังเผชิญหน้ากับประวัติศาสตร์ครั้งใหม่

นี่คือกำเนิดขึ้นของแหล่งพลังงานชนิดใหม่ๆ และอาชีพดั้งเดิมมากมายได้หดหายไป

สามัญสำนึกปกติได้ถูกเปลื่ยนแปลงไปและจินตนาการได้กลายมาเป็นความจริง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท