Chapter 531: สมรู้ร่วมคิด Chapter 531: สมรู้ร่วมคิด
ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างคิดว่าพวกเขาได้ยินผิดไป มันอันตรายมากเกินไปด้านนอกนั่น! แล้วทีมฉี่หยิงจะออกไปด้านนอกด้วยตัวเองได้ยังไงกัน? เหตุผลที่ฮานหยวนปฏิเสธคําแนะนําของเจียงลู่ฉี เป็น เพราะว่าเขาเชื่อว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้สําหรับเจียงลู่ฉีและทีมของเขาที่จะสู้โดยไม่มีการช่วยเหลือจากทางกองทัพ
ถึงแม้ว่ามันจะดูไม่น่าเชื่อก็ตามที แต่ว่าเจียงลู่นี้ได้ตัดสินใจไปแล้ว เขาไม่จําเป็นที่จะต้องอธิบายให้กับคนอื่นฟัง เขาเพียงแค่พูดกับหลัวฉีเชิงอีกไม่กี่ประโยคก่อนที่จะจากไปพร้อมกับทีมของเขา
เมื่อหลัวฉีเชิงมองไปที่รถมินิบัสที่ขับออกไป ร่องรอยของความประหลาดใจก็ได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา หลังจากนั้น เขาหันกลับไปมองฮานหยวนและคนของเขา พร้อมกับสงสัยว่าพวกเขากําลังคิดอะไรอยู่
“หื้ม! มันเป็นเรื่องง่ายที่จะอวดแบบนั้นแหละ ถ้าพวกเขารักชีวิต พวกเขาก็จะกลับมาข้างในอยู่ดี” ลู่เทียนหลงพูดออกมาอย่างเย็นชา
“รถมินิบัสนั่นอาจจะยอดเยี่ยมกว่ารถธรรมดาทั่วไป แต่เมื่อเทียบกับอาวุธหนักของพวกเรา แล้วมันก็ไม่มีค่าอะไรหรอก” ฮานหยวนพูด
หลัวฉีเชิงถอนหายใจ ในความคิดของเขาแล้ว เจียงลู่ฉีไม่ได้โกหกและอวดเกี่ยวกับการตัดสินใจของเขา แต่เขาก็ยังกังวลอยู่ดี เกี่ยวกับสถานการณ์ด้านนอกนั่น และเจียงลู่ฉีก็มีเพียงคนเพียงหยิบมือเดียวบนรถคันเดียวนั่น
‘ถ้าพวกเขาออกไปล่าสัตว์ปากลายพันธุ์ที่อยู่ห่างจากเจ้าหลุมดํานั่น มันก็น่าจะปลอดภัยแล้ว ละบางทีเจียงลู่ฉีอาจจะคิดแบบนี้ก็ได้ ’ หลัวฉีเชิงคิด
“กัปตันเจียง…” พีชและเว่ยเฟยเฟยต่างรู้สึกผิดหวัง เมื่อพวกเธอไม่ได้มีโอกาสที่จะได้ทักทายกับเจียงลู่ฉี คนที่คุยกับเจียงลู่ฉีต่างเป็นคนที่ทรงอํานาจกันทั้งนั้น ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ต้องการที่จะรบกวนพวกเขา โชคร้ายที่เมื่อพวกเขาพูดกันจบแล้ว เจียงลู่ฉีก็ขึ้นรถมินิบัสและขับออกไปในทันที
“พวกเขาต้องการที่จะออกไปด้านนอกกันเองเนี่ยนะ? พวกเขาบ้าป่าวเนี่ย? พวกเขาดื้อรั้นมากขนาดไหนกันละเนี่ย?” ยังคงหยุนพูด เขาเชื่อว่าเขาพูดได้ตรงจุด แต่เว่ยเฟยเฟยไม่ได้มองมาที่ เขาเลยด้วยซ้ําไป แล้วเธอก็ลากพืชกลับไปยังห้องประชุมของสํานักงาน
“ในไม่ช้า ท่าทางของเธอต่อฉันจะเปลี่ยนไป!” ถังดั่งหยุนยิ้ม เขารู้สึกโชคดีที่เจียงลู่นี้ไม่ได้เป็นที่คุกคามต่อแผนและอนาคตของเขา ตั้งแต่ที่เรื่องมาถึงแบบนี้แล้ว เขาจะต้องกังวลอะไรอีก?
“พี่เจียง พวกเราจะไม่ร่วมมือกับกองทัพจริงๆงั้นเหรอคะ?” หลี่ยู่ซินถามออกมาในเวลาไม่นานที่เลี้ยงลู่ฉีกลับไปยังรถมินิบัส พวกเธอต่างรับรู้ถึงบทสนทนา เมื่อหลันซิ หยู่ได้แชร์มันผ่านวิสัยทัศน์ของเธอ
“ใช่แล้ว” เจียงลู่ฉีพยักหน้า “ตัดสินตามท่าทางของฮานหยวนแล้ว แม้ว่าพวกเราจะ ตกลงร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาก็สั่งพวกเราไปทั่วและปิดกั้นการเคลื่อนไหวของเราอย่างแน่นอน”
“ไม่จําเป็นที่จะต้องร่วมมือกับคนแบบนั้นหรอก!” เจียงรู้อิงพูดออกมาอย่างโกรธเคือง ถ้าพี่ชายของเธออนุญาตเธอแล้วละก็ เจียงจู้อิงคงจะลงจากรถมินิบัสและไปสอนบทเรียนกับพวกเขา แล้วละในความคิดของเธอแล้ว ในยามคับขันเช่นนี้ ทุกคนควรที่จะสู้กับศัตรูด้านนอก แทนที่จะมามัวแต่วางแผนและเก็บเกี่ยวผู้คนมาให้ตัวเองทรงอํานาจขึ้น
“ท่าทางของผู้บังคับบัญชาหลัวนี่ไม่แย่เลย แต่เป้าหมายของพวกเราคือเจ้าหลุมดํานั่น พร้อมกับความคิดแบบนี้แล้ว มันไม่สมเหตุสมผลเลยที่จะร่วมมือกับฝ่ายไหน” เจียงลู่ฉีพูด
“ดังนั้น พวกเราจะขับออกไปด้วยตัวเองงั้นเหรอคะ?” หลันชิหยู่ถามในขณะที่มองออกไป เธอนั่นแผ่กระจายพลังจิตของเธอออกไปค่อนข้างไกล แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะสแกนเกี่ยวกับหลุมดํา ถ้าเธอทํามัน พลังจิตของเธออาจจะถูกกลืนกินไปโดยเจ้าหลุมดํา
เจ้าหลุมดําคืออะไรกันแน่? หลันหยู่ต้องการที่จะรู้จริงๆ และตั้งแต่ที่เจียงลู่อี้ตัดสินใจที่จะล่ามัน เธอก็จะสนับสนุนเขา หลันซิหยู่จะตามเจียงลู่นี้ไปยังสถานที่ที่อันตรายที่สุด ถ้ามันจําเป็น
“ใช่ พวกเราจําเป็นที่จะต้องออกเดินทางในไม่ช้านี้แล้ว” เจียงลู่ฉีตอบกลับอย่างใจเย็น
หลังจากนั้น เขาก็นั่งลงและวางมือลงไปบนที่วางแขน หลังจากนั้น เขาก็เรียกเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาวและถามมันว่าให้ส่งข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับกระบวนการอัพเกรดของรถมินิบัส ถ้าฮานหยวนคิดว่ารถมินิบัสของเจียงลู่ฉีมันยอดเยี่ยมแล้วในตอนนี้ เขาจะรู้สึกยังไง ถ้าเขารู้ว่ามันสามารถที่จะอัพเกรดขึ้นไปได้อีกกัน?
เพียงเวลาไม่นาน การโจมตีของสัตว์ปากลายพันธุ์ในพื้นที่ปลอดภัยได้หยุดลง ในตอนเริ่มแรกภารกิจของสัตว์ปากลายพันธุ์คือการปกป้องและคุ้มกันสัตว์ปากลายพันธุ์ที่มีแสงดําอยู่ในตัว แต่แผนการนี้ได้ล้มเหลวไปแล้ว เมื่อเจียงลู่นี้ได้ฆ่าพวกมันทิ้งไปทั้งหมดและดูดซึมพลังงานไปเป็นสารอาหารให้กับเมล็ดพันธุ์แห่งดวงดาว หลังจากนั้น งานของกองทัพก็ง่ายขึ้นมาก และพวกเขาต่างสังหารสัตว์ป่าที่เหลือทิ้งไป
ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีสัตว์ป่ากลายพันธุ์โจมตีต่อ เงาดําที่ยังปกคลุมเมืองเจียงหมิงก็ยังขยายตัวมากขึ้น มันยิ่งเข้ามาใกล้กับพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิงแล้ว เหมือนกับภูเขาที่กําลังก้มหัวลงมามองช้าๆ ผู้คนมากมายต่างตื่นตระหนก ภายใต้ภัยพิบัติเช่นนี้แล้ว ทั่วทั้งเจียงหนิงต่างตกอยู่ในสภาวะฉุกเฉินและเตรียมระวังภัย ด้วยเหตุนี้ มันจึงทําให้เรื่องของทีมนี่หยิงที่ปฏิเสธคําเชิญของนายพลฮาน มันไม่ได้มีค่าอะไรเลย มีเพียงแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่กังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
หลังจากที่ล้มเหลวกับข้อตกลง หลังจากนั้น หวันยี่หลิงก็ได้สืบหาเบาะแสเกี่ยวกับน้องสาว ของเธอจากการค้นหา มันทําให้เธอพบว่าผู้รอดชีวิตทั้งหมดที่ช่วยเหลือต่างพูดเกี่ยวกับเจียงลู่ฉี และทีมของเขากันทั้งนั้น พวกเขาพูดออกมาอย่างรู้สึกขอบคุณ หลังจากนั้น เธอก็รับรู้ว่าทําไมหวันหลานถึงไม่ได้ถูกช่วย และทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างเธอและเจียงลู่ฉี ถึงแม้ว่าหวันยี่หลิง จะไม่ได้แคร์เกี่ยวกับน้องสาวของเธอมากสักเท่าไหร่ หวันหลานก็ยังคงเป็นคนในครอบครัวของเธออยู่ดี ความเกลียดชังนั้นพวยพุ่งเข้าใส่ในตัวหวันยหลิง หลังจากที่รับรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง เจียงลู่ฉี ไม่ได้มีหน้าที่ที่ต้องช่วยหวั่นหลาน แต่เธอก็ยังคงยอมรับมันไม่ได้อยู่ดี
‘ถ้าเจียงลู่ฉีตกลงที่จะร่วมมือกับพวกเรา ฉันคงมีโอกาสมากมายที่จะฆ่าเขา แต่ในตอนนี้แล้วนี่มัน…’ หวันยี่หลิงคิด
หวันยี่หลิงค่อนข้างที่จะเป็นผู้หญิงที่ชาญฉลาด เพียงเวลาไม่นานที่ฮานหยวนและลูกน้องของเขามาถึงพื้นที่ปลอดภัยเจียงหนิง เธอก็ได้สร้างโอกาสที่จะทําให้ฮานหยวนสนใจได้ในทันที เธออาจจะเป็นผู้หญิงไม่ได้เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถ และไม่มีภูมิหลังอะไร แต่เธอก็เชื่อว่าถ้าเธอหาคนคุ้มหลังได้ดีๆแล้วละก็เธอคงจะได้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการแทนที่เธอจะใช้ความสวย งามของเธอแบบกับผู้หญิงคนอื่น เธอก็เลือกทางที่ฉลาดกว่า แบ็คของเธอก็คือฮานหยวนแล้วในตอนนี้ ที่ซึ่งไม่ชื่นชอบเจียงลู่ฉีแล้ว นั่นหมายความว่ามันไม่มีโอกาสที่เขาจะเชิญเขามาเข้าร่วมกับเขาอีกแล้ว
ในเวลาเดียวกัน หวันยี่หลิงก็เริ่มที่จะอ่านรายงานในการต่อสู้ ซึ่งมันรวมทั้งความสามารถของทีมนี่หยิง หลังจากที่อ่านมัน เธอก็มีความสุขมากกับแผนใหม่ที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างในหัวของเธอ
‘ตราบเท่าที่มันประสบความสําเร็จ ไม่เพียงแต่มันจะทําให้ฉันได้ทําร้ายเจียงลู่ฉี แต่มันยังทําให้ฉันมีตัวตนมากขึ้นอีกด้วย หลังจากนั้น ฉันก็ยังสามารถกลับไปยังภูมิภาคฮั่วเซียกับฮานหยวนได้ ฉันได้ยินมาว่าภูมิภาคฮานหยวนเป็นสถานที่ที่คนมีพลังอํานาจต่างรวมตัวกัน หลังจากวันโลกาวินาศ ในสถานที่แห่งนั้น ฉันจะสามารถเพลิดเพลินไปกับชีวิตของฉันได้…’ หวันยี่หลิงคิด
ถึงแม้ว่าเธอจะตื่นเต้น เธอก็ยังคงใจเย็นอยู่ตลอดเวลา สําหรับเธอแล้ว การล้างแค้นให้หวันหลานมันไม่ได้สําคัญเลย อนาคตของเธอต่างหากคือสิ่งที่สําคัญที่สุด แต่เป้าหมายมันก็อยู่ในมือของเจียงลู่นี่
หวันยี่หลิงเยาะเย้ย ‘เจียงลู่ฉี ฉันอาจจะสุภาพกับเธอมากเกินไป แต่โอเคละ ตั้งแต่ที่พวกเราเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ฉันจะไม่ลังเลที่จะทําลายนายทิ้งเลย นายทําตัวของนายเองนะ!’