Gate of God – ตอนที่ 1043 หาทางหนี

ตอนที่ 1043 หาทางหนี

ตอนที่ 1043 หาทางหนี

  ตัวตนเทพเจ้ากลับถูกฆ่าตายด้วยกิ่งไม้ที่โผล่ออกมาจากลมหายใจแห่งความตาย?

  ครืน!เสียงฟ้าร้องดังขึ้นอีกครั้ง

  ลมหายใจแห่งความตายค่อยๆกลืนกินผลึกน้ำแข็งจากร่างของหลินยู่จนในที่สุดมันได้หายไป

  ไม่นานหมอกควันสีดำก็กระจายออกไปเผยให้เห็นต้นไม้สีแดงขนาดใหญ่มีผลไม้หลากสีอยู่บนนั้น ทั้งสีฟ้า เทา แดง

  นอกจากนี้ยังมีหัวเล็กๆอยู่บนต้นไม้มันถูกปกคลุมด้วยหมอกสีเทาจนไม่สามารถมองเห็นได้ชัดเจน

    โจวฉีกลายเป็นต้นไม้?!  

    งั้นที่หลินยู่ถูกฆ่าเป็นเรื่องบังเอิญงั้นหรือ?  

    ไม่ท่านโจวฉีไม่ได้จะฆ่าหลินยู่ แต่เพราะฟางเจิ้งจือใช้เต๋าสวรรค์เพื่อเปลี่ยนตำแหน่งกับหลินยู่!  

  แม้กองทัพอสูรและปีศาจจะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่พวกเขาสามารรับรู้ตัวตนของโจวฉีได้จากลมหายใจแห่งความตาย

    หนานกงมู่แผนของเจ้าคือซ่อนอยู่ในเงามืดและปลอมเป็นโจวฉีตลอดไปงั้นรึ??   ฟางเจิ้งจือพูดเมื่อเห็นว่าหนานกงมู่ยังคงปลอมตัวเป็นโจวฉีอยู่

    อะไรนะ?!  

    หนานกงมู่?หนานกงมู่ไหน?  

    หนานกงมู่จากตระกูล…หนานกงงั้นหรือ?  

  ศิษย์ฝ่ายมนุษย์ต่างแปลกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่ฟางเจิงจือพูด

  ฟางเจิ้งจือบอกว่าต้นไม้ยักษ์คือหนานกงมู่

  เกิดอะไรขึ้น?

  หนานกงมู่เข้ามาในปราสาทหินสีดำนี้ตอนไหนแล้วทำไมเขาถึงกลายเป็นต้นไม้?   หรือเขาแอบลอบเข้ามาและฆ่าโจวฉีโดยไม่ให้ใครรู้?

  ไม่มีบางอย่างผิดปกติ!

  ถ้าหนานกงมู่ฆ่าโจวฉีจริงๆฟางเจิ้งจือและเหยียนซิวน่าจะดูมีความสุข แต่สภาพของพวกเขาในตอนนี้กลับดูสิ้นหวัง?

    หรือว่าหนานกงมู่จะ…  ใบหน้าของโม่ฉานฉือซีดขาว ความคิดไม่ดีเกิดขึ้นในใจของเขา

    ซิวเอ๋อร์เกิดอะไรขึ้น?  เหยียนเฉียนหลี่เองก็มีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเช่นกัน

    ท่านปู่โจวฉีคือหนานกงมู่   เหยียนซิวอธิบาย

    อะไรนะ?!  เหยียนเฉียนหลี่ตกตะลึง

    โจวฉีคือหนานกงมู่!งั้นนี่ก็คือต้นไม้เทพเจ้า?! ต้นไม้ของตระกูลหนานกง   ดวงตาของมู่ฉิงเฟิงเบิกกว้าง เขามองไปที่ต้นไม้ยักษ์สีแดงหลังจากได้ยินสิ่งที่เหยียนซิวพูด

  แม้สีของต้นไม้จะเปลี่ยนจากแดงเป็นขาวแต่ดอกของมันยังคงเป็นสีแดงไม่เปลี่ยนแปลง

  ยิ่งไปกว่านั้นหนานกงมู่ได้หลอมรวมเข้ากับต้นไม้เทพเจ้า

    ทำไมเขาถึงหลอมรวมเข้ากับต้นไม้เทพเจ้าได้?  มู่ฉิงเฟิงไม่เข้าใจ มันเป็นต้นไม้เทพเจ้าที่ปลูกโดยจักรพรรดิหยานและมันยังเชื่อมโยงกับการเปิดประตูเทพเจ้า

    วิชาสังเวยเลือดเขาใช้วิชาสังเวยเลือดเพื่อผสานเข้ากับต้นไม้เทพเจ้า   ฟางเจิ้งจือกล่าวออกมาด้วยความจงใจเพราะเขารู้ดีว่ามู่ฉิงเฟิงนั้นเข้าใจประวัติศาสตร์ของโลกนี้ดีกว่าเขา

    ใช้วิชาสังเวยเลือดเพื่อผสานเข้ากับต้นไม้เทพเจ้า?!  มู่ฉิงเฟิงตกตะลึงอย่างมากเมื่อได้ยิน

  ด้านกองทัพอสูรและปีศาจพวกเขาพยายามหลีกเลี่ยงไม่เข้าใกล้ต้นไม้เทพเจ้ามากเกินไปเพราะได้ยินการสนทนาที่เกิดขึ้นระหว่างมู่ฉิงเฟิงและฟางเจิ้งจือ  ยิ่งไปกว่านั้น…

  พวกเขาเห็นหลินยู่ถูกต้นไม้สีแดงนั้นฆ่ากับตาตัวเอง

    หนานกงมู่คือท่านโจวฉี?  

    เขาเป็นมนุษย์ไม่ใช่หรือ?  

    พวกเรากำลังถูกหลอก?  

  พวกอสูรและปีศาจต่างโกรธเกรี้ยว

  ไม่ว่าหนานกงมู่จะแข็งแกร่งขนาดไหนหรือต่อให้เขาสามารถฆ่าฟางเจิ้งจือได้เขาก็ยังคงเป็นมนุษย์อยู่ดี ปีศาจและอสูรไม่มีทางยอมรับมนุษย์เป็นผู้นำ

    ฟางเจิ้งจือข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้ายังคงพยายามดิ้นรนก่อนตาย เจ้าวางกับดักทำให้ข้าพลาดฆ่าหลินยู่ เจ้าคิดว่าอสูรและปีศาจโง่หรือไง?   เสียงของหนานกงมู่ทำให้เกิดความปั่นป่วนในหมู่ทหารอสูรและปีศาจ จากนั้นมือหนึ่งค่อยปรากฎออกมาจากกิ่งก้านของต้นไม้เทพเจ้า

  มันเป็นฉากที่น่าสะพรึงกลัว  อย่างไรก็ตามมันทำให้กองทัพอสูรและปีศาจเริ่มพูดคุยกันอีกครั้ง

    ใช่แล้วฟางเจิ้งจือใช้เต๋าสวรรค์เพื่อฆ่าหลินยู่!  

    มันเป็นเรื่องบังเอิญที่ท่านโจวฉีฆ่าท่านหลินยู่!  

    ฟางเจิ้งจือเป็นเด็กไร้ยางอายมาตลอดเขาพยายามล่อลวงพวกเรา!  

  กองทัพปีศาจและอสูรไม่เชื่อฟางเจิ้งจืออย่างแน่นอนพวกเขารู้นิสัยของฟางเจิ้งจือดี

    อย่างไรก็ตามต้นไม้นี้ดูเหมือนต้นไม้ของตระกูลหนานกงจริงๆจะอธิบายเรื่องนี้ยังไง?   หนึ่งในอสูรที่เคยร่วมสงครามบนภูเขาสวรรค์ถามขึ้นมา

    ต้นไม้นั้นเป็นสีขาวแต่ต้นนี้เป็นสีแดงมันไม่เหมือนกันใช่ไหม?  อสูรอีกคนรีบแก้ต่าง

    นี่คือต้นไม้เทพเจ้าของตระกูลหนานกงจริงๆอย่างไรก็ตามตอนนี้มันเป็นของข้า หนานกงเทียนและหนานกงเฮาถูกข้าฆ่าตายไปแล้ว!   แทนที่จะปฏิเสธหนานกงมู่กลับไขขอสงสัยของเหล่าอสูรปีศาจ

    ข้าเข้าใจแล้ว!  มู่ซิงและตัวตนระดับเทพเจ้าอีกสองคนพยักหน้าทันที

  พวกเขารู้พลังของโจวฉีดีเขาสามารถดูดกลืนพลังของคนอื่นมาเป็นของตัวเองได้

    มันต้องเป็นแบบนั้นแน่นอนหนานกงมู่ตายไปตั้งแต่ที่ภูเขาสวรรค์ ส่วนหนานกงเฮาก็บาดเจ็บหนัก ท่านโจวฉีต้องไปฆ่าพวกมันและชิงพลังมาแน่นอน!  

    ใช่แล้วด้วยความสามารถของโจวฉีมันเป็นเพียงเรื่องง่ายๆ!  

  ในที่สุดอสูรและปีศาจทั้งหมดก็เชื่อเรื่องที่โจวฉีพูด

  สำหรับตัวตนระดับเทพเจ้าพวกเขามีเหตุผลง่ายๆที่ต้องเชื่อ…

  พลังของพวกเขาไม่สามารถเอาชนะโจวฉีได้

  การคัดค้านจึงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก    สรุปเจ้าจะไม่ยอมรับ?  ฟางเจิ้งจือถามอีกครั้ง เขาอยากจะทุบตีหนานกงมู่จนเขาพูดความจริงออกมา แต่ความจริงก็คือ…เขาไม่สามารถทำได้!

  เขาไม่มีดาบไร้ร่องรอยอยู่แม้แต่กิ่งไม้เขายังฝ่าไปไม่ได้ ดังนั้นเขาจะทำร้ายหนานกงมู่ได้เช่นไร?

  เขารู้สึกไร้หนทาง

  อย่างไรก็ตามโชคดีที่เป้าหมายจริงๆของเขาคือแจ้งข้อมูลให้มู่ฉิงเฟิงและโม่ฉานฉือรู้

    ฟางเจิ้งจือเจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าโจวฉีคือหนานกงมู่จริงๆ  เสียงของโม่ฉานฉือดังขึ้น

    …  ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออก  ผู้นำโม่ อย่าคิดว่าข้าไม่กล้าทำร้ายท่านเพียงเพราะความอาวุโส ท่านถามแบบนั้นได้ยังไง?  

    ทำร้ายข้า?แน่นอนแต่เจ้าต้งเอาชนะหนานกงมู่ให้ได้ก่อน!  แทนที่จะโมโหคำพูดของโม่ฉานฉือกลับเต็มไปด้วยความจริง

    ผู้นำมู่มีวิธีไหนบ้างที่จะสามารถทำลายต้นไม้นี้ได้  ฟางเจิ้งจือไม่สนใจคำพูดของโม่ฉานฉือและหันมองมู่ฉิงเฟิงที่กำลังคิด

    ข้าไม่เข้าใจเรื่องของต้นไม้เทพเจ้ามากนัก…  มู่ฉิงเฟิงส่ายหัวและถอนหายใจ  ความจริงแล้ว ข้าได้ยินข้อมูลส่วนใหญ่มาจากคนๆหนึ่ง แต่…  

    แต่อะไร?  

    นางตายไปแล้ว…  

    ตายรึ?  

    ใช่นางคืออดีตผู้นำของหอคอยหลิงหยุน!  

    หอคอยหลิงหยุน?!  

    ใช่ข้าเชื่อว่านางจารึกข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับต้นไม้เทพเจ้าไว้ที่หอคอยหลิงหยุน แต่ร้ายที่ข้าไม่มีโอกาสได้เห็นมัน  

    …  ฟางเจิ้งจือพูดไม่ออก

  เขาเสียเวลาไปกับการสนทนาที่ไม่ได้ประโยชน์เว้นแต่เขาจะบอกให้หนานกงมู่รอให้เขาไปอ่านข้อมูลที่หอคอยหลิงหยุนก่อน    ไม่จำเป็นมันก็แค่ต้นไม้พวกเรามีกันสี่คนยังไงก็มีโอกาสชนะ!  เหยียนเฉียนหลี่มีความมั่นใจอย่างเห็นได้ชัด

    ใช่แล้วพวกเรามาโจมตีพร้อมกันเถอะ!  ปิงหยางรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

    โจมตี?อะไร…  ก่อนที่ฟางเจิ้งจือจะพูดจบประโยค เหยียนเฉียนหลี่และปิงหยางก็พุ่งออกไปแล้ว

  เห็นได้ชัดว่าพวกเขามั่นใจมาก

  อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมนัก

  ครืน!

  ครืน!

  กิ่งไม้สองสามเส้นเริ่มเคลื่อนไหวเมื่อปิงหยางและเหยียนเฉียนหลี่พุ่งออกไป

    ผู้นำมู่มีวิธีออกไปจากที่นี่ไหม?  เหงื่อเริ่มไหลบนหน้าผากของฟางเจิ้งจือ เขาตะโกนไปด้านหลังในขณะที่เคลื่อนย้ายตำแหน่งของปิงหยางและเหยียนเฉียนหลี่ด้วยเต๋าสวรรค์

    อะไรนะ?  มู่ฉิงเฟิงไม่สามารถตอบสนองได้ทัน

    ข้าถามว่ามีวิธีออกไปจากที่นี่ไหม?!  

    วิธี?ข้า… ข้าไม่แน่ใจ  มู่ฉิงเฟิงไม่แน่ใจจริงๆ ความจริงเขาได้ตรวจสอบมาก่อนหน้านี้แล้วแต่ก็ไม่มีทางออกอื่นอีก

  อย่างไรก็ตามหกคนที่หนีไปก่อนหน้านี้ยังไม่กลับมา

  หากไม่มีทางออกพวกเขาก็ควรจะกลับมาที่นี่มันค่อนข้างแปลกที่พวกเขายังไม่กลับมาหลังจากเวลาผ่านไปพอสมควร

    ไม่แน่ใจ?!  ฟางเจิ้งจืออยากจะสาปแช่ง

    ใช่ด้านหลังเราเป็นหน้าผา แต่มันคือหน้าผาที่เชื่อมกับท้องฟ้า!  มู่ฉิงเฟิงอธิบายสิ่งที่ได้เห็นก่อนหน้านี้

    หน้าผา?  ในขณะที่เขาจะถามต่อก็ตระหนักได้ว่าไม่สามารถทำได้เพราะเหยียนเฉียนหลี่และปิงหยางเกินขีดจำกัดแล้ว  แม้ว่าฟางเจิ้งจือจะใช้เต๋าสวรรค์เปลี่ยนตำแหน่งของเหยียนเฉียนหลี่และปิงหยางเพื่อหลบการโจมตีของกิ่งไม้แต่มันมีจำนวนมากเกินไป

  ไม่

  หากยังปล่อยให้การต่อสู้ดำเนินต่อไปพวกเขาจะต้องตายอย่างแน่นอน

  ฟางเจิ้งจือเชื่อว่าหนานกงมู่ไม่มีเจตนาจะฆ่าเหยียนเฉียนหลี่และปิงหยางในทันทีดูเหมือนเขากำลังสร้างกรงขึ้น

  กรงเพื่อกักขังเหยียนเฉียนหลี่และปิงหยาง

  นั่นก็เพื่อ..

  บังคับให้ฟางเจิ้งจือเข้ามาช่วยและในที่สุดก็ต้องติดอยู่ในกรงเช่นกัน

  ควรทำยังไง?

  หากพวกเขาโจมตีเขาจะไม่มีทางชนะได้

  หากพวกเขาถอยหนีก็มีเพียงหน้าผาที่รอเขาอยู่!   ยิ่งกว่านั้นยังมีกลุ่มพันธมิตรอยู่ด้านหลังอีกมากมาย พวกเขาไม่มีทางหนีพ้นแน่

  ฟางเจิ้งจือมองปิงหยางที่อยู่ด้านหน้าและวู่จวี้เอ๋อที่อยู่ด้านหลังก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่หยุนชิงวู…

  ……………………………………..

 

Gate of God

Gate of God

เรื่องราวของฟางเจิ้งจือผู้ได้มาเกิดใหม่ในโลกที่ผู้คนสามารถใช้พลังจากธรรมชาติที่เรียกว่า’เต๋า’ได้ แต่ฟางเจิ้งจือผู้ที่เกิดมาในครอบครัวชาวบ้านธรรมดาและต้องการใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกลับต้องพัวพันกับเหตุการณ์ต่างๆทั้งการทดสอบพลังและความรู้ของอาณาจักร ความขัดแย้งทางการเมืองรวมถึงเผ่าปีศาจที่คอยชักใยแผนการอยู่เบื้องหลัง

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท