เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่50 ยอดฝีมือที่โดนปิดผนึก 3 จบ

ตอนที่50 ยอดฝีมือที่โดนปิดผนึก 3 จบ

ภาพตรงหน้าที่เว่ยเว่ย……ได้เห็นตอนนี้นั้นสร้างความตกตะลึงให้กับเว่ยเว่ยเป็นอย่างมากเพราะยอดฝีมือต่างเสียท่าห้กับไป๋หลงทั้งหมดบางคน ไม่อาจที่จะขยับตัวได้ด้วยซ้ำไป ส่วนที่เหลือนั้นบาดแผลก็ไม่ถือว่าบาดเจ็บสาหัสเพียงแค่มีลอยถลอกตามตัวเท่านั้น

ชาวบ้านที่อยู่แถวๆนั้นก็ต่างพูดคุยกันไปต่างนาๆเกี่ยวกับการต่อสู้ ไม่สิ..เรียกว่าการถูกโจมตีฝ่ายเดียวมากกว่า…

” นี้เจ้าเห็นรึเปล่าอยู่ๆพวกนั้นก็โดนซัดปลิวไปคนละทาง นั้นมันฝีมือของมนุษย์แน่เหรอ อีกอย่าง…ดูเด็กหนุ่มนั้นอายุน่าจะไม่เกิน20!! ปีด้วยซ้ำ… ”

ชาวบ้านที่อยู่บริเวณนั้นเอ่ยขึ้น

” ข้าจะไปรู้เรอะ!!…ข้าก็ดูอยู่กับเจ้า อาจจะเป็นคุณหนู คุณท่านจากตระกูลใหญ่สักตระกูลนั้นแหละ… สมน้ำหน้า เจ้าลูกอัครเสนาบดี นั้น หึ!! อวดเบ่งไปทั่วคราวนี้เจอ ของแข็งเข้าให้ คราวนี้ ถึงคราว จบสิ้นแน่ ”

” เจ้าอย่าพูดเสียงดังไป…เดี๋ยวพวกมันก็ได้ยินเอาหรอก ”

” หึ!! ข้าจะรอดูเรื่องสนุกต่อจากนี้ข้าอยากจะรู้นักว่า เด็กหนุ่มผู้นั้นจะทำเช่นใดกับเจ้าตัวบัดซบนั้น.. ”

เสียงชาวบ้านระแวกนั้นต่างพูดกันไปต่างๆนาๆ ว่าลูกจากจวนอัครเสนาบดีนั้น กำลังหาเรื่องผิดคน…

” จะ..เจ้ามันสัตว์ประหลาด!! ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูท่าน อัครเสนาบดีเจ้าไม่ได้ตายดีแน่ ”

เสียงของยอดฝีมือคนหนึ่งที่ติดตามนายน้อยของพวกมันมาหวังจะได้ผลกำไรแต่ใครจะคิดเล่าว่าจะต้องมาเจอสัตว์ประหลาดแบบนี้

” ฮ่าๆๆ..แล้วใครบอกว่าพวกเจ้าทุกคนจะรอดกลับไป ถ้าพวกเจ้าและ..นายน้อยของพวกเจ้าตายลงที่นี้ ใครจะเป็น คนคาบข่าวไปบอก..หรือจะเป็นชาวบ้านพวกนี้กัน.. ”

ไป๋หลงกล่าวพลางหันไปมองพวกชาวบ้านรอบก่อนจะประสานมือแล้วโค้งตัวลงเล็กน้อยก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงนอบน้อมและเป็นมิตร

” ข้าต้องขอประทานโทษพวกท่านด้วยที่สร้างความเดือดร้อนให้หวังว่าพวกท่านคงไม่ถือสาหาความ… ”

ชาวบ้านที่อยู่รอบๆได้ยินเช่นนั้นก็รีบกล่าวตอบออมาทันที

” ไม่เลยท่านจอมยุทธ์หนุ่ม…เป็นพระคุณเสียมากกว่าที่ท่านช่วยจัดการกับคนพวกนี้ให้ ”

” ใช่แล้ว…โปรดท่านวางใจได้ในที่นี้ไม่ใครเอาเรื่องนี้ไปบอกแก่จวน อัครเสนาบดีแน่นอน ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็หันมายกยิ้มให้กับองค์รักษ์ที่นอนหมดสภาพอยู่กับพื้น..

” อ้าว..ท่านองค์รักษ์ผู้เก่งกาจและปราชเปรื่อง…คงไม่มีใครได้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นกับ

พวก..เจ้า ทีนี้ก็ลาขาด ”

ฉั๊ว!!

ไป๋หลงแทงกระบี่เข้าไปตรงหัวใจขององค์รักษ์คนนั้นก่อนจะสิ้นใจก็ยังลืมตาค้างเอาไว้แสดงออกถึงความเคียดแค้นที่มีต่อไป๋…

ภาพตรงหน้าไม่ได้ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัวแม้แต่น้อยกลับกันยังมีทีท่ายินดีปรีดาเสียมากกว่า ทีนี้ก็เหลือเพียงนายน้อยของพวกมันเท่านั้นที่นั่งสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว…

” วางใจได้ ข้าไม่จัดการเจ้าหรอก.. ”

เม่อเทียนที่ได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มออกมาทันที แต่แล้วมันก็ต้องแข็งค้างหลังจาก…

” ข้านะไม่..แต่อีกคนนะไม่ใช่ เชิญแม่นางเว่ยเว่ย จัดการตามสบาย!! ตามที่ตกลงกันไว้ ข้าขอตัวก่อน ”

ไป๋หลงไม่รอช้าใช้วิชาตัวเบาในการกระโดดขึ้นไปบนหลังคาแล้วหายลับตาไปในทันที ทิ้งให้ เว่ยเว่ย รู้สึกสงสัย แปลกใจ โดยเฉพาะความยำเกรง ก่อนจะละความสนใจมายังเม่อเทียนอีกครั้ง

” เอาละ เม่อเทียนข้าจะจัดการเจ้าอย่างไรดี อ้ะ พี่ๆน้องชาวบ้านทั้งหลายจะให้ข้า เว่ยเว่ยผู้นี้ทำอย่างไรกับเจ้าหมูตัวนี้ดี ” เว่ยเว่ยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เยาะเย้ย ทำให้ เม่อเทียนโกรธแค้นแต่ตอนนี้มันทำได้เพียงก้มหน้าลงเท่านั้น

” ฆ่ามัน!! ”

” ไม่ต้องตัดแขนตัดขามันออกให้มันสาสมกับเรื่องที่มันเคยทำไว้ ”

” ใช่แล้ว ”

เสียงชาวบ้านต่างตะโกนออกมาด้วยสะใจบ้างก็หัวเราะออกมาทั้งน้ำตา..

” เอาละเม่อเทียน ข้าจะขอตัดมือข้างที่เจ้าใช้ลวนลามพนักงานร้านข้าก่อนก็แล้วกัน ”

ม่ายยยยยยยยยยย!!

เสียงเม่อเทียนกู่ร้องออกมาด้ววความเคียดแค้นก่อนจะสิ้นลมหายใจลง…

ทางด้านไป๋หลง…

” เฮ้อ..เอาละก่อนอื่นต้องหาทางไปยังหุบเขาที่มียอดฝีมือผนึกไว้เสียก่อน..แต่ข้าดันไม่รู้เส้นทางเนี้ยสิ.. นี้ก็ใกล้จะตกเย็นแล้ว”

” นี้ๆพ่อหนุ่มสนใจมาเป็นผู้คุ้มกันข้าหน่อยไหมคือข้าต้องไปเก็บสมุนไพร ที่หุบเขาแห่งนั้น แต่ไม่มีใคร รับงานนี้สักคนเนี้ยสิ.. ”

ชายชราท่าทางพิลึกๆ กล่าวออกมาพลางชี้ไปยังหุบเขาที่ไป๋หลงกำลังจะเดินทางไปพอดี…

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้น ยิ้มแก้มปริออกมาทันที

” ได้เลยท่านลุง…ข้าไป๋หลงก็กำลังไปที่แห่งนั้นพอดีว่าแต่..ทำไมถึงไม่มีใครไปกับท่านลุงเลยละ ”

” เอ่อ..คือหุบเขาแห่งนั้นมีสัตว์อสูรต่างๆที่แข็งแกร่ง กับ พวกปีศาจอยู่เยอะทำให้ไม่ค่อยมีคนเข้าไปใกล้นัก..แต่ข้าต้องการสมุนไพร ทิวาเก้าราตรี!! มาสกัดสมุนไพรชนิดหนึ่ง… ส่วนเรื่องค่าตอบแทน… ”

ชายชรากล่าวออกมาด้วยความกังวลใจเล็กน้อย..

” ท่านลุงโปรดอย่าคิดให้มากความข้าต้องการไปหุบเขาแห่งนั้นเช่นเดียวกันกับท่าน ค่าตอบแทนขอเป็นการที่ท่านนำทางข้าไปด้วยก็พอแล้ว ”

ชายชราได้ยินเช่นนั้นครุ่นคิดเล็กน้อย..

” เอาตามที่พ่อหนุ่มว่าก็ได้ ออกเดินทางกันเลยเถอะ..ชักช้าจะยิ่งมืดค่ำแล้วมันจะอันตราย ”

” เอาตามที่ท่านลุงบอกกล่าวเรารีบเดินทางกันเถอะ ”

กลับมายังบัจจุบัน….

” ฮ่าๆๆในที่สุดข้าก็พบสมันไพรอย่างสุดท้าย ทิวาเก้าราตรี!! ต้องรีบกลับไปปรุงโอสถนั่นสักที พ่อหนุ่มขอบใจเจ้ามาก..ข้าต้องขอตัวก่อนรับป้ายนี้ไว้ ”

ชายชรากล่าวพลางโยนป้ายหยกที่มีลักษณธเป็นหัวมังกรที่ดูสวยงามและล้ำค่าเป็นอย่างมาก..

” เก็บเอาไว้ถ้าเจ้ามีเรื่องเดือดร้อนอะไร ให้มาข้าที่ ตำหนักฟ้าประทาน!! เมืองหลวงของทวีปมังกร ข้าขอตัว ”

ฟึบ!!

ไป๋หลงได้แต่นิ่งค้าง…

” นี้ท่านจะไม่ให้ข้าพูดอะไรหน่อยหรือ..แล้วอีกอย่างท่านมันยอดฝีมือชัดๆ!! ทำไมท่านไม่มาคนเดียวกัน ”

ไป๋หลงบ่นออกมาก่อนจะเก็บป้ายหยกเข้าแหวนมิติไป ก่อนจะเรียกหลิงหลุนผ่านกระแสจิต

” หลิงหลุนที่นี้ใช่หรือไม่ ที่เจ้าจับกระแสพลังแปลกๆได้ ”

” ใช่แล้วนายท่าน ข้างล่างหุบเหวนี้นี่แหละ ”

” ข้างล่างนี้มันลึกมากเลยนะข้าจะลงไปได้ยัง…อ้ะ..ข้ามีปีกนิ ข้าลืมไปได้ยังไง..”

ไป๋หลงกล่าวจบก็กระโดดลงมาตรงดิ่งลงสู่ข้างล่างแล้วกางปีกสีขาวอันบริสุทธิ์1คู่ออกมาทันที..

” นี้ก็ 1 เค่อ (15นาที) ทำไมยังไม่ถึงก้นหุบเหวนี้กันมันจะลึกเกินไปแล้ว สงสัยต่อให้ระดับ จักรพรรดิ์ หรือ จักรพรรดิ์ที่แท้จริงยังไงก๋ไม่รอดถ้าไม่มีวิชาระดับสูงในการลอยตัว ”

ผ่านไปสักพักไป๋หลงเริ่มเห็นแสงบางอย่างก้นหุบเขา..

” แสงจากข้างล่างเนี้ยนะ..แสงอะไรกัน ”

นี้มัน!!

ไป๋หลงล่อนลงถึงพื้นก่อนจะสลายปีกทันที…แล้วใช้สายตาตรวจสอบทุกอย่าง พื้นที่ไป๋หลงเหยียบอยู่นั้นคล้ายเป็นผลึกสีฟ้าใส ทอดยาวไปเข้าไปในถ้ำ…

” น่าแปลกผลึกสีฟ้าใสพวกนี้มันคืออะไรกัน หลิงหลุนเจ้ารู้หรือไม่ ”

” เรียนนายน้อย ท่าข้าจำไม่ผิด มันคือ ผลึกหลงทาง!! เป็นลึกที่มีอยู่ในแดนสวรรค์เท่านั้นไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในโลกมนุษย์ และอีกอย่างผลึกหลงทาง มีไว้สำหรับสะกดข่มพลังและผนึก อะไรก็ตามที่ อาจจะเป็นภัยต่อสวรรค์ จะต้องถูกผนึกด้วยผลึกหลงทาง ”

” หืม? แสดงว่าตำนานเป็นจริง เอาละจะออกหัวหรือก้อยกันนะ ”

ไป๋หลงเดินตรงไปเรื่อยๆจนมาถึงปากถ้ำแห่งหนึ่งที่มีขนาดใหญ่อาจจะเทียบเท่ากับสำหนักหมื่นกระบี่หรือไม่ก็ใหญ่กว่า….ไป๋หลงเดินเข้าไปเรื่อยพลางปล่อยสัมผัสตรวจสอบทุกตารางนิ้ว..เพื่อให้แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่เป็นภัยต่อตน..

จนกระทั่งไป๋หลงเดินมาหยุดตรงประตูสีผนึกฟ้าใสขนาดใหญ่แผ่พลังอ่อนๆออกมา

” นายท่านข้างในนี้แหละ…พลังที่ตรวจสอบนายน้อยออกมาจากหลังประตูบานนี้ ”

” เข้าใจแล้ว ”

ไป๋หลงแตะประตูผลึกสีฟ้าใสเบาๆ ประตูก็เปิดออกทันทีราวกับไป๋หลงเป็นคนสร้างประตูนี้ขึ้น..

ไป๋หลงเดินเข้าไปอย่างช้าๆเมื่อตรวจสอบรอบๆถึงกับสั่นสะท้านกับภาพตรงหน้า แขนขาอ่อนแรงราวกับไร้พลัง.. ไป๋หลงยังไม่ทันได้ตั้งสติ เสียงหัวเราะที่แฝงไว้ด้วยพลังมหาศาลก็ดังออกมา

” ฮ่าๆๆๆๆในที่สุด..ในที่สุดเจ้าก็มาบุตรแห่งจอมราชัน!! ”

ไป๋หลงถึงกับสั่นสะท้านและทรุดเข่าลงด้วยระดับพลังชายชราตรงหน้าแผ่ออกมาที่ไป๋หลงทำให้ไป๋หลงถึงกับสถบออกมา..

” บัดซบ!!…นี้มันระดับ เทพสงคราม!! ”

จบ.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท