เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่36 วิกฤติ 1

ตอนที่36 วิกฤติ 1

หลังจากงานไป๋หลงและอู้เฉียงออกมาจากประตูสีทองอร่ามทั้งสองก็มีสีหน้าสงสัย ยากที่จะอธิบาย

” คืนนี้ข้าว่าเราควรจะพักผ่อนได้แล้วพรุ้งนี้เราจะมุ่งหน้ากลับสำนักหมื่นกระบี่ทันที ” ไป๋หลงกล่าวบอกแก่อู้เฉียงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม

” ตามที่เจ้าว่าข้าขอตัวกลับที่พักก่อน ” อู้เฉียงกล่าวจบก็เดินหายไปในทันที เมื่อไป๋หลงเห็นอู้เฉียงเดินหายไป ไป๋หลงก็เปลี่ยนน้ำเสียง เป็นเย็นชาทันที

” ออกมาได้แล้วข้ารู้เจ้าแอบมองข้าอยู่ เจ้าเป็นใคร? หรือจะให้ข้าลากหัวเจ้าออกมา ”

ผ่านไปไม่ถึงสามอึดใจก็มีเสียงตอบกลับออกมา ซึ่งเป็นเสียงที่ไป๋หลงเคยได้ยินขณะอยู่ที่โรงประมูล

” เด็กน้อยนี้เจ้าลืมพี่สาวคนนี้ไปแล้วหรือ แล้วคำพูดพวกนั้นมันอะไรกันเจ้า พูดออกมาได้เช่นไร โหดร้ายที่สุด ” เสียงนี้ไม่ใช่เสียงใครที่ไหนแต่เป็นพิธีกรสาวที่เกือบทำให้ตัวเขาเสียท่าให้กับเอลฟ์นางนั้น

” ท่านยังมีหน้ามาพูด ข้าเกือบจะไม่รอด มันเกิดอะไรขึ้นแล้ว แล้วท่านมาแอบฟังข้าทำไม? ” ไป๋หลงกล่าวถามแก่พิธีกรสาว เมื่อพิธีกรสาวได้ยินเช่นนั้นก็ตอบกลับออกมาด้วยท่าทางที่ไม่ได้สนใจกับคำถามของไป๋หลง

” เฮ้อ..เด็กน้อยข้าจะแอบฟังเจ้าทำไมส่วนเรื่อง สหายของข้านั้น เจ้าก็หน้าจะรู้อยู่แล้ว ว่านางนั้นร้ายกาจเพียงใด ข้าจะบอกให้ก็แล้วกัน ปิงปิง นั้น เมื่อตกค่ำอารมณ์ของนางจะแปรเปลี่ยนไปในทันที เป็นเพราะวิชาต้องห้ามที่นางเคยฝึก จึงทำให้นางมีสภาพเช่นนั้น ข้าไม่อาจบอกได้ว่าเรื่องเป็นมาอย่างไร เด็กน้อยเจ้าจงถาม ปิงปิง ด้วยตัวเองเถิดเพราะตอนนี้นางเป็นข้องเจ้าแล้ว..ข้าขอตัว”

พิธีกรสาวกล่าวจบร่างกลายเป็นเงาหายไปในความมืดยามราตรีทันที โดยไป๋หลงไม่ทัน ได้กล่าวอันใด ไป๋หลงเมื่อเห็นดังนั้น ก็คิ้วขมวดเข้าหากันทันทีก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยความไม่ตั้งใจ

ยอดฝีมือ?

สามคำนี้ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยความฉงนใจ ทีแรกไป๋หลงลองแอบสำรวจระดับพลังของพิธีกรสาว แต่นางเพียงแค่อยู่แค่ ระดับนักรบหลอมรวม ขั้นที่3 เท่านั้นมีสิทธิเป็นไปได้ว่า นางลดระดับพลังของตัวเองลงเพื่อ กลบเกลื่อนพลังที่แท้จริงไว้ แต่เพื่ออะไรกัน ไป๋หลง ไม่อาจทราบได้ว่า จุดประสงค์ของ พิธีกรสาวนั้นคืออะไรกันแน่ ได้แต่ถอนหายใจออกมาก่อนจะมุ่งหน้ากลับที่พักทันที

กลับมาทางด้านองค์จักรพรรดิ

” ท่านองค์จักรพรรดิ ข้าอยากเห็นตัวคนที่มีความสามารถขนาดที่สามารถทำสัณญากับสัตว์เทพอสูรศักดิ๋สิทธิ์ได้ ถ้าให้ข้าเดาคงจะเป็นผู้ที่มีความสามารถและวรยุทธ์ที่เหนือชั้นเป็นแน่ ” เสียงของขุนนางคนหนึ่งเอ่ยขึ้นใบหน้าปั้นยิ้มแต่ภายในนั้นกลับมีบางอย่างแอบแฝงอยู่

เมื่อองค์จักรพรรดิ์ได้ยินเช่นนั้นก็นึกถึงคำพูดที่ได้ให้ไว้แก่ไป๋หลง ว่าไม่ต้องการเปิดเผยตัว จนทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต ใครจะคาดคิดเล่าว่าผู้เยาว์ที่อายุน้อยเช่นนี้กลับครอบครองสัตว์เทพอสูรศักดิ๋สิทธิ์ ถ้าเรื่องนี้ ถูกเปิดเผยคงไม่พ้น การทำสงครามแย่งตัวไป๋หลงและอู้เฉียงเป็นแน่ องค์จักรพรรดิ์จึงกล่าวบอกแก่ขุนนางคนนั้นทันที

” ท่านเสนามู่ ข้าคงทำให้ท่านผิดหวังเสียแล้วเพราะคนผู้นั้นเขาไม่อยากเปิดเผยตัวตน ข้าจึงไม่สามารถ เชิญตัวเขามาได้ หวังว่าท่านคงเข้าใจ ” องค์จักรพรรดิ์ กล่าวจบก็เดินไปคุยกับแขกในงานคนอื่นๆทันที ทิ้งไว้ให้เสนามู่ทำสีหน้าปั้นยากอยู่ตรงนั้นด้วยความไม่พอใจ

” หึ..เอาเถอะข้าส่งคนไปสืบเอาเองก็ได้ ” เสน่ามู่กล่าวจบก็เดินหายไปในกลุ่มคนในงานเลี้ยงทันที

” ท่านพ่อข้าขอ ออกไปเดินเล่นข้างนอกได้หรือไม่ ข้างในมันอึดอัด ” เสียงของสตรีนางหนึ่งผมยาวสีดำสลวย กล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน

” ก็ได้อยู่หรอก..แต่เจ้าเอาผู้คุ้มกันไปด้วยพ่อเป็นห่วงเจ้า ” เสียงของชายวัยกลางคนกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่ออนโยน หญิงสาวนางนั้นเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็เบ้บากทันทีกล่าวออกมาด้วยความไม่พึงพอใจ

” ท่านพ่อนี้มันในราสสำนักไม่ใครหน้าไหนโง่พอก่อเรื่องขึ้นหรอก ข้าไม่ต้องการคนคุ้มกัน ข้าอยากไปเดินคนเดียวข้างนอก ข้าไปละ ” หญิงสาวกล่าวจบก็เดินหายไปทิ้งไว้ให้ผู้เป็นบิดาเป็นห่วงแต่มีหรือที่ผู้เป็นพ่อ จะยอมปล่อยบุตรสาวไปเพียงลำพัง

” ตามไปคุ้มครองนางด้วย ข้าขอฝากด้วยละ อย่าให้ ซานอี้รู้ตัว ”

” ขอรับนายท่าน ”

” ขอรับนายท่าน ”

” ขอรับนายท่าน ”

เสียงของผู้คุ้มกันตระกูลซานกล่าวตอบรับคำสั่งของซานหลัว ก่อนจะพุ่งตามไปทางที่คุณหนูเดินไป

” นี้เจ้า..ลูกเราก็โตแล้วใยเจ้ายังทำตัวเป็นเสือหวงลูกไปได้ ” ซานหลัวได้ยินเช่นนั้นก็หันกลับมาทางต้นเสียงทันที

” ซานซี ไม่ว่ายังไง ลูกของเรายังเป็นเด็กอยู่ในสายตาของข้า ข้าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมา ทำร้ายลูกของเราเป็นอันขาด ” ซานหลัวกล่าวออกมาด้วยความมุ่งมั่น ซานซีที่เป็นภรรยาของซานหลัว ถึงกับเหนื่อยหน่ายใจกับนิสัยขี้ห่วงลูก

ตอนนี้ซานอี้กำลังเดินตรงออกไปข้างนอกพลางนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอกลางวัน ก่อนจะพึมพำ ออกมา ไป๋หลงเจ้าเป็นใครกันแน่ ขณะที่ซานอี้คิดเรื่อนรอยก็ไปชนเข้ากับคนคนนึงเข้าจนซานอี้ล้มลงกับพื้น

ตึง!

” เจ้าเดินยังไงของเจ้าถึงไม่มองทางข้างหน้าว่ามีคนเดินอยู่ ” เสียงของซานอี้กล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

ข้าผิด?

เสียงนี้ดังขึ้นทำให้ซานอี้ที่ต่อว่าคนเบื้องหน้าเงียบลง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามอง

” ไป๋หลง? เป็นเจ้า ” เสียงของซานอี้ดังขึ้นด้วยความแปลกใจและตกตะลึงไม่แพ้กัน

” เป็นข้าแล้วมันทำไมแล้วเหตุใด เจ้าถึงอยู่ที่นี่ ” ไป๋หลงกล่าวถามแก่ซานอี้ เมื่อซานอี้ได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตามองไป๋หลงทันที ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยความไม่พอใจ

” เป็นข้ามากกว่าที่ต้องถามเจ้า!! เจ้าเป็นใครกันแน่ ”

ณ.ป่าอสูร

ตอนนี้ไป๋หยางนั่งอยู่นั่งคิ้วขมวดเข้าหากัน สีหน้าเคร่งเครียดเป็นอย่างมาก เพราะหยกสื่อสารที่ให้ไป๋หลงไปไม่สามารถติดต่อกับไป๋หลงได้

” เต้าจี้ นำกำลังคนของเราไปตามหาข่าวเกี่ยวกับไป๋หลงถ้ารู้แล้ว แจ้งข้าทันที ข้าจะพาไป๋หลงกลับมาด้วยตัวเอง ส่วนพวกท่านผู้อาวุโส ข้าขอให้พวกท่านสร้างค่ายกล สยบนภา ไว้ให้พร้อมก่อนไป๋หลงกลับมา

เมื่อพวกผู้อาวุโสได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าไม่สู้ดีก่อนจะตอบกลับไป๋หยางในทันที

” ขอรับนายท่าน ตามที่ท่านพึงปราถนา” ผู้อาวุโสกล่าวออกมาอย่างพร้อมเพรียงก่อนจะกลายเป็นเงาสีดำหายไปเมื่อผู้อาวุโสไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ไป๋หยางกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงไป๋หลงอย่างที่สุด

” ไป๋หลงเจ้าอยู่ที่ไหนกันนะ…ถ้าเจ้ายังไม่มาได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเป็นแน่ แต่ถึงอย่างนั้นข้าก็จะใช้ทุกย่างเพื่อปกป้องเจ้าถึงแม้ว่าตัวข้าจะต้องตายก็ตาม ”

จบ..

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท