เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่83 เปิดเผย?

ตอนที่83 เปิดเผย?

” อะไรกันเนี่ยยยยยยย!!!”

เหล่าลูกเรือต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เกิดขึ้น..นี้เป็นเรื่องยากจะยอมรับแต่สิ่งตรงหน้าย่อมพิสูจน์เรื่องราวที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน..สัตว์อสูรทะเลโบราณโดนต่อยคว่ำด้วยหมัดเปล่าๆ!!…

” ทะ..ท่านเจ้าสำนัก!! นี้มันเกิดขึ้นได้ยังไง ไม่มีทางเลยที่มนุษย์ธรรมดาจะทำเช่นนั้นได้ยิ่งเป็นผู้เยาว์ด้วยแล้วไม่น่าจะมีวรยุทธแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ !!” บรุษร่างกำยำเส้นผมสีเหลืองอ่อนกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ตกตะลึง…

เจ้าสำนักอัสนีได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าพร้อมกับกล่าวขึ้น…

” เหอจิงหัว…โลกใบนี้ยังมีอะไรอีกมากที่เรายังไม่รู้ร้อยปีแล้วที่ข้าเดินทางมาทั่วและได้ก่อตั้งสำนักอัสนีขึ้น…ข้าได้เห็นอะไรมามากแต่การที่ข้าพบเจอเรื่องแบบนี้อาจจะทำให้อายุข้าสั้นลงก็เป็นได้.. ” ชายชรากล่าวถอดถอน…

หวังฟางในตอนนี้แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเองด้วยซ้ำสัตว์อสูรทะเลโดนต่อยเข้าไปหมัดเดียวถึงกับขยับไม่ได้เช่นนั้น…จะน่ากลังเกินไปแล้ว

ไป๋หลงกระโดดย่างลงบนแผ่นน้ำแข็งอย่างแผ่วเบาก่อนจะจ้องมองไปยังร่างของอสรพิษโบราณอีกคราพลางตรวจสอบสัมผัสลมหายใจของอสูรทะเลโบราณตนนี้…

” ตายแล้วอย่างงั้นรึไม่น่าจะเป็นไปได้ข้าแค่ต่อยไปครั้งเดียวเองหนะอีกอย่างอสูรทะเลนี้เป็นถึงชนชั้นราชันย์ที่แท้จริง!!.. ” ไป๋หลงกล่าวกับพร้อมถอดทอนหายใจก่อนจะหันหลังให้กับอสูรทะเลตนนี้ ขณะนั้นเองก็มีการเคลื่อนด้านหลังของไป๋หลงมีหรือที่ไป๋หลงจะไม่สามารถรับรู้..

” เจ้าเล่ห์สมกับเป็นอสรพิษจริงๆ!!..” ไป๋หลงกล่าวพร้อมกับหายไปอีกคราด้วยกระบ่วนท่า ย่างก้าวอัสนีขั้นสมบูณ์!! อีกคราทิ้งไว้เพียงประกายสายฟ้าสีแดงโลหิต…

” รีบจัดการมันเร็วเข้าข้าจะถึงขีดจำกัดของข้าแล้ว..น้ำแข็งกำลังจะละลายแล้ว!! ” หวังฟางกล่าวเตือนแก่ไป๋ถึงแม้ย่างก้าวอัสนีนั้นร้ายกาจก็จริง!!…แต่ถ้าไม่มีพื้นที่ในการเคลื่อนไหวก็ไร้ประโยชน์..

ไป๋หลงเมื่อเห็นน้ำแข็งเริ่มละลายอย่างช้าและหวังฟางกล่าวเตือนก็ต้องรีบเร่งทำให้การต่อสู้นี้จบลงนทันทีซึ้งถ้าอสรพิษ7สีโบราณตัวนี้หนีไปได้ไป๋หลงก็ไม่คิดจะตามต่อ…

” ศิษย์ข้าเกร็ด7สีของอสรพิษโบราณตัวนี้สามารถนำมาทำเป็นโอสถระดับที่ไม่ด้อยกว่าโอสถจักรพรรดิ์อย่างแน่นอน.. และราคาของมันก็สูงไม่แพ้กัน..เจ้าคงรู้ใช่ไหมว่าเจ้าควรทำอะไรต่อไป…อ้ออีกอย่างในอดีตเมื่อนานมาแล้วอสูรทะเลอสรพิษ7สีนั้น สามารถพบได้โดยทั่วไปแต่ด้วยสีและคุณสมบัติเกร็ดของมันนั้นทำให้มันถูกล่าจนเกือบสูญพันธุ์!!! จนเวลาล่วงเลยมาจนถึงบัจจุบัน อสรพิษ7สีนั้นหาได้ยาก..ด้วยความแข็งแกร่งของมันที่อยู่ชนชั้นราชันที่แท้จริง…และมีสติปัญญาเฉกเช่นเดียวกับมนุษย์..ข้าว่าเจ้าลองจับมันเป็นสัตว์อสูรในพันธะสัญญาเจ้าดูสิ..ครึ่งปีที่งูอสรพิษ7สีจะสลัดเกร็ดทิ้งทั้งหมดและสร้างเกร็ดใหม่ขึ้นนั้นก็เท่ากับเจ้าจะได้ตัวทำเงินทำทองหมดปัญหาเรื่องเงินของเจ้า…”

ขงจือกล่าวบอกแก่ไป๋หลงด้วยน้ำเสียงที่คาดหวังผ่านดวงจิตเพราะเกร็ดของอสรพิษ7สีนั้นมีความจำเป็นกับตัวเองเป็นอย่างมากในตอนนี้จึงจำเป็นต้องบอกเรื่องนี้ให้ไป๋หลงเปลี่ยนใจที่จะไม่สังหารมัน…

” ทำไมอยู่ๆท่านถึงบอกข้าเรื่องนี้..แต่เอาเถอะข้าจะทำตามที่ท่านบอกก็แล้วกันนี้ข้าไม่ได้เห็นแก่เงินหรือคุณค่าเกร็ดของมันแม้แต่น้อยแต่เป็นการตอบแทนที่ท่านสอนกระบวนท่าให้ข้าเมื่อวันก่อน..ถือว่าเราหายกันแล้วต้องทำยังไง..ถึงจะนำเจ้าสัตว์อสูรทะเลเชื่อสายโบราณนี้มาเป็นอสูรในพันธะสัญญาได้หละท่านอาจารย์? ” ไป๋หลงกล่าวด้วยใบหน้าอันยิ้มแย้มดวงตาเป็นประกาย…

ขงจือเห็นเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นในทันที…

” ทำให้มันยอมรับในความแข็งแกร่งของเจ้า..ดูเหมือนว่ามันจะสนใจเจ้าอยู่ไม่ใช่น้อย!!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็จดจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีมรกตของอสูรทะเลโบราณตนนั้นก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ..

” ข้าจะล้มเจ้าหลังจากนั้นข้าจะนำเจ้ามาเป็นอสูรพันธะสัญญาตัวที่สองของข้า!! ”

เหล่าลูกเรือและศิษย์จากสำนักอัสนีแสดงท่าทีตกตะลึงออกมาก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นๆ..

” นะ..นี้มันมิเท่ากับกล่าวยั่วยุเพิ่มโทสะของอสรพิษ7สีเอาหรอกรึเขากำลังคิดอะไรอยู่ ” เหอจิงหัวกล่าวขึ้นด้วยความยากจะเชื่อเรื่องที่ได้ยินก่อนหน้านี้…

” ดูนั่นสิ..อสรพิษ7สี มันกำลังทำบางอย่าง!! ” ศิษย์น้องเล็กสุดกล่าวด้วยความวิตกกังวล

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงที่ทรงพลังดังขึ้นพลันสะกดให้ทุกอย่างหยุดเคลื่อนไหวเป็นพลังที่เหนือล้ำเป็นอย่างยิ่งมีเพียงเจ้าสำนักอัสนี จี้กง ฟา แล้วก็เว่ยเว่ยที่กำลังเอามือล้วงขนมออกมาจากกระเป๋าเสบียงที่ไป๋หลงจัดเตรียมไว้พลางมองการต่อสู้ที่เกิดขึ้นด้วยแววตาที่เป็นประกาย…

” เจ้ามนุย์อวดดียิ่งนัก!! ข้าอยู่มาเกือบพันปีไม่เคยมีมนุษย์คนไหนปากกล้าเช่นเจ้ามาก่อน.. ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มเยาะในทันที..

” อวดดี?..น่าขันยิ่งนักที่ข้าอวดดีเพราะข้ามีจะอวดแล้วมันจะทำไมเล่าผิดกับสัตว์อสูรบางตัวที่มีดีก็แค่ดูดซับพลังแค่นั้น..เหอะ!! ”

คำกล่าวของไป๋หลงดั่งลูกเกาทัณฑ์ทุ่มแทงอสรพิษ7สีดั่งกล่าว…อสรพิษ7สีเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ระเบิดพลังชนชั้นราชันอสูรที่แท้จริง!!ในทันที..

ตู้ม!!

” ได้ข้าจะสนองความตายให้แก่เจ้า!! ”

พิษมากมายถูกปล่อยออกมาเป็นสิบเท่าหวังฟางใบหน้าขาวซีดพร้อมกับเร่งเร้าพลังธาตุน้ำแข็งต่อต้านการละลายของน้ำแข็งเพราะพิษอย่างรวดเร็ว…

” เร็วเข้า!! ไม่มีเวลาแล้ว ” หวังฟางกล่าวกับไป๋หลงด้วยน้ำเสียงที่ร้อนรน..

อสรพิษ7สีเห็นเช่นนั้นก็พุ่งเข้ามาไป๋หลงด้วยความเร็วขั้นสูงสุดแม้ขนาดตัวจะใหญ่แต่การเคลือนไหวกับไม่มีผลแม้แต่น้อย…

” เจ้ามนุษย์..ข้านับถือในความใจกล้าของเจ้าที่ทำให้ข้าต้องเอ่ยวาจาออกมาได้แต่เจ้าจะจ้องตายด้วยเพราะความปากกล้าของตัวเอง…ถ้าไม่มีวิชาพิสดารอะไรนั่นเจ้าก็ทำอะไรข้าไม่ได้” อสรพิษกล่าวขึ้นด้วยชัยชนะเพราะบริเวณโดยรอบไม่มีที่ให้ไป๋หลงเคลื่อนไหวแล้ว

” ไม่จำเป็น!! ”

ไป๋หลงกล่าวจบพร้อมปลดปล่อยพลังออกมาสร้างกระบี่ขึ้นมาอีกครั้งซึ่งจำนวนกระบี่ในครั้งนี้น้อยกว่าครั้งที่แล้วอยู่ครึ่งหนึ่งเพราะไป๋หลงใช้พลังไปเกือบครึ่งหนึ่งแล้วนั่นเอง!! แม้ย่างก้าวอัสนีขั้นสมบูณ์จะไม่มีพลังทำลายสูงส่งเช่นวิชาอื่นๆแต่ด้านความเร็วกลับเหนือกว่าอย่างเทียบไม่ติดโดยแลกกับพลังที่ลดลงอย่างรวดเร็ว…

” หึ…เจ้าจะทำอะไรมนุษย์แค่ของพันนี้จะทำอะไรราชันย์อสรพิษ7สีอย่างข้าได้ข้าจะดูดซับให้หมดเลย!! ” สรพิษ7สีกล่าวขึ้นพลางปลดปล่อยม่านพลังสีรุ้งออกมาอีกครั้ง..

” นั่นเขากำลังทำอะไร… ” หวังฟางกล่าวด้วยความสงสัยก่อนจะตกตะลึงเมื่อเห็นน้ำทะเลกำลังถูกทำให้หมุนรอบไป๋หลงและอสรพิษ7สี

” ใครบอกว่าข้าจะโจมตีเล่า..ชั่งเป็นอสรพิษที่ขี้ระแวงเสียจริงกลัวพ่ายแพ้รึไงข้าก็แค่มนุษย์..ในตอนนี้เท่านั้น!! ”

ไป๋หลงกล่าวแฝงเลศนัยไว้บางอย่าง..อสรพิษ7สีได้ยินเช่นพลันรับรู้ความรู้สึกที่สัมผัสได้ต่างออกไป…ทำให้อสรพิษ7สีระวังตัวมากขึ้นไม่กล้าประมาทอีกต่อไป..น้ำทะเลค่อยๆถูกกระบี่ที่ไป๋หลงสร้างขึ้นชักนำไปเรื่อยๆจนน้ำทะเลสูงขึ้นและบดบังการมองเห็นจากพายนอกทั้งหมดบวกกับพิษที่ถูกขับออกมาปริมาณมากทำให้น้ำทะเลเปลี่ยนเป็นสีดำ..ยากต่อการมองเห็น..( นึกภาพพายุงวงช้างตามนะครับ)

” มองอะไรไม่เห็นเลย..ข้างในนั้นเกิดอะไรขึ้นกัน ” เหอจิงหัวกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่วิตกกังวล..

” บอกให้หัวหน้าเรือเตรียมระเบิดอักขระไว้เผื่อเกิดเหตุที่ไม่คาดคิด.. ” เจ้าสำนักอัสนีสั่งการพลางจดจ้องเข้าไปยังม่านน้ำแต่ก็มิอาจมองทะลุเห็นด้านในได้ เว้นซะแต่ จี้กง และ เว่ยเว่ยที่มองเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจน ส่วนหวังฟางนั้นหอบเหนื่อยใบหน้าขาวซีดก่อนจะหยุดการใช้พลังในทันที…

ด้านในม่านน้ำขนาดใหญ่ซึ้งถูกสร้างขึ้นด้วยการชักนำของกระบี่นับพันด้วยความเร็วสูงเพื่อที่จะสร้างม่านน้ำนี้ขึ้นมา..

” พื้นน้ำแข็งที่เจ้ายืนอยู่จะละลายแล้ว!!..ข้าไม่รู้หรอกว่าเจ้าทำสิ่งนี้เพื่ออันใดแต่ยังไงเจ้าก็พ่ายแพ้ไปแล้ว.. ” อสรพิษ7สีกล่าวขึ้นด้วยความภาคภูมิ..

” อย่างงั้นรึ? ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงอันเรียบนิ่ง ก่อนจะปรากฏปีกสีขาวนวล1คู่พร้อมกลิ่นอายแห่งความศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมาไป๋หลงทะยานขึ้นหยุดอยู่กลางอากาศพร้อมกับจดจ้องอสรพิษ7สีด้วยแววตาอันเฉียบคมดุจคมกระบี่..อสรพิษ7สีเห็นเช่นนั้นก็เบิกตากว้างถึงขีดสุด..

” นะ..นี้มัน!! ”

ในห้องๆหนึ่งที่เป็นที่พักของเหล่านักเดินทางที่ถูกจัดเตรีย มไว้มีร่างของเด็กหนุ่มผู้หนึ่งนอนหงายหน้าพร้อมกับมีเพลิงอ่อนๆล้อมรอบตัวของเขาไว้นั้นก็คืออู้เฉียงนั้นเอง..เฟิงหวงในตอนนี้ได้แต่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสลดซึ่งหาได้ยากมากที่เฟิงหวงจะแสดงด้านนี้ออกมา…

” มนุษย์เขาว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่ ฉลาดที่สุด แต่ทำไมถึงทำเรื่องที่โง่ที่สุดนะ…อู้เฉียงบททดสอบนี้ถ้าเจ้าไม่ผ่านก็มีแต่ความตายเท่านั้นที่รอเจ้าอยู่!!! “

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท