เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่80 จักรพรรดิทั้ง 6

ตอนที่80 จักรพรรดิทั้ง 6

ในห้องๆหนึ่งมีเด็กหนุ่ม เด็กสาวผมโลหิตและเอลฟ์สาวที่กำลังนอนเข้าสู่นิททราในยามค่ำคืน…

” ตำราเล่มนี้มันคืออะไรกัน…กระบวนท่าราชันย์คือสิ่งใด? เหตุใดตำราทุกหน้าถึงว่างเปล่าเช่นนี้ ” ไป๋หลงกำลังนั่งอ่านตำราไปมาโดยที่ไม่มีตัวอักษรแม้แต่หน้าเดียวเว้นก็แต่เพียงหน้าตำราที่เขียนว่า กระบวนท่าราชันย์..

” หลิงหลุนเจ้ารู้อะไร้บ้างเกี่ยวกับตำราเล่มนี้ ” ไป๋หลงกล่าวถามขึ้นภายดวงจิตก่อนที่หลิงหลุนจะตอบกลับมา…

” เรียนนายท่าน…ข้าไม่สามารถตอบท่านได้ในเรื่องนี้..แต่ข้าสามารถบอกได้ว่า หนังสือเล่มนี้ท่านต้องเป็นคนเปิดผนึกเองเท่านั้น!!! ”

ไป๋หลงพยามจะกล่าวถามต่อแต่ดูเหมือนว่าหลิงหลุนพยามบ่ายเบี่ยงที่จะไม่ตอบทำให้ไป๋หลงต้องเลิกล้มความคิดที่จะถามหลิงหลุน…

” ท่านแม่..ท่านพ่อข้าคิดถึงพวกท่านเหลือเกิน…เหตุใดพวกเราถึงต้องพลัดพรากแยกจากกันเช่นนี้ไม่ว่าพวกท่านจะอยู่ที่ไหน..ข้าก็จะตามหาพวกท่านให้เจอแต่ถ้าสวรรค์กีดกันข้าและพยามจะขัดขวางข้า..ข้าจะเป็นคนทำลายสวรรค์ด้วยมือข้าเอง!! ” ไป๋หลงกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงได้วยความโหยหาและคิดถึงพร้อมกับพลังด้านมืดที่เริ่มเกิดความปั่นป่วนเพราะจิตใจของไป๋หลงไม่คงที่นั้นเอง….

หลิงหลุนที่อยู่ภายในดวงจิตถึงกับสั่นสะท้านในทันทีเพราะมีขุมพลังงอันมหาศาลกำลังจะระเบิดออกมาหลิงหลุนใช้พลังของตนเองสะกดมันเอาไว้ในทันทีก่อนที่ไป๋หลงจะรู้สึกตัว…

” เมื่อกี้นี้มันอะไรกันความรู้เมื่อครู่.. ” ไป๋หลงได้แต่พึมพำกับตนเองและคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนถึงเช้า…

เมื่อยามเช้ามาถึงไป๋หลงก็ลงไปข้างล่างในทันทีเมื่อเปิดประตูออกมาก็เจอกับลิ่วหลงกุนที่กำลังยืนอยู่หน้าห้องของไป๋หลง..

” นายน้อย..ข้าลิ่วหลงกุนขอติดตามนายน้อยไปทวีปมืดด้วย..จะไม่มีผู้ใดทำอะไรท่านได้แม้แต่เหล่าฑูตสวรรค์ที่แฝงตัวอยู่ก็ตามที ” ลิ่วหลงกุนกล่าวด้วยความเป็นห่วงเพราะการที่จะปล่อยให้ว่าที่จอมราชันย์!!ในอนาคตเป็นอะไรไปนั้นย่อมิใช่เรื่องดีเป็นแน่แท้..

” ไม่ได้…ข้าขอขอบคุณท่านจากใจจริงแต่ข้าอยากให้ท่านดูแลความสงบภายในเมืองที่กำลังจะสร้างขึ้น..ข้าอยากให้ท่านเป็นผู้ดูแลเมืองนั้นจนกว่าข้าจะกลับมา..ถ้าท่านไม่มั่นใจก็นี้หยกสื่อสารข้าจะติดต่อท่านในทันทีเมื่อข้าตกอยู่ในอันตราย.. ” ไป๋หลงพยามกล่าวอธิบายแก่ลิ่วหลงกุน..

” แต่…. ”

” ไม่มีแต่นี้คือคำสั่ง!!…ข้าสามารถพึ่งพิงท่านได้แค่คนเดียวเท่านั้น ข้าอยากให้ท่านปกป้องเมืองที่กำลังจะถือกำเนิดขึ้นจากอุดมคติที่ข้าได้วางไว้..ท่านที่เป็นถึงชนชั้นเทพสงคราม!! ต่อให้ยกกำลังคนมาทั้งทวีปก็มิอาจจัดการกับท่านได้..เพราะเหตุนี้ข้าจึงอยากฝากฝังเรื่องนี้ไว้ให้ท่านดูแล ”

ไป๋หลงกล่าพลางคาราวะลิ่วหลงกุนเมื่อลิ่วหลงกุนได้ยินเช่นนั้นก็ยอมตกลงตามที่ไป๋หลงบอก..

” แต่ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นมาท่านต้องติดต่อ ข้ามาทันที..อีกอย่างตำราที่ข้าให้อย่าให้ใครเปิดอ่านเป็นอันขาด!!เพราะตำราจะแปดเปื้อนและมีมลทิลจากความคิดอันเป็นอกุศล.. ” ลิ่วหลงกุนกล่าวอธิบายและกำชับเรื่องนี้ไป๋หลงอย่างจริงจรัง…

ไป๋หลงกำลังยืนคุยอยู่กับลิ่วหลงกุนขณะนั้นเองก็มีคนมาดึงชายเสื้อของไป๋หลง

” ปะ..ป๋าหิวแล้ว ” เสียงที่ดังใสแจ้วก็คือเสียงของเว่ยเว่ยนั้นเอง ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มอ่อนออกมาพลางรูปหัวอย่างเอ็นดู..

” ลงไปหาอะไรกินกันเถอะ..เจ้าก็ด้วยฟา ข้ารู้เจ้าตื่นตั้งนานแล้วออกมา.. ” ไป๋หลงกล่าวจบฟาก็เิดนออกมาพลางยิ้มก่อนจะโดนลงข้างล่างในทันที..

ลิ่วหลงกุนหันไปมองเว่ยเว่ยก็ปริยิ้มออกมาในทันที…

” แค่เด็กคนนี้ไปด้วยกับท่านข้าก็หมดห่วงแล้ว อีกอย่างข้าว่าตอนนี้พ่อหรือแม่ที่แท้จริงของเด็กคนนี้กำลังตามหาและในไม่ช้าท่านจะต้องเผชิญหน้ากับ1 ในราชันย์มังกรทั้ง12เป็นแน่!!ข้าขอตัว.. ”

ฟึบ!!

ไป๋หลงไม่ทันที่จะได้กล่าวสิ่งใดลิ่วหลงกุนก็หายไปในทันทีไป๋หลงพยามปล่อยสัมผัสพลังออกมาแต่ก็ไร้ประโยชน์ไร้ร่องรอยของลิ่วหลงกุน..

” ชนชั้นเทพสงคราม!! น่ากลัวยิ่งนัก หากข้าเจอยอดฝีมือเช่นนี้ที่ไม่ใช่ลิ่วหลงกุนข้าคงพ่ายแพ้ภายในไม่กี่อึดใจเป็นแน่… ”

ไป๋หลงเดินลงมาข้างล่างพร้อมกับเด็กสาวเว่ยเว่ยที่อยู่บ่นบ่าของไป๋หลง…

” ไป๋หลงลูกจะออกเดินทางในวันนี้ใช่หรือไม่? ” ไป๋หยางกล่าวถามแก่ไป๋หลงด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเล็กน้อย..

” ใช่แล้วขอรับท่านพ่อ..ข้า อู้เฉียง เว่ยเว่ย แล้วก็ฟาจะออกเดินทางในวันนี้ที่เมืองจรัสแสงขอรับ ” ไป๋หลงกล่าวอธิบาย…เมื่อไป๋หยางได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะหยิบแหวนมิติออกมา1วงออกมาจากชายเสื้อ…

” นี้คือแหวนมิติของ ฉางเฉิน ข้ามอบให้เจ้า อย่านำสิ่งของภายในออกมาในตอนนี้จงใช้ในยามคับขันเท่านั้น ” ไป๋หยางกล่าวกำชับแก่ไป๋หลง

ไป๋หลงไม่มีอะไรที่จะต้องปฏิเสธจึงยอมรับมาแต่โดยดีแม้จะนึกสงสัยอยู่บ้างก็ตามที… อู้เฉียงและอู้หยางในตอนนี้กำลังร่ำลากันตามประสาแม่ลูก..

” อย่าไปเป็นตัวถ่วงไป๋หลงละเข้าใจไหม..ดูแลรักษาร่างกายตัวเองให้ดีละ” อู้หยากล่าวพลางโอบกอดอู้เฉียงด้วยความเป็นห่วง..

” โถ่วว..ท่านแม่ข้าไม่เป็นตัวถ่วงหรอกข้าเก่งจะตายไป..ข้ารักท่านแม่นะ ข้าจะรีบกลับมา.. ” อู้เฉียงกล่าวล่ำลาจบก็เหลือเพียงไป๋หลงเท่านั้นที่ยังพูดคุยกับไป๋หยางอย่..

” จงฟังให้ดี…นี้คือสิ่งที่พ่ออยากจะเตือนเจ้า อย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับจักรพรรดิ์แห่งธาตุทั้ง6!!โดยเด็ดขาด ” ไป๋หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจังและความโกรธแค้นจากน้ำเสียงที่ไป๋หลงสัมผัสได้..

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดในทันที…

” อะไรคือ จักรพรรดิ์ทั้ง6!!? รึท่านพ่อ ”

” จักรพรรดิ์ทั้ง6!! คือ บุคคล6คนที่มีพลังธาตุจนอยู่จุดสูงสุดไม่ว่าจะเป็นเคล็ดวิชา..ทั้ง8ล้วนขึ้นไปอยู่ในระดับสูงสุดจนมิอาจจะพัฒนาธาตุของตนได้อีกต่อไป ได้แก่ จักรพรรดิ์อัคคี!! จักรพรรดิ์อัสนี!! จักรพรรดิ์วารี!! จักรพรรดิ์ทมิฬ!! จักรพรรดิ์น้ำแข็ง จักรพรรดิ์วายุ!! พวกคนเหล่านี้ต่างอาศัยอยู่คนละทวีป ซึ่งทวีปมืดที่เจ้าจะเดินทางไปนั้น มี 1 ใน 6 จักรพรรดิ์อยู่ด้วย จงระวังตัวเอาไว้ให้ดี และอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับคนพวกนั้นเด็ดขาด!! ข้าไม่สามารถบอกเหตุผลเจ้าได้แต่อีกไม่ช้าข้าจะบอกเจ้าเอง ”

ไป๋หยางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึมไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ไม่อาจจะกล่าวถามอะไรได้อีกก่อนจะจดจำเรื่องราวตรงนี้เอาไว้และออกเดินทางสู่ทวีปมืดซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันเทพมารขุมกำลังอันดับ5ภายในยุทธภพ…

………………………………………………………

ณ.สถาบันเทพมาร

ภายในห้องประชุมที่หนึ่งที่เต็มไปด้วยอักขระมากมายที่โดนเขียนไว้รอบห้องประชุมแสดงให้เห็นถึงเรื่องที่จะกล่าวสำคัญเป็นอย่างมาก…

” การสอบครั้งนี้อย่าให้มีอะไรผิดพลาดเป็นอันขาด!!…” เสียงที่ทรงอำนาจกล่าวขึ้นภายในห้องประชุมนี้มีเพียงบุคคล20คนเท่านั้น

” ขอรับท่านผู้นำ…ครั้งนี้ทางเราจะให้ผู้อาวุโสทั้ง50คนเป็นคนคิดบททดสอบภายในปีนี้และจะแจ้งไปยังฝ่ายที่เกี่ยวข้องในทันทีขอรับ ”

” ดีมาก…เตรียมต้อนรับพวกรุ่นเยาว์จากเผ่าเทพด้วยทำเหมือนที่ทำมาครั้งก่อนๆแต่อย่าให้มันมากเกินพิธีหวังว่าพวกท่านทุกคนคงจะเข้าใจ.. ”

” ขอรับ ”

” ขอรับ ”

ผู้อาวุโสทั้ง20คนต่างกล่าวพร้อมกันและก้มคาราวะแก่ท่านผู้นำ..

” เลิกการประชุม!! ”

ผู้อาวุโสต่างๆก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตัวเองในทันทีเพราะอีกครึ่งเดือนการสอบเพื่อเข้าสถาบันก็จะเกิดขึ้น…

จบ…

ไรท์ – ให้ทายไป๋หลงซวยแน่ซึ่งไม่มีความรู้ด้านนี้เลย ให้ทายไป๋หลงจะซวยด่านทดสอบไหน ฮ่าๆๆๆๆ

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท