เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่89 เทพมารตกสวรรค์ จบภาค 2 กำเนิดจอมราชันย์

ตอนที่89 เทพมารตกสวรรค์ จบภาค 2 กำเนิดจอมราชันย์

ณ.โรงเตี้ยมแสงจันทร์…

ไป๋หลงได้ขอให้อาเป่าสละเกร็ด7สีของตนออกมาบางส่วนซึ้งเหล่าพ่อค้าแม่ขายต่างกรูกันเข้ามาเพราะเกร็ด7สีนี้มันมีมูลค่ามหาศาลเป็นอย่างมากในการทำเป็นโอสถชั้นสูงทำให้ไป๋หลงได้เงินมาอยู่พอสมควรเพียงพอที่จะใช้จ่ายในยามนี้…

หลังจากไป๋หลงได้รับฟังเรื่องราวต่างๆจาก ฟา ก็ทราบถึงสาเหตุที่ฟานั้นต้องมาอยู่ในสภาพนี้ตระกูลราชวงศ์ของฟาโดนกบฏภายในเผ่า!!…ยึดอำนาจและสังหารเหล่าราชวงศ์จนหมดมีแค่ฟาเพียงคนเดียวเท่านั้นในหมู่ราชวงศ์ที่สามารถหลบหนีออกมาได้…

ซึ้งแน่นอนว่าถ้าไม่มีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังฝ่ายกบฏย่อมมีอาจจะทำอะไรเหล่าราชวงศ์ที่แข็งแกร่งอย่างเผ่าพันธ์เอลฟ์…ได้ซึ้งฝ่ายที่สนับสนุนกบฏนั้นความจริงที่น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดคือเผ่ามาร!!!

” แล้วพวกนั้นรู้หรือไม่ว่าเจ้ายังไม่ตาย? ” ไป๋หลงกล่าวถามขึ้นหลังจากได้รับฟังเรื่องราวทั้งหมดพลางคิดวิเคราะห์ ส่วนอู้เฉียงก็ตกตะลึงอยู่ไม่น้อยที่เอลฟ์สาวตนนี้ที่อยู่เบื้องหน้าตนจะเป็นถึงเชื้อสายราชวงศ์เช่นนี้…

ฟาได้ยินเช่นนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยความเจ็บปวดสุดแสนจะทรมาน…

” พวกมันไม่รู้อย่างแน่นอน..เพราะพวกมันคิดว่าเหล่าราชวงศ์นั้นตายหมดแล้ว!! เพราะพวกมันได้ล่อให้พวกเราเหล่าเชื้อสายราชวงศ์ทั้งหมดให้มาอยู่รวมกันและใช้ค่ายกลของเผ่ามารสะกัดเอาพลังของพวกเราออกมาจนเกือบหมด!!…และสังหารพวกเราทิ้งระหว่างเกิดความโกลาหลในช่วงนั้นท่านแม่ของข้าได้ใช้สมบัติประจำราชวงศ์ที่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงการมีอยู่ของมันซึ้งมันทำให้ข้าหนีออกมาได้…แต่เหล่าพี่น้องพ่อแม่ของข้าต้องตายลงอย่างไร้เหตุผลและเท่าที่ข้ารู้มาเมื่อไม่นานมานี้พวกมันตั้งตนเป็นราชวงศ์ยุคใหม่แห่งเผ่าพันธ์เอลฟ์… ”

ไป๋หลงได้ยินก็รู้สึกสะเทือนใจและกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้นมิใช่น้อยเพราะมีเรื่องของเผ่ามารมาเกี่ยวข้องด้วยซึ้งดูท่าจะมีอะไรสักอย่างที่เผ่ามารต้องกำจัดเหล่าเชื้อสายราชวงศ์รุ่นดั้งเดิมทิ้งและใช้เหล่ากบฏที่ตั้งตนเป็นราชวงศ์ยุคใหม่ในการเป็นหุ่นเชิด…

” เรื่องนี้ไว้ให้ข้าจะช่วยเจ้าเองไม่ต้องห่วงหลังจากที่ข้าจัดตั้งกองกำลังเป็นของตน!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นอย่างมีเลศนัย..

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็คิ้วขมวดก่อนจะเอ่ยขึ้น…

” กองกำลัง?กองกำลังอะไรของเจ้ากัน ”

” เดี๋ยวเจ้าก็รู้อีกไม่นานเจ้าจะเป็นรองผู้บัญชาการ!!กองกำลังที่กำลังจะจัดตั้งขึ้น..” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นก็เบิกตากว้างในทันทีก่อนจะสถบขึ้นมา..

” รองผู้บัญชาการบ้านเจ้านะซิ!! ”

แต่ดูเหมือนว่าไป๋หลงจะไม่ได้ใส่ใจกับคำพูดเมื่อครู่ของอู้เฉียงแม้แต่น้อยในตอนนั้นเอง จี้กงได้เข้ามาผ่านทางหน้าต่างห้องที่เปิดกว้างอยู่..

เมื่อไป๋หลงเห็นจี้กงกลับมาก่อนจะเอ่ยถามขึ้น…

” เป็นอย่างไรบ้างทุกอย่างปกติดีหรือไม่? ”

จี้กงไม่รอช้ากล่าวรายงานในทันทีพร้อมกับหยิบยื่นอะไรบางอย่างที่เป็นกระดาษแผ่นบางๆให้ไป๋หลง…

” เรียนนายท่าย…ช่วงนี้เผ่ามารเคลื่อนไหวผิดปกติเป็นอย่างมากซึ้งในช่วงนี้มีเผ่ามารมากกว่าปกติถึง3เท่า!! ด้วยกันเป็นไปได้ว่าอาจจะมีราชวงศ์ของเผ่ามารมาเข้าร่วมการคัดเลือกในครั้งนี้ก็เป็นได้!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวขึ้นพลางเปิดอ่านข้อความที่เขียนอยู่ภายใน..

” ไม่น่าแปลกเพราะสถาบันเทพมารและเมืองแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องสถานะความเป็นกลาง..ไม่ว่าเป็นปีศาจ มาร เทพ เอลฟ์ หรือเผ่ามังกรก็สามารถอยู่ที่นี้ได้เพียงแค่ไม่มีใครเผ่าไหนต้องการเท่านั้น…ถึงจะเป็นราชวงศ์เผ่ามารแต่ยังไงก็คลทำอะไรมากไม่ได้ภายในสถาบันเทพมารแห่งนั้น…แล้วนี้คือ ”

ไป๋หลงอ่านข้อความก็ต้องขมวดคิ้วแนบแน่น..

” ระเบียบการเข้ารับสมัครอย่างงั้นรึ..ภายใน15 วันให้ผู้ต้องการสอบมารวมตัวกัน ณ.ลานกว้างทางด้านทิศตะวันตกของเมืองซึ้งเป็นสถานที่ที่ทางสถาบันได้เตรียมไว้ให้…ส่วนสำคัญทางสถาบันจะไม่รับผิดชอบใดๆทั้งสิ้นที่อาจจะถึงแก่ชีวิต!!..ไม่จำกัดระดับพลังผู้เข้าสอบ!! ไม่อนุญาติให้นำผู้ติดตามเข้าไปผู้ที่จะเข้าไปในลานกว้างได้ต้องเป็นผู้เข้าสอบเพียงเท่านั้น..ห้ามใช้สัตว์อสูรในพันธะสัญญาระหว่างการคัดเลือกถ้ามีผู้ใดไม่ทำตามคำบอกจะโดนตัดสิทธิ์ในทันที..ท้ายสุดสิ่งที่สำคัญคือ ใบรับรองจาก เจ้าสำนักว่าศิษย์ผู้นั้นจบการศึกษาแล้วเป็นที่เรียบร้อยถ้าไม่มีก็มิอาจสมัครได้เช่นกันและ ผู้ที่มีความสามารถและความแข็งแกร่งคือผู้ที่ได้ทุกอย่างมาในครอบครอง ไม่มีดี ไม่มีเลว ทุกอย่างล้วนเกิดจากการระทำ จงตั้งใจไว้ให้ดีผู้ที่ไร้ความสามารถจะโดนผู้อื่นเหยียบย่ำลงพื้นดิน..ถ้าไม่อยากเป็นเช่นนั้นก็จงพยามความสำเร็จรอเจ้าอยู่เบื้องหน้า!!!! ”

ไป๋หลงอ่านระเบียบการออกมาเพื่อให้อู้เฉียงได้ยินก่อนจะจับจุดผิดสังเกตุได้หลายแห่งว่าการสอบเข้าในครั้งนี้ไม่ธรรมดาและมีบางอย่างแปลกๆอย่างแน่นอน….ก่อนที่ไป๋หลงจะกำหมัดแน่พร้อมกับพลังที่หลิงหลุนเคยสะกดกำลังจะประทุขึ้นในไม่ช้า..

” ข้าจะบดขยี้และทำลายผู้ที่ขวางทางของข้าให้หมด…ข้าจะต้องนำเอาสิ่งนั้นกลับมาให้ได้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยอะไรก็ตาม!! ”

จี้กงสัมผัสบางอย่างได้จากพลังของไป๋หลงก่อนที่พลังสายนั้นจะหายไปทำให้จี้กงสงสัยไป๋หลงเพิ่มขึ้นไปอีกว่าแท้จริงแล้วไป๋หลงเป็นเทพหรืออะไรกันแน่!! แล้วบิดามารดาของไป๋หลงคือใครกัน…จี้กงได้แต่คิดแล้วเก็บเงียบเอาไว้…

” ไป๋หลงใจเย็นลงก่อน..อย่าได้วู่วามถึงแม้เจ้าจะแข็งแกร่งแต่เหนือฟ้ายังมีฟ้า..ภายใน15 ข้าว่าเราเอาเวลามาเตรียมตัวไม่ดีกว่าหรือ? ”

อู้เฉียงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วงจนไป๋หลงอดที่จะเอ่ยปากขึ้นไม่ได้..

” เดี๋ยวนี้เจ้าพูดประโยคลึกซึ้งแล้วเป็นด้วยอย่างงั้นรึอู้เฉียง..เจ้าโตขึ้นมากจริงๆ ”

อู้เฉียงได้ยินเช่นนั้นแทบจะปรี่เข้าไปปล่อยหมัดใส่ไป๋หลงให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยแต่ก็ได้เพียงคิดเท่านั้น..

หลายวันผ่านไปผู้คนจากทั่วทวีปเข้ามาดูชมการสอบเข้าสถาบันเทพมารซึ้งแน่นอนว่าเหล่าผู้ที่จะมาชมการคัดเลือกในครั้งนี้รู้ดีว่าเพียงด่ายทดสอบแรกเท่านั้นที่ผู้คนทั่วไปมิได้รับอนุญาติในการรับรู้ถึงการทดสอบด่านนี้..ซึ้งการทดสอบมีทั้งหมด10ด่านทดสอบด้วยกัน…

ไม่เว้นแม้แต่เหล่าราชวงศ์ในบรรดาทวีปต่างๆจะมารับชมในครั้งนี้ซึ้งในแต่ละสำนักต่างส่งบรรดาเหล่าศิษย์ที่แข็งแกร่งเข้ามาเพื่อร่วมทดสอบ..การได้เป็นศิษย์ของสถาบันเทพมารนั้นมีสิทธิประโยชน์มากมายแม้แต่เหล่าชนชั้นสูงยังต้องเกรงใจ..และอีกอย่างไม่ว่าจะเป็นโอสถเม็ดยา ตำราฝึก ก็มีให้อย่างไม่ขาดสายไม่เว้นแม้แต่ อำนาจทางการทหาร ศิษย์สถาบันเทพมารสามารถออกคำสั่งแก่กองทัพที่ทางสถาบันได้จัดเตรียมไว้ให้ศิษย์บางคนเท่านั้น..ซึ้งการมีอยู่ของกองทัพเหล่านั้นมิอาจทราบได้ว่าทางสถาบันคิดอะไรอยู่…

ผ่านพ้นไปหลายวันจนในที่สุดก็ถึงวันสอบคัดเลือก…

มีเพียงจี้กงและฟาเท่านั้นที่มิได้ร่วมการทดสอบถึงแม้ไป๋หลงจะพยามพูดให้ฟาเข้าร่วมการทดสอบแต่ดูเหมือนว่าจะเปล่าประโยชน์ ส่วนเว่ยเว่ย ที่ตามติดไป๋หลงอย่างกับลูกติดแม่ก็ได้ตามเข้าบททดสอบนี้ด้วยเช่นกันก่อนวันงานคัดเลือก ไป๋หลงได้ติดต่อ หวังย่ง เจ้าสำนักหมื่นกระบี่ให้ออกใบจบการศึกษาให้เว่ยเว่ย ซึ้งแน่นอนว่า หวังย่งมิได้กล่าวคัดค้านแต่อย่างใดซ้ำยังสนับสนุนอย่างเต็มที่ จี้กงอาสาไปนำใบจบการศึกษาจากสำนักหมื่นกระบี่ จนท้ายที่สุดเว่ยเว่ยก็ได้ใบจบการศึกษามาและสามารถเข้ารับการทดสอบได้…

” เอาละต่อจากนี้ข้า อู้เฉียงและเว่ยเว่ยจะเข้าไปในลานทดสอบ…จี้กงฝากดูแลฟาด้วยอีกไม่นานข้าจะกลับมา ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เดินหายเข้าไปในลานกว้างก่อนจะมาโผล่ที่ไหนไม่รู้ราวกับว่าที่นี้ตัดขาดจากโลกภายนอก ถึงแม้ก่อนจะเข้ามาไป๋หลงเห็นผู้คนบางส่วนเดินเข้าไปในลานแล้วหายไป ไป๋หลงจึงเข้าใจว่าเป็นค่ายกลของลานกว้างแห่งนี้อย่างแน่นอน…

ภายในมีผู้คนนับหมื่นที่เข้ามาสามารถเห็นการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายได้อย่างชัดเจน…รุ่นเยาว์ของเผ่าเทพในครั้งนี้มีมากถึง12ตนส่วนเผ่ามารนั้นราวๆ30กว่าตน ส่วนที่เหลือแยกเป็นเผ่าพันธุ์น้อยใหญ่ เผ่ามังกร เอลฟ์ ปีศาจ และมนุษย์เกือบครึ่งนึง ณ.ที่แห่งนี้ซึ้งแน่นอนว่าไป๋หลง อู้เฉียง และเว่ยเว่ย อยู่ฝั่งมนุษย์…

” ชิเอล..เจ้ารู้สึกเหมือนข้าใช่หรือไม่ว่ามนุษย์คนนั้นมีกลิ่นอายคล้ายแบบเดียวกับพวกเรา ” เสียงของผู้เยาว์เผ่าเทพเอ่ยขึ้น..

” ใช่..รอดูไปก่อนว่ามนุษย์ผู้นั้นเป็นใคร ”

เผ่าเทพทั้งสองต่างพูดคุยกันด้วยลักษณะเผ่าเทพที่มีเลือนผมสีทองเป็นประกาย ดวงตาสีเหลืองอัมพัน สร้างความน่าดึงดูดเป็นอย่างยิ่ง..

ในขณะนั้นเองก็มีผู้อาวุโส1คนโผล่ขึ้นมายังพื้นที่ว่างที่เว้นว่างเอาไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหว..

” กาารสอบเริ่มขึ้นแล้ว..อีก10ลมหายใจถ้าพวกเจ้ายังไม่เตรียมตัวได้ตายจริงๆแน่!!! ”

” !!!!!! ” เหล่าผู้เข้าร่วมการทดสอบต่างแสดงสีหน้าตกตะลึงทันใดนั้นผ่านไปไม่นานไป๋หลงใบหน้าบิดเบี้ยวอัปลักษณ์ในทันที..เพราะทันใดนั้นไป๋หลงรู้สึกราวกับกำลังแบกภูเขาเอาไว้ทั้งภูเขาซึ้งแน่นอนว่าไป๋หลงรู้จักพลังนี้ดี…

” บัดซบ!!…จิตจักรพรรดิ์ที่แท้จริง!! ”

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท