เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่101 จักรพรรดิเงา 1

ตอนที่101 จักรพรรดิเงา 1

เวลาผ่านไปจนถึงรุ่งเช้านั้นก็หมายความว่าเวลาในการสอบเหลืออีกแค่1วันเท่านั้นเหล่าผู้เข้าสอบต่างรีบมุ่งหน้าไปสู่ยอดเขา สมุนไพรต่างๆถูกเก็บเกี่ยวไปพอสมควรแต่ ณ ตอนนี้ไม่มีชื่อของใครกระพิบเป็นสีทองแม้แต่น้อย…

อู้เฉียงในยามนี้สามารถเอาตัวรอดด้วยพลังของตัวเองได้และทำการยกระดับพลังตัวเองขึ้นมาได้เพราะพบเจอกับโชควาสนาอย่าง สมุนไพรเก้าจันทรา!! สามารถยกระดับแบบก้าวกระโดดได้ในทันที ผลข้างเคียงก็คือ ไม่สามารถทำการยกระดับพลังได้อีกภายในครึ่งปี แต่ปัญหานี้ไม่ค่อยจะมีผลกับอู้เฉียงสักเท่าไหร่.. อู้เฉียงในยามนี้ใกล้ถึงยอดเขาขึ้นทุกขณะ..

” ไป๋หลงขอให้เจ้าปลอดภัยก็แล้วกัน ” อู้เฉียงกล่าวพึมพำก่อนจะมุ่งหน้าสู่ยอดเขา..

ภายในถ้ำ…

เก๋อเก๋อลืมตาขึ้นมาก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจ..

” นี้ข้าเผลอหลับไปรึเนี้ย…แล้วไป๋หลงละ? ” เก๋อเก๋อกล่าวขึ้นพลางวิตกตกังวล..

เก๋อเก๋อกำลังจะมุ่งตรงเข้าไปในถ้ำเพราะอาจะเกิดเรื่องขึ้นกับไป๋หลงขณะนั้นเองก็มีบางคนเดินออกมาในสภาพเลือดท้วมตัวบาดแผลสาหัสมากเส้นผมยุ่งกระเซอ โลหิตสีแดงไหลหยดเป็นทาง แต่ใบหน้ากลับประดับไว้ด้วยรอยยิ้ม..

” ปะ..ไป๋หลงเจ้าไปเจอกับอะไรมากันแน่!! ” เก๋อเก๋อกล่าวจบก็เข้าไปพยุงไป๋หลงให้นั่งลงพลางสำรวจบาดแผล..

” บาดแผลเจ้าสาหัสมาก!! กระดูกซี่โครงร้าว!! ขาข้างขวาหัก!! ไหปลาร้าของเจ้าเกิดรอบร้าว!!เพราะกระทบกับบางสิ่งอย่างรุ่นแรงพลังภายในของเจ้าปั่นป่วนไปหมด!! ”

เก๋อเก๋อกล่าวด้วยใบหน้าขาวซีดและเพียงส่งพลังเข้าไปสำรวจเพียงน้อยนิดเท่านั้นซึ้งการจะทำเช่นนี้ได้ต้องเชี่ยวชาญศาสตร์แพทย์ระดับสูง!!

” เจ้าเป็นหมอรึไงกัน? ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้น

” ไม่ใช่ก็ใกล้เคียงบาดแผลเจ้าสาหัสเกินไปแล้ว!! เจ้าไปเจอกับอะไรมาทั้งคืน!! ” เก๋อเก๋อกล่าวออกมาด้วยความสงสัยและเป็นห่วงเป็นใย..

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวออกมาอย่างมีเลศนัย..

” ไม่ใช่ไปเจอกับอะไรมา..แต่ได้บางอย่างกลับมาต่างหาก!! อีกอย่างเรื่องบาดแผลเจ้าไม่ต้องห่วงร่างกายข้าสามารถฟื้นฟูได้ในเวลาเพียงไม่นานกับเม็ดยาสมุนไพรที่ข้ามีติดตัวไม่เกินครึ่งวันบาดแผลของข้าก็จะหายเป็นปกติ..”

ไป๋หลงกล่าวด้วยท่าทีสบายๆเพราะสาเหตุหลักที่ไป๋หลงฟื้นฟูตัวได้เร็วเพราะมีเชื้อของเผ่าเทพและเผ่ามารอยู่ในตัวไป๋หลงคอยเกื้อหนุนกันหรือที่เรียกกันสั้นว่า สายเลือดผสม!!

ซึ้งสายเลือดผสมนั้นมีให้เจอได้ในยุทธภพแต่จะไม่ค่อยทราบว่าใครคือสายเลือดผสมเช่นต๋าเฉิง( ตอนที่ 92 ) ต๋าเฉิงเป็น ครึ่งมารกับอสูร ซึ้งนี้ก็เป็นสายเลือดผสมเช่นกัน แต่ไป๋หลงนั้นกรณีพิเศษที่ยากมากที่จะเกิดขึ้นหรือแม้แต่จะไม่เกิดขึ้นเลยเว้นก็แต่เพียงไป๋หลงผู้เดียวเท่านั้น…

เก๋อเก๋อได้ยินเช่นนั้นก็ถลึงตาใส่ทันที…

” พูดเป็นเรื่องตลกไปได้..ข้าไม่เชื่อ!! มนุษย์ที่ไหนจะฟื้นฟูตัวเองได้เร็วปานนั้น ” เก๋อเก๋อกล่าวออกมาก่อนจะเช็ดเลือดที่เปื้อนตามตัวของไป๋หลง..

” ถ้าเจ้าไม่เชื่อ..ก็ลองส่งพลังเข้าไปตรวจสอบภายในร่างกายข้าสิว่าตอนนี้เป็นไร? แล้วใครบอกว่าข้าเป็นมนุษย์กันละ ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยเสียงอันแผ่วเบาของท้ายประโยตทำให้เก๋อเก๋อมิอาจได้ยินถ้อยคำนั้นได้ สิ่งที่ไป๋หลงกล่าวออกมาเป็นการเปรียบเสมือนท้าทายแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เก๋อจับข้อมือของไป๋หลงก่อนจะส่งพลังเข้าไปตรวจสอบภายในก่อนจะสั่นสะท้านไปทั้งตัวและเบิกตากว้างออกมา..

” นะ..นี้มันเป็นไปไม่ได้อวัยวะต่างๆกำลังฟื้นฟูตัวเองอย่างรวดเร็ว กระดูกซี่โครงกำลังรักษาตัวเองรวมไปถึง ส่วนอื่นๆด้วยเช่นกัน!! ”

” ก็ข้าบอกเจ้าแล้ว ” ไป๋หลงกล่าวพลางยกยิ้มออกมาแต่เมื่อนึกถึงอาวุธชิ้นนั้นกลับทำให้ไป๋หลงเสียวสันหลังในทันที เป็นอาวุธที่ไป๋หลงยังไม่แน่ใจเลยว่าตัวเองนั้นเป็นเจ้าของมันโดยสมบูณ์หรือไม่…

………………………………………………

สายตาทุกคู่จับจ้องไปยังชื่อ ชื่อนึงที่กำลังกระพริบเป็นสีทองและเลือนหายไปซึ้งชื่อที่ปรากฏนั้นเป็นชื่อของไป๋หลงนั่นเอง..

” ชะ..ชื่อเป็นสีทองไม่ผิดแน่สมบัติของ ท่าน เห่ยเจี้ย ถูกค้นพบอีกชิ้นแล้ว!!! ”

” แม่เจ้าโว้ย!! คนที่ชื่อไป๋หลงมีโชควาสนาถึงเพียงใดกันที่สามารถครอบครองหนึ่งในของวิเศษผู้ยิ่งใหญ่อย่างท่าน เห่ยเจี้ย จะเป็นของวิเศษแบบไหนกันนะ ”

เสียงของเหล่าผู้ชมต่างกล่าวกันอย่างสนุกปากแต่ก็ยังมีกลุ่มที่อิจฉาริษยาอยู่เช่นกัน…

องค์จักรพรรดิ์แห่งทวีปมืด ซ้วนตี้เองก็อดที่จะชื่นชมในความสามารถของเด็กหนุ่มผู้นี้อยู่ลึกๆถึงแม้จะไม่เคยพบเจอก็ตาม..

ทางด้านผู้อาวุโสชุดดำ ใบหน้ายิ้มเบิกบานออกมาเป็นรอยยิ้มชราที่ดูอบอุ่น..

” พวกเจ้ามากับข้าไปรอ เจ้าหนูนั่นข้างบนกัน!! ” ผู้อาวุโสชุดดำกล่าวจบก็หยิบหยกออกมาชิ้นนึงก่อนจะกล่าวบางอย่างก่อนที่ร่างจะหายไปและไปโผล่ ณ บนยอดเขา…

เหล่าศิษย์ต่างสงสัยในฉับพลันเหลือเวลาอีก1วันแท้ๆกลับทำราวกับว่าเด็กหนุ่มนั่นจะขึ้นมาได้ก่อนเวลาที่กำหนด!!ทั้งๆที่เป็นเรื่อวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนด้วยซ้ำ..

………………………………………………………….

ไป๋หลงเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ใหม่ซึ้งถูดจัดเตรียมไว้หลายชุดในแหวนมิติ หลังจากนั้นไป๋หลงก็ได้รู้ว่า เก๋อเก๋อกับจิวซือเป็นพี่น้องกันแต่อยู่กันคนละฝ่าย เก๋อเก๋ออยู่ฝ่ายพ่อ จิวซืออยู่ฝ่ายแม่ทำให้ทั้งสองต้องแยกกันเพราะเหตุผลทางบ้าน…

” ไม่น่าเชื่อเจ้ากับจิวซือเป็นพี่น้องกัน…นิสัยต่างกันราวฟ้ากับเหวน้องเจ้ายังดูสุขุมหนักแน่นกว่าเจ้าด้วยซ้ำ” ไป๋หลงกล่าวพลางพยามกั้นหัวเราะเมื่อสองคนนี้มาเทียบกันไม่มีส่วนใดเลยที่เหมือนเป็นพี่น้องกันเว้นก็แต่เพียงหน้าตาเท่านั้น…

” นี้เจ้า..เอาเถอะอยากจะพูดอะไรก็พูดไปว่าแต่ว่าเจ้าไม่เป็นห่วงสหายเจ้ารึยังไงกัน? ” เก๋อเก๋อเอ่ยถามขึ้นเพราะคราแรกที่ไป๋หลงบอกว่าพลัดหลงกับสหายถ้าบอกว่ามาคนเดียวคงดูน่าเชื่อถือกว่านี้..

” พวกนั้นเอาตัวรอดได้แน่นอน..เอาเป็นว่า พรุ้งนี้ ก่อนพระอาทิตย์ตกเย็นคือวันสุดท้ายดูจากเส้นทางเราคงอยู่ไม่ไกล เราจะออกเดินทางกันตอนต่ำเพราะ จะไม่เป็นที่เพ่งเล็งและสามารถเคลื่อนไหวได้ง่าย ขอเพียงอย่าไปเจอกับอสูรที่มีสัมผัสเฉียบคมก็คงพอ!! ” ไป๋หลงกล่าวบอกพลางปรับพลังให้เข้าที่หลังจากที่ผ่านศึกอันดุเดือดมา..หรือจะเรียกว่าโดนยำอยู่ฝ่ายเดียวมากกว่า..

เก๋อเก๋อเห็นด้วยกับไป๋หลงจึงนั่งคุยเรื่องทั่วไปและการต่อสู้ในรูปแบบต่างๆเก๋อเก๋อรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากตนนั้นเป็นพวกที่เข้าหากับบรุษได้ยากแต่กับไป๋หลงมันกลับพิเศษยิ่งกว่า..

จนเวลาล่วงเลยมาถึงตอนค่ำเก๋อเก๋อและไป๋หลงออกจากถ้ำก่อนจะทะยานร่างไปบนกิ่งไม้อย่างรวดเร็วระหว่างทางเจอพวกอสูรและมารนอกรีต…รวมถึงอาชญากรร้ายแรงที่เป็นมนุษย์ด้วย ระหว่างนั้นไป๋หลงเห็นซากศพของเหล่าผู้เข้าแข่งขันต่างนอนกันเกลื่อนกราดข้างล่าง…แต่ไป๋หลงกลับฉายแววตาที่เรียบเฉยออกมา ผิดกับเก๋อเก๋อที่ทำหน้าจะอาเจียนตลอดเวลาเมื่อเห็นภาพอันโหดร้ายด้านล่าง..

หากจะพูดว่าการเข้ามาสอบเปลี่ยนเป็นการเดินข้ามาตายยังจะฟังขึ้นหูกว่าเป็นกองขณะนั้นเองมีบางอย่างพุ่งมาด้วยความเร็วสูงจากพื้นดินโจมตีใส่ไป๋หลงอย่างฉับพลัน..

ไป๋หลงมิอาจสัมผัสได้ถึงการโจมตีนั้นก่อนจะโดนโจมตีเข้าอย่างจังแต่โชคดีที่ไป๋หลงสามารถเข้นพลังออกมาคุ้มกันได้บางส่วน…

” บัดซบ!! ” ไป๋หลงสถบออกมาก่อนจะโดนพลังลึกลับบางอย่างเล่นงานเข้าอย่างจัง…

ตู้มมมม!!

เก๋อเก๋อตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนจะมุ่งลงข้างล่างเพื่อไปช่วยไป๋หลงในทันที….

ไป๋หลงสั่นสะท้านในทันทีเพราะพลังเมื่อกี้เห็นได้ชัดถูกยั้งเอาไว้ มิฉะนั้น ความเสียหายคงจะมากกว่านี้..

” ไป๋หลงเจ้าเป็นอะไรบ้าง!! ” เก๋อเก๋อกล่าวขึ้นด้วยความร้อนรน

ไป๋หลงส่ายหน้าก่อนจะยืนขึ้นฉายแววตาแข็งกร้าวออกมาก่อนจะเอ่ยขึ้น…

” หนีไป!! รีบมุ่งหน้าไปบนยอดเขาเดี๋ยวนี้ข้าจะรีบตามไป ”

เก๋อเก๋อได้ยินเช่นนั้นก็เตรียมจะกล่าวออกมา…

” แต่… ”

” ไม่มีแต่!! รีบไป ”

ไป๋หลงประกาศกร้าวขึ้นพร้อมกับจิตสังหารที่พุ่งพล่านออกมา..

เก๋อเก๋อใบหน้าขาวซีดในบัดดลก่อนจะทะยานร่างไปตามที่ไป๋หลงบอกเก๋อเก๋อมุ่งหน้าไปบนยอดเขาในทันทีเพื่อขอความช่วยเหลือถึงแม้จะเป็นหนทางที่ริบหลี่ก็ตาม…

” เจ้าเป็นใคร!! ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาแววตาสีแดงฉายแววดุดันออกมาและปลดปล่อยจิตสังหารออกมาอย่างไม่ปิดบัง…

ทันใดนั้นก็มีชายชราเดินมาพร้อมกับถือไหเหล้ามาด้วยชายชราเหลียวมองไป๋หลงก่อนจะกระดกเหล้ากินอย่างเบิกบาน!!!

” หึๆๆ..ไม่เลวแววตาเยี่ยม!! จิตสังหารเยี่ยมยอด!! ระดับพลังพอไปวัดไปวาได้..โอ้วทูท่าเจ้าจะพกเหล้าชั้นดีมาด้วยภายในแหวนมิตินิ เอาออกมาๆ ของดีๆมีไม่กินตอนนี้จะกินตอนไหนเล่า…ลดจิตสังหารลงได้แล้วไอหนู ถ้าข้าตั้งใจจะสังหารเจ้าจริงๆ เจ้าคงไม่ได้มายืนมองข้าอยู่แบบนี้หรอก ”

ไป๋หลงระเบิดพลังออกมาก่อนจะเเค่นเสียงเย็นชา..

” ข้าถามว่าท่านเป็นใครกันแน่!! ”

ชายชราถลึงตาใส่ก่อนจะส่ายหน้าออกมาพลางเบื่อหน่าย..

” ไอหนูมานี้!! ”

ชายชรากล่าวจบก็มีพลังบางอย่างฉุดดึงไป๋หลงอย่างรุนแรงจนห่างกันเพียงไม่กี่ก้าวสร้างความตกตะลึงให้กับไป๋หลงเป็นอย่างมาก

” กะ..เกิดอะไรขึ้นร่างกายข้าขยับไปเองได้ยังไง!! ”

” ผิดแล้วแต่เป็นเงาต่างหาก!! ” ชายชราเอ่ยพลางยกยิ้มขึ้นอย่างมีเลศนัย

………………………………………………………………..

บนยอดเขา……..

” เกิดอะไรขึ้น? นี้มันผิดสังเกตุเกินไป เด็กนั่นไม่น่าจะช้าได้ขนาดนี้ ” ผู้อาวุโสชุดดำกล่าวขึ้น..

ทันใดนั้นศิษย์ที่ตามมาด้วยเรียกอาจารย์ก่อนจะชี้ไปยังภาพน้ำอักขระ..

” อาจารย์ดูนั่น!!! ”

เมื่อผู้อาวุโสเมื่อเงยหน้าขึ้นไปพลันระเบิดพลังออกมาจนศิษย์รอบข้างพลอยได้รับผลกระทบไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เดือดดาล…

” จักรพรรดิ์เงา!!! ”

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท