เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่117 พัฒนาชั่วข้ามคืน 2 จบ

ตอนที่117 พัฒนาชั่วข้ามคืน 2 จบ

การต่อสู้ดำเนินมาถึงเกือบถึงตอนเย็นคราแรกไป๋หลงคิดไว้ว่าจะมอบหน้าที่การฝึกฝนให้กับอู้เฉียง..แต่ตอนนี้อู้เฉียงโดนจับปิดมากและมัดไว้กับเสาเป็นภาพที่ชวนแปลกตาเป็นอย่างยิ่ง..

เหล่าศิษย์ที่ได้ประลองกับไป๋หลงต่างพากันนั่งหอบเหนื่อยเหงื่อตกในขณะที่ไป๋หลงไม่ได้แสดงอาการว่าเหนื่อยออกมาเสียด้วยซ้ำเพราะระดับขั้นพลังห่างกันเกินไป!!!..แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีศิษย์ที่สามารถต่อต้านบัญญัติแห่งราชันย์ของไป๋หลงได้..เวลานี้เหลือเพียงศิษย์เผ่ามังกรคนเดียวเท่านั้นที่เหลื่ออยู่ส่วนที่เหลือต่างพากันนอนหมอบราบด้วยอาการเหนื่อยล้า…

” เหลือเจ้าเป็นคนสุดท้ายงั้นสินะ..ดูท่าเจ้าคงมีพลังบางอย่างซ่อนอยู่ถูกต้องหรือไม่? ” ไป๋หลงเอ่ยพลางเพ่งพินิจเห็นพลังงานบางอย่างที่จุดบ่มเพาะภายในแต่ราวกับโดนพลังบางอย่างสะกดไว้!!..ซึ้งแน่นอนว่าพลังเช่นนี้จะมิอาจสัมผัสได้ด้วยตาเปล่าหรือความรู้สึก..แต่เป็นเพราะตาเทพ!!! ทำให้ไป๋หลงมองเห็นได้อย่างแจ่มชัด แต่ไป๋หลงมิไ้ด้กล่าวถึงในส่วนที่เหมือนโดนผนึกเอาไว้…

” สมแล้วที่เป็นพี่ใหญ่ที่ข้าให้ความเคารพและยอมรับ..ตัวข้านั้นเป็นสายเลือดมังกรที่แท้จริง!!! ซึ้งเป็นสายเลือดที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมากในหมู่ของตระกูลมังกร..แต่ข้ามิอาจปลุกพลังที่แท้จริงขึ้นมาได้ ทำให้ข้าโดนกีดกันในด้านต่างๆแทบจะทั้งหมด!!…การที่ข้ามาอยู่ ณ ตรงนี้หมายถึงข้าได้ออกจากตระกูลบัดซบ!! นั่นแล้วเมื่อข้าแข็งแกร่งเมื่อไหร่ซักวันจะต้องเป็นวันของข้า ”

ศิษย์ครึ่งมังกรที่ท่อนบนอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเกร็ดสีดำทมิฬตามแผ่นหลัง หางสีดำยาวถูกปกคลุมไปด้วยเกร็ดทมิฬมันวาว และเกร็ดบนใบหน้า เล็กน้อยแต่กลับแสดงให้เห็นถึงความสง่างามในเผ่ามังกร..เลือนผมสีดำแววตาสีน้ำเงินดุจมหาสมุทร

การเดินทุกย่างก้าวเต็มไปด้วยพลังที่อัดแน่น..และมาหยุดลงตรงหน้าไป๋หลงทั้งสองผสานสายตากันก่อเกิดเป็นละลอกคลื่นบนสนามประลอง!!

” เจ้ามีชื่อว่าอะไร? ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้น

เมื่อศิษย์ครึ่งมังกรผู้นั้นได้ยินก็ผสานมือขึ้นเอยด้วยวาจาที่สุภาพและให้การเคารพไป๋หลง

” ข้าชื่อ เหิงฟู เป็นผู้สืบทอดสายเลือดมังกรที่แท้จริง!!…. ปกติข้าคงจะพูดเช่นนั้นแต่ข้าได้ทิ้งผู้สืบทอดไร้สาระนั้นไปแล้ว ข้าชื่อเฟิงหู เป็นนักสู้มังกรเท่านั้น!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็ปริยิ้มออกมา..

” เอาละ..ใช้ทุกอย่างที่มีโค่นข้าให้ได้!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่จริงจัง…

เหล่าศิษย์ที่อยู่ด้านต่างตกตะลึง..ไป๋หลงเห็นอะไรในตัวของเฟิงฟูกันแน่!!

” เหิงฟู…พี่ใหญ่เห็นอะไรในตัวเจ้ากันแน่ข้าอยากรู้จริงๆ ” ศิษย์เผ่ามังกรอีกคนกล่าวขึ้นด้วยท่าทีพิจรณาบางอย่าง…

” กังเหอ…เจ้ากับข้าติดตาม เหิงฟูมาตั้งแต่ เจ้านั่นโดนไล่ออกจากตระกูล..ไม่สิเจ้านั่นอาจจะออกมาเองมากกว่า เจ้าไม่สังเกตเห็นบางอย่างเลยอย่างงั้นรึ!! ” ศิษย์เผ่ามังกรที่ดูท่าจะเป็นสหายกันเอ่ยขึ้ย..

” เฉิงซุนเจ้าหมายความว่ายังไง!! ” กังเหอกล่าวขึ้นด้วยความสงสัย..

” รอดูไปก็แล้วกัน..การต่อสู้กำลังจะเริ่มแล้ว!! ” เฉิงซุนกล่าวจบไป๋หลงและเหิงฟูกำลังเปิดม่าการต่อสู้อันดุเดือดครั้งนี้ขึ้น..

ตู้ม!!!

หมัดของทั้งสองคนปะทะกันจนเกิดเสียงดังสั่นสะเทือนเวทีประลองแห่งนี้..ไป๋หลงเบิกตากว้างเพราะระดับพลังที่ปะทะเข้ากับหมัดของตนนั้นเป็นระดับพลังที่ทัดเทียมกันหรือเหนือกว่านั้น นักรบที่แท้จริงขั้นที่8!!!

” คิดไว้แล้วว่าพี่ใหญ่ปกปิดพลังที่แท้จริงเอาไว้แต่…ไม่สามารถปกปิดข้าได้หรอกจะบอกไว้ก่อน!! ” เหิงฟู กล่าวก่อนจะระเบิดพลังที่เหนือล้ำออกมา!!

นักรบที่แท้จริงขั้นที่9!!!

” ไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องปิดบังอีกต่อไป!!!… ”

เหิงฟูปลดปล่อยพลังขั้นสูงสุดออกมาก่อนจะหายไปจากสายตาของไป๋หลง..และโผล่มาอีกทีคือด้านหลังของไป๋หลง เหิงฟูปล่อยหมัดที่อัดแน่นก่อเกิดเป็นศรีษะมังกรขนาดใหญ่!!

” หมัดเศียรมังกร!! ”

ไป๋หลงตกตะลึงชั่วครูก่อนจะต่อยสวนกลับด้วยกระบวนท่าราชันย์ที่สาปสูญ

” หัตถ์ราชันย์!! ”

ตู้ม!!

ระดับพลังของไป๋หลงในยามนี้คือ นักรบที่แท้จริงขั้นที่8!! หลังจากไป๋หลงได้กลายเป็นจักรพรรดิ์เงาไปแล้วทำให้ระดับพลังของไป๋หลงเพิ่มพูนขึ้นอย่างมหาศาลจากขั้นเดิมราชันนักรบที่แท้จริงขั้นที่4 แต่ถึงกระนั้นระดับพลังของไป๋หลงยังไม่เสถียรพอ!!

ระดับพลังถึงแม้จะห่างกันหนึ่งขั้นแต่ว่าในแต่ละขั้นพลังจะห่างกันถึง10เท่า!!! ของช่วงพลังซึ้งสาเหตุที่ไป๋หลงยังคงต่อสู้ได้อย่างไม่ลำบากเพราะกระบวนท่าอันพิศดารและวิชาเฉพาะของตนทำให้ไม่เพลี้ยงพล้ำไปตั้งแต่ทีแรก..

เหล่าศิษย์มากมายต่างตกตะลึงกับระดับพลังที่ถูกปลดปล่อยออกมา…

” ระดับพลังขั้นนี้มันไม่แปลกเลยที่พี่ใหญ่จะไม่แสดงอาการเหนื่อยล้าออกมา…เพราะระดับที่ห่างกันเกินไป!!! ”

” ใช่พี่ใหญ่คงเห็นถึงระดับพลังของเผ่ามังกรนั่น…แต่ไม่น่าเชื่อว่าพี่ใหญ่จะปกปิดพลังเอาไว้ตลอดเวลา ”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆดังกระหึ่ม…กังเหอแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงยิ่งกว่าไม่คิดว่าเหิงฟูจะปิดซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้!!!

” กังเหอทีนี้เจ้าเข้าใจรึยังว่าพี่ใหญ่เห็นอะไรในตัว เหิงฟู ” เฉิงซุนกล่าวขึ้นพลางจับจ้องการต่อสู้บนเวที..

” นี้ข้ากับเจ้า..ห่างกันถึงเพียงนี้เชียว ” กังเหอกล่าวอย่างแผ่วเบาแต่ในแววตาราวกับมีบางอย่างถูกจุดประกายขึ้น…

หลังจากหมัดทั้งสองปะทะกันต่างฝ่ายต่างถอยกันไปคนละห้าก้าว..เหิงฟูไม่รอให้ไป๋หลงตั้งตัวระเบิดพลังออกมาจนเป็นคลื่นกดดันให้ไป๋หลงต้องป้องกันอยู่ฝ่ายเดียว!!

เหิงฟูตวัดหางฟาดใส่ไป๋หลงที่กำลังป้องกันอยู่..เมื่อเด็กหนุ่มเห็นเช่นนั้น( จะแทนการเรียกไป๋หลง ว่าเด็กหนุ่มในบางครั้ง) ก็รวบรวมพลังอัสนีสีแดงไว้ที่เท้าระเบิดความเร็วอันเหลื่อเชื่อหลบเลี่ยงหางของของเหิงฟูได้อย่างฉุวเฉียด..ก่อนที่ห่างของเหิงฟูจะฟาดลงไปที่ความว่างเปล่านั่นก็คือพื้นของสนามประลอง..

ตู้ม!!!

พื้นสนามประลองแหลกละเอียดเป็นผุยผง!!

” ทูท่าถ้าข้าหลบไม่พ้นคงจะเป็นเหมือนพื้นตรงนั้นแน่!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นพลางวิเคราะห์บางอย่างก่อนที่ดวงตาจะเบิกโพลน

” ถ้าเจ้าแข็งแกร่งถึงเพียงนี้เหตุใดตอนสอบเข้าเจ้าถึงไม่แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมา? ”

เหิงฟูได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบขึ้น..

” อาจจะเป็นเพราะว่าข้าหมดไฟในการต่อสู้แต่ข้าจดจำทุกประโยคที่ท่านพูดเมื่อก่อตั้งกองกำลัง ปีกสวรรค์ขึ้นข้าก็สาบานจะติดตามท่านไปแล้ว..กองกำลังปีกสวรรค์จะฉีกกระชากโชคชะตา น้คือคำพูดที่ตราตรึงในใจของข้าไปแล้ว!!!เพราะเหตุนี้ข้าจึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องปกปิดพลังเอาไว้อีก!! ”

เหิงฟูกล่าวจบก็สยายปีกกลางแผ่นหลังปีกแห่งมังกรสายเลือดที่แท้จริงย่อมแตกต่างจากสายเลือดธรรมดากลิ่นอายแห่งความดุดันถาโถมเข้ามาสนามประลองสนั่นหวั่นไหวใกล้จะพงทะลายเต็มที

” เห็นทีข้าต้องเอาจริงด้วยซะแล้ว ” ไป๋หลงกล่าวจบก็เร่งเร้าระเบิดพลังทั้งหมดออกมา

นักรบที่แท้จริงขั้นที่8!!!

ไป๋หลงสร้างกระบี่โปร่งใสขึ้นอีกครั้งแต่จำนวนไม่ได้มากกว่าครั้งที่แล้ว เหล่าศิษย์ที่อยู่ด้านล่างเห็นกระบี่โปร่งใสแบบนี้ทีไรกฌอดไม่ได้ที่จะนึกไปถึงตอนนั้น..

หมื่นกระบี่สยบเทวา!!

กระบี่โปร่งใสพุ่งตรงไปหาเหิงฟู…แต่ว่ากระบี่เหล่านั้นมิอาจทำอะไรเหิงฟูได้แม้แต่น้อย!!!

เคร้ง!!

กระบี่ทั้งหมดกระทบเข้ากับเกร็ดมังกรของเหิงฟู…นั้นทำให้เหิงฟูหาได้สนใจไม่เพียงพุ่งเป้าไปที่ไป๋หลงเท่านั้น..

” กะไว้แล้ว…งั้นเรามาจบการต่อสู้นี้กันเถอะ!!! ”

ไป๋หลงกล่าวจบก็ปลดปล่อยเงามืดออกมาปกคลุมไปทั่วทั้งสนามทำให้ภายนอกมิอาจมองเห็นข้างในได้..

” วิชาประหลาดนี้มันอะไรกัน? ” เหิงฟูกล่าวขึ้นพยามจะทำลายเงามืดนี้ด้วยคลื่นพลังแต่ดูเหมือนว่าระดับพลังที่มีไม่มากพอทำให้เพียงแค่สร้างแรงสั่นสะเทือนเท่านั้น..

” มัวสนใจอะไรอยู่ข้าอยู่นี้…” ไป๋หลงโผล่มาจากความมืดในระยะที่เหิงฟูมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้สร้างความตกตะลึงให้กับเหิงฟูเป็นอย่างมาก

ก่อนที่เหิงฟูจะปล่อยหมัดออกมาป้องกันตัวไป๋หลงยื่นมือขวากางนิ้วทั้งห้าออกแตะตรงจุดบ่มพลังก่อนจะวิเคราะห์รูปแบบที่ผนึกพลังของเหิงฟู..ก่อนจะแสยะยิ้ม..

” ผนึกกระจอกๆแบบนี้คิดจะมาผนึกพลังของพี่น้องข้าอย่างงั้นรึ..หายไปซะ!! ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นก่อนจะส่งพลังเข้าไปภายในร่างของเหิงฟู..

เหิงฟูชะงักข้างก่อนจะหยุดหมัดที่กำลังจะถึงตัวไป๋หลงในขณะที่ไป๋หลงไม่ได้เค้นพลังป้องกันออกมาแม้แต่น้อย!!

” นะ..นี้ท่านทำอะไรท่านบ้าไปแล้วรึหากเมื่อกี้ข้าไม่หยุดหมัดเอาไว้ท่านอาจจะบาดเจ็บสาหัสได้เลยนะ!! ” เหิงฟูกล่าวขึ้นด้วยด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิไป๋หลง

ไป๋หลงเพียงปริยิ้มออกมา..

” ก็คงจะเป็นเช่นนั้นฮ่าๆๆ ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นพลางหัวเราะออกมา เพราะถึงยังไงไป๋หลงก็มีพลังในการฟื้นฟูตัวเองในระดับที่ใครรู้แล้วอยากจะฉีกไป๋หลงเป็นชิ้นๆเลยก็ได้

เหิงฟูใบหน้าบิดเบี้ยวในทันที..ทันใดนั้นความรู้สึกราวกับพลังมหาศาลระเบิดออกมาจากภายในร่าง!!

” คลายผนึก!!! ”

” นะ..นี้มันพลังของข้ากำลังยกระดับขึ้น!!! พลังทั้งหมดกำลังถูกปลดปล่อยออกมา.. ” เหิงฟูกล่าวในขณะที่รูปร่างครึ่งมังกรคล่อยๆเปลี่ยนไป เกร็ดจากสีดำ กลายเป็นสีทองคำ!!!

บรรลุระดับพลังราชันนักรบขั้นที่ 1 !!

” ข้าคลายผนึกพลังให้แล้ว..ดูเหมือนว่าพลังของเจ้าจะโดนผนึกมาตั้งนานแล้ว เอาเป็นว่าถ้าอยากรู้อะไรเกี่ยวกับผนึกนั่นก็ค่อยมาหาข้าแล้วกัน แล้วก็ปกปิดระดับพลังและรูปลักษณ์เจ้าซะด้วยมันเด่นเกินไป… ขี้โกงจริงๆเลยเจ้านะแค่ข้าปลดผนึกก็ทะลวงขั้นพลังทันที ข้าไปละ !! ครั้งนี้ถือว่าข้า แพ้ก็แล้วกัน ”

ไป๋หลงกล่าวจบก็สลายเขตแดนจักรพรรดิ์และโดนลงจากเวทีในทันทีทุกสายตาจับจ้องไปยัง เหิงฟู… ไป๋หลงเดินลงมาเองเช่นนี้ก็แปลว่าไป๋หลงยอมแพ้!!

” บะ บ้าน่า พี่ใหญ่แพ้เนี้ยนะ ”

” แต่เมื่อครู่พลังของทั้งสองสูสีกันมากภายในเงามืดพิศดารนั่นต้องเกิดบางอย่างขึ้นแน่!! ”

เหล่าศิษย์มากมายต่างถกเถียงกันไปมา..

เหิงฟูมองไป๋หลงด้วยแววตาที่ยากจะอธิบายเรื่องราวในอดีตทั้งหมดผ่านเข้ามาภายในความคิด ทั้งการดูถูก ข่มเหง กระถูกกีดกันเพราะไร้พลัง บัดนี้ผู้ที่ทำให้หนทางอันมืดมิดถูกเติมเต็มด้วยแสงสว่าง

” พี่ใหญ่..ข้าสาบานจะติดตามท่านไปทุกหนแห่ง ชีวิตข้าเป็นของท่าน!!! ” เหิงฟูกล่าวจบก็เอาหัวโขกพื้นจนสนามประลองพังทะลายในทันที!!!

ไป๋หลงหันกลับมาก่อนจะปริยิ้มอ่อน..

” เอาละ พรุ้งนี้เริ่มการฝึกแบบพิเศษได้!! ” ไป๋หลงกล่าวจบก็ลากอู้เฉียงกลับเข้าไปในที่พักในทันที

ผ่านไปสักระยะเสียงร้องโหยหวนดังออกมาเป็นระยะ..แม้แต่ศิษ ที่ยังอยู่ต่างรับรู้ได้ถึงบางอย่างที่น่ากลัวแม้แต่หญิงสาวที่ชอบไป๋หลงยังอดไม่ได้ที่จะเป็นกัวล

” ม่ายยยยยยยยยยยยย!!! ”

จบ…

ระดับพลังของไป๋หลงคือ นักรบที่แท้จริงขั้นที่8

ระดับพลังของอู้เฉียงคือ นักรบที่แท้จริง ขั้นที่ 1 แต่ด้วยอู้เฉียงเพิ่มพลังโดยการใช้สมุนไรเก้าจันทราทำให้มิอาจยกระดับพลังได้อีกภายในครึ่งปี ในตอนที่ 106

ส่วนคนอื่นๆไรท์จะมาลงให้นะจ้ะ

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท