เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่120 แตกต่าง 3 จบ

ตอนที่120 แตกต่าง 3 จบ

สองสาวงามกับกองกำลังหญิงสาวนับร้อยคนต่างมาถึงหน้าสถานที่ตั้งกองกำลังของไปหลงที่ยามนี้ถูกดัดแปลงและเสริมแต่งจนมีขนาดใหญ่ขึ้นจากเดิมคล้ายกับเป็นสำนักขนาดใหญ่ก็ไม่เชิง…โดยที่ด้านประตูทางเข้ามีศิษย์อยู่เพียง3คนเท่านั้น..ซึ้งก็คือเหิงฟู กังเหอ รวมถึงจางลี่ผู้ที่มีสติปัญญาอันเฉียบขาดเป็นจุดเด่น…

ซึ้งแน่นอนการเคลื่อนไหวกองกำลังขนาดใหญ่เชนนี้ย่อมเป็นที่จับตามองจากกองกำลังอื่นเช่นกันส่วนอาจารย์ก็แอบลอบมองสังเกตุการณ์เผื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น..

” นั้นมันกองกำลังหงส์ฟ้านิ..มาทำอะไรในที่แห่งนี้กัน ”

” ข้าก็ไม่รู้ดูท่ากองกำลังที่เอามาด้วยคงไม่ใช่เอามาเล่นๆเป็นแน่.. ”

เหล่ากองกองกำลังและศิษย์สายนอกที่อยู่ในเหตุการณ์แต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้กว่านี้เพราะอาจจะพลอยโดนหางเลขไปด้วย…

” หนึ่งในแกนนำทั้งสิบก็มาด้วยเช่นนี้ดูท่าจะไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว ”

ขณะนั้นเองเหิงฟูก็กล่าวถามขึ้นด้วยความฉงนแต่ก็มิได้กังวลถึงกองกำลังเหล่านี้แม้แต่น้อย..

” พวกท่านมาทำอะไร? แล้วเหตุใดถึงขนเอากองกำลังขนาดนี้มาด้วย!!! ”

เหิงฟูกล่าวพลางสำรวจระดับพลังกองกำลังเหล่านี้..

” ส่วนใหญ่อยู่นักรบที่แท้จริงขั้น3 เกือบทั้งสิ้นแต่สองสตรีนางนี้..แข็งแกร่งใช่เล่นคงต้องระวังตัวเอาไว้หน่อยแล้ว ”

เหิงฟูกล่าวขึ้นกับตนเองพลางดูท่าที..ก่อนที่เหมยชาจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงสงบนิ่ง…

” ข้ามาหา..คนที่ชื่อว่าไป๋หลงหลีกทางให้พวกเราเข้าไปเดี๋ยวนี้!! ”

เมื่อเหิงฟู กังเหอ รวมถึงจางลี่ได้ยินเช่นนั้นก็คิดได้เหมือนกันในทันที…หากสตรีสองนางนี้รวมถึงกองกำลังเหล่านี้เข้าไปได้เกิดเรื่องใหญ่แน่!!!

” เห็นทีคงจะไม่ได้ตอนนี้..พี่ใหญ่ของเรากำลังภารกิจบางอย่างไม่สามารถออกมาพบเจอพวกท่านได้ในตอนนี้..ไว้พี่ใหญ่เสร็จสิ้นภารกิจ ข้าจะบอกท่านอีกครั้งนึง.. ” จางลี่กล่าวพลางอธิบายพร้อมยกเหตุผลแต่ดูเหมือนว่าจะไร้ประโยชน์

ยามนี้อู้เฉียงก็เข้าไปฝึกพลังในกล่องย่นเวลา!!! ( ตอนที่ 119 ) ไม่คาดคิดว่าเมื่อพี่ใหญ่อย่างไป๋หลงและพี่รองอย่างอู้เฉียงจะไม่อยู่ในสถานการณ์เช่นนี้…

” พวกท่านไม่มีสิทธิเข้ามาภายในกองกำลังของพวกเรา..พวกท่านกลับไปเสียเถอะ!! ” เหิงฟูกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เริ่มมีโทสะเล็กน้อยเห็นได้ชัดว่าสตรีสองนางนี้มิได้มีความเคารพแก่กันเลย!!!

เหล่าศิษย์หญิงนับร้อยที่ติดตามมาด้วยได้ยินเช่นนั้นก็พลันเดือดดาลในทันที…

” นี้เจ้ากล้าดียังไง!! ไม่รู้รึไงว่าสองท่านนี้เป็นใครถึงกล่าววาจาสามหาวเช่นนั้นออกมา ”

” ศิษย์พี่ให้ข้าออกไปสั่งสอนมันผู้นี้ด้วยเถอะ..ข้าจะทำให้ันคุกเข่าขอชีวิตจากศิษย์พี่!! ”

เหมยชายกมือห้ามปรามก่อนจะฉายแววตาอันเย็นเฉียบไปที่เหิงฟู…

” ข้าจะแนะนำตัวเองอีกครั้งตัวข้าคือ เหมยชา หัวหน้ากองกำลังหงส์ฟ้า!! และนี้พี่ข้าเหมยหลินหนึ่งในแกนหลักทั้งสิบ!!! แห่งศิษย์สายนอก พวกเรามาเพื่อพบ หัวหน้าของพวกเจ้าเท่านั้นหาได้ต้องการ ต่อสู้ไม่ แต่หากพวกเจ้ายังไม่หลีกทางให้..ข้าคงต้องทำตามที่เห็นสมควร!! ”

เหิงฟูได้ยินเช่นนั้นก็หดนัยน์ตาแคบลงทันที..เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายไม่ได้สนใจคำพูดของฝ่ายตนแม้แต่น้อย!!

” ข้าบอกแล้วว่า..ไม่ได้!! ” เหิงฟูประกาศกร้าวขึ้นก่อนที่จะฉายแววตาแข็งกร้าว..แม้เหิงฟูจะรับพลังสูงส่งเพียงใดแต่ก็มิอาจประมาทสองพี่น้องคู่นี้ได้..นี้อาจจะเป็นสัญชาตญาณของเผ่ามังกรก็เป็นได้!!!

เหมยหลินที่นิ่งเงียบอยู่นานกล่าวพลางยกยิ้มอันมีเสน่ห์แต่แฝงไปด้วยเลศนัยบางอย่าง..

” ดูท่าหลังประตูบานนั้นคงจะเก็บความลับบางอย่างไว้สินะ..เช่นนั้น ” เหมยหลินกล่าวจบก็ทะยานร่างอันรวดเร็วเพื่อที่จะก้ามประตูขนาดใหญ่บานนี้ไปด้วยความเร็วเช่นนี้ต่อให้เป็นระดับพลังเดียวกันก็มิอาจไล่ตามทันแต่…

ระหว่างนั้นเองตอนที่เหมยหลินแสยะยิ้มกำลังจะก้าวข้ามไปได้มีร่างขนาดมหึมาด้วยใบหน้าและตัวเต็มไปด้วยเกร็ดสีดำ ลอยอยู่กลางนภาพร้อมกับแววตาที่แข็งกร้าว..

” ข้าเตือนท่านแล้ว!!! ” เหิงฟูกล่าวจบก็ระเบิดพลังออกมาเกิดเป็นคลื่นอัดกระแทกใส่เหมยหลินจนต้องถอยล่นลงไปเบื้องล่างเช่นเดิม!!

” ความเร็วนั้นมัน…เจ้าเป็นเผ่ามังกร!! ” เหมยหลินกล่าวด้วยความตกตะลึงเล็กน้อยก่อนจะกลับมาสงบสติได้อีกครั้ง

” ไม่คิดเลยว่าเจ้าจะยอมสวามิภักดิ์แก่มนุษย์…ดูท่าไป๋หลงผู้นั้นจะไม่ธรรมดาเสียแล้วไป ”

เหมยชากล่าวขึ้นพลางขมวดคิ้วแนบแน่น..เหล่าศิษย์หญิงต่างแสดงสีหน้าวิตกเล็กน้อย..เพราะเผ่ามังกรถือว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นสูงและความรู้สึกที่สัมผัสได้ยัง…

” ใจเย็นก่อนเหิงฟู..การทำเช่นนี้อาจทำให้เกิดผลกระทบในอนาคตได้ทางที่ดีเราต้องถ่วงเวลาให้พี่ใหญ่ออกมาด้วยตนเอง!! ”

” ใช่แล้ว ”

จางลี่และกังเหอกล่าวอธิบายขึ้นให้เหิงฟูลดโทสะลงเล็กน้อย…แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่ายๆ

” ในเมื่อพวกเจ้าทำเช่นนี้เราก็จะไม่ปราณีอีกต่อไป…หากพวกเจ้าเป็นอะไรขึ้นมาอย่ามาหาว่าพวกข้าโหดร้ายก็แล้วกัน ”

เหมยชาสั่งกองกำลังกองตนให้แยกออกเป็นสองฝั่งซ้ายขวาค่อยๆโอบล้อมพวกเหิงฟู…

” ดูท่าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปฝ่ายเราต่างหากที่จะโดนเล่นนงาน…งั้นจางลี่เจ้าเข้าไปตามพี่ใหญ่ข้าและกังเหอะจะต้านพวกนี้ไว้เองแม้ไม่ชนะแต่ก็พอจะถ่วงเวลาได้รีบไป!!! ”

จางลี่แสดงสีหน้าปั้นยากเพราะตนนั้นแม้จะไม่เชี่ยวชาญด้านการต่อสู่แต่การทิ้งพรรคพวกไว้ด้านหลัง..ตายเสียยังดีกว่า!!

” ไม่ขืนข้าไปพวกเจ้าสองคนต้านได้ไม่ถึง100ลมหายใจ ข้าแม้ไม่เก่งด้านการต่อสู้แต่ข้าสามารถช่วยสนับสนุนพวกเจ้าได้!!! ”

เหิงฟูและกังเหอได้ยินเช่นนั้นต่างปริยิ้มออกมา..

” ข้าให้โอกาสเจ้าไปแจ้งพี่ใหญ่แล้วนะ..แต่นี้สิสมเป็นคนที่พี่ใหญ่เชื่อใจ!!! ”

เหิงฟูเดินมาข้างหน้าหนึ่งก้าว..ก่อนจะฉายแววตาเปล่งประกายออกมาบรรยากาศรอบๆสั่นไหวราวกับโดนฉีกกระชากออก..

ตู้มม!!!

” ราชันย์นักรบขั้นที่1!! ” เหิงฟูไม่ปิดบังพลังที่แท้จริงอีกต่อไป..เหล่าสตรีนับร้อยต่างถอยห่างไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวเพราะความห่าวของระดับพลัง..

เหมยหลินและเหมยชาเบิกตากว้างขึ้น..

” ไม่คิดเลยว่าจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้..เทียบได้กับศิษย์สายหลักบางคนแต่เมื่อเราพี่น้องอยู่พร้อมหน้ากันคงต้องให้ชนชั้นจักรพรรดิเท่านั้นถึงจะเอาพวกเราอยู่!!! ”

เหมยหลินและเหมยชามิได้แสดงอาการวิตกกังวลออกมา..กลับแสยะยิ้มขึ้นมาพร้อมกันเสียด้วยซ้ำ!!

” บ้าน่ามีสัตว์ประหลาดเช่นนี้ในศิษย์สายนอกด้วยเช่นนั้นรึ!! ”

” แต่ดูเหมือนว่าท่านเหมยหลินและเหมยชากำลังจะทำบางอย่าง…นะ..นั้นมัน!! ”

เหล่าผู้คนที่จับตาอยู่ต่างเบิกตากว้างเพราะทั้งสองคนกำลังเรียกใช้ศาสตร์ตราจิตวิญญาณ!!

เหิงฟูแม้อยู่ชนชั้นราชันนักรบ กลับต้องสั่นไหวเพราะอาวุธที่อยู่ในมือของทั้งสองคน..

” นั้นมัน!!! ”

…………………………………………………………………………

ภายในห้วงจิตวิญญาณของไป๋หลง..มีดาบสองเล่มลอยเขว้างขว้างอยู่รอบตัวไป๋หลงโดยดาบเล่มสีดำไป๋หลงรู้สึกผูกพันธ์อย่างบอกไม่ถูกส่วนดาบเล่มสีขาวให้ความรู้สึกอันอบอุ่นและโหยหา!!

” นี้มันอะไรกันดาบทั้งสองเล่มนี้อยู่ๆก็โผล่ขึ้นมาซะงั้น…ท่านรู้รึป่าวว่าดาบทั้งสองเล่มนี้โผล่ขึ้นมาได้อย่างไร ” ไป๋หลงเอ่ยถามเทพองค์เดิมที่ไม่เคบปริปากพูดกับไป๋หลงแม้แต่น้อย..

” กระบวนท่าที่ท่านสอนข้าเมื่อครู่…มัน ” ไป๋หลงยังเอ่ยไม่ทันจบอยู่ๆก็รู้สึกไม่ดีอย่างรุนแรงราวกับหัวใจของตนกำลังสูญเสียบางอย่างไป!!

” หรือว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น!! ”

…………………………………………………..

” ไม่เลว..อุตรส่าต่อต้านพวกเราสองพี่น้องได้ถึงเพียงนี้..แต่ดูเหมือนว่าพลังอย่างเดียวจะไม่ใช่ทุกสิ่ง!! ”

เหมยหลินกล่าวพลางถือกระบี่เล่มหนึ่งสีน้ำเงินเข้ม…และเหมยชาถือกงจักรสีดำขนาดใหญ่หมุนไปมาราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย..

เหิงฟูยังคงยืนหยัดแม้จะมีบาดแผลยาวตั้งแต่หัวไหล่ลงมา..และบาดแผลที่ลึกอีกหลายแห่งแต่ด้วยพลังชีวิตและพลังกำลังอันมหาศาลเป็นทุนเดิมอยู่แล้วทำให้เหิงฟูยังคงยืนหยัดอยู่ได้…

กังเหอในร่างครึ่งมังกรก็มิได้มีสภาพต่างไปจากกัน..ผิดกับจางลี่ที่รับการโจมตีครั้งสุดท้ายแทนกังเหอจนบาดเจ็บสาหัส!!

และสาเหตุที่แค่3คนเท่านั้นที่ยืนหยัดต่อสู้อยู่เพราะทั้งหมดนั้นต่างอยู่ใน กล่องย่นเวลา ที่ไป๋หลงสร้างไว้แม้ภายนอกจะเป็นกล่องสีดำขนาดใหญ่ไม่มากแต่พื้นที่ข้างในนั้นกว้างใหญ่จนไม่อาจคาดเดาได้!!

ประตูบานใหญ่ไร้ลอยขีดข่วนแต่ทั้งสามคนกำลังอยู่ในสถานะที่ถ้าโดนการโจมตีอันหนักหน่วงเข้าอีกครั้งสองครั้งก็อาจจะต้องเสียท่าก็เป็นได้โดยที่เหล่าศิษย์หญิงนับร้อยเพียงคุมเชิงเท่านั้น…

” เอาละ..จบสิ้นเสียที ” เหยชากล่าวขึ้นก่อนจะปากงจักรสีดำทมิฬแฝงไว้ด้วยพลังอันพิศดารที่ผู้ใดถูกสร้างบาดแผลพละกำลังจะถูกลดทอนลงและการป้องการทุกอย่างจะไร้ผลเมื่ออยู่ต่อหน้ากงจักรทมิฬ…ไม่มีการป้องกันใดที่กงจักรทมิฬจะฝ่าไม่ได้…

“จงโทษความอ่อนแอและโอหังของเจ้าเสียเถอะ….กงจักรสูบวิญญาณ!! ”

กงจักรสีดำทมิฬถูกขว้างออกมาพร้อมกับไอสีดำที่ประทุออกมา…เหิงฟูฟืนร่างกายเร่งเร้าพลังเพื่อป้องกันการโจมตีครั้งนี้…อาจารย์ที่เฝ้าสังเกตุการณ์เห็นท่าไม่ดีกำลังจะเข้าช่วยเหลือทันใดนั้น…ก่อนที่กงจักรจะเข้าถึงตัวของเหิงฟู..

ตู้ม!!!!

บางสิ่งบางอย่างคล้ายกับร่วงลงมาจากท้องนภา..ก่อนที่กลุ่มควันจะหายไปปรากฏเด็กหนุ่มผู้หนึ่งดวงตาสีแดงโลหิตเส้นผมสีดำมันขรับรูปร่างองอาจเปร่งประกายรัศมีบางอย่างที่ยากจะอธิบายออกมาโดยที่ภายในมือขวากำลังถือกงจักรสีดำขนาดใหญ่อยู่…โดยที่มือข้างขวาของไป๋หลงที่กำลังกำกงจักรสีดำไว้ด้วยพละกำลังที่มิอาจคาดเดาได้พร้อมกับโลหิตสีแดงไหลหยดลงพื้น..ท่ามกลางความตกตะลึงของสายตานับร้อย!!!

ไป๋หลงปากงจักรกลับไปด้วยความเร็วที่มิอาจมองเห็นกงจักรสีดำทมิฬพุ่งผ่านหน้าเหมยชาไป..ราวกับไป๋หลงจงใจให้เป็นอย่างงั้น

ตู้มม!!

กงจักรสีดำปักเข้ากับฝาผนังที่สร้างด้วยศิลาที่คงทนที่สุดแต่ยามนี้กลับปริแตกเป็นทางยาว…เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนทุกคนในที่นี้ต่าง..สับสนและวิตกกังวล เหมยชาและเหมยหลินต่างแสดงสีหน้าที่ไม่เคยเป็นมาก่อนโดนเฉพาะเหมยชา..ที่ยามนี้กำลังสั่นกลัวโดยไม่มีสาเหตุ!!

” พี่ใหญ่!!! ”

” พี่ใหญ่!! ”

เหิงฟูและกังเหอกล่าวขึ้นพร้อมกันก่อนจะทอดร่างนอนลงบนพื้นราวกับว่าศึกครั้งนี้ไม่มีอะไรต้องกังวลอีกต่อไป!!

ไป๋หลงเพียงเหลียวหันไปมองทั้งสามคนโดยเฉพาะจางลี่ที่บาดแผลนั้นถือว่าสาหัสเป็นอย่างมากแต่ยังไม่ถึงแก่ชีวิต..

” กล้าดีนี่!! ” ไป๋หลงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา ก่อนจะยกเท้าข้างขวาขึ้นก่อนจะกระทืบลงบนพื้นอย่างแรง.

ตู้ม!!!!

พื้นศิลาแตกละเอียดเป็นฝุ่นผงแสดงให้เห็นถึงพละกำลังที่มากเกินมนุษย์ทั่วไปเหล่าสตรีนับร้อยต่างล้มลงด้วยแรงสั่นไหวที่ไป๋หลงสร้างขึ้น..

ไป๋หลงค่อยๆหยิบบางอย่างออกมาจากความว่างเปล่าเป็นตรีศูลสีแดงโลหิตขนาดใหญ่ออกมา..ก่อนจะชี้ตรีศูลสีแดงโลหิตไปยังสองพี่น้องเหมยหลินและเหมยชา..ซึ้งที่ไป๋หลงใช้ครั้งนี้ก็คือ..

” ตรีศูลดับสุริยันต์!! ”

ไป๋หลงฉายแววตาอันเย็นเฉียบออกมาก่อนจะกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา…

” เข้ามา!!! ”

จบ…

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท