เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่125 ผู้พิทักษ์ 1

ตอนที่125 ผู้พิทักษ์ 1

หลายวันผ่านไปในที่สุดหอคอยเทพสถิตก็เปิดออกให้เหล่าศิษย์ภายในสถาบันต่างเก็บเกี่ยวผลประโยชน์อย่างสูงสุด..ทรัพยากรที่มิอาจประเมินค่าได้และสมุนไพรล้ำค่าต่างๆเป็นเป้าหมายแรกที่เหล่าศิษย์ต่างหมายตา…

เว่ยเว่ยมิได้สร้างกองกำลังของตนเองแต่กลับมีเหล่าสตรีมากมายยินดีติดตามมาด้วย..ทำให้ตอนนี้เว่ยเว่ย เป็นจักรพรรดินีอย่างสมบูรณ์แบบจากกำลังคนที่ติดตามเว่ยเว่ยมา…

แต่ด้วยอุปนิสัยของเว่ยเว่ยจึงไม่ได้ใส่ใจกับรายละเอียดเหล่านี้สิ่งเดียวที่นางต้องการคือไป๋หลง!!

เวลานี้แม้เป็นยามรุ่งสางแต่กลับพลุกพล่านไปด้วยเหล่าศิษย์ทุกชั้นปี…หอคอยสีขาวขนาดใหญ่สูงเสียดฟ้า มีทั้งหมด200ชั้น..ในแต่ละชั้นจะมีผู้พิทักษ์อยู่..ตั้งแต่ชั้น1 จนถึง 200 ผู้พิทักษ์จะแข็งแกร่งตามระดับชั้น…

เหมยหลินและแกนนำทั้งสิบที่เหลือต่างจับตาดูบางอย่าง..พร้อมกับสั่งให้กองกำลังของตนเฝ้าดูไว้เช่นกัน…

ยามนี้กองกำลังทั้งหมดกำลังทยอยเข้ามาเรื่อยๆ..เหล่าศิษย์หลักต่างพบปะพูดคุยกัน..ระดับพลังของทุกครถูกปกปิดไว้ด้วยอะไรบางอย่างซึ้งแน่นอนว่าเป็นเรื่องปกติ…

” นะ..นั้นมัน เหมยหลินพวกเราหลีกทางเร็ว!! ”

” ศิษย์ต้องห้าม..เข้าร่วมแถมยังมาเร็วกว่าเวลาที่กำหนดแบบนี้มันแปลกเกินไปแล้ว!! ”

“เรื่องนั้นจะเป็นยังไงก็ชั่ง..อย่าหาเรื่องใส่ตัวเป็นดีที่สุด ”

เหล่าศิษย์มากมายต่างหลีกทางให้กับเหมยหลิน!!!

แม้นางจะไม่มีกองกำลังเป็นของตนแต่นางมีกำลังสามารถทำลายกองกำลังได้เพียงตัวคนเดียว!! ด้วยระดับพลังที่น่าตกใจ..อีกทั้งเพราะ เหมยหลินเป็นมารชั้นสูง!!!

” ไงไม่ได้เจอกันนาน..ความงดงามของเจ้าก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน ” เสียงของชายผู้หนึ่งสวมใส่เครื่องแบบอันเป็นเอกลักษณ์ของกุ่มศิษย์หลัก..

เหมยหลินชายตามองแต่ก็มิได้เอ่ยสิ่งใด..

” เย็นชาจริงๆ…จะมีผู้ใดทำให้หัวใจของเจ้าต้องสั่นไหวได้บ้างกันนะ!! ”

ซึ้งแน่นอนชายหนุ่มดังกล่าวมิได้สนใจเหมยหลินแต่มักจะแกล้งพูดแบบนี้เป็นประจำตอนเจอหน้า..เหมยหลินก็เปรียบเสมือนเป็นน้องสาวของตน..ถึงแม้อีกฝ่ายจะไม่สนใจก็ตาม

แต่ผลลัพธ์ที่ได้กลับทำให้ชายคนนี้ต้องแข็งค้างเพราะเหมยหลินกำลังแสดงสีหน้าที่ต่างออกไปจากเดิม..

” นะ..นี้เจ้า!! ”

…………………………….

ในที่สุดเหล่าศิษย์แกนนำหลักแห่งสถาบันเทพมานก็มาถึง..สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้พบเห็นเป็นจำมาก…แต่ที่ไม่เห็นก็มีเพียงเผ่าเทพเท่านั้นโดยปกติแล้วเผ่าเทพนั้นจะไม่มายุ่งเกี่ยวกับความวุ่นวายเช่นนี้..แม้ไม่เข้าร่วมแต่ทรัพยากรที่เผ่าเทพได้รับก็มีมากอยู่แล้วนี้จึงไม่มีเหตุจำเป็นที่เผ่าเทพต้องมาด้วยตัวเอง…

ไม่นานไป๋หลงก็เดินทางมาถึงพร้อมกับสมาชิกทั้งหมด30คน!! แน่นอนว่าการที่ไป๋หลงมาถึงก็กลายเป็นที่จับจ้อง..แต่ถึงกระนั้นที่น่าแปลกคือไม่มีใครในที่นี้ระบุพลังของไป๋หลงได้เรือแม้แต่เหล่าสมาชิกภายในกองกำลังก็ตาม!!!

” น่าแปลกทางศิษย์ที่พึ่งเข้าใหม่น่าจะไม่มีทรัพยากรที่ล้ำค่าเพียงพอ..แต่ทำไม่ ”

แกนหลักบางคนเอ่ยขึ้นด้วยความสงสัย..ไม่นานหลังจากไป๋หลงมาถึงราวกับเว่ยเว่ยสัมผัสถึงการมาของไป๋หลงได้ก่อนจะฉายแววตาเป็นประกายหายไปจากพื้นที่ตรงนั้นก่อนจะมาโผล่ตรงหน้าไป๋หลงด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ!!!

” ปะ ป๋า!!! ”

เว่ยเว่ยพุ่งเข้ามาสวมกอดไป๋หลงในทันที..เหลือไว้เพียงความตกตะลึงของผู้คนรอบข้างจักรพรรดินีกำลังสวมกอดผู้ชายนี้มันเรื่องบ้าอะไรกัน!! ไม่เว้นแม้แต่เหล่าศิษย์ที่ติดตามไป๋หลงมาบ้างเขิลอาย..บ้างตกตะลึง

” พะ..พี่ใหญ่นี้ท่านมีลูกแล้วอย่างงั้นรึ..แถมยังเป็นสาวงามอีกด้วย!!! ” เหิงฟูกล่าวขึ้นด้วยความตกตะลึง

” เจ้าคิดว่าข้าอายุเท่าไหร่กัน!! ” ไป๋หลงเอ่ยขึ้นพลางลูบหัวเว่ยเว่ย..

กังเหอ..จางลี่ เหิงฟู รวมถึงเฉิงซุนต่างก้มหน้าต่ำก่อนจะเกาหัวแล้วยิ้มแห้งๆออกมา..

” ดูท่าจะสบายดีนะ..เป็นไงคงไม่ทำให้ใครเขาเดือดร้อนหรอกนะ ” ไป๋หลงเอ่ยถามขึ้นด้วยความเอ็นดู

” ไม่เลยเว่ยเว่ยเป็นเด็กดี..ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน..ปะป๋าอุ้มๆๆ!! ”

เว่ยเว่ยกล่าวพลางอ้าแขนให้ไป๋หลงอุ้มขึ้นไป..ไป๋หลงส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะอุ้มไป๋หลงขึ้นมาไว้บนบ่าของตน…เหล่าศิษย์มากมายต่างตกตะลึงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น…ไม่เว้นแม้แต่เหมยชาที่แสดงใบหน้าที่สับสนออกมา..

” ความสัมพันธ์ของทั้งคู่..เป็นแบบไหนกันแน่

!!” เหมยชากล่าวพลางกัดลิมฝีปาก

……………………………………………

ไม่นานเหล่าผู้อาวุโสก็มา..พร้อมกับทำการเปิดประตูหอคอย…

” เอาละ..ในเมื่อพวกเจ้าพร้อมแล้วข้าก็จะทำการเปิดประตูหอคอยเทพสถิต ณ บัดนี้!! พวกเจ้าเมื่อเข้าไปแล้วจะเจอกับสภาพภูมิอากาศ..และขอให้พวกเจ้าจงตระหนักไว้ว่าหากตายในนั้นขึ้นมาก็คือ จะตายจริงๆ!! ในแต่ละชั้น..ข้อมูลตรงนี้ข้าไม่ต้องบอกเพราะพวกเจ้าก็น่าจะศึกษามากันอยู่แล้ว..ยิ่งสูงยิ่งอันตราย..จำไว้ถ้าคิดว่าไม่ไหวก็อย่าฝืนจงกลับออกมาผ่านประตูในแต่ละชั้นที่ตั้งไว้…และจงอย่าประมาทเด็ดขาด ”

ผู้อาวุโสที่กล่าวอยู่ก็คือผู้อาวุโส12..ที่เคยติดหนี้ค้างกับไป๋หลงอยู่..

ตึง!!!

ประตูขนาดใหญ่ถูกเปิดออกเหล่ากองกำลังบางส่วนเริ่มทยอยเข้าไปแล้ว..เหล่าสตรีที่ติดตามเว่ยเว่ยมาต่างรอคอยเว่ยเว่ยอย่างใจจดจ่อแม้ทุกคนจะไม่รู้จักบุรุษผู้นั้นแต่เห็นได้ชัดว่ามีความสัมพันธ์แบบไหน…

” เว่ยเว่ยจะตามปะป๋าไปด้วย!! ”

ไป๋หลงได้ยินเช่นนั้นก็กล่าวตอบกลับมาในทันที..

” ไม่ได้..ลูกต้องปกป้องพวกเขา ที่นับถือในตัวลูก..พ่อก็มีหน้าที่ของพ่อที่ต้องทำ ไว้เราค่อยเจอกันภายในหอคอยก็ได้..อีกอย่างอย่าดื้อเชื่อฟังเก๋อเก๋อนะ..เข้าใจไหม ”

” แต่ว่า… ”

ไป๋หลงลูบหัวเว่ยเว่ยที่กำลังมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาคู่น้อยๆ..

” ไว้จบนี้แล้วพ่อจะพาเว่ยเว่ยไปซื้อของกิน..แล้วก็เที่ยวด้วยกันนะ ”

เว่ยเว่ยได้ยินเช่นนั้นก็ปาดน้ำตาก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงใสแจ้ว..

” จริงๆนะ..งั้นเว่ยเว่ยขอตัวก่อนรักปะป๋าที่สุดเลย!! ”

เว่ยเว่ยกล่าวจบก็หอมแก้มไป๋หลงก่อนจะวิ่งกลับไปยังทิศทางเดิม..ทิ้งไว้เพียงความตกตะลึง..

” แหะๆ..ข้าว่าท่านก็น่าจะเป็นพ่อที่ดีได้นะ ” จางลี่กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ขบขันหลังจากฟื้นตัวจากบาดแผลได้ไม่นาน..

” อย่าลืมที่ข้าบอก มีอยู่ 3 ข้อที่ต้องละลึกไว้ ห้ามตาย!!! ถ้าคิดว่าจะตายให้หนีไปซะ!! และ ซ่อนตัวในเงามืด เฝ้ารอเวลา เมื่อพร้อมก็บดขยี้พวกมันให้หมด!!!! ”

ไป๋หลงกล่าวจบก็เดินเข้าไปภายในหอคอยเทพสถิตพร้อมกับกองกำลังกองตนเอง..พร้อมกับเว่ยเว่ยที่เดินตามาพร้อมกับเหล่าสตรี..

ก่อนที่ประตูจะปิดลงมีบางอย่างกำลังพุ่งเข้าผ่านประตู…ผู้อาวุโสที่ทำหน้าที่คอยเฝ้าบริเวณประตูหอคอยเมื่อเห็นเช่นนั้นเตรียมการป้องกันแต่..ด้วยความต่างชั้นของพลังมีมากเกินไป..

” หลีกไป..มนุษย์!! ”

ตู้ม!!!

เหล่าผู้อาวุโสต่างกระอักเลือดออกมา..พร้อมกับพลังภายในที่ปั่นป่วนทั้งๆที่ พวกตนนั้นอยู่ระดับจักรพรรดิ์ทั้งสิ้น!!!…ผู้อาวุโสทั้งหมดต่างใบหน้าขาวซีด

” นั้นมันอะไรกัน!!! ”

จบครึ่งแรกก

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท