เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 349 เทพมารมลายสูญ 2

ตอนที่ 349 เทพมารมลายสูญ 2

ใต้ท้องสมุทร…

บัดนี้นั้นมหาสมุทรด้านล่างกำลังเกิดการปั่นป่วนจนเหล่าสัตว์อสูรทะเลต่างพากันหลีกหนีพื้นที่ตรงส่วนนนั้นทั้งหมด..

มองลึกลงไปจะได้ว่ามีเด็กหนุ่มและหญิงสาวกำลังต่อสู้กันอยู่ที่ก้นสมุทร!!

“ ข้าบอกเจ้าแล้วไงอู้เฉียง ใส่พลังออกมาให้เต็มที่พร้อมกับตรึงม่านพลังคุ้มกายเอาไว้ในเวลาเดียวกันหากเจ้าจิตใจไม่มั่นคงเจ้าจะถูกแรงบีบอัดของมวลน้ำระเบิดร่างเจ้าออกเป็นเสี่ยงๆแม้เจ้าจะเป็นอัมตะ..แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวด เชื่อข้าสิ การถูกระบาดร่างด้วยแรงดันน้ำมหาศาลแบบนี้มันไม่น่าพิศมัยนักหรอก..หากเจ้าต้องการที่จะแข็งแกร่งขึ้นก็ทำให้ข้าขยับจากตรงนี้ให้ได้สิ ”

เมดูซ่ากล่าวด้วยท่าทีเรียบนิ่งพร้อมกับยืนอยู่ที่พื้นก้นสมุทร..กลับกันนั้นอู้เฉียงราวกับว่าร่างกายถูกกดทับอยู่ตลอด ยิ่งเคลื่อนไหวก็ยิ่งถูกมวลน้ำมหาศาลกดทับ ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ…

พลังของเมดูซ่าทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบนั้นเต็มไปด้วยแสงสว่าง..โดยปกติแล้วนั้นก้นทะเลจะดำมืดสนิทยกเว้นก็แค่แสงสว่างจากในโดมขนาดใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร..

สัตว์อสูรทะเลต่างไม่กล้าเข้าใกล้พื้นที่บริเวณนี้เพราะสัมผัสได้ถึงความน่าเกรงขามและน่าขนลุกในเวลาเดียวกัน…จากตัวเมดูซ่า

อู้เฉียงรวบรวมพลังเปลวเพลิงออกมาแต่ทว่าเมื่ออยู่ใต้พื้นน้ำมิหนำซ้ำยังอยู่ในจุดที่ลึกที่สุดทำให้ธาตุไฟนั้นแทบจะถูกกดทับจนหมด..จนไม่อาจสำแดงพลังออกมาได้..

เหลือเพียงแค่เปลงเพลิงเล็กๆคล้ายกับเชิงเทียนที่ใกล้จะมอดดับลงแต่ทว่า…

“ อู้เฉียงข้าขอแนะนำเจ้าหนึ่งอย่าง เจ้าคิดดูให้ดี เปลวเพลิงและพลังที่เจ้าคลอบครองอยู่นั้นหาใช่เปลวเพลิงธรรมดา แต่มันคือเปลวเพลิงที่เกิดจากพลังวิหคสวรรค์ภายในตัวเจ้า เพียงแค่อยู่ใต้น้ำและสถาการณ์เช่นนี้ทำให้พลังของเจ้าจึงไม่อาจเปล่งประกายได้…เจ้าคิดเช่นนั้นจริงๆหรือ..”

อู้เฉียงที่ได้ยินเช่นนั้นก็ราวกับว่ารับรู้ได้ถึงพลังบางอย่างที่อยู่ภายในร่างที่ราวกับว่ามันกำลังกรีดร้อง…เป็นพลังแห่งสายเลือดที่กำลังถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาภายใต้สถานการณ์คับขัน..

พลังแห่งสายเลือดของผู้พิทักษ์ตระกูลเว่ยแห่งนครอันธกาล!!

“ มิติทมิฬ.. ”

ขณะนั้นเองอู้เฉียงก็สลายพลังคุ้มกายทั้งหมดออก เมดูซ่าที่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อดไม่ได้ที่จะแสดงสีหน้าตื่นตะลึงออกมาอย่างเห็นได้ชัด..

“ นี่มัน..พลังแบบเดียวกับตอนนั้น..ไม่สิ นี่มัน… ”

อู้เฉียงในตอนนี้ถูกออร่าทมิฬรอบตัวคุ้มกายเอาไว้แทน..ร่างกายเบาหวิวราวกับขนนกสามารถวิ่งเล่นใต้ท้องทะเลได้อย่างอิสระท่ามกลางมวลน้ำมหาศาลที่สามารถบดขยี้ภูเขาได้ทั้งลูก…

“ นี่ข้า..สายน้ำไหลผ่านตัวข้าไปราวกับว่าข้าไม่มีตัวตนอยู่ตรงนี้..แต่พลังแบบนี้มัน..ข้ามีมันได้ยังไง.. ”

“ ตั้งสติหน่อยอู้เฉียง สายน้ำในตอนนี้นั้นเป็นหนึ่งเดียวกับเจ้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว…ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูก..เจ้ากลายเป็นหนึ่งเดียวกับสายน้ำผ่านพลังแปลกๆของเจ้าเมื่อครู่..แต่อย่าพึ่งดีใจ.. ”

เมดูซ่าสร้างลูกไฟสีดำจำนวนสามลูก..เปลวเพลิงสีดำทมิฬแม้จะอยู่ภายใต้ท้องทะเลที่เป็นธาตุแพ้ทาง..แต่ทว่าพลังของมันกลับไม่ได้ถูกลดทอนลงแต่อย่างใด..

“ เตรียมตัวให้ดีอู้เฉียง.. ”

เปลวเพลิงทั้งสามพุ่งตรงไปหาอู้เฉียงด้วยความเร็วแต่ทว่าอู้เฉียงกลับยืนนิ่งพร้อมกับยื่นมือข้างขวาออกไป….

แต่แทนที่ดวงไฟนั้นจะทำอันตรายอู้เฉียงกลับกัน พลังเปลวเพลิงถูกดูดหายเข้าไปในฝ่ามือเหมือนกับที่รักษาบาดแผลของเมดูซ่าในตอนนั้น!!

“ นี่มัน!! ”

ตรงฝ่ามือข้างขวาของอู้เฉียงปรากฎเป็นหลุมมิติขึ้นมาดูดซับเปลวเพลิงหายไปราวกับไม่เคยมีเปลวเพลิงนั้นมาก่อน..จะเห็นได้ว่านัยน์ตาของอู้เฉียงเป็นสีดำไปชั่วขณะหนึ่ง..

อู้เฉียงก็ตกตะลึงกับพลังของตัวเองที่ถูกปลุกขึ้นมาโดยบังเอิญ..พลังแห่งสายเลือดของทายาทผู้พิทักษ์นครแห่งอันธกาล..

“ นี่ข้า..ทำแบบนี้ได้ด้วยอย่างงั้นหรือ..หากเป็นเช่นนี้ละก็.. ”

ชายหนุ่มฉายแววตามุ่งมั่นออกมาก่อนจะพุ่งเข้ามาหาเมดูซ่าโดยตรง..เพียงไม่กี่ก้าวก็จะเข้าระยะที่เมดูซ่ายืนอยู่เป็นความเร็วที่แม้แต่เมดูซ่าก็อดที่จะชื่นชมอยู่ในใจลึกๆไม่ได้..

“ หากข้าทำให้ท่านขยับจากตรงนี้ได้ก็ถือว่าข้าชนะสินะ..งั้นก็.. ”

“ ย่อมเป็นเช่นนั้น แล้วเจ้าจะทำสิ่งใดได้งั้นหรือ..เจ้าอย่าลืมว่าระดับพลังของข้ากับเจ้าห่างกันราวฟ้ากับเหว.. ”

อู้เฉียงแย้มยิ้มออกมาพร้อมกับยื่นมือข้างซ้ายออกไป..

“ เพราะแบบนั้นข้าเลยมีวิธีรับมือกับท่านแล้ว..จริงอยู่ต่อให้ข้าทุ่มพลังทั้งหมดก็ไม่แน่ว่าจะทำให้ท่านขยับออกจากตรงนี้ได้หากไม่ใช่ระดับพลังที่ทัดเทียมกันหรือเหนือกว่าท่าน..แบบนี้!! ”

อยู่ๆฝ่ามือของอู้เฉียงก็ปรากฎเป็นหลุมอากาศก่อนจะมีบางอย่างพุ่งตรงออกมาโจมตีเมดูซ่า..

“ หากเป็นการโจมตีของท่านเองที่ข้าดูดซับมา ก็พอที่จะทำให้ท่านเคลื่อนไหวได้สินะ!! ”

เปลวเพลิงทมิฬทั้งสามพุ่งออกมาจากฝ่ามือด้านซ้ายของอู้เฉียง..เมดูซ่าที่เห็นเช่นนั้นก็ยิ้มอ่อนออกมาพร้อมกับกระโดดหลบการโจมตีระดับชนชั้นมหาเทพ..จริงอยู่ว่าเมดูซ่าสามารถสะกัดกั้นการโจมตีได้

แต่ยังไงก็ต้องเคลื่อนไหวออกจากจุดนี้อยู่ดี..

“ เจ้าชนะแล้ว..เด็กน้อย.. ”

ตู้มมม!!!!

“ ข้าชนะ… ”

อู้เฉียงยังกล่าวไม่ทันจบพร้อมกับสติที่ค่อยเลือนลางก่อนจะสลบไปในที่สุดเมดูซ่าเข้ามารับตัวของอู้เฉียงเอาไว้พร้อมกับสร้างม่านพลังให้กับอู้เฉียง..

เมดูซ่าพาอู้เฉียงเข้ามาในโดมเพื่อพักผ่อนซึ่ง จะเห็นได้ชัดว่าพื้นที่บริเวณโดยรอบภายในโดมนั้นมีร่องรอยของการต่อสู้เกิดขึ้นทั่วทุกพื้นที่…

“ เก่งมาก..อู้เฉียงมนุษย์เช่นเจ้าแม้จะรู้ว่าสู้กับข้าไปก็ไม่มีทางที่จะต่อกรกับข้าได้..แต่ก็ยังอยากจะต่อสู้กับข้าอย่างงั้นเหรอ..เป็นมนุษย์ที่ไม่รู้จักประมาณตนเอาซะเลย..”

เมดูซ่านั่งข้างๆกับอู้เฉียงโดยที่ให้ชายหนุ่มนั้นนั่งพิงฝาผนังเก่าแต่ในขณะนั้นหัวของอู้เฉียงก็เอียงมาซบไหล่อันบอบบางของเมดูซ่าที่นั่งอยู่ใกล้ๆ

“ แค่ครั้งนี้เท่านั้น…ข้าก็ไม่ได้รังเกียจคนเช่นเจ้าหรอกนะ.. ”

ประกายแสงสีเขียวอ่อนทั่วบริเวณต่างส่องสว่างสุขสกาวไปทั่วทุกพื้นที่..เป็นบรรยากาศที่น่าหลงไหลภายใต้มหาสมุทรลึก…แม้เบื้องบนในตอนนี้ที่กำลังเกิดสงครามอยู่ก็ตาม..แต่ข้างล่างกลับนิ่งเงียบสงบ..

จบตอน.

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท