เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 351 จอมโจร

ตอนที่ 351 จอมโจร

ไป๋หลงเห็นเทียร์มีน้ำตาหลั่งไหลออกมาทั้งสองข้างอย่างไม่ทราบสาเหตุ..ก่อนที่เด็กสาวจะใช้มือทั้งสองกุมไปที่หัวใจที่ราวกับว่าถูกเกาทัณฑ์นับหมื่นทิ่มแทงทะลุหัวใจ…

หยาดน้ำตาของเด็กสาวค่อยๆหลั่งไหลออกมาอย่างมิอาจหักห้าม..

“ ท่านพ่อ…”

“ เทียร์เจ้าเป็นอะไร เหตุใดถึงร้องไห้ออกมาเช่นนี้..หรือว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บตรงไหน..”

ไป๋หลงไถ่ถามด้วยความเป็นห่วงและทำตัวไม่ถูกเพราะปกติแล้วตนนั้นไม่เชี่ยวชาญกับการรับมือของน้ำตาของสตรีเป็นที่สุด…

“ ข้าเจ็บตรงที่หัวใจ…เจ็บมากๆเหมือนข้าสูญเสียบางอย่างไป..สร้อยเส้นนี้ที่ท่านพ่อเป็นคนมอบให้ข้าตอนเด็กๆ..ข้าต้องรีบไปหาท่านพ่ออาจจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นกับท่านพ่อก็เป็นได้!! ”

เทียร์กำลังจะทะยานร่างบินขึ้นไปด้วยปีกคู่งามสีดำ..ไป๋หลงเห็นเช่นนั้นก็ขว้ามือของหญิงสาวไว้ในทันที…

“ ไม่ได้ ตอนนี้ปีศาจอยู่ทั่วทุกสารทิศมีสถานที่แห่งนี้แห่งเดียวเท่านั้นที่ปลอดภัยที่สุดเหมาะสำหรับการตั้งรับจริงอยู่ที่เจ้าแข็งแกร่งแต่เผ่าปีศาจข้างนอกนั่นก็แข็งแกร่งไม่ต่างจากเจ้า สิ่งที่เจ้ากำลังจะทำมันก็ไม่ต่างอะไรกับการฆ่าตัวตาย..”

“ ไป๋หลงแล้วเจ้าจะให้ข้าทำเช่นไรบอกข้าสิ..ข้ารู้ว่าสิ่งที่ข้าทำมันทัั้งโง่และดื้อรั้น— ”

เทียร์กล่าวพร้อมน้ำตา..ก่อนที่ไป๋หลงจะโอบกอดเทียร์เอาไว้พร้อมกับเช็ดหยาดน้ำด้วยชายเสื้อของตนเอง..ทุกการกระทำของไป๋หลงล้วนเต็มไปด้วยความห่วงใย..

“ อย่าร้อง หยุดร้องได้เเล้วเจ้าเด็กโง่..ในเมื่อพ่อของเจ้าสามารถเป็นเทพมารได้ เขาต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนเชื่อใจในตัวของท่านพ่อของเจ้าสิ…แม้ข้าจะโกรธแค้นพ่อของเจ้า แต่พอมาคิดๆดูแล้วข้าก็ไม่ได้อยากให้เขาตายขนาดนั้น เพียงแค่ข้าอยากได้ยินคำขอโทษและคำอธิบายจากปากของเขาเท่านั้นอีกอย่าง..ไฟแค้นในใจข้าเริ่มหายไปแล้ว… ”

น่าแปลกที่ตั้งแต่เทียร์ปรากฎตัวขึ้นมานั้นไฟแค้นภายในจิตใจของไป๋หลงราวกับว่าค่อยๆถูกดับมอดลงอย่างไม่ทราบสาเหตุ..

“ เทียร์ตอนนี้ข้าอยากให้เจ้าไปสถานที่หนึ่งกับข้าหน่อยจะได้ไหม ข้าจำเป็นต้องมีเจ้าจริงๆ..”

ไป๋หลงกล่าวถามเทียร์ในขณะที่ซับน้ำตาก่อนที่นางจะรู้ตัวว่าตนนั้น อยู่ในอ้อมกอดของไป๋หลงและถ้อยคำพูดกำกวมเมื่อครู่..เทียร์ก็รู้สึกหน้าแดงฉ่าก่อนจะผลักไป๋หลงออกไป…

“ เจ้าคนฉวยโอกาส!!! ”

“ ข้าก็แค่ปลอบเจ้าเท่านั้นเอง ข้าปลอบประโลมคนไม่เก่งปกติข้าคิดว่าการกอดคือการปลอบประโลมที่ดีที่สุดแล้ว…”

ไป๋หลงกล่าวถามด้วยน้ำเสียงใสซื่อ..จนเทียร์อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหมั่นไส้..

“ แล้วเจ้าอยากให้ข้าไปที่ไหนร่วมกับเจ้า..ไหนว่าตอนนี้ทั่วทุกสารทิศเต็มไปด้วยปีศาจ แล้วเจ้ายังอยากจะไปไหน.. ”

“ นั่นก็ใช่แล้วใครบอกว่าข้าจะออกไปด้านนอกนั่นแต่ที่ข้าจะไปก็คือ… ”

เด็กหนุ่มชี้นิ้วขึ้นไปบนท้องฟ้าพร้อมกับปริยิ้มอ่อนออกมา..เป็นรอยยิ้งที่เทียร์เห็นแล้วรู้สึกไม่สบายใจเอาซะเลย…

“ คลังสมบัติแดนสวรรค์.. ”

………………………………………………………

ณ ปราสาาเทพมาร

พื้นที่บริเวณโดยรอบถูกทำลายทั้งหมดไม่เหลือแม้แต่เศษซากจากการปะทะกันของเทพมารซีสและมือขวาของเบลเซบับอย่างเดียร์รอส..

แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้นสถานที่เดียวที่ยังไม่ถูกทำลายและยังไม่ได้รับผลกระทบจากการต่อสู้แม้แต่น้อยนั่นก็คือคลั่งสมบัติเทพมารที่อยู่ด้านหลังของบัลลังก์สีดำทมิฬ..

“ พลังโจมตีช่างน่ากลัวซะจริงๆเทพมารซีส อย่างงั้นเหรอ..ทุ่มสุดตัวทำให้แขนของข้าบาดเจ็บได้ถึงขนาดนี้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว..ข้าจะจดจำนามของเจ้าไว้..”

ท่ามกลางซากปรักหักพังมีเพียงเดียร์รอสผู้เดียวเท่านั้นที่ยังคงยืนหยัดอยู่พร้อมกับแขนข้างขวาที่อาบไปด้วยโลหิตสีแดง…

“ ข้าจะยอมถอยไปก่อนก็ได้..ราชันย์แวมไพร์อัลเบียร์ ไว้เจอกันใหม่คราวหน้าข้าขอตัว..”

เดียร์รอสพูดจบก็เปิดมิติสีดำหลบหนีไปในทันที..อัลเบียร์ที่ยืนดูอยู่ก็ไม่ได้คิดจะไล่ตามแต่อย่างใด…

“ ซีส..นี่เจ้า..ทำอะไรโง่ๆไม่สมเป็นเจ้าเลย ข้าต่างหากที่มีสิทธิ์สังหารเจ้าได้เพียงคนเดียว..เจ้าชิงตายไปก่อนแบบนี้..ไร้ความรับผิดชอบสิ้นดี..”

อัลเบียร์นั้นสัมผัสถึงพลังของซีสไม่ได้แม้แต่น้อยจากการปะทะครั้งสุดท้ายเมื่อครู่…

“ แม้แต่72 เสาหลักในแดนมารก็ไม่ยอมยื่นมือมาช่วยเจ้าอย่างงั้นเหรอ…เทพมารผู้โดดเดี่ยว ถึงแม้ผลลับของมันจะออกมาเป็นเช่นนี้..เจ้าทำแบบนี้เพื่อเก็บรักษาสิ่งใดกันแน่…ถึงทำให้เจ้าต้องยอมตายเช่นนี้ซีส.. ”

ราชันย์แวมไพร์กางม่านพลังสีโลหิตพร้อมกับกำแพงหนามบรรพกาลที่มีพิษร้ายแรงขึ้นมาเพื่อป้องกันการโจมตีอีกทั้งยังฝังศิลาแก่นอสูรระดับบรรพกาลที่สามารถปิดกั้นการเคลื่อนไหวผ่านมิติได้ครอบคลุมรัศมีโดยรอบทั่วแดนมาร…

“ การจะเปิดคลังสมบัติเทพมารได้นั้นจะต้องใช้เลือดของเผ่ามารและต้องเป็นราชวงศ์มารที่แท้จริงเท่านั้นซึ่งผู้ที่จะเปิดมันได้ก็คงเป็นอัลบาร์เท่านั้น..แต่ว่าปีศาจตนนั้นทำไมถึงมั่นใจว่าจะสามารถเข้าไปได้กันนะ..หรือว่าเผ่าปีศาจยังไม่รับรู้ถึงเรื่องนี้..แต่ถ้าเป็นแบบนั้นปีศาจตนนั้นจะกล้าบุกเข้ามาโดยไม่มีแผนการสำรองอื่นเลยอย่างงั้นหรือ…แต่ก็เอาเถอะ มาดูกันซิว่าอะไรที่ทำให้ซีสทำถึงขนาดนี้… ”

อัลเบียร์หยิบขวดเลือดขึ้นมา..ก่อนจะใช้ปลายนิ้วชี้จิ้มไปที่ขวดเลือดและเอาไปแตะที่ประตูคลังสมบัติ..

“ หากใช้โลหิตของอัลบาร์ก็สามารถเปิดมันได้.. ”

ตึง!!!

กลไกลภายในประตูค่อยๆทำงานพร้อมกับประกายแสงสีแดงที่เปล่งประกายออกมาจากบานประตูคลังสมบัติก่อนที่ประตูจะยกตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ เผยให้เห็นถึงสมบัติมากมายนับไม่ถ้วนแต่มีสิ่งหนึ่งที่แปลกแยกออกไปตั้งอยู่บนแท่นพร้อมกับอัขระโบราณที่เขียนกำกับเอาไว้…

อัลเบียร์ที่ได้เห็นย่อมรับรู้ได้ในทันทีว่าสิ่งที่วางบนแท่นนั้นคืออะไร..

“ นี่มัน…เท่านี้ก็กระจ่างแล้ว ซีส ยอมสละชีวิตเพื่อสิ่งนี้สินะ…ปฐมวิญญาณของผู้เป็นบุตรสาว..นามว่าเทียร์.. ”

…………………………………………………..

ณ แดนสวรรค์

“ ไป๋หลงข้าเป็นมารแล้วเจ้าเชิญชวนมานขึ้นมาบนแดนสวรรค์เนี่ยนะ..อีกทั้งยังเป็นใจกลางเมืองหลวงของเผ่าเทพข้ารู้สึกไม่สบายตัวเอาซะเลยกับกลิ่นอายของแดนเทพ..”

“ เถอะน่า ตามข้ามาก็พอแล้ว เผ่าพันธุ์อื่นก็มีอยู่ตั้งมากมายแต่ส่วนใหญ่จะอยู่ด้านนอกเมืองหลวง ครั้งก่อนที่ข้ามาข้าก็เห็นเผ่ามารอยู่บ้างประปราย..แต่นั่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ..”

ขณะที่ไป๋หลงและเทียร์เข้ามาในตำหนักเทพก็มีทหารเทพ5ตนเดินผ่านมา..

“ หลบเร็ว!! ”

ไป๋หลงพาเทียร์เข้าหลบทหารเทพที่กำลังเดินตรวจตราความเรียบร้อย…

“ เจ้าจะทำตัวลับๆล่อๆทำไม เจ้าเป็นถึงจ้าวสวรรค์ไม่ใช่เหรอ เหตุใดเจ้าต้องทำตัวเหมือนกับหัวขโมยเช่นนี้.. ”

“ นั่นแหละ ยิ่งห้ามให้ใครรู้เป็นอันขาด..ที่ข้าขึ้นมาบนแดนสวรรค์เพราะมีเป้าหมายสองอย่าง อย่างแรกคือมาดูอาการของพวกหลิงหลุนและอย่างที่สอง…คลังสมบัติแดนสวรรค์… ”

ไป๋หลงพูดอธิบายให้เทียร์ได้รับฟัง…เทียร์เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็หรี่ตามองไป๋หลง…

“ เจ้าเป็นจ้าวสวรรค์ ถ้าอยากจะเข้าก็เข้าได้ไม่ใช่หรือ ในเมื่ออำนาจทุกอย่างอยู่ในมือของเจ้าทั้งหมด.. ”

“ งั้นเจ้าดูนนั่น… ”

ไป๋หลงกล่าวขึ้นพร้อมกับชี้ไปทางห้องเก็บคลังสมบัติที่มีทหารเทพและแม่ทัพสวรรค์หลายสิบคนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูทางเข้า…

“ ทหารเทพ…แล้วก็ผู้ที่มีความแข็งแกร่วทัดเทียมกับข้าอีกประมาณเกือบสิบคนนั่น..แม่ทัพสวรรค์สินะ..แล้ว..”

“ นั่นแหละข้าเคยขอเข้าไปแล้ว แต่แม้ข้าจะเป็นจ้าวสวรรค์และมีอำนาจในการปกครองก็จริง แต่ข้าไม่มีอำนาจในคลังสมบัติแดนสวรรค์อีกทั้งยังมีอักขระโบราณที่แข็งแกร่งเขียนทับไว้บนประตูคลังสมบัติข้ามั่นใจว่าภายในนั้นจะต้องมีบางอย่างที่ใช้ต่อกรกับเผ่าปีศาจได้แน่นอนเพราะฉะนั้น.. ”

ชายหนุ่มขับเงาออกมาสร้างร่างแยกจักรพรรดิ์ขึ้น…..

“ ท่านจักรพรรดิ์เงามีสิ่งใดให้ข้ารับใช้อย่างงั้นหรือ….”

“ เบี่ยงเบนความสนใจของทหารเทพเหล่านั้น— ”

“ นี่นายท่านคิดจะปล้นแม้กระทั่งคลังสมบัติแดนสวรรค์อย่างงั้นหรือ..ข้าคิดว่า จอมโจรไป๋หลง น่าจะเหมาะกับนายท่านมากกว่าตำแหน่งจ้าวสวรรค์อีกนะ…… ”

เทียร์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็แทบจะหลุดขำออกมาหญิงสาวรีบใช้มืออันขาวเนียนทั้งสองข้ามมาปิดปากตัวเองเอาไว้พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากความพยามกลั้นหัวเราะสุดชีวิต…

ไป๋หลงแทบอยากจะจับร่างแยกเงาจักรพรรดิ์มาโขกกับพื้นให้รู้แล้วรู้รอด..แต่ติดตรงที่ร่างแยกจักรพรรดิ์มีใบหน้าเหมือนไป๋หลงทุกประการ…ยกเว้นนิสัยที่ต่างกันคนละขั้ว…

จบตอน

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท