อัลเบียร์ที่ได้ยินเช่นนั้นก็ปลดปล่อยจิตสังหารออกมาในทันที!! เพราะอัลเบียร์นั้นย่อมรู้จุดประสงค์ของคนผู้นี้ที่มีต่อไป๋หลงในทันที..จักรพรรดิ์ธาตุที่มีความเคียดแค้นต่อจักรพรรดิ์เงามากที่สุด…
“ 1 ใน จักรพรรดิ์ธาตุ…จักรพรรดิ์แห่งแสง เซเรฟ!!! ”
“ ราชินีแห่งเผ่าพันธุ์แวมไพร์ กับ บุตรสาวของเทพมารที่ล่วงลับอย่างงั้นเหรอ…เป็นการรวมตัวกันที่พึลึกชอบกลว่าไหม…”
“ เซเรฟ ถ้าเจ้าไม่อยากตายก็ไสหัวของเจ้ากลับไปซะ ก่อนที่ข้าจะลงมือสังหารเจ้าด้วยตัวข้าเอง..”
อัลเบียร์พูดพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารออกมาจนบรรยากาศโดยรอบถึงกับเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง แม้แต่เทียร์ยังสัมผัสได้ถึงพลังอันมหาศาลที่สุดจะหยั่งถึง…
“ ใจเย็นลงก่อน..ข้าก็แค่มาทักทายเท่านั้น..ยังไงข้าก็ชนะท่านไม่ได้อยู่แล้ว..ต่อให้สู้กันก็คงต้องมีฝ่ายใดฝ่ายนึงไม่ข้าก็ท่านที่ต้องตาย.. ”
“ สิ่งที่เจ้าทำเมื่อครู่นี้เรียกว่าทักทายอย่างงั้นเหรอ..”
“ ข้าไม่ได้ทักทายท่าน..แต่เป็นคนที่อยู่ด้านหลังของท่านต่างหาก..จักรพรรดิ์เงาข้ารู้นะว่าเจ้าได้ยินสิ่งที่ข้าพูดอยู่..จะหลับหูหลับตาไปถึงเมื่อไหร่..”
เซเรฟกล่าวขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปที่ไป๋หลงที่กำลังลุกขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะแสดงสีหน้าเหนื่อยหน่ายออกมา…
“ คำเตือนของจักรพรรดิ์อัสนีในตอนนั้นอย่างงั้นเหรอ..เฮ้อ ไม่นึกเลยว่าจะเจอกันในที่แบบนี้..จริงสิเราก็ลืมไปเลยเหมือนกัน..แต่จะให้เสียเวลากับเรื่องไร้สาระแบบนี้ก็คงจะไม่ได้.. ”
ไป๋หลงครุ่นคิดในใจก่อนจะฉายแววตาเจ้าเล่ห์ออกมา..เป็นสายตาที่เทียร์นั้นคุ้นเคยเป็นอย่างดี…
“ เอางี้เป็นไง..จักรพรรดิ์จรัสแสงสินะ..เจ้าต้องการจะต่อสู้กับข้าใช่ไหม.. ”
“ หึ..แน่นอนว่าข้าจะสังหารเจ้าด้วยมือของข้าเองไม่ว่าใครก็ไม่มีสิทธิทั้งนั้น ต่อให้เทพปีศาจจะเอาชีวิตเจ้าไปข้าก็จะขัดขวางให้ถึงที่สุดเพราะคนที่จะสังหารเจ้าได้มีเพียงแค่ข้าเท่านั้น!!! ”
เซเรฟพูดขึ้นด้วยแววตาที่แฝงไปด้วยความหื่นกระหายในการต่อสู้กับไป๋หลงในฐานะจักรพรรดิ์เงาเป็นอย่างมาก…ทำให้ตอนนี้สถานการณ์กำลังเป็นไปตามที่ไป๋หลงนั้นคิดเอาไว้…
“ ย่อมได้..ข้าจะสู้กับเจ้าแต่.. ”
“ แต่อะไร? ”
“ ยังไม่ใช่ตอนนี้ข้ามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องไปจัดการศึกใหญ่กับเผ่าปีศาจกำลังจะเกิดขึ้นข้าต้องเข้าร่วมสงครามในครั้งนี้..หากศึกครั้งนี้จบลง ข้าจะต่อสู้กับเจ้าอย่างสุดกำลัง..ซึ่งแน่นอนว่าเจ้าเลือกจะปฏิเสธก็ได้..แต่ข้าจะไม่ต่อสู้กับเจ้าเด็ดขาด..เพราะถ้าหากเป็นแบบนั้นคนที่เจ้าจะต้องสู้ด้วยเกรงว่าจะไม่ใช่ข้าแต่เป็น… ”
ไป๋หลงผายไปทางอัลเบียร์ที่ขมวดคิ้วแน่น…
“ เจ้าหลานคนนี้..คิดใช้ข้าเป็นไม้กันสุนัขอย่างงั้นเหรอ…นิสัยต่อรองกับหว่านล้อมศัตรูต่างกันไม่มีผิด..ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ!! ”
อัลเบียร์คิดในใจพร้อมกับยินยอมที่จะเล่นไปตามแผนของไป๋หลง…ซึ่งเซเรฟนั้นก็แสดงท่าทีครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะหนึ่ง..
“ จักรพรรดิ์เงานี้เจ้ากำลังต่อรองกับข้าอย่างงั้นเหรอ..”
“ เปล่าเลยนี่ไม่ใช่การต่อรอง…เพราะคนที่ยื่นข้อเสนอได้มีเพียงแค่ข้าคนเดียว เจ้าไม่ได้อยู่ในฐานะที่ต่อรองกับข้าซะด้วยซ้ำ..ว่าไงข้าไม่ได้มีเวลามาคุยกับเจ้าทั้งวันหรอกนะ..จะรอหรือจะสู้ตอนนี้ ข้าให้ทางเลือกกับเจ้าแล้ว.. ”
เทียร์ที่ได้ยินคำพูดและท่าทางของไป๋หลงมองดูกี่ครั้งกี่หนก็ไม่เคยชินเลยสักครั้ง..ความสามารถในการต่อรองและความสงบเยือกเย็นแบบนี้…มันช่าง..
เซเรฟที่ได้ยินแบบนั้นก็ลดกลิ่นอายสังหารลง..พร้อมกับสะกดกลิ่นอายแห่งความตายเอาไว้ในทันที…
“ ก็ได้ตกลง..ข้าจะรับข้อเสนอของเจ้า..แล้วถ้าเจ้าถูกพวกปีศาจสังหารตายขึ้นมาแล้วข้อตกลงที่เจ้าให้ไว้กับข้าละ.. ”
“ คิดซะว่าเป็นเวรกรรมของเจ้าก็แล้วกันที่ข้าต้องตายด้วยง้วมมือของ..คนอื่นที่ไม่ใช่เจ้า.. ”
“ บัดซบ!!! ได้ จักรพรรดิ์เงา!! ข้าจะติดตามเจ้าไปในสนามรบในครั้งนี้ด้วย..แม้เป็นแม่ทัพปีศาจก็เอาชีวิตเจ้าไปไม่ได้!!! ”
เทียร์ได้แต่รู้สึกสับสนและตกตะลึง..นี่เป็นการดึงเอากำลังเสริมที่คาดไม่ถึงมาเสียแล้ว..แม้แต่เทียร์นั้นก็เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของจักรพรรดิ์ธาตุผู้นี้มาพอสมควร..แม้จะดูเหมือนโรคจิต แต่ทว่าความแข็งแกร่งนั้นเป็นของจริง!!
“ หลานข้า..ไม่เบาหนิที่ใช้ข้าคนนี้เป็นไม้กันสุนัขเช่นนี้..เป็นการต่อรองที่น่าสนใจจริงๆ ”
ไป๋หลงได้ยินเสียงที่ส่งผ่านกระแสจิตจากอัลเบียร์ก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆออกมาเท่านั้นพร้อมกับกล่าวขอโทษอัลเบียร์ภายในใจอยู่ยกใหญ่…
“ แต่มีข้อแม้ ถ้าเจ้าจะติดตามข้าไปห้ามปล่อยกลิ่นอายที่อยู่ในกายเจ้าออกมาอย่างเด็ดขาด ถ้าเจ้าทำไม่ได้ก็ติดตามข้ามาไม่ได้เช่นกัน..มีหวังพาเจ้าไปชาวบ้านกับจอมยุทธที่มีระดับพลังอ่อนแอได้ถูกสูบพลังชีวิตไปเพราะกลิ่นอายของเจ้าเป็นแน่… ”
เซเรฟรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อยที่ไป๋หลงนั้นสามารถมองออกถึงกลิ่นอายที่ตนพยามปกปิดเอาไว้..
“ มองออกด้วยอย่างงั้นหรือ..ฝีมือเจ้าไม่ธรรมดาจริงๆสินะอีกอย่าง เรื่องมากขี้จุกจิกสมแล้วที่เป็นจักรพรรดินอกรีต.. ”
“ จะเรียกข้าว่าอะไรก็แล้วแต่..จะทำหรือไม่ทำ ข้าถามเจ้าเพียงแค่นี้… ”
“ ก็ย่อมได้เมื่อถึงเวลาข้าจะเป็นคนเอาชีวิตเจ้าเองในระหว่างนี้..ข้าจะเดินตามแผนของเจ้าไปก่อนก็แล้วกัน..แล้วเจอกัน.. ”
เซเรฟนั้นสลายพลังทั้งหมดก่อนที่ความรู้สึกอีกขั้วหนึ่งที่ถูกกดทับจะถูกปลดปล่อยออกมาชั่วคราว…
“ นี่พวกเจ้าคือ… ”
ความทรงจำทั้งหมดค่อยๆไหลซึมซับเข้าไปในตัวของเซเรฟที่ตอนนี้อยู่ในสภาวะอารมณ์ที่เหมือนกับชายหนุ่มทั่วไป…ผลจากการที่เซเรฟหรืออีกจิตวิญญาณหนึ่งเข้ามาครองร่างทำให้สติและจิตวิญญาณที่อ่อนแอกว่าต้องถูกปิดผนึก
และในครั้งนี้เซเรฟก็เป็นผู้ที่ยอมปล่อยให้อีกขั้วอารมณ์นึงมาใช้ร่างกายแทน..ทำให้พลังทั้งหมดสลายหายไปในทันที…ก่อนที่ความทรงจำทั้งหมดจะไหลผ่านเข้ามาจนหมด..
“ เข้าใจ..ท่านก็คือจักรพรรดิ์เงาที่เซเรฟนั้นเฝ้าตามหา.. ”
ไป๋หลงที่ได้เห็นเช่นนั้นก็รู้สึกว่า เซเรฟคนนี้นั้นเหมือนอู้เฉียงอย่างเห็นได้ชัด..เหมือนในที่นี้ก็คือการมีจิตใจสองขั้วสองอารมณ์ ด้านที่อ่อนแอกว่าจะถูกผนึก..
แต่ในกรณีของอู้เฉียงนั้นคือการยินยอมซึ่งกันและกันทำให้จิตวิญญาณรวมกันเป็นหนึ่ง..แต่ในกรณีของเซเรฟผู้นี้นั้นแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด..
“ นี่เจ้า..”
ขณะที่ไป๋หลงกำลังจะกล่าวบางอย่าง..อยู่ๆก็มีประกายแสงสีแดงดำปกคลุมทั่วท้องฟ้าเพียงชั่วพริบตา..ก่อนจะปรากฏเสาแห่งแสงสีแดงโลหิตไหลออกไปพุ่งขึ้นสู่ท้องนภา..
ทั่วทั้งยุทธภพต่างเห็นประกายแสงเสาสีแดงนี้อย่างเห็นได้ชัด..แต่ทันทีเสาแห่งแสงนี้ปรากฏขึ้นมาสิ่งเดียวที่ทุกคนรู้สึกเหมือนกันก็คือ..ความรู้สึกที่น่าขนลุกและหวาดกลัว..
แม้แต่ไป๋หลง เทียร์ และอัลเบียร์ยังสัมสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าขนลุกที่แผ่..จากเสาแห่งแสงสีโลหิต..
กาเบรียลที่อยู่ในห้วงจิตของไป๋หลงแสดงสีหน้าเคร่งครึมออกมา…
“ พลังแบบนี้มัน..เบลเซบับ!!! ”
จบตอน..
ข้อความจากไรท์
ก่อนอื่นเลยไรท์ต้องขอโทษ นักอ่านทุกท่านที่ต้องปล่อยให้รอนาน ไรท์จะอธิบายให้นักอ่านทุกคนได้ฟัง ไรท์ได้ไปหาหมอ เพราะรู้สึกว่าตัวไรท์นั้น อารมณ์แกว่ง เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ความรู้ต่างๆมากมายเหมือนมันถามโถามเข้ามา ทั้งเรื่องสอบ เรื่องที่บ้านของไรท์ ทำให้รู้ว่าไรท์ในตอนนี้เสี่ยงต่อการเป็นโรคซึมเศร้าสูงมาก ทำให้ไรท์นั้นมีปัญหา ในการแต่งนิยาย เพราะทุกครั้งที่ไรท์จะแต่งนิยาย ไรท์ต้องใช้อารมณ์ความคิด เพื่อที่จะเขียนให้มันออกมาดี ไรท์จะเขียนส่งๆไปไม่ได้ ไรท์อยากให้นิยายที่ทุกคนอ่านนั้น มันมีคุณภาพ ไม่ใช่เขียนแค่เพื่อเอามาลง เพื่อเอาเงิน แต่ไรท์อยากให้ทุกคนอื่นเนื้อหานิยายที่มันมีคุณภาพ ที่ไรท์หายไปเกือนหนึ่งอาทิตย์ เพราะอารมณ์ไรท์มันไม่ดีเลย มันเครียดตลอดเวลา ไรท์พยามหาอะไรทำแล้วทั้งดูหนังฟังเพลง แต่มันรู้สึกเบื่อไปหมด
ไรท์จะพยามจัดการกับอารมณ์ตัวเองให้ดีที่สุด..เพราะแบบนั้นไรท์ต้องขอโทษนักอ่านที่น่ารักของไรท์ทุกท่านเป็นการล่วงหน้าด้วยนะครับ ที่อาจจะต้องปล่อยให้รอนาน
แต่ไรท์จะเขียนให้จบอย่างแน่นอน ขอบคุณครับ..