เทพมารตกสวรรค์ – ตอนที่ 378 การรวมตัวของเหล่าสัตว์ประหลาด 1

ตอนที่ 378 การรวมตัวของเหล่าสัตว์ประหลาด 1

กาเบรียลที่อยู่ในห้วงจิตของไป๋หลงแสดงสีหน้าเคร่งครึมออกมา…

“ พลังแบบนี้มัน..เบลเซบับ!!! ”

แน่นอนว่ากาเบรียลย่อมสัมผัสได้ถึงเสาแห่งแสงสีเลือดที่น่าสะพรึงนั่นได้เป็นอย่างดี พลังที่สามารถทำให้ทั่วทั้งยุทธภพเกิดความตื่นตระหนกและรู้สึกขนลุกในเวลาเดียว..

เสาแสงนั่นก็เปรียบเสมือนกับการประกาศเริ่มสงคราม!!!

“ สงครามแร็คนาร็อคครั้งที่ 2 ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว…”

กาเบรียลกล่าวบอกแก่ไป๋หลง..ซึ่งตัวชายหนุ่มเองในตอนนี้ย่อมทราบถึงสถานการณ์ในตอนนี้เป็นอย่างดี..

“ พวกเราต้องรีบกลับไปโดยเร็วที่สุด..แสงนั่นดูเหมืิอนว่าจะเป็นสัญญาณของการประกาศสงคราม…”

“ พวกเจ้าไปเถอะ ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ ดูแลตัวเองๆดี ข้าไม่อาจเข้าร่วมสงครามกับเจ้าได้ในตอนนี้..ส่วนหลานสะใภ้เจ้าต้องคอยดูแลเด็กคนนี้ให้ดี นิสัยมุทะลุไม่คิดหน้าคิดหลังอาจจะทำให้เจ้าปวดหัวอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว.. ”

เทียร์พยักหน้าเหมือนกับลูกนกตัวเล็กๆ..ส่วนทางด้านเซเรฟที่อยู่ในบุคลิกอีกคนหนึ่งก็ดูเหมือนว่าจะสงบเสงี่ยมกว่าเมื่อครู่เป็นร้อยเท่า…กำลังยืนพร้อมกับจ้องมองไปที่แสงสีโลหิตนั่น..

อัลเบียร์เมื่อได้เห็นเช่นนั้นก็สลายตัวเองกลายเป็นกลุ่มค้างคาวมุ่งหน้าลงทิศใต้เพื่อทำอะไรบางอย่าง..ที่อาจจะส่งผลต่อการต่อสู้ในครั้งนี้..ไม่สิ ถ้าให้เรียกก็คือ ไพ่ตาย ที่ต้องใช้หากฝั่งมนุษย์นั้นเพรี่ยงพร้ำจริงๆ..

“ งั้นพวกเราก็รีบไปจากที่นี่กันเถอะ..แล้วเจ้า.. ”

ไป๋หลงจับมือเทียร์ก่อนจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกของตนเองให้อยู่ในร่างของเทพรูปแบบจอมราชันย์ ออร่าสีทองปกคลุมตัวของไป๋หลงในทันที ปีกสีทองอัมพัน1คู่กลางแผ่นหลังถูกสยายออก พร้อมเรือนผมสีดำที่ค่อยๆถูกแปรเปลี่ยนเป็นสีทอง ส่วนเทียร์ที่ได้สัมผัสกับแสงสว่างของไป๋หลงก็รับรู้ได้ถึงความอบอุ่นอย่างชัดเจน..

เซเรฟรู้สึกตกตะลึงอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้เห็นพลังธาตุแห่งแสงที่ออกมาจากตัวของไป๋หลง เผลอๆความบริสุทธิ์แห่งแสงอาจจะมากกว่าเซเรฟอีกร่างหนึ่งเท่านั้น..

“ พลังแห่งแสงที่อบอุ่นและบริสุทธิ์แบบนี้มัน…จะไปสู้ได้ไงเจ้าบ้าเอ้ย!! ”

เซเรฟเพียงสถบขึ้นในใจก่อนจะตอบรับคำของไป๋หลง..

“ ก็ต้องตามท่านไปอยู่แล้วข้ามีทางเลือกได้อย่างงั้นหรือ.. ถ้าไม่ไปกับท่าน มีหวังข้าถูกชิงร่างพร้อมกับจิตสำนึกไปอีกเป็นแน่แท้และสุดท้ายก็ต้องกลับมาหาท่านด้วยจิตสำนึกของอีกร่างอยู่ดี..เชิญท่านนำทางเถอะ.. ”

ไป๋หลงพยักหน้าตอบรับก่อนจะสยายปีกสีทองกลางแผ่นหลังหนึ่งคู่พร้อมกับอุ้มเทียร์ขึ้นมาอยู่ในมือแกร่งทั้งสองข้าง…เพราะเทียร์ในตอนนี้นั้นไม่อาจตามความเร็วของไป๋หลงได้ทันอีกต่อไปแล้วเมื่อระดับพลังทั้งสองเทียงเคียงกัน..

ตัวของไป๋หลงนั้นมีความเร็วกว่าเทียร์หลายเท่าตัว..เพียงแค่สะบัดปีกสีทองคู่นั้นก็ทำให้บรรยากาศโดยรอบสั่นไหวในทันที..

ตึง!!!

ตัวของไป๋หลงมุ่งตรงไปกลับไปยังที่พัก ทางด้านเซเรฟก็สร้างปีกจากพลังธาตุแสง..ก่อนจะพุ่งทะยานตามไป๋หลงด้วยความเหนื่อยหน่ายและถอนหายใจ..

“ เห้อ..จะเร็วเกินไปแล้วไม่คิดจะรอกันเลยสินะ.. ”

“ ข้าจะช่วยเจ้าเอง..อีกอย่างถ้าเจ้าแพ้ก็เหมือนกับข้าแพ้ไปด้วยมันรู้สึกไม่สบอารมณ์เอาซะเลย.. ”

อยู่ๆพลังของจักรพรรดิ์ธาตุจรัสก็ถูกยกระดับพลังขึ้น ความเร็วในการเคลื่อนไหวบนนภาเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ คล้ายกับดาวหางสีทอง สองดวงที่กำลังไล่ตามกันไปติดๆ…

เซเรฟย่อมรับรู้เสียงที่ดังก้องขึ้นภายในหัวของตนได้เป็นอย่างดี…

“ ขอบใจ..ถึงข้าจะไม่ต้องการให้เจ้าช่วยข้าก็เถอะ!! ”

“ หึ.. ”

บุคลิกของเซเรฟเพียงส่งเสียงหึในลำคอก่อนจะเงียบหายไป…

ส่วนทางด้านของไป๋หลงที่กำลังอุ้มเทียร์ก็ปลายตาสังเกตเห็นเซเรฟที่ตามมาติดๆ..แม้ตนเองจะยังไม่ได้ใช้ความเร็วทั้งหมด..แต่การที่สามารถติดตามตนมาได้แบบติดๆเช่นนี้ก็แสดงให้เห็นว่าจักรพรรดิ์จรัสแสงนั้นมีความแข็งแกร่งอยู่พอสมควร…

“ ไป๋หลง…ศึกในครั้งนี้เจ้าคิดว่ายังไง..เสาแสงสีแดงนั่นแม้พวกเราจะอยู่ห่างจากมันพอสมควรแต่ข้าก็สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าขนลุก..ถ้าเจ้าไปเผชิญหน้ากับสิ่งนั้น.. ”

เทียร์พูดพร้อมกับตัวสั่นเล็กน้อยคล้ายกับลูกนกที่กำลังโดนฝนจนหนาวสั่น…ตัวของไป๋หลงเองก็สัมผัสได้ถึงพลังที่น่าขนลุกออกมาจากเสาแห่งแสงนั่นเช่นเดียวกัน…

ก่อนที่ไป๋หลงมองเข้าไปในนัยต์ตาสีแดงทัมทิมของเทียร์ก็สัมผัสได้ถึงความเป็นกังวล โศกเศร้า เสียใจอย่างเห็นได้ชัด…ชายหนุ่มที่เห็นเช่นนั้นก็เพียงยิ้มอ่อนออกมา..

“ ไม่เป็นไร..ศึกครั้งนี้พวกเราต้องชนะ..อีกอย่างเจ้าไม่ต้องเป็นกังวลข้าไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกนะ..เจ้ากำลังอยู่ในอ้อมแขนของจ้าวสวรรค์เชียวนะ..ไม่ต้องเป็นกังวลไปหรอก.. ”

ชายหนุ่มพยายามพูดติดตลกเพื่อไม่ให้เทียร์นั้นเป็นกังวลจนเกินไป..แต่ดูเหมือนว่าจะมีเทพอยู่ตนหนึ่งที่ แสดงใบหน้าบึ้งตึงออกมาภายในห้องจิตของไป๋หลง…

“ เป็นหนุ่มเป็นสาวนี่ดีจังเลยนะ..ข้าเห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาพวกเจ้า..อยู่กับเจ้านานๆแบบนี้ข้าได้ตายพอดีเพราะความหวานของพวกเจ้า!!!.. ”

เสียงที่ดังขึ้นภายในจิตสำนึกของไป๋หลงก็คือเสียงของกาเบรียล…ไป๋หลงที่ได้ยินก็ตอบกลับผ่านห้วงจิตภายในทันที..

“ นี่ท่านเป็นเทพที่อยู่เหนือกว่าท่านตากับท่านลุงของข้าอีกนะ…จะตายเพราะเรื่องแค่นี้อย่างงั้นเหรอ..ว่าก็ว่าเถอะระหว่างนี้ข้าขอถามอะไรท่านสักอย่างได้ไหม.. ”

“ ว่ามาสิ..ไม่ว่าเรื่องอะไรถ้าตอบได้ข้าก็จะตอบ..ข้าก็มีเรื่องอยากจะบอกเจ้าไว้สักหน่อยเช่นกัน..เชิญเจ้าถามข้ามาก่อนได้เลย.. ”

“ ท่านเคยมีความรักมาก่อนหรือไม่…ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกและความแข็งแกร่งของท่านข้ามั่นใจเลยว่าต้องมีเหล่าสตรีเทพหลายนางที่ตกหลุมรักท่านเป็นแน่แท้.. ”

กาเบรียลนิ่งเงียบไปขั่วขณะหนึ่งก่อนจะตอบคำถามไป๋หลง..

“ ข้าเคยมี..แต่ตอนนี้นางผู้นั้นได้จากข้าไปไกลแสนไกลแล้วไม่มีทางเลยที่มือคู่นี้ของข้าจะเอื้อมไปถึงนางได้อีก…แม้ข้าจะมีพลังที่มหาศาลแข็งแกร่งเพียงใด..แต่มันก็เป็นสิ่งที่ไร้ค่าสำหรับข้า..เพียงแค่สตรีนางเดียวข้ายังช่วยนางไว้ไม่ได้..ช่างน่าขบขันซะจริงๆ..”

ด้วยคำง่ายๆสั้นๆแต่ความรู้สึกที่ออกมาจากคำพูดนั้นไป๋หลงสัมผัสได้ถึงความรักและความเศร้าโศกในเวลาเดียวกัน..

“ ข้าขอโทษ.. ”

“ จะขอโทษข้าทำไม..เจ้าไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย..เอาล่ะจบเรื่องคุยเล่นกันเพียงแค่นี้..ระหว่างที่จะถึงที่หมายข้าอยากจะเตือนเจ้าไว้บางอย่างเกี่ยวกับพลังที่เจ้าครอบครองอยู่”

“ คำเตือน? ”

น้ำเสียงของกาเบรียลเปลี่ยนไปเป็นเคร่งขรึมก่อนจะกล่าวถึงข้อควรระวังของพลังที่ไป๋หลงได้มา..ซึ่งหลังจากที่ไป๋หลงได้ฟังคำเตือนที่กาเบรียลได้บอกมานั้นตัวของชายหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความตกตะลึงชั่วขณะหนึ่ง..

ถ้าหากเป็นอย่างที่กาเบรียลได้บอกมา..อาจจะเป็นไปได้ว่าตัวของไป๋หลงนั้นอาจจะ….เพียงแค่ไป๋หลงนึกคิดก็รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว…

“ การกลืนกินของพลัง… ”

จบตอน

เทพมารตกสวรรค์

เทพมารตกสวรรค์

Status: Ongoing

ย้อนกลับไปเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน ได้เกิดเหตุการณ์ครั้งสำคัญที่สุด เทพและมารได้ตกหลุมรักกันเรื่องนี้เป็นเรื่องที่รู้กันเฉพาะเบื้องบนเท่านั้น แต่ก็มีเบื้องล่างบางส่วนที่รู้เแต่ทั้งสองนั้นหาใช่เทพและมารทั่วไป ฝ่ายเทพคือ ราฟาเอล ซึ่ง ตกหลุมรักกับเทพมาร อัลบาร์ ซึ่งทั้งสองเป็นบุคคลที่ทรงอำนาจ และมีชื่อเสียงอยู่มาก ในเรื่องความแข็งแกร่ง ทั้งสองได้ตกหลุมรักกัน และได้ให้กำเนิดบุตร แต่ ความรักของเทพและมาร เป็นเรื่องต้องห้าม เพราะ ทั้ง2ฝ่าย ต่าง เปรียบเสมือน แสง และความมืด ซึ่งมิอาจเป็นที่ยอมรับได้ เรื่องนี้รู้ถึงหูของ เทพสูงสุด จึงจำเป็นจะต้อง สะสางปัญหาเรื่องนี้ด้วยตัวเอง...

"ราฟาเอล เจ้าได้ทำผิดกฏของสวรรค์ และมิหนำซ้ำยังให้กำเนิดบุตร เห็นทีว่าข้าต้อง สังหารบุตรของเจ้าเพื่อไม่ให้เป็นที่ครหา "

เสียงพูดอันทรงพลังและศักดิ์สิทธิ์ แต่ มิทำได้ให้ราฟาเอล หรือ เทพมารหวั่นแม้แต่น้อย ถึงแม้อยู่วงล้อมของกองทัพเทพ มากกว่าแสนตนก็ตาม

" เอาล่ะส่งตัวบุตรของพวกเจ้ามาข้าจะถือว่าข้าให้อภัยพวกเจ้าทั้งสองก็แล้วกัน"

เมื่อองค์เทพค์สูงสุดของเหล่าเทพพูดจบก็เกิดความเงียบเข้าครอบคลุมแต่ในขณะนั้นเองก็เกิดเสียงหัวเราะของเทพมารขึ้น ทำให้เหล่าเทพ หน้าขึ้นสีและจะเข้าไปจัดการเทพมารตนนั้นแต่ไม่มีคำสั่งขององค์เทพสูงสุด เลยได้แต่รอฟังคำสั่ง

"ฮ่าๆๆๆๆ!! ตลกสิ้นดี คิดว่าข้าจะส่งบุตรของพวกเราให้เจ้าอย่างงั้นรึ หึ!! ฝันไปเถอะ ต่อให้ข้าต้องตาย ข้าจะลากพวกเจ้าไปด้วยให้จงได้"

เทพมารพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันสร้างความไม่พอใจกับเหล่าเทพอย่างมาก แต่ องค์เทพสูงสุดยังไม่ได้กล่าวอะไร

"เป็นเช่นนั้น ถึงแม้ข้าจะตายแต่ข้าจะลากพวกท่านทุกคนไปกับข้าด้วยถึงแม้ข้าจะตายก็ตามแต่....บุตรของพวกข้าต้องรอด ถึงแม้พวกท่านจะะเป็นเผ่าพันธุ์ เดียวกัน แต่ข้า ก็ไม่ยอมให้พวกท่านแตะต้องบุตรของข้าเป็นอันขาด!!! "

หลังจากราฟาเอลและเทพมารพูดจบก็หันหน้ามาหากันซึ้งในอ้อมแขนของเทพมาร อุ้มเด็กทารกหน้าตาน่ารัก ดวงตาที่ไร้เดียงสา เส้นผมที่ปลิวไสวตามสายลม ทั้งสองได้ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมา สร้างความกดดันให้กับเหล่าเทพเป็นจำนวนมาก

ตู้มมม!!

หลังจากทั้งสองปลดปล่อยแรงกดดันออกมา ทำให้องค์เทพสูงสุดเริ่มขมวดคิ้วและเริ่มคิดบางอย่างในใจ

" ทั้งสองคงจะรักกันมากสิน่ะ ข้าเองก็ไม่อยากสู้กับเผ่าพันธ์ตัวเองด้วยสิ งั้นเอาเป็นแบบนี้ละกัน "

"ราฟาเอล และ เทพมาร พวกเจ้าคงจะรักกันมากสินะ เอาเป็นแบบนี้เป็นไง เรื่องบุตรของพวกเจ้าข้าจะไม่ยุ่ง แต่ ข้าจะผนึกพวกเจ้า ทั้งสองไว้ในมิติพิเศษ เป็นเวลา10000ปี หลังจากผ่านหนึ่งหมื่นไป พวกเจ้าทั้งสองจะทำอะไรก็ไม่ใช่เรื่องของข้า นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าในนามองค์เทพสูงสุด ขอปลด ราฟาเอล

ออกจาก การเป็นเผ่าเทพ ณ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ส่วนเจ้า เทพมาร!! ถ้าเจ้ารัก ราฟาเอลจงตัดปีกตัวเองออก1คู่ ข้าจะไม่ทำอันตรายต่อลูกของพวกเจ้า เป็นไงจะรับหรือไม่รับข้อเสนอของข้าล่ะ จงเลือกซะ"

หลังจากเทพสูงสุดกล่าวจบก็เกิดเสียงคัดค้านหลายเสียง...

" ท่านเทพสู- " เทพองค์นั้นกล่างยังไม่ทันจบก็ โดนเสียงอันทรงพลังกล่าวขึ้น

"เงียบบบบบ!!"

" นี้คือการตัดสินใจของข้าพวกเจ้าไม่มีสิทธ์ ในที่นี้มีใคร สู้ตัวต่อตัว กับ ราฟาเอลและเทพมารได้บ้างล่ะ ข้าขอพูดเลยว่าไม่มี พวกเขาทั้ง2 ทรงพลังเกินไป และอีกอย่าง ราฟาเอลเป็นพวกพูดจริงทำจริง จำที่นางพูดได้หรือไม่ ว่านางจะลากพวกเจ้าไปด้วยถึงให้ต้องตาย " หลังจากเทพสูงสุดพูดจบก็ไม่ใครกล่าวขีดขึ้นมาอีก ถึงจะมีเทพบางองค์เจ็บใจแต่ต้องยอมรับว่า ที่เทพสูงสุดพูดมานั้นเป็นเรื่องจริง

"ได้ ข้าขอรับข้อเสนอ นั้นข้าจะตัดปีกของข้าออก1คู่ หวังว่าเทพอย่างพวกเจ้าคงไม่ผิดคำพูด!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันแสนจะเย็นชา การตัดปีกออกนั้น จะเป็นการตัดพลังไปด้วย ซึ่งเทพมารที่มีปีกถึง8 คู่ การที่เสียไป1คู่ ถือว่าเป็นการสูญเสียที่หนักหนาพอสมควร...

"ไม่นะอัลบาร์เจ้าจะทำแบบนั้นไม่ได้นะ!!!"

ราฟาเอลพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าและเสียใจ...

"ไม่เป็นไรหรอกยังไงต้นเหตุก็เกิดมาจากข้า แล้วอีกอย่างข้าก็ไม่อยากให้เจ้าสู้กับเผ่าพันธุ์ตัวเองด้วย"

ราฟาเอลกำลังจะพูดต่อ แต่เทพมารได้ตัดปีกตัวเองออก1คู่ ทำให้ความเจ็บปวดถาโถม เข้ามา แต่เทพมารไม่ส่งเสียงร้องออกมาแม้แต่น้อย

"เอาล่ะข้าทำตามที่ท่านพูดไว้แล้ว หวังว่าท่านคงจะไม่ผิดคำพูดนะ!!!"

เทพมารพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนล้าเต็มทน...

"อืม...ข้าให้สัญญา"

หลังจากเทพสูงสุดให้คำสัณญาเขาก็ล้มตัวลงหมดสติเพราะการตัดปีกออกนั้น เหมือนกับตายทั้งเป็น

"อุแว้ๆ"

เสียงเด็กทารกร้องขึ้น ถึงแม้จะไร้เดียงสาแต่ความเป็นบุตรเมื่อเห็นผู้เป็นพ่อบาดเจ็บก็ส่งเสียงร้องขึ้นมา ราฟาเอลเห็นภาพตรงหน้ารู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก นางเองก็ถือเป็นแม่คนนึง ราฟาเอลนางเดินเข้าไปใกล้ ลูกของตนซึ่งอยู่ในอ้อมอกของผู้เป็นพ่อ นางได้ทำการผนึกจิตวิญญาณส่วนนึงของนางไว้ในจิตของบุตร เมื่อถึงเวลา ผนึกจะคลายออกและจะได้เจอกับจิตวิญญาณ....ของนางที่นางได้หลงเหลือไว้ให้ และได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตร

เป็นดาบประจำดวงจิตวิณญาณของผู้ถือครอง...ไม่สามารถให้ใครใช้ได้ ยกเว้นจะได้รับการสืบทอดโดยตรงและได้รับการยิมยอมทั้ง2ฝ่าย!! ซึ่งบุตรของ ราฟาเอล และ อัลบาร์ นั้น เป็นกรณียกเว้นสามารถให้ได้โดยไม่ต้องผ่านการยินยอมจากอีกฝ่าย ซึ่งก่อนหน้านี้อัลบาร์ ได้มอบอาวุธจิตวิณญาณของตนให้กับบุตรไปแล้ว... ราฟาเอลอุ้มบุตรขึ้นมาและนำพลังส่วนหนึ่งมาห่อหุ้มร่างของบุตรตนและหายวับไปทันที ในตอนนี้บุตรของนาง ถูกส่งลงไปยังโลกเบื้องล่างแล้ว สร้างความตื่นตระหนกให้กับพวกเทพเหล่านี้เป็นอย่างมากเพราะกลัวว่าในอนาคต เด็กคนนี้จะนำภัยพิบัติมาให้...

"หลังจากผนึกพวกมัน2คนแล้วพวกเจ้านำกำลังคนของเราไป100 คนแล้วสังหารเด็กนั้นทิ้งซะในอนาคตมันอาจจะเป็นปัญหาต่อแผนการในอนาคตของท่านผู้นั้นได้"

เทพองค์นี้ รูปร่างสูงใหญ่กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ เส้นผมสีน้ำตาล กล่าวด้วยน้ำเสียงเบาๆกับสหายของตนแทนที่จะใช้จิตคุยกันเพราะมันมั่นใจว่าไม่มีใครได้ยินแต่แล้วเหตุการณ์บางอย่างไม่เป็นดังที่คิดเมื่อมีน้ำเสียงดังขึ้นพร้อมปล่อยแรงกดดันระดับมหาเทพ ขั้นปลาย ออกมา ทำให้เทพองค์นั้นหน้าซีดเผือกเพราะมันที่อยู่ขั้นเทพนักรบไม่อาจต้านทานแรงกดดันของราฟาเอลที่ปล่อยออกมา

ตู้มมม!!

เสียงระเบิดพลังของราฟาเอลที่ปล่อยกลิ่นอายระดับมหาเทพออกมา พร้อมกับแรงกดดันที่มหาศาล

"เจ้าเมื่อกี้เจ้าพูดว่าอะไรน่ะเจ้าจะสังหารบุตรของข้ายังงั้นเหรอ หึ!! ชั่งหาที่ตาย..ดีในเมื่อข้ายอมรับข้อเสนอแต่กลับมีพวกคิดไม่ซื่อกับลูกของข้า ข้าจะสังหารมันทิ้งซะ จงโผล่หัวออกมา หรือจะให้ข้าไปลากหัวเจ้าออกมา จงเลือกเอาซะ!!! "

ราฟาเอลตอนนี้พูดด้วยน้ำเสียง เย็นชา แฝงไปด้วยความโกรธแค้น จนยากจะควบคุม!!!

"ใจเย็นลงก่อน เรื่องนี้ข้าจัดการให้เมื่อครู่ข้ารู้เป็นเสียงผู้ใด เจ้าไม่ต้องลงมือหรอก ราฟาเอล บุตรแห่งข้า ข้าจะจัดการให้เพื่อเป็นการไถ่โทษที่มีพวกคิดไม่ซื่อ"

หลังจากองค์เทพสูงสุดพูดจบ ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้งก่อนจะมีเสียงขึ้น...

" อะไรนะ ท่านราฟาเอลเป็นบุตรของท่านองค์เทพสูงสุดอย่างงั้นเหรอข้าไม่เคยรู้มาก่อนข้าอยู่มา1000ปีข้าพึ่งรู้เนี้ยแหละ"

เทพองค์นี้กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตกตะลึง

"ใช่ๆข้าก็พึ่งรู้เนี้ยแหละ !! " เสียงเทพองค์อื่นดังขึ้นเรื่อยๆพูดกันไปต่างๆนาๆ

"เงียบ!! "

องค์เทพสูงสุดพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

"เรื่องนี้ข้าไม่เคยบอกพวกเจ้าก็คงไม่รู้หรอก ว่าราฟาเอลเป็นบุตร สตรี เพียงคนเดียวของข้าเรื่องอื่นชั่งมันตอนนี้ข้าจะจัดการกับเทพนอกรีตที่แฝงตัวอยู่ในนี้ "

ตู้มมมม!!

เทพองค์ที่โดนจับได้ว่าเป็นคนพูดระเบิดพลังระดับเทพนักรบ เพื่อจะหนีไปให้ไกลแต่มีหรือระดับเทพนักรบจะเทียบเคียงกับระดับเทพสูงสุด มันโดนฝ่ามือของเทพค์สูงสุดซัดเข้าตรงที่หน้าอกอย่างจังจนตัวระเบิดออก เพียงแค่ใช้พลัง ไม่ถึง1ใน10 ก็จัดการกับเทพองค์นั้นลงได้อย่างง่ายดาย...

"เอาล่ะข้าจัดการมันให้แล้วเจ้าจงวางใจเถิด ราฟาเอลบุตรเพียงคนเดียวของข้า ตามกฏเจ้าต้องโดนผนึก10000ปี เจ้าถึงจะออกมาได้ เพราะฉะนั้นพ่อรักลูกนะราฟาเอล"

เมื่อองค์เทพสูงสุดกล่าวจบราฟาเอลก็คลายพลังลงและส่งยิ้มให้ผู้เป็นพ่อก่อนจะกล่าวตอบกลับไปว่า

"ข้าขอโทษที่เป็นบุตรที่แย่ ให้กับท่าน ฝากท่านช่วยเฝ้ามองบุตรของข้าแทนข้าด้วย"

ราฟาเอลพูดจบก็มีแสงสีเหลืองส่องลวมาที่ร่างของราฟาเอลและอัลบ่ร์ ที่หมดสติอยู่แล้วทั้ง2ก็หายไปอยู่ในห้องมิติที่โดนผนึก จนกว่าจะครบ10000ปี

"แล้วค่อยกลับมาเจอกันใหม่นะบุตรเพียงคนเดียวของข้า"

น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไปด้วยความเศร้าและเสียใจเป็นอย่างมากที่ต้องผนึกบุตรของตัวเอง...

"หึมันยังไม่จบเพียงเท่านี้หรอก ดินแดนแห่งนี้จักต้องล่มสลาย!! "

เมื่อกล่าวจบ เงาสีดำที่แอบมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ ก็หายไปทิ้งไว้เพียงความว่างเปล่า..สาเหตุที่มกาเทพสูงสุดมิอาจจับการเคลื่อนไหวได้เพราะมันเป็นเพียงร่างที่สร้างขึ้นเท่านั้นไร้ซึ่งจิตวิญญาณ...

ระดับพลัง

นักรบแรกเริ่ม 1-9

นักรบจิตวิณญาณ 1-9

นักรบหลอมรวม 1-9

นักรบที่แท้จริง 1-9

ราชันนักรบ 1-9

ราชันนักรบที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพนักรบ 1-9

เทพสงคราม 1-9

มหาเทพ 1-9

เทพสูงสุด(พระเจ้า)

ระดับพลัง สัตว์อสูร

อสูรระดับแรกเริ่ม 1-9

อสูรระดับจิตวิณญาณ 1-9

อสูรระดับหลอมรวม 1-9

อสูรที่แท้จริง 1-9

ราชันอสูร 1-9

ราชันอสูรที่แท้จริง 1-9

จักรพรรดิ 1-9

จักรพรรดิที่แท้จริง 1-9

เทพอสูร 1-9

มหาเทพอสูร 1-9

เทพอสูรสูงสุด (ผู้ปกครองเหล่าอสูรทั้งปวง)

เงินตรา

1000เหรียญทองแดง = 1เหรียญเงิน

1000เหรียญเงิน = 1เหรียญทอง

1000เหรียญทอง = 1เหรียญเพชร

ระดับอาวุธ

อาวุธจะแบ่งออกเป็น2ประเภท ประเภทแรก 1.อาวุธที่หาได้จากการสังหารสัตว์อสูร

และหาซื้อทั่วไปหรือได้จากงานประมูล

ประเภทที่สอง อาวุธจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตใจของแต่ละคน แต่ละคนสามารถมีได้เพียงหนึ่งเดียว ยกเว้น สายเลือดผสม

อาวุธประเภทแรก

อาวุธระดับ 1 ดาว (ชาวบ้าน)

อาวุธระดับ 2 ดาว (นักรบฝึกหัด)

อาวุธระดับ 3 ดาว ( นักรบ)

อาวุธระดับ 4 ดาว ( พาลาดิน)

อาวุธระดับ 5 ดาว (ราชา)

อาวุธระดับ 6 ดาว (ราชัน)

อาวุธระดับ 7 ดาว (มายา)

อาวุธระดับ 8 ดาว (ตำนาน)

อาวุธระดับ 9 ดาว (เทวะ)

อาวุธประเภทที่ 2 ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ เป็นอาวุธที่อยู่ในจิตของผู้ครอบครอง มีพลังมหาศาลกว่า อาวุธประเภทแรก เป็นอย่างมาก ข้อเสียก็คือพลังจะลดลงอย่างลวดเร็วแรกกับพลังมหาศาลที่ได้รับ ระดับยิ่งสูงยากต่อการควบคุมในการใช้แต่ละครั้ง

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ชาวบ้าน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบฝึกหัด

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ นักรบ

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ พาลาดิน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ราชัน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ มายา

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ ตำนาน

ศาสตร์ตราจิตวิณญาณ ระดับ เทวะ

* ศาสตร์ตราวิณญาณต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเป็นอย่างมาก หาผู้ใช้ได้น้อยมากในแต่ละทวีป

ทวีป

ทวีป จรัสแสง (เป็นที่ตั้งของเผ่าพันธ์มนุษย์)

ทวีป ปักษา

ทวีป อสูร

ทวีป มืด

ทวีป สีชาด

ทวีป มังกร

ทวีป หงส์สา

เผ่าพันธ์

มนุษย์

เทพ

มาร

มังกร

เอล์

อสูร

ระดับโอสถ

ความบริสุทธิ์จะมี1-10ส่วน 5ในส่วน10 จะถือว่า ระดับ ต่ำ 6ในส่วน10 ระดับกลาง 7 ส่วนขึ้นไปถือว่าระดับสูง

โอสถระดับ ต่ำ (สีเทา)

โอสถระดับ กลาง (สีเขียว)

โอสถระดับ สูง (สีเหลือง)

โอสถระดับ ราชัน (สีขาว)

โอสถระดับ จักพรรดิ (สีม่วง)

โอสถระดับ ตำนาน (สีทอง)

โอสถระดับ มายา (สีแดง)

โอสถระดับ เทวะ (สีรุ้ง)

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท