ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 81

ตอนที่ 81

บทที่ 81 มีอะไรไม่กล้า

“ครับ พี่เฉินเฟิง” อาเหาทำสีหน้าที่เคล้าด้วยความสุข แล้วเรียกขึ้น ทีแรกเขาเรียกเขาคุณชายเฉิน ทว่าพอค่าพูด ที่กำลังจะออกจากปาก เพราะว่าครั้งนี้ที่ออกมา เฉินเฟิงได้ กำชับเขาว่าห้ามเรียกเขาว่าคุณชายเฉินหรือคุณเฉิน

“ไม่ได้ ห้ามให้เขานั่งที่นี่! ” จวงเห่าหยินยังไม่ได้เอ่ยพูด อะไร ใบหน้าอันสะสวยของหลิ่วอีอีดูเย็นชาขึ้นมา จากนั้น ก็เอ่ยขึ้นก่อน ให้ชาวนาแก่ชรานั่งข้างเธอแบบนี้ ไม่ใช่ว่า ต้องการจะทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงหรือไง

เฉินเฟิงขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็เอ่ยพูดอย่างเย็น ชา “นี่เป็นที่นั่งของคุณ? ”

หลิ่วอีอีหยุดชะงักไปทันที แน่นอนว่านี่ไม่ใช่ที่นั่งของเธอ ทว่าเธอก็จับจ้องไปยังเฉินเฟิงด้วยความโกรธเคืองแล้วพูด ขึ้น “แต่ก็ไม่ใช่ของคุณ คุณมีสิทธิ์อะไรให้เพื่อนของคุณ หลีกที่นั่งของตัวเอง ทำไมคุณไม่หลีกที่นั่งของตัวเอง ไอ้ เห็นแก่ตัว! ”

อาเหาทำสีหน้าที่เลือดเย็น และกำลังจะบอกว่าตัวเอง อยากยืนแบบนี้ ทว่าเฉินเฟิงกลับผายมือแล้วพูดขึ้น “ทำไม ต้องอธิบายกับเธอด้วย อาเหา ให้คุณลุงคนนี้มานั่งลงที่นี่”

“ครับ พี่เฟิง” อาเหาพยักหน้า

“ทำแบบนั้นไม่ได้ครับๆ พ่อหนุ่ม ฉันยืนก็พอ” ชาวนาแก่ ซราจึงรีบผายมือ อาเหาและเฉินเฟิงช่วยเขาแบบนี้ เขาเองก็รู้สึกซึ้งใจ ทว่าเขาก็รู้ดี หลิ่วอีอีและจวงเห่าหยินมีเบื้อง หลังที่ไม่ธรรมดา เขาไม่อยากจะให้อาเหาและเฉินเฟิงไป ผิดใจกับหลิ่วอีอีและจวงเห่าหยินเพราะเขา

“ลุง ไม่เป็นไร ลุงมานั่งที่นี่ เดี่ยวผมยืนเอง” อาเหาขมวด คิ้วเป็นปม จากนั้นก็พูดขึ้น

“ฉันจะบอกอีกรอบ อย่าให้เขามานั่งที่นี่! ” พอเห็นอาเหา พยุงชาวนาแก่ชรา หลิ่วอีอีจึงรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา ทันที จากนั้นก็ไปยืนขวางข้างหน้าอาเหา เธอไม่อยากจะ ถูกควันไปตลอดทั้งทาง

“ใช่ แกอย่าแกล้งทำเป็นคนดีหน่อยเลย ทำไมแกถึงต้อง มาทำให้ฉันพลอยลากไปด้วย? ” จวงเห่าหยินก็ยืนช่วย เถียงอยู่ข้างๆ

“แกลองพูดอีกคำสิ เชื่อว่าฉันจะโยนแกออกไปข้างนอก?

” เฉินเฟิงมองหน้าจวงเห่าหยินด้วยความเย็นชาไปชั่วพริบ ตา แล้วพูดขึ้น พอจวงเห่าหยินสบตากับเฉินเฟิง ในใจลึกๆ สั่นเทาไม่

หยุด ทว่ากลับยังพูดขึ้นอย่างหัวดื้อ “แกกล้าหรอ!”

“แกลองดูสิว่าฉันกล้าไหม! เฉินเฟิงแสยะยิ้มพูดขึ้น

จวงเห่าหยินอ้าปากแล้วพึมพำไม่กี่คำ ทว่าเห็นอาเหาที่ กำลังอยากลอง เขาจึงไม่เอ่ยพูดขึ้นใดๆ สุดท้ายก็สังเกต เห็นอาเหาและเฉินเฟิงดูไม่ปกติ ไม่แน่เขาสามารถไฟโยน เขาออกไปจริงๆ ก็ว่าได้

ครั้งนี้ หลิ่วอีอีก็ทำท่าที่ดื้อรั้นอีก จากนั้นก็ปล่อยให้อาเหาเดินไป

ถึงแม้เธอจะไม่เคยผ่านการรับบัพติศมาทางสังคม ทว่า เธอก็ไม่โง่ รู้ว่าอาเหากับเฉินเฟิงยังไงก็เป็นชายหนุ่ม ถ้า เกิดใจร้อนขึ้นมา แม้กระทั่งเธอที่เป็นผู้หญิงอ่อนแอๆ คน หนึ่ง จะเอายังไงไปสู้กับพวกเขาสองคนได้

ทว่ารอหลังจากลงรถไฟ เธอต้องสั่งสอนเฉินเฟิงแน่นอน

!

ชาวนาแก่ชราถูกอาเหากดตัวไว้ที่บนเก้าอี้ ทว่าสีหน้า กลับเต็มไปด้วยความหวาดผวา ตลอดทั้งสองเธอไม่ สามารถไฟนั่งอยู่อย่างสบายใจได้ แม้กระทั่งหัวยังไม่กล้า เงย

“ลุง ลุงไปจินหลิงทำอะไร? ” เฉินเฟิงเหลือบตามอง กระเป๋าผ้าสีดำของตัวเอง ทันใดนั้นชาวนาแก่ชราจึงได้คิด จะป้องกันตัวเอง แล้วก็ได้กอดกระเป๋าผ้าสีดำนั้นไว้แน่นๆ จากนั้นก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ระมัดระวังตัว

เฉินเฟิงยิ้ม แล้วไม่ได้ไปสนใจนัยน์ตาที่หวาดระแวงของ ชาวนาแก่ชรา หลังจากที่ชาวนาแก่ชราขึ้นรถไฟปุ๊บ เขาก็ มองออก ในกระเป๋าสีดำของชาวนาแก่ชรามีเงินอย่างน้อย ห้าหกหมื่น และสำหรับเงินห้าหกสิบหมื่น สำหรับเฉินเฟิง แล้วไม่ถือว่าเยอะ ทว่าสำหรับชาวนาแก่ชราแล้ว กลับเป็น เงินสะสมตลอดชีวิตของเขา

สำหรับการป้องกันตัวเหมือนป้องกันโจรที่ร้ายแรงของ ชาวนาแก่ชรา ตั้งแต่ขึ้นรถไฟมา ก็ได้กอดกระเป๋าสีดำของ เขาไว้แน่นๆ แต่เฉินเฟิงกล้ารับประกันว่า โจรพวกนั้นต้องมี วิธีการขโมยที่ฉลาดหลักแหลมกว่าอย่างแน่นอน
ความดีงามสูงขึ้น 1 ฟุต แต่ความชั่วร้ายสูงขึ้น 10 ฟุต

ถ้าชาวนาแก่ชรายืนอยู่ท่ามกลางผู้คน มากสุดก็แค่สิบ นาที เงินในกระเป๋าของเขาก็จะกลายเป็นกระดาษหนึ่งกอง ทั้งหมด

เกรงว่าถึงโรงพยาบาล เขาก็คงจะสังเกตเห็นว่าเงินของ ตัวเองหายไปหมด

ให้ชาวนาแก่ชรานั่งอยู่ข้างๆ ตัวเอง ก็ถือว่าเป็นการ ปกป้องเขา เฉินเฟิงไม่เชื่อว่ายังมีโจรโง่ที่กล้าดีขโมยของ ภายใต้สายตาที่จับจ้องอยู่ของเขา

ตอนที่รถไฟใกล้ถึงสถานี มันก็ค่อยๆ ขับช้าลง เวลานี้ มือถือของจวงเห่าหยินดังขึ้น

“พี่จวง พวกเพื่อนฝูงถึงสถานีรถไฟแล้ว ตอนนี้รอเด็ด เปรตสองคนนั้นลงจากรถไฟก่อน” สายที่อยู่ที่ฟากหนึ่ง ก็ได้ส่งเสียงอันโหดเหี้ยมออกมา

“ปล่อยให้พวกมันรอไว้ก่อน รถไฟใกล้จะถึงสถานีแล้ว” จวงเห่าหยินมองเฉินเฟิงและอาเหาด้วยความได้ใจ จากนั้น ก็เอ่ยพูดขึ้น

เฉินเฟิงและอาเหามองจวงเห่าหยินเพียงชั่วพริบตา ทว่า ชาวนาแก่ชรากลับมองจวงเห่าหยินด้วยความ กระวนกระวายและขอความช่วยเหลือ “นายคนนี้ มีพี่น้อง สองคนนี้ พวกเขาไม่ได้ตั้งใจ คุณก็ปล่อยพวกเขาไปเถิด”

“ไอ้แก่เอ่ย หุบปาก! แกคิดว่ากูจะปล่อยมึงไปหรือไง? ” พอจวงเห่าหยินเหมือนไม่ได้เข้าตาเฉินเฟิงและอาเหา ไฟแห่งความโมโหในใจจึงมากไปกว่าเดิม แค่เอาชาวนาแก่ ชรามาเป็นที่ระบายอารมณ์

“ลุง ไม่ต้องกลัว หลังจากที่ลงจากรถไฟ ใครจะฝ่าย คุกเข่าขอร้องใครให้อภัยยังไม่รู้เลย” เฉินเฟิงพูด ปลอบโยนด้วยความขี้เกียจ มีคนบางคนต้องการจะรนหาที่ ตาย เขาก็ไม่สามารถขัดขวางไว้อยู่

“เชอะ! ที่จริงเขากลัวจะตายแล้ว กลับยังมาทำเป็นขี่โม้ ตรงแถวนี้” หลิ่วอีอีเหลือบตามองบนอย่างไม่พอใจ รู้สึกว่า เฉินเฟิงยังคงทำเป็นเก่ง ไหนๆ จวงเห่าหยินก็รู้จักผู้รับเหมา ก่อสร้าง งั้นถ้าเรียกเขามา แน่นอนว่าต้องเรียกคนงาน ก่อสร้าง คนพวกนี้ถือว่าเป็นยอดฝีมือในการทะเลาะวิวาท แต่เฉินเฟิงและอาเหา ดูพวกเขาผอมจนเหมือนลิง เกรงว่า คงจะถูกกระทืบให้กระเด็นไปไกลๆ แค่ครั้งเดียว

เฉินเฟิงไม่ได้สนใจ หลิ่วอีอี

หลิ่วอีอีก็รู้สึกไร้อารมณ์ จากนั้นจึงเอามือถือขึ้นแล้วโทร ออก “หม่าม หนูถึงสถานีแล้ว หม่ามื้อยู่ไหน? ”

“ยังดี แต่ตอนอยู่บนสถานีรถไฟได้เจอกับพวกผู้ชายที่

น่าขยะแขยง

“รักนะคะหม่าม! ”

“สถานีจินหลิงก็ถึงแล้ว เชิญแขกผู้โดยสารทุกท่านนำ สัมภาระของตนเองออกมาที่นี่ และออกไปนอกสถานีตาม ลำดับ.”

พอเสียงประกาศจากในรถไฟดังขึ้น เฉินเฟิงจึงถลึงตากว้างทันที นัยน์ตาเปล่งประกายความมีชีวิตชีวาออกมา

จินหลิง ถึงแล้ว!

“พ่อหนุ่ม พ่อหนุ่มรีบวิ่งหนีเถอะ ที่นี่เป็นสถานีตำรวจ มี ตำรวจอยู่ พ่อหนุ่มไปหาตำรวจไป”ชาวนาแก่ชรามอง เฉินเฟิงและพูดด้วยความตื่นเต้น

“หาตำรวจ? เหอะ ตำรวจสามารถปกป้องเราได้ตลอด เวลาชีวิตเลยหรอ? ” จวงเห่าหยินยิ้มอย่างไม่สบอารมณ์ เขาไม่เชื่อ เฉินเฟิงและอาเหาจะพักอาศัยอยู่ในสถานี ตำรวจตลอด

“ลุง ลุงไม่ต้องมาสนใจพวกเรา พวกเรามีวิธีอยู่แล้ว ลุงไป ก่อนเถอะเฉินเฟิงเอ่ยพูดด้วยเสียงนิ่งเฉย

“แต่ว่า…..”

“ไม่มีคำว่าแต่ว่า ลุง ไปเถอะ ลูกชายของลุงยังรอลุงอยู่”

เฉินเฟิงเอ่ยพูด

ชาวนาแก่ชราย่ำเท้า แล้วมองเฉินเฟิงอย่างทนไม่ไหว จากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

“แกกล้าไปกับฉันไหม? ” จวงเห่าหยินที่จับกระเป๋า เอกสารไว้ จากนั้นก็ถามเฉินเฟิงด้วยความท้าทาย ชาวนา แก่ชราจากไปก็จากไปแล้ว ทว่าเฉินเฟิงและอาเหา เขา กลับไม่คิดจะปล่อยเขาไป

เฉินเฟิงแสยะยิ้มขึ้นอย่างเบาๆ “มีอะไรไม่กล้าล่ะ” หลิ่วอีอีเบะปากเหมือนลูกลูกท้อเล็กๆ ของเธอ และเวลานี้ เขายังแกล้งทำอีก ผู้ชายคนนี้โง่เขลาจริงๆ

“เวลานี้พอเห็นเพื่อนๆ ของฉัน หวังว่าแกยังคิดแกล้งทำ แบบนี้ได้อีก! ” จวงเห่าหยินพึมพ่าด้วยเสียงเย็นชา

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

“คุณชาย ท่านใช้เงินช้าเกินไปแล้ว ตระกูลให้เงินพันล้าน หนึ่งเดือนแล้ว ทําไมยังไม่ใช้ หมดขอรับ?”ในฐานะที่เป็นทายาทของตระกูลร่ํารวยที่สุด เฉินเฟิงกลัดกลุ้มใจมาก คนอื่น นั้นล้วนแต่ ถ้าไม่ขยันทํางาน ก็ต้องกลับบ้านไปทํานาแต่เฉินเฟิง ถ้าเขาไม่พยายามเป็น ลูกเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ก็ต้องกลับไปสืบทอดทรัพย์สินหลายล้านล้าน โธ่ การ ดําเนินชีวิตมันยากจริงเลย

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท