บทที่ 98 จินลิ่วอาน
แน่นอนว่า ภายใต้สถานการณ์ที่ปกติเช่นนี้ หาก จอมยุทธ์ธรรมดาๆ ไม่มีพรสวรรค์ ต้องการฝึกฝนถึงขั้น กัว จิ้ง ก็ไม่มีทางที่จะเป็นไปได้เลย
แม้แต่อ้านจิ้งก็ยังยาก คนส่วนใหญ่ ทั้งชีวิต ก็ สามารถฝึกได้ถึงขั้นกลางหรือขั้นสูงสุดของหมิงจิ้ง
แม้จะฝึกถึงขั้นกลางหรือขั้นสูงสุด ก็เพียงพอที่จะ วางอำนาจบาตรใหญ่ในสังคมได้แล้ว อิงตามฐานะของ จอมยุทธ์ กลายมาเป็นแขกที่ได้รับเชิญในชั้นชนสูง
เมื่อพูดถึงหลี่ชวน อย่ามองว่าเขาในตอนนี้น่าสลด ใจอย่างมาก ต่อหน้าเฉินเฟิงเหมือนหมาขี้ประจบยังไง อย่างนั้น แต่เมื่อปล่อยไปสู่โลกภายนอก เขาก็เป็น เหมือนผู้ยิ่งใหญ่ ตระกูลหลี่เพื่อที่จะเลี้ยงดูหลี่ชวนคน นี้ ในทุกๆปีแทบจะดึงเงินหลายสิบล้าน จากธุรกิจของ ตระกูลออกมาให้หลี่ชวนซื้อทรัพยากรทั้งหมดที่จำเป็น สำหรับการฝึก
และยังสร้างรีสอร์ทริมทะเลขึ้นมาเพื่อหลี่ชวนเป็น พิเศษ หาสาวสวยๆมาคอยปรนนิบัติรับใช้หลี่ชวน
แค่คิดก็รู้แล้ว หลี่ชวนใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกสุข สบายขนาดไหน
นี้เป็นเพียงแค่จอมยุทธ์ขั้นสูงสุดของหมิงจิ้ง ถ้าหากว่าถึงขั้นอ้านจึงแม้แต่เสิ่นหงส์ขังชายที่ร่ำรวยที่สุด ในชางโจว เห็นจอมยุทธ์อ้านจิ้งต่างก็ต้องนอบน้อม
สำหรับหัวจิ้ง นั้นไม่สามารถขับเคลื่อนด้วยอำนาจ ของเงินบนโลกได้
“แล้วจอมยุทธ์อ้านจิ้งล่ะ? ” เฉินเฟิงถามต่อ ใน บรรดากลุ่มคนที่ไล่ฆ่าเขาในปีนั้น ก็มีจอมยุทธ์อ้านจิ้ง และหนึ่งในนั้น เป็นไปได้ว่ามีจอมยุทธ์ในพื้นที่อย่างจิน ในปี หลิงด้วย
“จอมยุทธ์อ้านจิ้ง คุณชายเฉิน จอมยุทธ์อ้านจิ้ง ของจินหลิงนี้ มีประมาณสิบกว่าคน ประมุขสำนัก กำปั้นเหล็กคืออ้านจิ้งในช่วงต้น และยังมีหลี่เห้อปรมา จารย์แห่งสิ่งยี่เหมิน..”
“และก็ ชายชราที่อยู่กับคุณชายหยางเมื่อตะกี้นี้ ก็ เป็นจอมยุทธ์อ้านจิ้ง แต่ว่าเป็นจอมยุทธ์อ้านจิ้งขั้น กลางหรือขั้นสูงสุดอันนี้ก็ไม่อาจทราบได้” หลี่ชวนพูด อย่างระมัดระวัง เขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับฐานะของเฉินเฟิง แต่ว่าเมื่อเห็นหยางไท่ท่าทางนอบน้อมอย่างนี้ เห็นได้ ชัดว่าฐานะของเฉินเฟิงไม่ได้ต่ำต้อยเลย ดังนั้นหากว่า เขารู้เรื่องอะไร เขาก็ไม่กล้าที่จะปิดบังแม้แต่น้อย
เฉินเฟิงพยักหน้ารับเล็กน้อย พละกำลังของผาง ตงฉี เขาแค่มองแวบเดียวก็ดูออกแล้ว เป็นอ้านจิ้งขั้น กลาง แต่ว่าจะพัฒนาก้าวไปสู่ขั้นสูงสุดของอ้านจิ้งนั้น ก็ไม่ไกลแล้ว
“จริงด้วย คุณชายเฉิน ผมได้ยินมาว่า ช่วงนี้เจ้าสำนักของสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกังนั้น จินลิ่วอานก็ ฝ่าด่านไปถึงขั้นต้นของอ้านจิ้ง” น้ำเสียงของหลี่ชวนมี ความอิจฉาริษยา จริงๆแล้วนั้นจินลิ่วอานก็เหมือนกับ เขา ต่างก็เป็นจอมยุทธ์ขั้นสูงสุดของหมิงจิ้ง ฐานะก็ พอๆกัน แต่ในวันนี้จินลิ่วอานสามารถฝ่าฟันเข้าไปถึง อ้านจิ้ง ระหว่างพวกเขาสองคนนั้น ก็เกิดความต่างกัน ไม่น้อยเลยทีเดียว
ถึงขั้นกับหลังจากนี้หากพบจินลิ่วอาน จะต้อง เรียกผู้อาวุโสจินลิ่วอานด้วยความเคารพ
และตัวของจินลิ่วอานเองนั้น หลังจากนี้อาจจะถูก เข้ามาอยู่ในกองกำลังที่สำคัญของจินหลิง อยู่ฝ่าย นฤบาล ฝึกฝนกองกำลัง ต้องการเท่าไหร่ก็มีเท่านั้น
จอมยุทธ์หมิงจิ้ง และจอมยุทธ์อ้านจิ้ง ไม่ได้อยู่ใน ระดับเดียวกันเลยสักนิด
“สถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกัง? ” เฉินเฟิงขมวดคิ้ว แน่น หานหลงเคยพูดว่า ฟางเทามากจากสถานที่ฝึก วิทยายุทธจินกัง วันนั้นตอนที่เขาสู้กันกับฟางเทา พบ ว่าฟางเทาได้เป็นหมิงจิ้งขั้นต้นแล้ว และคนที่สอน ทักษะป้องกับตัวให้เขานั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งคนที่ ไล่ฆ่าเขาเมื่อสามปีก่อน ดังนั้นจินลิ่วอานเกิดความ สงสัยอย่างมาก แม้แต่ตัวของเขาเอง ก็คือหนึ่งในนัก ฆ่าเมื่อสามปีก่อน!
“เป็นสถานที่ฝึกวิทยายุทธจินกัง คุณชายเฉิน มี ปัญหาอะไรเหรอ? ” หลี่ชวนพูดถามด้วยความระมัดระวัง ก่อนหน้านี้พูดถึงอำนาจที่ยิ่งใหญ่ขนาดนั้น สีหน้าของเฉินเฟิงก็ไม่เปลี่ยนเลย แต่ว่าสถานที่ฝึก วิทยายุทธจินกังนี้ เฉินเฟิงกลับเกิดความสนใจขึ้นมา
“ไม่มีปัญหาอะไร” เฉินเฟิงส่ายหน้า พูดทันที “ฉัน จะมอบหมายงานให้กับนายหนึ่งอย่าง หากนายทำได้ดี ขาของนาย ฉันสามารถหาทางรักษาให้หายได้”
“คุณชายเฉินพูดเกรงใจเกินไปแล้ว มีเรื่องอะไรก็ สั่งผมมาได้เลย อย่างน้อยขาข้างนี้ ผมหาวิธีรักษาเอง ได้ ไม่กล้าที่จะรบกวนคุณชายเฉิน” หลี่ชวนค่อนข้างที่ จะตกใจ แต่ว่าในใจนั้นก็ค่อนข้างที่จะดีใจ หากว่าเขา สามารถทำเรื่องนี้ได้สำเร็จ ก็จะได้รับความชื่นชอบ จากเฉินเฟิง งั้นเขาก็จะได้เป็นคนของเฉินเฟิงแล้ว ตระ กูลหลี่ก็คงไม่กล้าที่จะเข้ามาสร้างความวุ่นวายให้กับ เขาอีกแน่
“ไม่เป็นการรบกวน ขอเพียงจัดการเรื่องนี้แทนฉัน ให้สำเร็จ ขาของนาย แค่ฉันพูดก็สามารถหาคนมาช่วย รักษาหายได้” เฉินเฟิงพูดอย่างเนิบๆ
“คุณชายเฉิน ท่านพูด เนื้อหาของงานที่ต้องทำ เป็นยังไง ผมจะสู้สุดชีวิต และจะทำให้สำเร็จ” หลี่ชวน พูดด้วยความนอบน้อม
“ฉันต้องการให้นายไปเป็นเพื่อนกับจินลิ่วอาน หลังจากนั้นก็ไปสืบข้อมูล จากที่นั้นมา” เฉินเฟิงพูด กล่าว
“ไม่มีปัญหา คุณชายเฉิน ท่านอยากให้สืบเรื่องอะไรครับ? ” หลี่ชวนรีบตบหน้าอกรับ แท้ที่จริงแล้ว เขารู้จักกับจินลิ่วอาน ขอเพียงแค่ไม่ใช่เรื่องที่ลับสุด ยอด จินลิ่วอานก็สามารถบอกเขาได้หมดทุกอย่าง
“ฉันอยากจะรู้ เมื่อสามปีก่อน จินลิ่วอานได้เคย เข้าร่วมการไล่ฆ่าสักครั้งไหม ถ้าหากว่าเคยเข้าร่วมคน ที่เคยเข้าร่วมการไล่ฆ่ากับเขา มีใครบ้าง” เฉินเฟิงพูด เน้นทุกคำพูด อำนาจที่เขามีในตอนนี้ ศัตรูเมื่อสามปี ก่อน จะต้องล้างแค้น เขาไม่สามารถที่จะให้พี่น้องสิบ กว่าคนที่ปกป้องเขา ตายเปล่า!
“ใช่ คุณชายเฉิน ผมจะไปสืบถามมาให้แน่ชัด”
“จำไว้ ห้ามแหวกหญ้าให้งูตื่น” เฉินเฟิงกำชับ หาก ทำให้จินลิ่วอานรู้ตัว ก็คงจะหนีไปก่อนแล้ว จะตามหาจิ นลิ่วอานอีกนั้นก็คงยากแล้ว
“คุณชายเฉิน ผมจะทำสุดความสามารถ ท่าน โปรดวางใจ” หลี่ชวนรีบพูดให้สัญญา “อืม ไปจัดการเถอะ” เฉินเฟิงพยักหน้า สำหรับ
เรื่องนี้คงไม่ทราบผลในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน หลังจากที่ รอการสืบหาคนกลุ่มนั้นที่เข้าร่วมการไล่ฆ่าเมื่อสามปี ก่อน เขาก็ยังต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ถึงอย่างไร หนึ่งในนี้ ก็อาจจะเกี่ยวข้องกับจอมยุทธ์อ้านจิ้ง
“ครับ คุณชายเฉิน”
หลังจากที่หลี่ชวนออกไป เฉียวเสี่ยวโย่วก็เดินเข้า
มาแล้ว
“พี่เสี่ยวโย่ว เกิดอะไรขึ้นกับคดีพ่อแม่ของสวี
เฟยหรง? ” เฉินเฟิงเอ่ยถาม ตอนที่เพิ่งมาจินหลิง เขา ก็ให้เฉียวเสี่ยวโย่วไปตรวจสอบคดีพ่อแม่ของสวีเฟยห รง หากพ่อแม่ของสวีเฟยหรงถูกปรักปรำจริงๆ งั้นเขาก็ จะช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมเอง
“คุณชายเฉิน ฉันให้คนไปเช็คดูแล้ว สถานการณ์ ในตอนนี้คือ เหล้าของสวีจื่อเจและจ้าวเหมยหมักไม่มี ปัญหาอะไร แต่พวกเขากลับไปล่วงเกินตัวแทน จำหน่ายในพื้นที่ ตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่นั้นนำเหล้าที่ มีปัญหาเข้าไปผสมกับเหล้าหมักของสวีจื่อเจและจ้าว เหมยแล้วขายให้กับชายชราคนหนึ่ง ชายชราคนนั้น เดิมทีแล้วนั้นเป็นโรคหัวใจ หลังจากที่ดื่มเหล้าที่มี ปัญหาเข้าไป โรคหัวใจก็กำเริบแล้ว ถูกส่งไปยังห้อง ฉุกเฉิน แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือไว้ได้ เสียชีวิตลงใน คืนนั้น”
“ตอนนี้ผู้จัดจำหน่ายนั่นจัดการไม่ยาก พวกเรามี หลักฐานแล้ว สามารถส่งเขาเข้าไปได้ตลอดเวลา แต่ สิ่งที่ยากก็คือครอบครัวของชายชราคนนี้ พวกเขาไม่ ยอมรับค่าชดเชย ป่าวประกาศจะทำให้ผู้จัดจำหน่าย นั้นและสวีจื่อเจคู่สามีภรรยาเข้าคุกไปพร้อมกัน เพราะ ว่าเหล้าเป็นของสวีจื่อเจคู่สามีภรรยาหมัก ดังนั้นพวก เขาหนีไม่พ้นข้อกล่าวหานี้” พูดมาถึงตรงนี้ เฉียวเสี่ยว โย่วก็อดไม่ได้ที่จะมองที่เฉินเฟิงแวบหนึ่ง
“ครอบครัวของชายชรานี้ มีคนหนุนหลังเหรอ?