ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System – ตอนที่ 1096 การจับมือกันระหว่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง

ตอนที่ 1096 การจับมือกันระหว่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง

ณ ทางเข้ามหาวิทยาลัยจินหลิง

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์กำลังยืนอยู่ริมทางพร้อมกับกระเป๋าเดินทางสีดำสนิท เขามองไปที่อาคารใกล้ๆ และพูดขึ้น

 นี่ก็ผ่านมาสิบปีแล้ว ผมไม่เคยนึกเลยว่าตัวเองจะมาที่นี่อีกครั้ง แต่ตอนนี้ผมมาที่นี่บ่อยมากๆ 

 ผมเคยมาที่นี่แค่สองครั้งเอง  ชูลทซ์พูดขณะลากกระเป๋าเดินทางเช่นกัน  มันรู้สึกเปลี่ยนไปทุกครั้งที่มาที่นี่ 

 นี่เป็นครั้งแรกของผม  ชายชราวัยห้าสิบปีกล่าวขึ้น เขามองดูผู้คนที่เดินเข้าไปในมหาวิทยาลัยและพูดว่า  ผมเคยเห็นที่นี่แค่ในหนังเท่านั้น 

ฟาลติ้งส์  โอ้ จริงเหรอ? แล้วคุณคิดว่ามันเป็นยังไงล่ะ? 

ชายชรายิ้มและพูดว่า  หนังล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งนั้นแหละ 

ที่ยืนอยู่ข้างพวกเขานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากศาสตราจารย์โฮลเดน

ในฐานะเลขาธิการสหพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ เขามาที่เมืองจินหลิงเพื่อเจรจากับสมาคมนักคณิตศาสตร์จีนและรัฐบาลเมืองจินหลิงเป็นหลัก ซึ่งเป็นการหารือเกี่ยวกับงานประชุมคณิตศาสตร์นานาชาติที่กำลังจะจัดขึ้น

เหตุผลที่เขามาที่นี่กับฟาลติ้งส์และชูลทซ์ก็เพื่อมาเยี่ยมลู่โจว

ชูลทซ์ยิ้มและพูดว่า  คุณจะตกใจมากกว่านี้ถ้าคุณไปที่ห้องสมุด ผมเคยไปห้องสมุดมาหลายต่อหลายแห่ง แต่ไม่มีไหนที่ที่นั่งแน่นเท่าห้องสมุดของพวกเขา ผมว่าคุณต้องจองที่นั่งด้วยซ้ำ 

 จริงเหรอ?  ศาสตราจารย์โฮลเดนกล่าวว่า  ผมคิดว่าเราควรไปเยี่ยม… พูดถึงเรื่องนี้ แล้วเราจะพบศาสตราจารย์ลู่ยังไงล่ะ? พวกคุณรู้ไหมว่าสำนักงานของเขาอยู่ที่ไหน? 

ฟาลติ้งส์และชูลทซ์สบตากันอย่างแปลกๆ

 รู้ใช่มั้ย? 

 ไม่… ผมคิดว่าคุณรู้ 

 ผมเคยไปแค่ที่ใจกลางเมืองจินหลิงมาก่อนเท่านั้น 

ศาสตราจารย์โฮลเดนมีใบหน้าที่ดูเคอะเขินในขณะที่ไอ

 …ผมจะไปถามคนแถวนี้ให้นะ 

เขาลากกระเป๋าเดินทางและเดินไปหายามที่ทางเข้า เขาใช้แอปแปลภาษาในโทรศัพท์เพื่อช่วย

 สวัสดี เราจะไปที่ออฟฟิศของลู่โจวได้อย่างไร? 

ยามมองดูชาวต่างชาติสามคนที่ยืนอยู่นอกประตู เขาหยิบเอกสารสามฉบับออกจากลิ้นชักแล้วส่งออกมาให้

 นักวิชาการลู่? กรอกแบบฟอร์มนี้ก่อนนะครับ 

ศาสตราจารย์โฮลเดนมองไปที่ฟาลติ้งส์และชูลทซ์จากนั้นก็พูดว่า  มากรอกตรงนี้ก่อนทุกคน 

ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้นกำลังมีการประชุมเกิดขึ้นในห้องประชุมที่มหาวิทยาลัยจินหลิง

เนื่องจากสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุมครั้งล่าสุด อาจารย์ใหญ่สวี่ได้วิจารณ์ผู้อำนวยการเฉินจากแผนกต่างประเทศสำหรับการครอบครองอุดมการณ์ของวงวิชาการในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้บริหารมหาวิทยาลัย

เขาเน้นถึงวิธีการที่จะเป็นมหาวิทยาลัยนานาชาติอย่างแท้จริง และวิธีการแสดงอิทธิพลของตนและเป็นฐานที่ดี

อาจารย์ใหญ่สวี่ค่อนข้างผูกพันกับมหาวิทยาลัยจินเป็นอย่างมาก

แม้ว่านี่ไม่ใช่โรงเรียนเก่าของเขาก็ตาม แต่เขาก็ทำงานที่นี่มานานกว่าสิบปีแล้ว

มันเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวัยของเขา ดังนั้นเป้าหมายหลักของเขาคือการศึกษาเพื่อคนรุ่นใหม่และปลูกฝังพรสวรรค์ให้กับมหาวิทยาลัยและประเทศ

โชคดีที่ต้องขอบคุณศาสตราจารย์ลู่ที่ทำให้ทุกอย่างมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น

แต่ในทางตรงกันข้ามแล้ว เมื่อความแข็งแกร่งของมหาวิทยาลัยจินได้เติบโตขึ้นเรื่อยๆ อันตรายที่ซ่อนอยู่ก็เริ่มปรากฏขึ้นให้เห็นทีละนิดๆ เช่นเดียวกัน

หากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เขาอาจจะสามารถทำงานเป็นอาจารย์ใหญ่ได้อีกห้าปีข้างหน้า และหลังจากห้าปีคนอื่นจะเข้ามาแทนที่เขา ไม่มีใครรู้ว่าอาจารย์ใหญ่คนใหม่จะทำอะไร…

เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีอนาคตที่สดใส เขาต้องการทำทุกอย่างให้สำเร็จภายในห้าปีเท่านั้น

เขาไม่ได้พยายามที่จะฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ในอดีตของมหาวิทยาลัย แต่เขาต้องการเตรียมมหาวิทยาลัยจินสำหรับอนาคตเมื่อเขาจากไป

เขาไม่ต้องการที่จะทำลายความฝันของเหล่านักวิชาการรุ่นเยาว์มากมายเหล่านั้น

อาจารย์ใหญ่สวี่คลายเกลียวกระติกน้ำและจิบน้ำร้อน เขากำลังจะพูดอะไรบางอย่างขณะที่เขาได้ยินเสียงเคาะประตูจากด้านนอก ผู้ช่วยของเขาเดินเข้ามา

 อาจารย์ใหญ่ 

อาจารย์ใหญ่สวี่มองมาที่เขา และพูดว่า  มีอะไรเหรอ? 

 แผนกรักษาความปลอดภัยโทรมาครับ พวกเขาบอกศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ นักวิชาการที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ผู้อำนวยการสถาบันคณิตศาสตร์มักซ์พลังค์ ศาสตราจารย์ชูลทซ์จากมหาวิทยาลัยบอนน์ และศาสตราจารย์โฮลเดน เลขาธิการของสมาพันธ์คณิตศาสตร์ระหว่างประเทศ ต้องการมาเยี่ยมศาสตราจารย์ลู่ครับ 

เสียงกระซิบกระซาบเริ่มดังขึ้นในห้องประชุม

ทุกคนต่างพากันประหลาดใจ

อาจารย์ใหญ่สวี่หยุดชั่วครู่หนึ่งแล้วถามว่า  แล้วทำไมแผนกรักษาความปลอดภัยถึงโทรมาล่ะ? 

ผู้ช่วยตอบว่า  เพราะพวกเขาอยู่ที่นี่แล้วครับ 

อาจารย์ใหญ่สวี่อ้าปากค้าง เขามองไปรอบๆ ห้องประชุมและพูด

 ลองนึกถึงสิ่งที่ผมพูดไป เรื่องการเป็นสถาบันนานาชาติ สถานะแบบไหนที่เราต้องการ การประชุมครั้งนี้จบลงแล้ว! 

หลังจากนั้นเขาก็รีบออกจากประตูไป

เพเรลมานที่มาถึงเมื่อไม่กี่วันก่อนเป็นเหตุการณ์ที่สะเทือนขวัญโลกอยู่แล้วนั้น

แต่ตอนนี้ลู่โจวเห็นศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ และคนอื่นๆ กำลังยืนอยู่ที่ประตูห้องทำงานของเขา เขาเริ่มสงสัยแล้วว่าเสี่ยวไอแอบสวมหมวกจำลองภาพเสมือนจริงบนหัวของเขาและสร้างภาพจำลองพวกนี้ขึ้นหรือเปล่า

แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้

เขายังจำรสชาติของเกี๊ยวในมื้อเช้าได้ดีอยู่

ลู่โจวไม่คิดว่าเอกสารของเขาจะดึงสามารถเพเรลมานออกมาจากป่าได้เท่านั้น แต่ยังดึงดูดความสนใจของชูลทซ์ และฟาลติ้งส์ได้อีกด้วย

 ผมจะพูดให้ตรงประเด็นเลยนะ คุณยังต้องการคนสำหรับโปรเจกต์ของคุณเพิ่มไหม? 

ลู่โจวได้ยินคำถามของศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์และสะดุ้งตื่นจากภวังค์

 คุณมาที่นี่เพื่อ… 

ฟาลติ้งส์ไม่พูดอะไร เขาแค่มองไปที่ชูลทซ์

ชูลทซ์ทำอะไรไม่ถูกในขณะที่เขาพยักหน้า

 …ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์มากับผมน่ะ ผมเองที่เป็นคนอยากเข้าร่วมด้วย 

ลู่โจวมองไปที่ฟาลติ้งส์ และไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ

จากนั้นชายชราก็ไอเบาๆ และพูด

 คุณรู้ดีว่าด้านการวิจัยของศาสตราจารย์ชูลทซ์ส่วนใหญ่อยู่ในสาขาเรขาคณิตที่สมบูรณ์ และปัญหาหลักคือการรวมกันของพีชคณิตและเรขาคณิต หลังจากอ่านบทความของคุณแล้ว เราเห็นพ้องกันว่าด้านที่คุณกำลังค้นคว้าอยู่นั้นมีแนวโน้มดีที่สุดแล้ว ดังนั้นเขาจึงต้องการมาแลกเปลี่ยนที่นี่เป็นเวลาหนึ่งปี สำหรับผม… 

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์กระแอมเบาๆ และพูด

 สำหรับผม ผมแค่มาที่นี่เพื่อมาดูรอบๆ เท่านั้น อาจจะอยู่ที่นี่สักพัก แน่นอนถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือจากผมก็บอกมาได้เลย… ถ้าพวกคุณไม่ต้องการก็บอกผมมาได้นะ ไม่ต้องลำบากใจ 

 …ไม่แน่นอน มันมีห้องพอสำหรับเพื่อนของผมเสมอ  ลู่โจวยิ้มขณะยื่นมือออกมา  ถ้าอย่างนั้นก็… ยินดีต้อนรับสู่โปรเจกต์วิจัยครับ 

ศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์จับมือเขา

ถ้าหากมีนักข่าวอยู่ใกล้ๆ คงได้ถ่ายรูปเก็บไปอย่างแน่นอน

นี่เป็นการจับมือครั้งประวัติศาสตร์ในโอกาสพิเศษเลยก็ว่าได้

ด้านหนึ่งเป็นนักคณิตศาสตร์รุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกเท่าที่เคยมี และอีกคนหนึ่งคือศาสตราจารย์ฟาลติ้งส์ หนึ่งในผู้นำบอว์บากิกรุ๊ปซึ่งเป็นลูกศิษย์ของก็อตเท็นดิ๊ก

นี่เป็นการจับมือกันระหว่างสองผู้ยิ่งใหญ่เลยก็ว่าได้!

 ด้วยความช่วยเหลือจากพวกเราทุกคน ไม่มีทางที่เราจะไม่สามารถพิสูจน์ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่  ชูลทซ์กล่าวขณะที่เขายิ้ม  ผมควรเปิดขวดแชมเปญดีไหม? ผมไปซื้อได้นะ 

 เรามาเก็บงานฉลองกันหลังจากที่เราพิสูจน์ได้แล้วดีกว่ามั้ง  ฟาลติ้งส์พูดขณะดันแว่นขึ้นไปที่สันจมูกเบาๆ เขาพูดอย่างจริงจังว่า  แม้ว่าเราจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีสมการมากมายที่ต้องพิสูจน์ เราอาจต้องแก้ไขการคาดเดามาตรฐานของก็อตเท็นดิ๊กก่อน 

แน่นอนว่ามันอาจจะง่ายกว่าที่พวกเขาคิด

ทฤษฎีการรวมแรงครั้งใหญ่อาจนำไปสู่คำตอบของข้อเสนอทางคณิตศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีโคโฮโมโลยีและการคาดเดามาตรฐานของก็อตเท็นดิ๊ก

แต่สิ่งต่างๆ มักจะซับซ้อนกว่าแค่ที่เห็น

ลู่โจวมองโลกในแง่ดี และผ่อนคลายกว่าฟาลติ้งส์

ลู่โจวมองดูเพื่อนของเขาและถามว่า  ยังไงตอนนี้พวกคุณก็มาถึงที่นี่แล้ว ผมต้องเลี้ยงอาหารคุณก่อนสักมื้อนะ พวกคุณอยากกินอะไร? 

 เป็ดย่างก็ดีนะ…  จู่ๆ ศาสตราจารย์โฮลเดนก็พูดขึ้น  ผมอยากลองกินมานานแล้ว 

ลู่โจวยิ้มแล้วพูด

 ไม่ต้องห่วง มันอร่อยมากอยู่แล้ว 

……………

 

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

ระบบปั้นอัจฉริยะ : Scholar’s Advanced Technological System

    หลังจากทุกข์ทรมาณจากลมแดดขณะทำงานภายใต้ความร้อนที่ร้อนระอุของฤดูร้อน ลู่โจวนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ยากจนแต่ขยันขันแข็งได้กลายเป็นเจ้าของระบบเทคโนโลยีขั้นสูง
ด้วยความโกงที่ระบบมอบให้ ชีวิตในรั้วมหาลัยของเขาจึงเปลี่ยนไปในข้ามคืน
ปริญญาโท? ง่ายดายยิ่ง
ปริญญาเอก? นั่นไม่ใช่ปัญหา
จากที่ไม่มีใครรู้จัก เขาได้กลายเป็นดาราดังแห่งวงการวิทยาศาสตร์อย่างรวดเร็ว
ด้วยภารกิจที่ระบบมอบให้ เขากำลังเดินอยู่บนเส้นทางผู้ชนะรางวัลโนเบล
“ระบบ แต้มแลกเป็นเงินได้ไหม?”
“ไม่ได้”
“เชี่ย งั้นนายทำไรได้!?”
“ระบบจะทำให้ท่านกลายเป็นสุดยอดนักวิชาการ
กลายเป็นผู้ปกครองเหนือมวลมนุษย์ ท่านจะเอาเงินไปทำอะไร?”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท