ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes – ตอนที่ 73

ตอนที่ 73

ไม่มีใครพอใจกับการจัดอันดับชั้นเรียนของตัวเอง และพวกเขาต้องการเข้าสู่ชั้นเรียนที่มีอันดับที่สูงขึ้น การคิดเกี่ยวกับการต่อสู้กันในชั้นเรียน ก็เป็นเรื่องที่น่าพอใจ เพราะเด็กนักเรียนจะได้รู้สึกปลดปล่อยความตรึงเครียด

“เพราะการใช้มานาของทุกคนพร้อมกัน อาจจะเกิดแรงกดดันมหาศาลได้ ดังนั้นฉันจะจำกัดการต่อสู้โดยแบ่งการต่อสู้ไว้ 2 รอบ โดยแต่ละคนสามารถเลือกคู่ต่อสู้ของตัวเองได้ และหากมีคำถามก็สามารถถามฉันได้เช่นกัน นี่คือการป้องกันไม่ให้กลุ่มหนึ่งต่อสู่กับคน ๆ ติดต่อกันหลายครั้ง เอาละเลือกคู่ต่อสู้ของพวกคุณได้ “

หน้าจอโฮโลแกรมได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของนักเรียนทุกคน

ในขณะที่ทุกคนตกตะลึง เจสันก็ได้ไล่ดูรายชื่อทันที และหลังจากที่เจสันได้เลือกชื่อชื่อหนึ่ง มันยังเร็วเกินไปสำหรับเจสันซึ่งตอนนี้เขาได้เลือกหมายเลข 224 ซึ่งนั่งถัดไป เนื่องจากมานาของเด็กคนนั้นอยู่ในผู้ชำนาญระดับ 1 และไม่มีอะไรพิเศษ เจสันจึงคิดว่านี้เป็นคู่ต่อสู้ที่เจสันมีโอกาสที่จะชนะได้มากที่สุด มันเป็นวิธีที่ดีที่สุดสำหรับเจสันในการแข่งขันนี้

ในขณะที่เจสันเองก็หวังว่า เด็กที่อยู่ข้างๆ ก็จะเลือกเขาเช่นกัน และก็มีชื่อปรากฏขึ้นข้างๆ เจสัน

ลำดับที่ 4 ลีโอ ฮาร์ท ระดับแกนมานาผู้ชำนาญระดับ 5

ดวงตาของเจสันเบิกกว้าง และเจัสนก็ได้กระโดขึ้นมาโดยคิดว่ามันอาจจะเกิดความผิดพลาด ขณะที่เจสันหันไปมองเด็กหนุ่มกล้ามโตที่กำลังมองเจสันด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ทำให้เจสันต้องขมวดคิ้วใส่

‘ จะแกล้งกันงั้นหรอ โอเคได้เลย ‘

ทั้งห้องสงบลงด้วยการดีดนิ้วของกรีล จนกระทั่งกรีนเริ่มจับเวลาเพื่อให้ทุกคนได้เตรียมพร้อมในการต่อสู้ให้เรียบร้อย ทุกคนมีเวลาเตรียมตัว 4 ชั่วโมง ซึ่งมันยาวนานมากสำหรับการเตรียมตัว

เจสันรู้ว่า เขาจะต้องถูกเจ้าเด้กกล้ามเป็นมัดมาก่อกวน ทำให้เจสันรีบลุกจากเก้าอี้และรีบออกไปจากห้องเรียน

“ฮ่าฮ่าฮ่า เขาคิดว่าจะหนีไปได้หรอ ถ้าเขาไม่กล้าที่จะต่อสู้กับเพื่อนร่วมชั้นตัวเอง นั้นก็ขี้ขลาดมาก”

ลีโอฮาร์ทพูดพร้อมกับหัวเราะอย่างเต็มที่

กลุ่มเล็ก ๆ ที่รวมตัวกัน เหมือนไฮยีน่ากำลังส่งเสียงร้องเรียกเจสันว่า

“ขี้ขลาด”

“คนโง่”

“แมวขี้กลัว”

และอื่น ๆ อีกมากมาย

แม้แต่กรีลเองก็ยังสับสนกับการกระทำของเจสัน กรีลรู้สึกผิดหวังกับเด็กชายผมดำ โดยคิดว่าเจสันนั้นได้ยอมแพ้

“แยกย้ายได้”

กรีลพูดขึ้นเมื่อเห็นว่าเจสันได้ออกไปจากห้องแล้ว กรีลเดินตามเจสันไป ซึ่งดูเหมือนว่าเจสันจะทำอะไรบางอย่าง จนกระทั่งกรีลเห้นเจสันเข้าไปในป่าภายในบริเวณโรงเรียน

โดยปกติเจสันจะไม่ได้รับอนุญาติให้เข้าไป แต่เมื่อกรีลตามเข้าไปด้วยจึงไม่เป็นปัญหาใดๆ

เมื่อเข้ามาในป่าและเดินตามเจสัน ในขณะที่เจสันวิ่งเข้าไปในป่าเป็นเวลาเกือบ 10 นาที จนกระทั่งทั้ง 2 เริ่มเห็นทะเลสาบสีฟ้าเล็กๆ ที่กำลังส่องแสง และล้อมร้อบไปด้วยต้นไม้เขียวชอุ่ม

เหนือทะเลสาบมีซุ้มหินนานซึ่งดูแปลกตา และมีมานาที่หนาแน่นไหลผ่าน

แม้แต่มานาของเมืองไซโรก็หนาแน่นน้อยกว่าพื้นที่แห่งนี้ โดยทะเลสาปที่อยู่ตรงหน้าทั้ง 2 คนดูเหมือนจะมีความหนาแน่นของมานามากถึง 2 เท่า แต่ราวกับว่ามันยังไม่เพียงพอสำหรับเจสัน เจสันสังเกตุเห็นบางสิ่งบนต้นไม้ด้านบนของซุ้มหินซึ่งมันดึงดูดความสนใจของเจสัน

ยอดหินโค้งที่มีความสูงอย่างน้อย 30 เมตร และดูใหญ่โตเมื่อเจสันอยู่อยู่ตรงหน้า อย่างไรก็ตาม ความอยากรู้อยากเห็นของเจสัน ทำให้เจสันปีนขึ้นไป แม้ว่ามันจะใช้เวลาพอสมควร เกือบ 30 นาทีต่อมา เจสันก็ได้อยู่บนยอดสูงสุด นอกจากนี้ปริมาณมานาบนนี้ยังมากกว่าด้านล่าง เจสันมีความสุขเนื่องจากความหนาแน่นของมานา ได้สอบสนองความต้องการของเขา

ยิ่งเจสันเข้าใกล้สิ่งที่ดึงดูดความสนใจของตัวเอง ปริมาณมานาตรงนั้นก็จะหนาแน่นขึ้น เมื่อเจสันค่อยๆ เคลื่อนตัวผ่านพุ่มไม้เล็กๆ เจสันได้พบกับทุ่งดอกไม้เล็กๆ ที่มีผลไม้หลานิด ส่งกลิ่นหอมพร้อมด้วยมานาที่เปล่างประกายออกมาจากพวกมัน ด้วยสายตาของเจสัน เจสันยังสามารถมองเห็นสีต่างๆ ที่ผลไม้เหล่านี้ปล่อยออกมา

มันไม่เพียงแต่เป็นสีดำ แต่ยังมีสีเทาอ่อนๆ ทำให้เจสันตกตะลึงเป็นอย่างมาก ทำให้เจสันนั้นเกิดความโลภเล็กๆ ในใจของเขา

‘ฉันสามารถเก็บผลไม้เหล่านี้ได้รึเปล่านะ หรือมันอาจจะเป็นของใครบางคน’

เจสันคิดในขณะที่มือนั้นค่อยๆ เอือมไปหยิบผลไม้เหล่านั้น เมื่อคิดได้นั้นเจสันคิดว่า การที่เขาค้นพบที่นี่ จะทำให้เขาเป็นผู้ที่น่าสงสัย และอาจจะถูกไล่ออกจากโรงเรียนนี้ เจสันจึงส่งข้อความถึงกรีล

“ผมเจอผลไม้วิเศษบนนี้ ผมสามารถหยิบมันไปได้ไหม”

เจสันได้ส่งข้อความด้วยคำถามที่ตรงไปตรงมา

“ได้สิ เลือกได้ตามสบาย”

เสียงของกรีลที่ดังขั้น ทำให้เจสันตกใจและหันไปมองรอบๆ กรีลที่ปรากฏตัวอยู่ข้างหลังเจสันได้มองหน้าเจสัน และพยักหน้าให้กับเจสันเมื่อมองไปที่ผลไม้

เจสันเลือกผลไม้ที่มีสีเท่าอ่อนที่มีมานาหนาแน่นมากที่สุดเท่าที่ ได้ตรวจดู มันเป้นผลไม้ที่ดีที่สุด และกรีลเองก็มองมันอย่างขมวดคิ้ว และหายตัวไป

เจสันไม่ได้สังเกตุว่ากรีลนั้นหายไปแล้ว ในขณะที่หยิบกล่องนีโอซิสออกมาซึ่งมีผลบาคูรีสีขาวอยู่ด้านใน เจสันได้หยิบผลไม้วิเศษขึ้นมาและใส่ลงไปในกล่องนีโอซิส

ตอนนี้เจสันค่อนข้างกังวลว่าเอฟเฟกต์เวทย์มนต์ของผลไม้ทั้ง 2 จะลดลงไหมถ้าพวกมันอยู่ในกล่องใบเดียวกัน แต่ตอนนี้เจสันก็ทำได้แค่นั้น แม้ว่าพวกมันจะอยู่ในกล่องเดียวกัน คุณภาพของพวกมันคงลดลงไม่มากนัก

ตอนนี้เจสันเหลือเวลา 3 ชั่วโมงครึ่ง เจสันจึงจะใช้เวลานี้ในการดูดซับมานาบริเวณนี้เพิ่มเสริมความแข็งแกร่ง และเตรียมตัวให้พร้อมก่อนการประลองจะเริ่มขึ้น

เจสันได้นั่งอยู่เหนือทะเลสาปมานาที่หนาทึบ และหยิบหินมานาออกมา 2- 3 ก้อน เพื่อเพิ่มปริมาณมานาเพื่อที่จะดูดซับได้มากขึ้น เจสันสัมผัสได้ถึงสัตว์ป่าทั้งหมดที่อยู่รอบตัว ซึ่งเป็นความรู้สึกที่น่าอัศจรรย์

และดูเหมือนว่าแกนมานาของเขา จะต้องการมานาเพิ่มขึ้นอีก เมื่อรูขุมขนของเจสันเปิดแล้วดูดซับมานาโดยรอบอย่างหิวกระหาย ความไวในการควบคุมและดูดซับมานาของเจสันนั้นสูงมากเป็นพิเศษทำให้ร่างกายของเจสันเต็มไปด้วยมานาอย่างรวดเร็ว เจสันได้สร้างวงกลมขนาดใหญ่ก่อนที่จะตั้งสติแล้วค่อยๆ รวบรวมมานาเข้าไปยันแกนมานา

เจสันได้สงสัยกับตัวเองวา เขาจะหยิบหินมานาขึ้นมาทำไม เนื่องจากมานาโดยรอบนั้นมีมากมายพอที่จะทำให้ร่างกายนั้นท่วมท้นไปด้วยมานา

เจสันเกือบจะหลุดโฟกัสขณะที่รวบรวมมานาไปที่แกน แต่เขาก็ตั้งสติได้ก่อนที่จะเริ่มโฟกัสใหม่กับรวบรวมมานาเข้าไปในแกน ก่อนหน้านี้เจสันคิดว่ากว่าเขาจะได้ขึ้นสูงมือใหม่ระดับ 6 นั้น ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 วัน แต่ตอนนี้เขาคิดว่ามันใช้เพียงเวลาสั้นๆ เท่านั้น

เมื่อดูดซับมานาอย่างตระกะตกลาม ก้เริ่มีรังไหมปกคลุมร่างกาย และเวลาก็ผ่านไป 1 ชั่วโมง เจสันสามารถได้ยินรอยแตกของรังไหม และเขาก็ได้ลืมตาตื่นขึ้น ดวงตาที่เป็นสีทองก็ส่องประกาย และเมื่อมองไปรอบๆ เจสันก็สังเหตุเห็นรังไหมมานา ที่หนาแน่นกำลังห่อหุ้มร่างกาย หลังจากนั้นเจสันก็ได้เข้าสู้มือใหม่ระดับ 6 ในที่สุด

งานของกรีลนั้น คือการดูแลเด็กนักเรียนทุกคน แต่ดูเหมือนเขาจะใส่ใจเจสันมากเกินไป เขาจึงกลับเข้ามาในห้องเรียน เมื่อเห้นสิง่ที่เจสันได้ทำ ทำให้เขาลืมไปแล้วว่าตอนนี้เขาเป็นครูอยู่ ขณะที่นึกถึงการจ้องมองไปที่เจสัน

‘งี่เง่าจริงเรานิ ที่ไปคิดว่าการควบคุมมานาของเด็กคนนั้นไม่ดี… แต่ทำไมเด็กคนนั้นถึงอยู่แค่ระดับมือใหม่กันละ ??’

ถึงแม้กรีลจะสับสนมากกว่าเดิม แต่ด้วยความสามารถที่กรีลได้เห็นในตัวเจสัน ทำให้เขาคิดได้ว่า เจสันไม่มีทางที่จะอยู่ในระดับมือใหม่ได้ อย่างน้อยด้วยความสามารถเช่นนี้ เจสันจะต้องอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญ เพียงครู่เดียว ครูที่มีหน้าตาหล่อเหลและผมสีทอง ก็ปรากฏตัวบนต้นไม้และจ้องมองรังไหมมานาที่ห่อหุ้มตัวเจสัน

* 2 ชั่วโมงต่อมา *

เจสันหลั่งของเหลวสีดำที่มีกลิ่นเหม็นออกมาจำนวนมาก ขณะที่เจสันกำลังถอดเสื้อผ้าออก เขาก็ได้กลิ่นหอมๆ เจสันจึงจำได้ว่าด้านล่างนั้นมีทะเลสาปอยู่ เจสันรีบลงจากซุ้มหินด้วยความรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้น เขาก็ร่วงลงมาทำให้หลังกระแทกกับพื้น แต่เจสันก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนัก

เจสันรีบล้างตัวและเสื้อเสื้อผ้า และรีบวิ่งกลับไปที่ลานประลอง เจสันไม่ได้สังเกตุเห็นกลุ่มนักเรียนปี 3 กลุ่มเล็กๆ ที่เห็นเหตุการ์ทั้งหมดของเจสัน

“ ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหม”

เด็กผู้หญิงผมสีฟ้าตัวเล็กถามด้วยแก้มที่แดง

“ใช่ เห็นสิ”

หญิงสาวผมแดงที่มีหน้าอกยั่วยวน กล่าวข้างๆพร้อมกับยิ้มอย่างประหลาด

“ฉันก็เหมือนกัน”

เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล ตัวเล็กพูดอย่างมีความสุขขณะที่เขากระโดดไปรอบ ๆ อย่างขบขัน

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

ดวงตาของเทพเจ้า God’s eyes

จากการสูญเสียพ่อแม่ตั้งแต่ยังเล็ก เขาต้องเอาชีวิตรอดในโลกที่เขามองไม่เห็น … คนตาบอดที่ถูกทิ้งให้อยู่คนเดียวเหมือนกาฝากตามทาง

ในสังคมยุคใหม่ที่เต็มไปด้วยศิลปะการต่อสู้และจิตวิญญาณในการบังคับให้เติบโต

ความคิดของเขานั้นแตกต่างจากคนรอบข้างในขณะที่เขาไม่รังเกียจที่จะเล่าเรื่องเกี่ยวกับตัวของเขาเอง วันที่เขาถูกปลุกดวงวิญญาณของเขา

คือวันที่เขาร้องไห้ด้วยความสิ้นหวังในขณะที่พระเจ้าเล่นตลกกับเขา เนื่องจากการปลุกดวงวิญญาณของเขาเป็นพรจอมปลอม

ใครๆก็คิดว่าเขานั้นตาบอด จนกระทั่งวินาทีที่เขาเบิกเนตรสีทองของเขาที่กระพริบเป็นประกาย

ที่รอคอยที่จะกลืนกินทุกคนที่กล้าขัดขวางเส้นทางของเขาไปสู่ยอดเป้าหมาย โปรดติดตามเจสันในการเดินทางผจญภัยทั่วโลกอันกว้างใหญ่นี้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท