พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 4

บทที่ 4

บทที่ 4 ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม

กัน

น้ำเสียงของราศรีดึงดูดสายตาของคนที่อยู่ในห้องโถง สายตาทุกสายตามองไปยังรพีพงษ์ เธอเดินมาหยุดอยู่ตรง หน้าเขา แล้วเอามือเท้าเอวไว้ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงขุ่น เคือง “นายไม่กลัวจะทำให้ที่นี่สกปรกเหรอ ของทุกๆ อย่าง ในนี้ ต่อให้นายพยายามทั้งชีวิตก็ไม่มีวันซื้อได้หรอก ถ้านาย ทำมันสกปรกขึ้นมา นายชดใช้ไม่ไหวหรอก”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วขึ้น แล้วพูดน้ำเสียงเย็นชา “ทำไมเหรอ ที่นี่เขียนว่าห้ามคนเข้าชมหรือไง”

“อะไรนะ นายเห็นว่าคนอื่นเข้ามาได้ นายก็เข้ามาได้อย่าง ส่ นั้นเหรอ อย่าลืมสิ ว่าตัวเองเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ที่ฉันยัง รักษามารยาทกับนายนี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว”ราศรีพูดด้วยสีหน้า หยิ่งยโส

รพีพงษ์เบะปากมองคนที่ชอบดูถูกคนอย่างราศรี แต่ไหน แต่ไรเขาไม่เคยมีค่าในสายตาของคนอื่น แต่ทว่าในตอนนี้ เขาเป็นประธานของ อสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ราศรีปฏิบัติ กับลูกค้าของบริษัทเช่นนี้ จะต้องกระทบกับธุรกิจของบริ ษัทแน่นอน ไม่ควรปล่อยคนประเภทนี้เอาไว้เด็ดขาด

“ถ้าเธอยังปฏิบัติกับลูกค้าแบบนี้ ฉันกลัวว่าเธอจะทำงาน
บทที่ 4 ปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาคและเท่าเทียม

กัน

น้ำเสียงของราศรีดึงดูดสายตาของคนที่อยู่ในห้องโถง สายตาทุกสายตามองไปยังรพีพงษ์ เธอเดินมาหยุดอยู่ตรง หน้าเขา แล้วเอามือเท้าเอวไว้ จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงขุ่น เคือง “นายไม่กลัวจะทำให้ที่นี่สกปรกเหรอ ของทุกๆ อย่าง ในนี้ ต่อให้นายพยายามทั้งชีวิตก็ไม่มีวันซื้อได้หรอก ถ้านาย ทำมันสกปรกขึ้นมา นายชดใช้ไม่ไหวหรอก”

รพีพงษ์ขมวดคิ้วขึ้น แล้วพูดน้ำเสียงเย็นชา “ทำไมเหรอ ที่นี่เขียนว่าห้ามคนเข้าชมหรือไง”

“อะไรนะ นายเห็นว่าคนอื่นเข้ามาได้ นายก็เข้ามาได้อย่าง ส่ นั้นเหรอ อย่าลืมสิ ว่าตัวเองเป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ที่ฉันยัง รักษามารยาทกับนายนี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว”ราศรีพูดด้วยสีหน้า หยิ่งยโส

รพีพงษ์เบะปากมองคนที่ชอบดูถูกคนอย่างราศรี แต่ไหน แต่ไรเขาไม่เคยมีค่าในสายตาของคนอื่น แต่ทว่าในตอนนี้ เขาเป็นประธานของ อสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ราศรีปฏิบัติ กับลูกค้าของบริษัทเช่นนี้ จะต้องกระทบกับธุรกิจของบริ ษัทแน่นอน ไม่ควรปล่อยคนประเภทนี้เอาไว้เด็ดขาด

“ถ้าเธอยังปฏิบัติกับลูกค้าแบบนี้ ฉันกลัวว่าเธอจะทำงาน
ราศรียังคงเยาะเยยเขา เมื่อโดนเขาพูดเชนนนกหวเราะ

ร่วนออกมา

“ทุกคนมาดูกันเร็ว ไอ้คนไร้ประโยชน์นี้มันว่าฉันมีทัศนคติ ไม่ดี แถมยังว่าฉันจะไม่สามารถทำงานได้อีก น่าตลกสิ้นดี!” ทุกคนเริ่มมุงกัน ส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนร่วมงานของราศรี

เพราะว่าเพิ่งเข้างานเลยไม่ค่อยมีลูกค้ามาดูห้องสักเท่าไร

“ฉันจะบอกให้นะทุกคน นี่คือรพีพงษ์คนที่ขึ้นชื่อว่าสวะใน เมืองริเวอร์เขาเข้าไปเป็นเขยในตระกูลฉัตรมงคล วันๆ เอา แต่ซักผ้า ทำกับข้าวอย่างกับคนใช้ แถมยังเป็นเพื่อนสมัย มัธยมปลายของฉัน ฉันไม่อยากพูดเท่าไร เพราะว่ามันน่า อายนะ”ราศรีพูดประชดประชัน

เมื่อทุกคนได้ยินสิ่งที่เธอพูด ต่างก็พากันมองเขาด้วยสาย ตาเหยียดหยาม พวกเขาได้ฟังเรื่องของรพีพงษ์มาบ้าง รู้ว่า เขาเป็นคนที่ไร้ประโยชน์

“ที่แท้ไอ้บ้านนอกคนนี้คือ รพีพงษ์นี่เอง ว่าแล้วทำไมดูต่ำ จัง ถ้าเธอไม่บอก ฉันนึกว่าเขาเป็นขอทานที่มาเก็ยขยะเสีย อีก”

“คนไร้ความสามารถแบบนี้ ยังกล้าที่จะมาพูดเรื่องทำงา นของพี่ราศรี สัปดาห์หน้าเธอจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแล้ว คนอย่างนายมีสิทธิ์อะไรที่จะทำให้เธอไม่มีงานทำ”
“ฉันว่าพวกเรารีบโลมนออกไปเถอะ วินนประธา คนเหม จะมารับตำแหน่ง ถ้ามันวิ่งเข้าไปหาประธานคนใหม่ เรา จะลำบากเอาน่ะ”

ทุกคนพากันพยักหน้า เมื่อวานหัวหน้าผู้จัดการบอกว่าวัน นี้ประธานคนใหม่จะมารับตำแหน่ง

ราศรีปรายตามองรพีพงษ์ แม้เธออยากจะฟังเขาโดนทุก คนเหยียดหยามอีกสักพัก เพื่อแสดงว่าเธออยู่เหนือกว่า เธอได้อยู่ในตำแหน่งหัวหน้าของอสังหาริมทรัพย์ฟ้าอนงค์ ภายในอายุเพียงเท่านี้ นับว่าเธอเป็นคนที่สุดยอดที่สุดใน บรรดาเพื่อนร่วมชั้นแล้ว

เปรียบกับคนไร้ค่าอย่างรพีพงษ์แล้ว ก็รู้ได้เลยว่าเธอมีค วามสามารถมาก

แถมเธอยังคิดเพ้อฝันไปว่าถ้าประธานคนใหม่มาถึง ไม่ แน่เขาอาจจะตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบเลยก็ได้ ถ้าเป็น เช่นนี้เธอก็จะเฟื่องฟูขึ้นมาในชั่วพริบตาเดียว

แต่เธอก็กลัวว่าประธานจะมาเจอคนไร้ประโยชน์อย่างเขา อยู่ที่นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอายมาก ดังนั้นเธอจึงพูดกับ รพีพงษ์ “ได้ยินหรือยังว่าวันนี้ประธานคนใหม่จะมาที่นี่ อย่ามายืน ขวางหูขวางตา ถ้าเกิดส่งผลกับอารมณ์ของท่านประธาน คนใหม่ นายรับผิดชอบไม่ไหวหรอก”

พูดจบเธอก็เดินเข้าไปลากเสื้อของเขาเพื่อที่จะพาเขาออกไป

รพีพงษ์ยังยืนอยู่ที่เดิมไม่ขยับตัวไปไหน เขามองเธอด้วย

สายตาเมินเฉย

“นายหูหนวกหรือไง ฉันบอกให้ออกไป ยังจะยืนบื้ออะ

ไรอยู่”ราศรีพูดด้วยความโมโห

“นี่คือบริษัทของฉัน ทำไมฉันต้องออกไป” รพีพงษ์พูดขึ้น

มา

“นายประสาทเหรอ นายคงจะไร้ประโยชน์จนบ้าไปแล้ว สินะ ถึงพูดออกมาได้ว่าที่นี่คือบริษัทของนาย ทำไมนายไม่ พูดไปเลยล่ะว่าตัวเองเป็นคุณชายของตระกูลระดับสูง รพี พงษ์อย่าฝันกลางวันอีกเลย นายมันก็แค่คนไม่มีประโยชน์ รีบไสหัวออกไปซะ”ราศรีมองเขาราวกับกำลังมองคนปัญญา อ่อนอย่างไรอย่างนั้น

“ฉันฝันกลางวันอยู่หรือไม่ อีกเดี๋ยวเธอก็จะรู้เอง” รพี พงษ์พูดด้วยท่าทางสบายๆ

ทุกคนต่างก็พากันคิดว่าเขาหน้าไม่อาย หน้าด้านยืนอยู่ ตรงนี้ยังไม่พอแถมยังกล้าพูดออกมาว่าที่นี่เป็นบริษัทของตัว เอง ไร้สาระเหมือนกับการเพ้อฝันของคนปัญญาอ่อนจริงๆ

เมื่อราศรีเห็นว่าเขาไม่ยอมไป เธอรู้สึกกระวนกระวายใจ เพราะกลัวว่าเขาจะสร้างความวุ่นวายให้กับประธานคนใหม่ที่กำลังจะมาถึง เธอจังรับเรียกรปภ.เขามา

“ไอ้นี่แหละมันเข้ามาสร้างความวุ่นวายในบริษัท แถมยัง แอบอ้างว่าเป็นหัวหน้า พวกนายรีบจับมันไว้”ราศรีชี้ไปยังรพี พงษ์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด

รปภ. พวกนั้นมองไปยังรพีพงษ์ ดูแล้วเขามีท่าทีไม่เหมือ

นหัวหน้า ดังนั้นพวกเขาก็เลยเดินเข้าไปเพื่อที่จะจับเขา รพีพงษ์หรี่ตามองรปภ.พวกนั้น เขากำหมัดแน่น ะ ขณะนั้นเอง นรธีร์เดินออกมาจากห้องน้ำ แล้วเห็นว่า รปภ.กำลังจะทำอะไรรพีพงษ์ เขาตกใจจนหน้าเปลี่ยนสี

เขารีบวิ่งเข้าไปหารพีพงษ์ทันที จากนั้นก็ตะโกนออกมาว่า “พวกนายทำอะไร! หยุดเดี๋ยวนี้นะ!”

เมื่อราศรีเห็นหัวหน้าผู้จัดการก็รีบเข้าไปพูดกับเขาทันที “หัวหน้าคะ คนนี้คือไอ้สวะที่คนในเมืองพูดถึง มันบ้าไปแล้ว มันเข้ามาในบริษัทแล้วบอกว่าเป็นเจ้าของที่นี่ วันนี้เป็นวันที่ ประธานคนใหม่เข้ามารับตำแหน่ง พวกเรากลัวว่าประธาน คนใหม่จะเป็นอันตราย เลยจะพาตัวมันออกไป”

“ไอ้นี่มันเป็นเพื่อนสมัยมัธยมปลายของฉันเองค่ะ มันเห็น ว่าฉันใช้ชีวิตดีกว่ามัน มันเลยไม่พอใจ แล้วมาสร้างความวุ่น วายยังดีที่ฉันเห็นแต่เนิ่นๆ ไม่อย่างนั้นมันคงจะสร้างความ ลำบากให้บริษัทไม่น้อย”ราศรีพูดพลาง น้ำเสียงแฝงไปด้วยการยกขอตัวเอง

นรธีร์ได้ยินคำพูดของราศรีสีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที เขาไม่ พูดอะไรต่อ เขาผายมือออกไป สิ่งนั้นทำให้ราศรีอึ้งไป

“ท่านนี้คือประธานของบริษัทของเรา เขามาดูการทำงาน ของพวกเธอ เธอว่าเขาบ้าแถมยังไล่เขาออกไปอีก เธอไม่อ ยากมีชีวิตอยู่แล้วหรือไง!” นรธีร์พูดด้วยความโมโห

ราศรีอึ้งไป ทุกคนในห้องโถงต่างก็แสดงแววตาตกตะลึง

เช่นกัน

“ขะ เขาเป็นประธานคนใหม่ของเราเหรอคะ เป็นไปได้ยัง ไง เขาเป็นคนไร้ประโยชน์ที่โด่งดังในเมืองริเวอร์”ราศรียัง คงไม่อยากจะเชื่อ

“ฉันว่าเธอนั่นแหละเป็นคนไร้ประโยชน์ คนตาบอด” นร ธีร์โกรธจนแทบจะเย็บปากของราศรี

เขารีบหันไปโค้งให้กับรพีพงษ์ “ประธานครับ ผมคิดไม่ถึง จริงๆ ว่าพวกเขาจะปฏิบัติกับคุณแบบนี้ นี่เป็นความผิดของ ผมเองครับ ประธานลงโทษมาได้เลยครับ”

รพีพงษ์โบกมือปฏิเสธแล้วมองไปยังราศรี จากนั้นก็พูดขึ้น มาว่า “คนที่ควรจะโดนลงโทษไม่ใช่คุณ แต่เป็นพวกคนที่คิด ว่าตัวเองถูกไปเสียทุกอย่าง”

“บริษัทต้องปฏิบัติกับลูกค้าด้วยความเท่าเทียมกัน คนที่ดูถูกคนอื่นแบบเธอ ควรจะถูกไล่ออกไปเร็วๆ”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท