พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 11

บทที่ 11

บทที่ 11 วิลล่าฟ้าอนงค์

ธายุกรอึ้งไป จากนั้นก็เบะปากใส่อารียา “อารียา ถ้าจะพูด โกหก ก็ทำให้มันเนียนกว่านี้หน่อย เธอยังไม่ทันจะเดินออก จากประตู ก็พูดว่าตัวเองยืมที่นั่นได้แล้ว เธอยืมยังไงเพ้อฝัน เหรอ”

ทุกคนต่างพากันหัวเราะออกมา

“สมองมีปัญหาหรือเปล่าเลยเพ้อเจ้อขนาดนั้น” ชรินทร์ ทิพย์พูดเหน็บแนม

อารียาไม่สนใจคนพวกนั้น แต่เธอเอามือถือไปให้นภทีป์ดู แล้วพูดว่า “คุณปู่คะ ผู้จัดการใหญ่ของอสังหาริมทรัพย์ฟ้า อนงค์ส่งข้อความมาหาฉัน เขาบอกว่ายอมให้เรายืมสถานที่ ค่ะ”

นภทีป์จ้องมือถือของเธอ จากนั้นก็หัวเราะออกมาแล้วลูบ เคราของตัวเอง “ฉันบอกแล้วว่าพวกเขาต้องให้ยืม ในเมื่อ พวกเขาให้ยืมแล้ว อารีอย่างนั้นเรื่องจัดแสดงวัตถุโบราณ ของฉัน ก็ยกให้แกจัดการแล้วกัน หลังจากนี้ฉันจะให้เงิน เดือนแกครึ่งปีเพื่อเป็นรางวัล”

“ขอบคุณค่ะคุณปู่” อารียารีบตอบกลับ

ธายุกรและคนอื่นๆ ต่างพากันตกตะลึง เมื่อเห็นปฏิกิริยาของนภทีป์ มันไม่เหมือนการพูดล้อเล่น สิ่งที่อารียาพูดเป็น ความจริง

“อย่างนั้นเรื่องในวันนี้ก็จบแค่นี้ละกัน ถ้าพวกแกมีเวลา ว่างก็ไปช่วยอารีเตรียมงานด้วย อารีคือคนที่มีความสามา รถในตระกูลของเรา พวกแกก็เรียนรู้จากเธอด้วย” นภทีป์พูด ไม่กี่คำก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินขึ้นไปพักผ่อนข้างบน

อารียายิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วมองไปยังธายุกรและชริน ทร์ทิพย์ จากนั้นเธอก็หันกลับไปพารพีพงษ์เดินออกจาก

คฤหาสน์

ธายุกรโกรธจัด เขาทุบหมัดลงไปบนโซฟา

“ไอ้เลว โชคดีจริงๆ นะ แม้แต่วิลล่าฟ้าอนงค์ก็สามารถยืม มาได้ มันคงจะมีความสุขมากสินะ” ธายุกรกัดฟันกรอด

“ที มันโชคดีเหลือเกิน ใครจะไปรู้มันอาจจะใช้วิธีที่ สกปรกก็ได้” ชรินทร์ทิพย์ก็พูดอย่างไม่พอใจเช่นกัน

ธายุกรส่งเสียงในลำคอ แววตาของเขาฉายแววร้ายกาจ จากนั้นก็พูดออกมาว่า “มันยืมที่นั่นได้แล้วยังไง ฉันมีวิธีจัด ded การกับมันก็แล้วกัน เจน เธอรอดูอะไรสนุกๆ ได้เลย ครั้งนี้ฉัน จะทำให้มันเสื่อมเสียชื่อเสียง!”

ระหว่างทางกลับบ้าน อารียาลังเลอยู่สักพักก่อนจะถาม ออกไปว่า “ที่หัวหน้าผู้จัดการส่งข้อความมาหาฉัน เพราะนายหรือเปล่า”

“ข้อความอะไรเหรอ ผมไม่รู้” รพีพงษ์หัวเราะออกมา

เหอะ อย่ามาทำเป็นไม่รู้ ถึงแม้ว่าเรื่องที่คุณปู่อยากจัด แสดงวัตถุโบราณจะไม่ใช่ความลับ แต่อสังหาริมทรัพย์ฟ้า อนงค์ก็ไม่สนใจเรื่องนี้เหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณปู่เพิ่งจะ พูดจบว่าให้ฉันไปยืมวิลล่าฟ้าอนงค์ หัวหน้าผู้จัดการก็ส่งข้อ ความมาหาฉันพอดี ฉันไม่เชื่อว่าจะเป็นเรื่องบังเอิญ” อารี ยาพูดไปตามหลักเหตุผล

เมื่อเห็นว่าเธอถามอย่างนั้น เขายิ้มแล้วพูดว่า “อย่างนั้น ผมก็ไม่ปิดคุณแล้ว จริงๆ แล้วผมคือเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์” เธอหยิกเอวของชายหนุ่มแล้วบ่นว่า “นี่ฉันพูดจริงจังนะ

นายอย่ามากวน”

เมื่อเขาเห็นว่าเธอไม่เชื่อ เขาเลยพูดอย่างเซ็งๆ ขึ้นมาว่า “ผมบอกแล้วไงว่าผมมีเพื่อนอยู่ที่นั่น ผมให้เพื่อนช่วยก็ไม่ใช่ เรื่องใหญ่อะไรนิ”

เมื่อพูดเช่นนี้เธอจึงยอมเชื่อ จากนั้นก็ถามอย่างจริงจัง “รพีพงษ์ นายมีเพื่อนเก่งขนาดนี้ก็ไม่เบาแฮะ จะต้องขอบคุณ เขาหน่อยแล้วล่ะ ชื่อเสียงของนายไม่ค่อยจะดี นายอย่า ทำให้เพื่อนคนสำคัญเช่นนี้หลุดลอยไปล่ะ”

“โอเค รู้แล้ว” รพีพงษ์ตอบ
บ่ายวันนั้น เรื่องที่เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ ยินดีที่จะให้ ตระกูลฉัตรมงคลยืมสถานที่ดังไปถึงตระกูลฉัตรมงคลอีก ครั้ง แถมยังมีคนเอากุญแจมาให้อารียาอีกต่างหาก

นี่ทำให้คนที่ไม่เชื่อเธอตอนแรกรีบหุบปากกันไปเป็นแถว แต่สิ่งที่ทำให้คนในตระกูลฉัตรมงคลคาดไม่ถึงก็คือ หลัง จากที่มีคนมายืนยันเรื่องยืมสถานที่ แถมยังมีข่าวดังก็คือ เจ้าของ วิลล่าฟ้าอนงค์ จะเชิญหญิงสาวที่สวยที่สุดใน ตระกูลฉัตรมงคล ไปทานข้าวด้วยกันในวันงานนิทรรศการ วัตถุโบราณ

เรื่องนี้ดังไปทั่วตระกูล ทุกคนต่างพากันคาดเดากันว่า ผู้ หญิงที่เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ จะเชิญไปทานข้าวจะเป็นใคร

ช่วงแรกผู้หญิงในตระกูลต่างก็คิดว่าคนที่เขาจะเชิญเป็น ตัวเองทั้งนั้น

แต่ทว่าเขาบอกว่าจะเชิญผู้หญิงที่สวยที่สุดในตระกูลฉัตร

มงคล

ตอนนี้คนที่ยังไม่แต่งงานและโดดเด่นกว่าใครก็คงจะหนี

ไม่พ้น ชรินทร์ทิพย์

ถึงแม้ว่าอารียาดูโดดเด่นกว่าชรินทร์ทิพย์ แต่ไม่มีใครคิด ว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ จะเชิญผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว

คนจำนวนมากคาดเดากันไปถึงขั้นที่ว่าเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ชอบชรินทร์ทิพย์ จึงทำแบบนี้

หลังจากที่รู้เรื่องนี้ ชรินทร์ทิพย์รู้สึกว่าตัวเองเหมือนได้ขึ้น สวรรค์ เธอแน่ใจว่าคนที่เจ้าของ วิลล่าฟ้าอนงค์เชิญก็คือเธอ แถมยังไปบอกคนอื่นว่าการที่เจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์ลด

ราคาตึกและให้ยืมสถานที่ก็เพราะเห็นแก่หน้าของเธอ

คนในตระกูลฉัตรมงคลต่างพากันเชื่อคำพูดของเธอ เพราะฉะนั้นทั้งตระกูลฉัตรมงคลคงจะเป็นเธอที่ถูกเชิญ

เพราะเหตุนี้ ชรินทร์ทิพย์ จึงตั้งใจไปหาอารียาเพื่อจะโอ้ อวด เธอพูดดูถูกและพูดทำร้ายจิตใจของอารียา

“น่าเสียดายจัง ถ้าเธอไม่แต่งงานกับคนไร้ประโยชน์อย่าง รพีพงษ์ไม่แน่คนที่เขาเชิญอาจจะเป็นเธอก็ได้”

“น่าเสียดายที่เธอสวยขนาดนี้ แถมยังมีความสามารถอีก แต่กลับต้องมาใช้ชีวิตอยู่กับคนไร้ประโยชน์อย่างรพีพงษ์ แต่ยังไงฉันก็ขอบคุณเธอนะ”

เมื่อคิดเรื่องที่ชรินทร์ทิพย์มายืนพูดเยาะเย้ยเธอ ในใจ ของอารียาก็รู้สึกโกรธ

เดิมทีเธอคิดว่าการที่คุณปู่ให้เธอเตรียมนิทรรศการวัตถุ โบราณ เพราะคุณปู่เห็นความสำคัญของเธอ แต่ที่ไหนได้เธอ กลับทำงานให้ชรินทร์ทิพย์ซะอย่างนั้น

“เพราะไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างแกแท้ๆ มาทำลายอนาคตที่สดใสของลูกสาวฉัน ถ้าไม่ใช่แกลูกสาวฉันก็คงจะได้รับ การเชิญจากเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์แล้ว!” ศศินัดดานั่งจ้อง รพีพงษ์อยู่บนโซฟาด้วยสายตาดุร้าย

“ถ้าไม่ใช่แก มีหรือเรื่องดีๆ แบบนี้จะเกิดขึ้นกับชรินทร์ ทิพย์ไอ้เด็กนั่นมันเทียบไม่ได้กับแคลร์ด้วยซ้ำ รอให้มันแต่ง งานไปอยู่ในวิลล่าฟ้าอนงค์ มันต้องไม่ปล่อยครอบครัวเราไว้ แน่ๆ ทั้งหมดก็เพราะแกคนเดียว ไอ้ตัวซวย!”

รพีพงษ์ปรายตามองศศินัดดา เขาหมดคำจะพูด “เขายัง ไม่ได้บอกเลยว่าคนที่เขาเชิญคือใคร แม่รู้ได้ยังไงว่าคือชริน ทร์ทิพย์ ทำไมคนที่ถูกเชิญถึงเป็น แคลร์ไม่ได้ล่ะ”

“ทำไมถึงเป็นแคลร์ไม่ได้อย่างนั้นเหรอ แกไม่รู้อะไรจริงๆ เหรอ ก็เพราะคนไร้ประโยชน์อย่างแกไงที่เป็นอุปสรรคยัง มีหน้ามาพูดอีก!” ศศินัดดาก่นด่า

รพีพงษ์หงุดหงิดเล็กน้อย เขาเกือบจะหลุดปากออกไปแล้ว ว่าตัวเองคือเจ้าของวิลล่าฟ้าอนงค์

คนที่เขาจะเชิญคืออารียาไม่ใช่ชรินทร์ทิพย์

“พอเถอะ อย่าทะเลาะกันเลย” อารียาเดินเข้ามา เดิมที เธอก็หงุดหงิดอยู่แล้ว มาเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันอีก ก็ยิ่ง ปวดหัวเข้าไปอีก

“ลูกยังจะพูดแทนมันอีกเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะมัน ตอนนี้ลูกก็มีโอกาสแต่งเข้าไปอยู่ในบ้านผู้รากมากดีแล้ว!” ศศินัด ดายังไม่ยอมหยุด

อารียาไม่สนใจแม่ของตัวเอง เธอดึงรพีพงษ์เดินไปใน

ห้อง

รพีพงษ์มองท่าทางของอารียา เขาคิดในใจว่าครั้งนี้จะ ต้องทำให้เธอเซอร์ไพรส์ รอให้ถึงงานวันนั้นก่อน เขาจะ ทำให้ชรินทร์ทิพย์รู้ว่าคำว่าขายหน้ามันเป็นอย่างไร!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท