พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 50

บทที่ 50

บทที่ 50 แขนข้างนี้เป็นของฉัน

ทุกคนในห้องต่างตกตะลึงทันที ใครก็คิดไม่ถึงว่า หมอ เทวดาผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง จะพูดแบบนี้กับสวะคนหนึ่งจริงๆ

รพีพงษ์จู่ๆก็รู้สึกอายเล็กน้อย กระแอมสองเสียง พูดเสียง เบาว่า: “ใส่ใจภาพลักษณ์ของคุณด้วย”

ชุติเทพเหตุนี้จึงปล่อยรพีพงษ์ จ้องมองเขาด้วยรอยยิ้ม เต็มหน้า

ไตรทศกับธฤตญาณสองคนต่างจ้องมองชุติเทพกับรพี พงษ์สองคนด้วยความตกตะลึง จากนี้จึงเข้าใจ ว่าทำไมรพี พงษ์ถึงได้บอกว่าชุติเทพจะช่วยตรวจโรคให้ธฤตญาณ อย่างแน่นอน

เจตนิพัทธ์ท่าทีโง่งมแล้ว ยังไม่ได้สติกลับมาว่าสุดท้าย แล้วมันเกิดอะไรขึ้น

ทำไมหมอเทวดาชุถึงได้มีทัศนคติที่ดีต่อรพีพงษ์สวะคนนี้ ขนาดนี้? เป็นไปได้ไหมว่าหมอเทวดาชุอารมณ์ดี ดังนั้นจึงดี เช่นนี้ต่อใครทุกคน?

เด็กสาวที่ชื่อเจสสิก้ายิ่งประหลาดมาก นี่ยังเป็นครั้งแรก ที่เธอเห็น ชุติเทพกระตือรือร้นต่อคนอื่นขนาดนี้

“อาจารย์ ผู้ชายคนนี้เมื่อกี้เรียกแค่ชื่อของคุณตรงๆ แล้ว ยังคิดจะบุกเข้าไป ทำไมคุณถึงสุภาพกับเขาขนาดนี้?” เจส สิก้าเอ่ยอย่างงุนงง

ชุติเทพมองเจสสิก้าแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “เจสสิก้าอย่าไร้ เหตุผล รพีพงษ์เป็นแขกวีไอพีของฉัน”

แววตาของเจสสิก้ากลายเป็นเหลือเชื่อมากขึ้น ราวกับกำลังได้ยินเรื่องตลกอะไรสักอย่าง

“แต่ว่า เขาเป็นแค่สวะที่ลือเลื่องไปทั่วเมืองริเวอร์คนนั้น นะคะ” เจสสิก้ายังคงไม่พอใจ

“หุบปาก!” ชุติเทพตวาดใส่เจสสิก้าเสียงหนึ่งทันที เจสสิก้าหน้าเสีย แต่ไม่กล้าพูดอะไรอีก

ชุติเทพหันไปมองรพีพงษ์ บนใบหน้าเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม อีกครั้ง เปิดปากถามว่า: “เด็กอย่างคุณที่ไม่มีอะไรไม่ยอม มาโถงสามสมบัติ มาหาฉันเพราะอยากให้ฉันช่วยคุณใช่ ไหม?”

รพีพงษ์พยักหน้าอย่างไม่ได้ปิดบัง: “เพื่อนของผมได้รับ บาดเจ็บนิดหน่อย อยากขอให้คุณช่วยรักษาหน่อย”

ระหว่างที่พูด รพีพงษ์ก็ชี้ไปที่แขนของ ธฤตญาณ ผู้ท

ชุติเทพมองไปที่แขนของธฤตญาณแวบหนึ่ง ดวงตาเป็น ประกาย จากนั้นจึงรีบเดินไปดู และพูดว่า “แขนข้างนี้น่า สนใจอยู่บ้าง แบบนี้สิฉันชอบ”

ใบหน้าของธฤตญาณกระตุก คิดในใจว่าหมอเทวดาคนนี้ ไม่เหมือนกับคนอื่นจริงๆ คำพูดที่พูดออกมาทำให้ผู้คน ขนลุกได้

“เป็นไงบ้าง รักษาได้รึเปล่า?” รพีพงษ์เปิดปากถาม “รักษาได้ๆ พาเขาเข้าไปที่ห้องด้านในเถอะ” ชุติเทพพูด

ยิ้มๆ

เจตนิพัทธ์เมื่อเห็นเช่นนี้ รีบก้าวไปข้างหน้าทันทีเช่นกัน เปิดปากว่า “หมอเทวดาชุผมก็อยากให้คุณช่วยตรวจผม ด้วยเหมือนกัน”

ชุติเทพมองเขาแวบหนึ่ง เปิดปากพูดว่า ขออภัย โอกาสสามครั้งในปีนี้ถูกใช้หมดแล้ว”

“แต่ว่า คุณไม่ใช่ว่ายังจะรักษาให้พวกเขาอีกหรือ?” เจตนิ พัทธ์เอ่ยอย่างไม่พอใจมาก

“ฉันกับหมอเทวดาชุเป็นญาติกัน ใช่ไหมคุณ?” รพีพงษ์ ไม่อยากให้เจตนิพัทธ์ อยู่ที่นี่ให้เสียเวลา จึงเปิดปากพูด ประโยคหนึ่ง

ใช่ พวกเราเป็นญาติกัน” ชุติเทพก็เปิดปากตาม

เจตนิพัทธ์ กัดฟัน คิดในใจว่าไอ้สวะตัวนี้ช่างโชคดีมาก จริงๆ ที่สามารถปีนขึ้นมาเป็นญาติกับชุติเทพได้ พระเจ้า องค์นี้ช่างตาบอดซะจริงๆ

เขาจึงไม่คิดจะเสียเวลาอยู่ที่นี่อีกต่อไป กำลังคิดว่าอีก เดี๋ยวจะลองไปตรวจที่โรงพยาบาลใกล้ๆสักครั้ง ในเวลานี้เอง จู่ๆชุติเทพก็เปิดปากพูดประโยคหนึ่งแล้วว่า “หนุ่มน้อย อันที่จริงคุณก็ไม่ต้องกังวลใจไป เมื่อฉันดูหน้า

คุณแวบหนึ่งแล้ว คุณก็แค่ไตพร่องเท่านั้น กลับไปกินลิ่ว

เว่ยตี้หวงหวานให้มากก็ได้แล้ว”

ทันใดนั้นร่างของเจตนิพัทธ์ก็เหมือนถูกฟ้าผ่า ตัวแข็งไป พักหนึ่งแล้วค่อยคลายออก

ถ้าหากว่าตอนนั้นรพีพงษ์พูด เขายังไม่เชื่อ งั้นที่ชุติเทพ พูด เขาไม่เชื่อก็ไม่ได้แล้ว

ชุติเทพเป็นหมอเทวดาที่ได้รับการยอมรับ แน่นอนว่าไม่ หลอกคนง่ายๆ

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าบนใบหน้าของตัวเองค่อนข้าง อับอาย หลังจากกลืนน้ำลายแล้ว จึงพูดกับชุติเทพว่า: “ขะ..เข้าใจแล้วครับหมอเทวดาชุหลังจากกลับไปผมจะไปซื้อลิ่วเว่ยตี้หวงหวาน”

พูดจบ เขาก็รีบร้อนออกไปจากที่นี่ ถ้าอยู่ต่อไปอีก กะว่า วันหลังจะไม่กล้าพบผู้คนแล้ว

หลังจากที่เจตนิพัทธ์จากไป รพีพงษ์ก็รีบพาธฤตญาณ เข้าไปที่ห้องด้านใน เพื่อให้ ชุติเทพรักษาให้เขา

เจสสิก้าจ้องมองรพีพงษ์ด้วยความไม่พอใจ เกลียดจน แทบจะกินเขาได้แล้ว แต่เป็นเพราะชุติเทพจึงไม่กล้าพูด อะไรอีก

“แขนข้างนี้เป็นของฉันแล้ว พวกคุณไปรออยู่ด้านข้าง ก่อนเถอะ ฉันจะได้รีบจัดการกับมันให้ดี ถึงตอนนั้นให้เขา พักฟื้นสักสองสามวัน ก็ไม่เป็นปัญหาใหญ่แล้ว” ชุติเทพเปิด ปากพูด

รพีพงษ์พยักหน้า แล้วลากไตรทศไปที่อื่น เพื่อให้ชุติเทพ มีสมาธิในการรักษา ธฤตญาณ

ธฤตญาณตื่นตระหนก เมื่อกี้ชุติเทพบอกว่าแขนข้างนี้ ของตัวเองเป็นของเขา ทำให้เขาสั่นสะท้านไปทั้งตัว

“หมอ..หมอเทวดา คุณเมตตาผู้น้อยเถอะนะ ผมยัง ต้องการแขนข้างนี้อยู่ คุณอย่าตัดมันออกให้ผมเลยนะ” ธ ฤตญาณเปิดปากพูด

“วางใจเถอะ ฉันเป็นคนแบบนั้นหรือไง ถ้ารักษาไม่ได้ เท่านั้นแหละ ฉันถึงจะตัดมันออกให้คุณ” ชุติเทพกล่าวด้วย รอยยิ้ม

เขาพูดแบบนี้ ธฤตญาณก็ยิ่งกังวลมากขึ้น และมีแรง กระตุ้นชนิดหนึ่งจนคิดจะหนี

รพีพงษ์กับไตรทศทั้งสองคนเดินมาที่อีกด้านหนึ่งของห้อง ต่างก็มองไปรอบๆอย่างอยากรู้อยากเห็น

มีอวัยวะตัวอย่างเทียมต่างๆถูกวางไว้ในห้องนี้ของชุติ เทพ และไตรทศยังพบโครงกระดูกมนุษย์โครงหนึ่งอยู่ใน มุม เขาจึงรีบวิ่งไปดู และพบว่านี่เป็นของจริง ไม่ใช่แบบ จำลอง

จู่ๆเขาก็รู้สึกขนลุกขึ้นมาบ้าง คิดในใจว่าไม่แน่ว่าอวัยวะ พวกนั้น ทั้งหมดก็มาจากร่างกายมนุษย์หัวจรดเท้าเลยใช่ ไหม?

แล้วแบบนี้ธฤตญาณจะไม่….

เขาจึงหันไปมองธฤตญาณแวบหนึ่ง หลังจากที่เห็น ท่าทางสยดสยองเต็มหน้าของธฤตญาณ ก็อดไม่ได้ที่จะ เกิดความรู้สึกเห็นใจเขาอย่างสุดซึ้ง

เจสสิก้านั่งอยู่คนเดียวที่โต๊ะตัวหนึ่งไม่ไกลนัก บนโต๊ะมี กระดานหมากรุกชุดหนึ่ง เจสสิก้าวางตัวหมากหงายขึ้น อย่างไม่ใส่ใจนัก

เธอจ้องรพีพงษ์ด้วยหน้าตาบูดบึ้ง สายตายิงรังสีสังหาร ออกมาเป็นครั้งคราว รพีพงษ์มองเจสสิก้าอย่างหยอกเย้าแวบหนึ่ง จากนั้นจึง

เดินไปที่โต๊ะ เปิดปากถามว่า “คุณเล่นหมากล้อมเป็น?”

เจสสิก้าทันใดนั้นก็เผยสีหน้าภาคภูมิใจ เปิดปากพูดว่า “ยิ่งกว่าเล่นเป็น อาจารย์ฉันแม้ว่าจะเป็นหมอเทวดา แต่ก็ยัง ศึกษาหมากล้อมอย่างละเอียดควบคู่กันไปด้วย ฉันอันที่ จริงก็ได้เรียนรู้ผ่านเขา เทียบกับผู้เล่นผิวเผินพวกนั้น ก็ไม่ แน่ว่าจะเอาชนะฉันได้ด้วยซ้ำ”

รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมาทันที ถ้าหากว่าจำไม่ผิด ชุติเทพ ก็ได้เล่นผิวเผิน เพราะเมื่อก่อนเขาขี้เกียจจะสอน
“คุณหัวเราะทำไม? คุณไม่เชื่อในที่ฉันพูดใช่ไหม? จะ

บอกคุณให้นะ ถ้าคุณอยากเล่นชุดต่อไปกับฉัน ฉันรับ ประกันว่าคุณจะยอมแพ้ภายในสิบนาที” เจสสิก้าพูดอย่าง โกรธเกรี้ยว “พี่รพีพี่ก็เล่นหมากล้อมเป็นด้วยเหรอ ฉันไม่เคยได้ยิน

เรื่องนี้มาก่อนเลย” ไตรทศที่อยู่ด้านข้างเปิดปาก “เรื่องที่นายไม่รู้ยังมีอีกเยอะ” รพีพงษ์หันไปพูดกับ ไตรทศ

เจสสิก้าเม้มปาก แล้วเปิดปากพูดว่า “ทำเป็นลับๆล่อๆ ต่อ ให้คุณเล่นเป็น ก็เกรงว่าจะแค่มือสมัครเล่น ช่างเถอะ ยังไม่ อยากไล่บี้คุณ กลัวว่าจะทำร้ายความนับถือในตัวเองของ

คุณ”

รพีพงษ์จึงนั่งลงตรงอีกด้านหนึ่งของโต๊ะทันที ตั้ง กระดานหมาก และเปิดปากพูดว่า “ถึงยังไงอยู่เฉยๆมันก็น่า เบื่อ เล่นสักเกมก็น่าจะแก้เบื่อได้”

“ชิ คุณมีแต่จะถูกทารุณเท่านั้น” เจสสิก้าเอ่ยอย่าง ดูแคลน

“ไม่งั้นเอาอย่างนี้ ผมเล่นกับคุณตาหนึ่งวางเดิมพันกันว่า ยังไง?”

“เดิมพันอะไร?” เจสสิก้าเปิดปากถามพลางจ้องตา

“ถ้าคุณแพ้ให้ผม ต้องยอมรับผมเป็นอาจารย์ หลังจากนี้ คำสั่งของผม คุณต้องเชื่อฟัง ว่ายังไง?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท