พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 36

บทที่ 36

บทที่ 36 พวกเขาเป็นลูกค้ากิตติมศักดิ์ของร้านเรา

บุษบากรโกรธจนหน้าดำหน้าแดง อารียาเป็นคนเก็บความ รู้สึกยังไงก็ไม่มีเรื่องกับคนประเภทนี้แน่นอน แต่ตัวเธอเองนั้น ไม่มีเรื่อง ไม่ได้

เธอจ้องผู้หญิงตรงหน้าตาเขม็ง เปิดปากพูด “ทำไมคุณถึง พูดจาแบบนี้ มีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเรา ห้างนี้คุณเป็นเจ้าของ หรือไงกัน” ผู้หญิงคนนั้นยิ้มเย็นๆ พูดออกไป “มีสิทธิ์อะไรอย่างนั้นหรอ

ก็สิทธิ์ที่ฉันสามารถซื้อเครื่องสำอางร้านนี้ได้น่ะสิ แต่พวกเธอ

ซื้อไม่ได้! ”

บุษบากรได้ยินก็ยิ่งโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ จนคิดไม่ออกว่าจะ ตอกอะไรกลับไปดี ผู้หญิงคนนั้นเห็น บุษบากรไม่พูดอะไร ความจองหองก็ยิ่ง

เพิ่มมากขึ้น พูดอย่างได้ใจ “คนจนอย่างพวกเธอนะ ไม่ควรมา ที่นี่ตั้งแต่แรกแล้ว พวกเธอไปซื้อเครื่องสำอางที่ลดราคาจะดี กว่านะ จะได้ไม่ทำให้ทุกคนที่นี่เสียเวลา”

“นี่คุณ! “บุษบากรโกรธจนไฟสุมอก

แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองทำผิดอะไรแม้แต่ น้อย การประพฤติตัวกับคนจน มันก็ต้องแบบนี้แหละ

“ดูพวกเธอแล้ว หน้าตาก็ไม่ได้แย่อะไร ถ้าไปหาผู้ชายรวยๆ ล่ะก็ ไม่แน่อาจจะซื้อเครื่องสำอางแบรนด์นี้ไหวก็ได้นะ แต่ดู ท่าแล้ว คงจะหาผู้ชายแบบนั้นไม่ได้สักคนเลยสินะ”

พูดไป ก็หันไปมองทางรพีพงษ์ ความดูถูกดูแคลนในสายตา ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น

“ผู้ชายแบบนี้ แค่ดูก็รู้ว่าไม่เท่าไหร่ พวกเธอน่ะ ใครแต่งกับ เขา ทั้งชีวิตนี้ก็อย่าหวังจะซื้อเครื่องสำอางแบรนด์นี้เลย” ผู้หญิงคนนั้นกระซิบออกมา

บุษบากรถึงจะไม่ชอบผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้ามากแค่ไหน แต่ คำพูดพวกนั้นที่เธอพูดออกมา บุษบากรเองก็รู้สึกว่าพูดไม่ผิด

เธอหันหน้าไปมองรพีพงษ์ พลางพูด “เขาก็พูดไม่ผิดนะ ถ้า นายมีดีจริงล่ะก็ แคลร์ก็คงไม่ต้องมาขายหน้าในที่แบบนี้ หรอก”

รพีพงษ์ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ไม่ว่าเขาจะเดินไปไหน จะกินจะ นอนจะนั่งก็ผิดไปหมด

อารียาดึงๆแขนของบุษบากร พลางพูด “พอแล้วล่ะบุษ พวก เราอย่าลดตัวลงไปต่อปากต่อคำเลย ถ้าตอนนี้ยังไม่อยากซื้อ ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่ก็ได้”

“แหม ไว้คราวหน้าค่อยมาใหม่ ยังไงพวกเธอก็ซื้อไม่ได้อยู่ดี หน้าตาสวยแล้วยังไง ถ้าไม่มีแฟนซื้อเครื่องสำอางให้พวกเธอ” ผู้หญิงคนนั้นยังคงพูดไม่หยุด

พอถึงตอนนี้ ผู้จัดการร้านแชนแนลก็เดินตรงเข้ามา ผู้หญิง

คนนั้นเห็นดังนั้น ก็รีบเดินเข้าไป เอ่ยปากพูด “พวกเธอรีบไล่ คนจนสามคนนี้ออกไปให้พ้นหูพ้นตาฉันสักที จะได้ไม่มารบก วนอารมณ์ช้อปปิ้งของฉัน” ผู้จัดการร้านมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าแวบหนึ่ง ไม่ได้แสดง

ท่าทางกระตือรือร้นที่จะบริการออกมามากนัก แต่กลับพูด

ด้วยน้ำเสียงเย็นๆ “ต้องขออภัยด้วยนะคะ ถ้าคุณยังทำตัวไม่มี

มารยาทกับลูกค้ากิตติมศักดิ์ของเราอีกล่ะก็ คนที่พวกเราจะ

ไล่ออกไป ก็คือคุณ” ผู้หญิงคนนั้นได้ยินคำพูดของผู้จัดการร้าน ก็อึ้งไปสองสาม วิ บุษบากรเอง กับอารียาทั้งสองคนมึนงงไม่แพ้กัน

ลูกค้ากิตติมศักดิ์อย่างนั้นหรอ

นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย
“เธอหมายความว่ายังไง คนจนสามคนนี้ ให้ตายยังไงก็ซื้อ เครื่องสำอางของที่นี่ไม่ไหวหรอก ทำไมถึงกลายเป็นลูกค้า กิตติมศักดิ์ไปได้ล่ะ ฉันต่างหากที่จะซื้อเครื่องสำอางของร้าน เธอ แต่ถ้ามารยาททรามแบบนี้ล่ะก็นะ ฉันไม่ซื้อหรอกยะ” ผู้ หญิงคนนั้นโกรธขึ้นมาทันที

อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการร้านไม่ได้สนใจอะไรเธอนัก ผู้หญิง คนนี้ ถ้าเทียบทางรพีพงษ์แล้ว ไม่ได้นับว่าเป็นลูกค้าคนสำคัญ อะไรสักนิด

ส่วนทางรพีพงษ์นั้น มีคนมาติดต่อไว้เรียบร้อย ขอแค่ทำให้ พวกเขามีความสุขได้ ก็ทำธุรกิจต่อไปได้

“ลูกค้ากิตติมศักดิ์ทั้งสามท่านคะ ต้องขออภัยจริงๆนะคะ ที่ ทำให้พวกคุณต้องยุ่งยาก ร้านของพวกเราไม่เคยปฏิเสธ ลูกค้าท่านไหน เพื่อเป็นการไถ่โทษ ทางร้านของเราขอมอบ เครื่องสำอางสองชุดนี้ให้ค่ะ”

()

ผู้จัดการร้านพูดไป พลางหันหลังไปเรียกพนักงานในร้าน ให้หยิบชุดเครื่องสำอางในหีบห่อหรูหรามาสองชุด ก่อนจะส่ง ให้อารียากับบุษบากร

สองคนรับเครื่องสำอางไปอย่างงงๆ ก่อนจะเบิกตาโตด้วย ความตกใจ

“นี่มัน….ชุดเครื่องสำอางที่ออกใหม่ล่าสุดของแชนแนลใช่ มั้ย” บุษบากรพูดตะกุกตะกัก

“ใช่ค่ะ เครื่องสำอางชุดนี้เหมาะที่สุดกับสไตล์ของคุณผู้ หญิงทั้งสอง เชื่อว่าถ้าคุณผู้หญิงทั้งสองได้ลองใช้ดูแล้ว ความ มีเสน่ห์สวยงามจะถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น” ผู้จัดการร้านเอ่ย ปากยิ้ม

“แต่ว่า เครื่องสำอางชุดนี้ต้องกี่หมื่นเนี่ย เธอจะยกให้พวก เราแบบนี้เลยนะหรอ” บุษบากรพูดอย่างตกใจ
“ใช่ค่ะ เครื่องสำอางสองชุดนี้มอบให้แก่คุณผู้หญิงทั้งสอง ท่านค่ะ ฝากดูแลพวกเขาด้วยนะคะ” ผู้จัดการร้านพูดอย่าง นอบน้อม

ผู้หญิงคนนั้นที่อยู่ข้างๆอดที่จะอิจฉาตาร้อนไม่ได้ เดิน เข้าไปหาผู้จัดการร้าน ก่อนจะพูดว่า “เธอก็ต้องใช้ฉันชุดหนึ่ง ด้วยสิ”

ผู้หญิงคนนี้ ถึงจะมีเงินไม่น้อย แต่พูดถึงเครื่องสำอาง แบรนด์ระดับท็อปอย่างแชนแนลแล้ว เธอเองก็ตัดใจซื้อไม่ลง เหมือนกัน เธอมาที่นี่ก็เพียงที่จะซื้อเครื่องสำอางธรรมดาๆ เท่านั้น

พอได้เห็นผู้จัดการร้านอยู่ๆก็ให้พวกบุษบากรสองคนฟรีๆ ไปเลยแบบนี้ แน่นอนว่าเธอก็อิจฉาจนตาลุกเป็นไฟ

“ต้องขออภัยด้วยค่ะ ไม่มีของคุณ” ชั่วพริบตา น้ำเสียงและ ท่าทางของผู้จัดการร้านก็เปลี่ยนกลับเป็นเย็นชา

“ทำไมพวกเธอถึงได้ล่ะ แต่ฉันไม่ได้ ฉันเป็นลูกค้าประจำ ของร้านพวกเธอนะ พวกเธอทำแบบนี้ อยากจะเสียลูกค้าแบบ ฉันไปหรือไง พวกเธอสองคนเป็นลูกค้าประจำของร้านเธอไม่ ได้ด้วยซ้ำ” ผู้หญิงคนนั้นสำคัญตัวใหญ่

“ต้องขออภัยจริงๆ ยังไงก็ไม่มีของคุณค่ะ เครื่องสำอางของ คุณผู้หญิงทั้งสอง มีคนจ่ายเงินไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ถ้าคุณ อยากได้ ก็ใช้เงินตัวเองซื้อสิคะ” ผู้จัดการร้านตอบกลับ

“มีคนจ่ายเงินไว้แล้วหรอ ใครกัน” บุษบากรถามอย่างเร่งรีบ “ขออภัยค่ะ เรื่องนี้พวกเราไม่สามารถบอกได้ ” ผู้จัดการ ร้านพูด พลางเหลือบมองรพีพงษ์เล็กน้อย

อารียาเองก็หันไปมองทางรพีพงษ์ ในความรู้สึกของเธอแล้ว เงินส่วนตัวของรพีพงษ์คงไม่ได้เยอะขนาดนั้น

ก่อนหน้าผู้หญิงคนนั้นยังหาว่า บุษบากรหาผู้ชายที่เต็มใจซื้อเครื่องสำอางให้เธอไม่ได้ ไม่ทันแหงะหน้ามอง ก็มีคนซื้อ ชุดเครื่องสำอางราคาแพงให้เธอกับอารียาคนละชุด นี่มันตบ หน้ากันชัดๆ

เธอมองเครื่องสำอางในมือของบุษบากรกับอารียา อิจฉาจน กัดฟันกรอดๆ

“วันนี้ ยังไงพวกเธอก็ต้องให้เครื่องสำอางฉันฟรีเหมือนพวก เขา ไม่อย่างนั้นล่ะก็….ไม่อย่างนั้น ฉันจะไม่ซื้อเครื่องสำอาง ร้านพวกเธออีก” ผู้หญิงคนนั้นยืนเคาะเท้าเกาะอก เริ่มเล่น แกมโกง

ผู้จัดการร้านเห็นดังนั้น ก็รีบไปเรียกพนักงานรักษาศวาม ปลอดภัย พลางพูด “เอาผู้หญิงก่อกวนคนนี้ออกไป ให้ฉันที แจ้งร้านแชนแนลสาขาอื่นด้วย ว่าต่อไปนี้แบรนด์ของเรา แม้แต่ชิ้นเดียวก็ห้ามขายให้เธอ”

พนักงานรักษาความปลอดภัย รีบไล่ผู้หญิงเจ้าปัญหาคนนั้น ออกไปอย่างไร้เยื่อใย

บุษบากรกับอารียาเห็นท่าทางอับอายขายขี้หน้าของเจ้า หล่อน ก็อดแอบหัวเราะในใจไม่ได้ คิดว่าเธอเจอแบบนี้ก็ สมควรแล้ว

เหอะ ดูสิ เมื่อกี้ยังด่าฉอดๆๆอยู่เลย ตอนนี้ทำไมถึงไม่กล้า ซะแล้วล่ะ ทำตัวหัวสูงซะจริงๆ ตอนนี้ร้านทุกสาขาของ แชนแนลไม่ต้อนรับหล่อนซะแล้ว อยากรู้จริงๆ ว่าคราวหน้ายัง จะกล้าไปอวดเบ่งที่ไหนอีกไหม” บุษบากรพูดอย่างได้รับ ชัยชนะ

หลังจากที่เห็นผู้หญิงคนนั้นถูกไล่ออกไปจากร้าน บุษบากร ก็อดไม่ได้ที่จะมองเครื่องสำอางในมือตัวเอง ก็คิดถึงเรื่องของ ขวัญที่ได้ตอนถ่ายทอดสดวันนี้ อยู่ๆก็มีความคิดแปลก ประหลาดโผล่ขึ้นมาในหัว
หรือว่าจะเป็น ผู้ชายคนนั้น เขาจะมาหาฉันแล้วสินะ

เธอมองไปทางอารียา พร้อมถามอย่างตื่นเต้น “เธอว่า คนที่ จ่ายเงินให้พวกเรา จะใช่เจ้าชายขี่ม้าขาวของฉันไหม”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท