พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 68

บทที่ 68

บทที่ 68 หักคอแก

วันหยุดรพีพงษ์ตื่นขึ้นมาก็มีความสุขราวกับได้ทานของ หวานอย่างไรอย่างนั้น

วันนี้อารียาจะเลี้ยงอาหารเขา มันทำให้เขาตื่นเต้นจนไม่ สามารถมีอะไรเปรียบได้

หลังจากที่อารียาล้างหน้าล้างตาเสร็จ จู่ๆ เธอก็พูดกับรพี พงษ์ว่า “รพีพงษ์ นายไปภัตตาคารสปริงแยงซีก่อนเลยนะ เมื่อกี้คุณปู่โทรให้ฉันไปจัดการเอกสารที่บริษัทนิดหน่อย น่ะ”

รพีพงษ์มองอารียา แล้วเอ่ยขึ้น “มีเรื่องอะไรหรือเปล่า”

“ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก เหมือนว่าจะเป็นเรื่องเจรจา กับสำนักงานสาขาบริษัทซันบับเบิลน่ะ ฉันเลยต้องเตรียม พวกเอกสารสำคัญเอาไว้ก่อน” อารียาตอบ

“ทำความร่วมมือกับบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปเหรอ ถ้าคุณ ต้องการผมช่วยคุณได้นะ ผมมีเพื่อนอยู่ที่นั่น” รพีพงษ์เอ่ย ขึ้น

สีหน้าของอารียาเต็มไปด้วยความประหลาดใจ เธอคิดไม่ ถึงว่าเขาจะมีเพื่อนอยู่ที่บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป

“น่าจะไม่ต้องหรอก พวกเราแค่อยากพูดคุยกับฝ่ายนั้นน่ะ โครงการนี้มีคนแข่งขันกันเยอะ บริษัทของเราแค่บริษัท ระดับกลาง ฉันเดาว่าคุณปู่แค่อยากลองดูเท่านั้น คงไม่ คิดถึงเรื่องที่จะเจรจาสำเร็จหรอก” อารียาพูด

“โอเค ถ้าคุณต้องการอะไรก็บอกผม” รพีพงษ์พูด อารียาพยักหน้า จากนั้นก็รีบไปที่บริษัท
รพีพงษ์จัดการตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง เสร็จแล้วจึงออกไปที่ ภัตตาคารสปริงแยงซี

อารียาได้จองโต๊ะเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เขาเพียงแค่นั่งรอ เธอจัดการที่บริษัทให้เสร็จเท่านั้น

เมื่อถึงหน้าภัตตาคารสปริงแยงซี รพีพงษ์เพิ่งจะเดิน เข้าไปก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อเขาดังขึ้นมาจากทางด้าน หลัง

“พี่รพี!”

รพีพงษ์หันกลับมา เห็นผู้ชายร่างกำยำกำลังเดินเข้ามา ผู้ชายคนนั้นก็คือพัชรพลคนที่ช่วยเขาดูแลวัตถุโบราณที่ วิลล่าฟ้าอนงค์เมื่อครั้งก่อน

พัชรพลคือลูกน้องฝีมือดีของไตรทศ ดังนั้นเขาจึงรู้ความ สัมพันธ์ระหว่างไตรทศกับรพีพงษ์ ก่อนหน้านี้ไตรทศก็เคย พูดกับเขาว่าถึงแม้ว่ารพีพงษ์จะล่วงเกินตัวเองก็อย่าไปหา เรื่องรพีพงษ์

เมื่อรพีพงษ์เห็นว่าเป็นพัชรพลก็ยิ้มออกมาแล้วพูดขึ้นมา

ว่า “นายมาทำอะไรที่นี่” “ผมมาช่วยเพื่อนครับ ได้ยินมาว่ามันโดนต่อยวันนี้เลยจะ

มาแก้แค้น ” พัชรพลเอ่ยขึ้น

เพื่อนที่ว่าก็คือหมาป่าดำนั่นเอง หมาป่าดำเคยเป็นลูก น้องรับใช้ของไตรทศ ดังนั้นเมื่อมีปัญหาอะไรไตรทศก็จะ ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ

ครั้งนี้พัชรพลมาช่วยหมาป่าดำ แต่ทว่าหมาป่าดำบอก เขาว่าให้มาจัดการคนคนหนึ่ง บอกแค่ว่าถ้าต้องการความ ช่วยเหลือจะเรียกเขาเม่านั้น แต่ไม่ได้บอกว่าคนที่ให้มา จัดการคือใคร
เขาเองก็คร้านจะถามว่าคือใคร แต่ว่าถ้าเขารู้ว่าเป้าหมาย ของหมาป่าดำคือรพีพงษ์ ต่อให้ตีเขาให้ตายเขาก็คงไม่มี ทางมาเด็ดขาด

แน่นอนว่าถ้ารู้จริงๆ ไตรทศคงจัดการหมาป่าดำจนไม่ เหลือชิ้นดี

รพีพงษ์พยักหน้าให้พัชรพลแล้วพูดว่า “นายจัดการเรื่อง ของนายเถอะ ฉันไปก่อนล่ะ”

พัชรพลรีบพยักหน้าให้รพีพงษ์แล้วพูดว่า “พี่รพีถ้ามีเรื่อง อะไรเรียกผมได้นะครับ”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไรต่อ เขาเดินเข้าไปในภัตตาคาร สปริงแยงซี

เขาเดินเข้ามาไม่นาน หมาป่าดำก็พาลูกน้องกลุ่มหนึ่งมา ถึงในซอยแถวภัตตาคาร พัชรพลพาคนมาคอยที่นี่แล้ว

“พี่พัชรพล” หมาป่าดำยิ้มแล้วเดินเข้ามาทักทาย

“ไอ้หมอนี่ กว่าจะมาถึงนะ ให้ฉันมารอตั้งนาน ใครกันแน่ ที่ทำให้นายระดมคนมาซะเยอะขนาดนี้” พัชรพลเอ่ยถาม “อันที่จริงก็ไม่ใช่คนเก่งอะไรหรอก ก็แค่ไอ้สวะ ผมสืบมา

ว่าวันนี้มันจะมากินข้าวที่นี่ เดี๋ยวอีกสักพักผมจะพาคน

เข้าไปจัดการมันก่อน ถ้าไม่ไหวผมจะเรียกพี่กับคนของพี่

เข้าไปช่วยจัดการ” หมาป่าดำยิ้มแล้วพูด

“ได้ พวกนายรีบหน่อย ถ้าจัดการเสร็จฉันยังต้องพาลูก น้องไปดื่มเหล้า” พัชรพลเอ่ยขึ้น

“ไม่มีปัญหา ถ้าจัดการเสร็จผมจะพาพวกพี่ไปเลี้ยง เหล้า!” หมาป่าคำพูดขึ้น

เขาสืบรู้มาว่าอารียาจองโต๊ะไว้ที่นี่ เมื่อรู้ว่าอารียากับรพีพงษ์จะมากินข้าวที่นี่ ดังนั้นเขาจึงปรึกษากับเจตนิพัทธ์แล้ว เลือกลงมือในวันนี้

เดิมทีพวกเขาตั้งใจใช้ช่วงที่อารียาไปเข้าห้องน้ำ ทำให้ เธอสลบจากนั้นก็ใช้มือถือของเธอส่งข้อความหารพีพงษ์ ให้มันออกมาข้างหลังภัตตาคารสปริงแยงซี แล้วลงมือ จัดการมันในตอนนั้น

แต่เมื่อครู่หมาป่าดำรู้มาว่าอารียาไปบริษัทคนเดียว เขา จึงให้เจตนิพัทธ์พาคนไปคอยอารียาที่บริษัท เมื่อเธอออก มาแล้วค่อยทำให้เธอสลบจากนั้นจึงพามาที่นี่

หลังจากจัดการรพีพงษ์เสร็จ หมาป่าดำจะได้มีค่ำคืนอัน หวานฉ่ำกับอารียา วันต่อมาค่อยให้เจตนิพัทธ์เอาตัวเธอไป แล้วบอกว่ารพีพงษ์เป็นคนวางยาเธอเพื่อที่จะทำลายเธอ ดี ที่เจตนิพัทธ์มาช่วยไว้ทัน

ยิ่งไปกว่านั้นยาที่อารียากินเข้าไปมันออกฤทธิ์ เจตนิ พัทธ์กลัวว่าเธอจะทนกับฤทธิ์ยาไม่ไหวจึงมีอะไรกับเธอ เมื่อเป็นเช่นนี้อารียาก็ไม่มีทางรอดพ้นเนื้อมือของเจตนิ

พัทธ์

แผนของเจตนิพัทธ์กับหมาป่าดำดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี แต่ติดตรงที่รพีพงษ์ที่เป็นเป้าหมายของพวกเขา ตราบใดที่ รพีพงษ์ยังอยู่แผนของพวกเขาก็จะไม่มีทางสำเร็จตั้งแต่ ก้าวแรก

เกือบเที่ยงหมาป่าดำได้รับข้อความจากเจตนิพัทธ์ว่าอารี ยาอยู่ในมือของเขาแล้ว

หมาป่าดำแสยะยิ้ม จากนั้นก็เรียกให้ลูกน้องไปด้านหลัง ของภัตตาคาร รอให้เจตนิพัทธ์พาอารียามาส่ง

ไม่นาน เจตนิพัทธ์ก็พาอารียาที่ไม่รู้สึกตัวมาส่งให้หมาป่าดำ

เจตนิพัทธ์พาอารียามาส่งให้หมาป่าดำเรียบร้อยก็กลับ ไป เพราะเรื่องวันนี้เขาก็ไม่สามารถมีส่วนร่วมด้วยได้ ให้ หมาป่าดำจัดการก็พอแล้ว

รพีพงษ์นั่งรออารียาอยู่ภายในภัตตาคารสปริงแยงซี

เขาเหลือบมองนาฬิกาแล้วพบว่าใกล้เที่ยงแล้ว ตามหลัก แล้วในเวลานี้อารียาควรจะมาถึงที่นี่แล้ว

เมื่อเห็นว่าเธอยังไม่มา รพีพงษ์ก็เริ่มมีท่าทีร้อนรน เขา หยิบมือถือขึ้นมาจากนั้นจึงกดโทรออกไปหาอารียา

เมื่อปลายสายรับโทรศัพท์ ทว่าเสียงจากปลายสายกลับ

ไม่ใช่เสียงของอารียา

“ในที่สุดแกก็คิดถึงเมียของแก ตอนนี้แกรีบมาที่ซอยหลัง ภัตตาคาร ไม่งั้นเมียของแกะ…หนีหมาป่าดำพูดจบก็วาง สาย

สีหน้าของรพีพงษ์เปลี่ยนไปในทันที เขาลุกขึ้นแล้วรีบไป ด้านหลังของภัตตาคารอย่างไม่ลังเล

เขาฟังออกว่าเสียงนั่นเป็นเสียงของหมาป่าดำ แต่สิ่งที่ ทำให้เขาคิดไม่ถึงก็คือมันโดนเขาต่อยซะขนาดนั้น ยังกล้า มาหาเรื่องเขาอีก รพีพงษ์รู้สึกเสียใจที่ไม่จัดการมันให้เละ

ไปซะตั้งแต่วันนั้น

รพีพงษ์ก้าวด้วยความรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงในซอยด้าน หลังของภัตตาคาร

คนของหมาป่าดำมาคอยอยู่ที่นี่แล้ว เมื่อเห็นว่ารพีพงษ์มา ถึง พวกมันก็แสยะยิ้มร้ายกาจ

ในกลุ่มของพวกมัน มีไม่น้อยที่เคยโดนรพีพงษ์ต่อยเพราะฉะนั้นวันนี้พวกมันจึงอยากแก้แค้น

ในมือของหมาป่าดำถือท่อนเหล็กเอาไว้ เขาแสยะยิ้มแล้ว มองรพีพงษ์ จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ดูเหมือนว่าแกจะรีบน่าดู เลยนะ มาซะเร็วเชี่ยว”

“เมียของฉันอยู่ที่ไหน” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาที่ แฝงไปด้วยความน่ากลัว

“เหอะ เหอะ จะหาเมียแกไปทำไม ถ้าผ่านวันนี้ไปเมียของ แกก็ไม่ใช่ของแกอีกต่อไป เมียของแกก็แบ่งให้ฉันเถอะ!” หมาป่าดำพูดด้วยเสียงดัง

“แกหาเรื่องตายหรือไง!” รพีพงษ์กำหมัดแน่น

หมาป่าดำมีสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “ยังมา ทำอวดเก่ง วันนั้นถ้าฉันไม่ดื่มเหล้าเถื่อน นายคิดว่านายจะ สู้ฉันได้เหรอ”

“วันนี้แกจะได้ลิ้มรสฝีมือของฉัน หลังจากนี้แกจะได้เป็น ไอ้สวะจริงๆ!”

หมาป่า ดำพูดจบลูกน้องของมันก็พุ่งเข้าไปหารพีพงษ์ ครั้งนี้ในมือของพวกมันมีอาวุธ ดังนั้นจึงไม่กลัวรพีพงษ์

แม้แต่น้อย

รพีพงษ์หรี่ตาลงเล็กน้อย หลังจากที่พวกมันพุ่งเข้าม เขา คว้าเอาไม้ในมือของหนึ่งในคนกลุ่มนั้นจากนั้นก็ลงมือตี เข้าไปที่ตัวของพวกมัน

หมาป่าดำก็พุ่งเข้ามาหาเขาเช่นกัน มันกำลังจะเอาท่อน

เหล็กในมือตีไปที่หัวของเขา รพีพงษ์เห็นเช่นนั้นเขาก็รีบ

หลบอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็เอาท่อนไม้ฟาดไปที่ขาของ

มันจนท่อนไม้หัก
“วันนี้ฉันไม่ได้ดื่มเหล้าเถื่อน ทำไมยังต่อยไอ้หมอนี่ไม่ได้ อีก” สีหน้าของหมาป่าดำเต็มไปด้วยความเจ็บปวด เขากุม ขาของตัวเองแล้วร้องโอดครวญ

รพีพงษ์ใช้ความสามารถในการต่อสู้ เพียงพริบตาเดียว พวกมันก็ทำให้พวกมันไปนอนกองกันอยู่บนพื้น

เขาบีบคอของหมาป่าดำ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะ เยือก “พาเธอออกมา ไม่งั้นฉันหักคอแกแน่!”

สีหน้าของหมาป่าดำเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “แก ปล่อยฉันก่อน ฉันจะให้คนพาเมียแกออกมา”

รพีพงษ์ปล่อยมือ หมาป่าดำรีบหยิบมือถือขึ้นมา แต่ทว่า เขาไม่ได้โทรให้คนพาอารียาออกมา เขากดโทรออกไปหา พัชรพล

“พี่พัชรพล รีบมาที่นี่ ไม่รู้ไอ้หมอนี่ไปกินยาอะไรมา ผม รับมือมันไม่ไหวแล้ว!”

หลังจากที่วางสาย หมาป่าดำมองไปที่รพีพงษ์ด้วยความ เกลียดชังแล้วพูดออกมาว่า “ดีนะที่ฉันยังมีคนช่วย ไม่งั้น ฉันคงสู้แกไม่ได้ อีกเดี่ยวพี่ใหญ่ฉันก็จะมาแล้ว แกไม่รอด แน่!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท