พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่80

บทที่80

บทที่80 อาซิมอาม่ามาทั่วสารทิศ

“แม่ ทำอะไรอ่ะคะ หนูต้องไปทำงานนะคะ แม่รีบให้หนู ออกไปเถอะ”อารียาทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก มองไปที่ศศินัดดา

ในเวลานี้ศศินัดดาถือไม้ตะพลองอันหนึ่ง ยืนจังก้าอยู่ ตรงหน้าอารียากับรพีพงษ์ หน้าตาถถึงทึ่ง

ศักดายืนอยู่ข้างหลังเธอ และก็มองสองคนนั้นอย่างไม่ สบอารมณ์เช่นกัน

“บอกให้พวกแกออกไปไง พวกแกไม่รู้เหรอว่าตอนนี้ ข้างนอกพูดถึงพวกแกยังไงบ้าง ยังจะไปทำงานบ้าบอ อะไร ขึ้นเป็นแบบนี้ต่อไป พวกเราจะโดนไล่ออกจาก ตระกูลทั้งหมดแล้ว! “ศศินัดดาตะโกนก้อง

“คุณแม่คะ หนูอธิบายคุณแม่ชัดเจนแล้วนะคะ สัญญา ฉบับนั้นชรินทร์ทิพย์ดันทุรังจะเซ็นเอง ไม่เกี่ยวกับรพี พงษ์ เธอทำตัวเธอเอง แล้วทำไมต้องปัดความผิดมาให้ รพีพงษ์ด้วยคะ”อารียาโกธรแทนรพีพงษ์

“หึ แกไม่ต้องมาพูดแทนไอ้สวะนั่น มันเป็นคนยังไง ทำไมฉันจะไม่รู้ตั้งแต่แรกแล้ว มันจะฉุดให้ครอบครัวเรา ตกต่ำลง ตอนนี้ทุกคนต่างอยากจะเสือกไสมันออกจาก ตระกูลฉัตรมงคล แกยังจะปกป้องมันทำไม”

“ลูกสาว แม่เขาพูดถูกนะ รพีพงษ์เสียเวลาแกมานานมากแล้ว มาถึงวันนี้ ก็ต้องไล่มันออกจากตระกูลฉัตร มงคลจริงๆแหละ”ศักดาพูดถอนใจ

อารียาขมวดคิ้วขึ้น ทำไมเธอถึงคิดไม่ถึง หลังจาก เหตุการณ์นั้น ชรินทร์ทิพย์จะต้องฟาดงวงฟาดงาแน่ ทำให้รพีพงษ์ตกที่นั่งลำบาก

นอกจากนี้คนในตระกูลฉัตรมงคลจะต้องเชื่อคำพูด ของชรินทร์ทิพย์แน่นอน แต่ไม่มีใครไปถามความจริง กับนภทีป์เลยสักคน อารียาอึดอัดแทนรพีพงษ์จริงๆ

“ไม่ต้องพูดกันแล้วค่ะ ไม่ว่ายังไง หนูจะไม่หย่ากับรพี พงษ์แน่นอน อย่างมาก หนูก็แค่ย้ายออกไปกับเขา”อารี ยาพูดแน่วแน่

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ศศินัดดากับศักดาที่ตกใจ แม้แต่รพี

พงษ์เองก็ตกใจ

เขาไม่เคยคิดเลยว่า อารียาจะทำเพื่อเขา โดยการย้าย

ออกไป

เขายิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างโดดเดี่ยว ในใจคิดว่าถ้าอารี ยาต้องออกไปอยู่กับเขาละก็ เขา

จะไม่ลังเลเลย

ดูท่าน่าจะได้เวลาซื้อบ้านใหม่แล้วมั้ง ไม่งั้นตอนย้าย ออก เดี๋ยวไม่มีที่อยู่

แน่นอนว่า เขายังมีวิลล่าฟ้าอนงค์ แต่รพีพงษ์ไม่ค่อย ชื่นชอบวิลล่านี้สักเท่าไหร่ นอกจากนี้วิลล่านี้ยังเป็นของน

ตระกูลลัดดาวัลย์ให้มา รพีพงษ์ไม่เคยคิดจะไปอยู่ที่นั่น

เลย

เดี๋ยวพอมีเวลา ไปดูบ้านหน่อยก็ได้ รพีพงษ์คิดอยู่ใน

ใจ

ศศินัดดาเห็นอารียาไม่เชื่อฟังเลย จึงอาละวาด เธอจึง ชี้โทษความผิดทั้งหมดไปที่รพีพงษ์ คำรามขึ้น”รพีพงษ์ ไอ้สวะ ยังมีหน้าอยู่ในตระกูลเราอีก แกไม่ได้คุย โครงการกับซันบับเบิลจนสำเร็จ ก็ควรจะหย่ากับแคลร์ โดยดี แกไม่มีสิทธิ์ที่จะอยู่บ้านเราอีกต่อไปแล้วนะ!

รพีพงษ์ทำสีหน้าไม่ยี่หร่า เปิดปากพูดขึ้น”ผมคุย โครงการกับซันบับเบิลจนสำเร็จแล้ว แต่คุณชรินทร์ ทิพย์เจ้ากี้เจ้าการเซ็นเอง จนทำให้สัญญาเป็นโมฆะ เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับผม”

ศศินัดดารีบเบ้ปาก พูดขึ้น “หยุดทำเสแสร้งสักที น้ำ หน้าอย่างแก น่ะนะ จะคุยโครงการสำเร็จได้ไง ฉันว่าแก หาเรื่องใส่ร้ายหนูเจน เธอก็บอกอยู่ว่าแกจงใจใส่ร้าย เธอ”

อารียาโกธรขึ้นมาทันที ชรินทร์ทิพย์หาทางทำร้ายเธอ ทุกวิถีทาง แต่คิดไม่ถึงว่ามารดา

ของเธอจะช่วยพูดให้ชรินทร์ทิพย์

“คุณแม่คะ เรื่องนี้รพีพงษ์ไม่ได้โกหกนะคะ ทำไมคุณ แม่ถึงไม่เชื่อบ้างล่ะ หรือแม้กระทั่งลูกสาวตัวเองคุณแม่ก็ไม่เชื่อคะ”อารียาเปิดปากถาม

“ลูกแคลร์ ลูกโดนไอ้สวะล้างสมองแล้ว มันไม่สมควรที่ ลูกจะต้องไปพูดจาปกป้อง ลูกตื่นได้แล้ว แบบนี้ต่อไป บ้านเราคงฉิบหายเพราะมัน”

ศศินัดดาโมโหขึ้นมา เธอมักจะชอบกุมอำนาจในบ้าน ไว้เสมอ ตอนนี้อารียาเถียง

เธอคำไม่ตกฟาก ทำให้เธอรู้สึกว่าสถานภาพตัวเองถูก

คุกคาม

เธอถือไม้นวดแป้ง ถลึงตาจ้องรพีพงษ์ พูดขึ้น “แกจะ เลิกกับลูกสาวฉันไหม ถ้าแกไม่หย่า ฉันจะทุบจนแกหย่า ไปเอง!

พูดจบ เธอก็ทุบไม้นวดแป้งลงไปบนตัวรพีพงษ์ โดยไม่ ได้คำนึงว่ารพีพงษ์จะได้รับบาดเจ็บหรือไม่

สำหรับเธอแล้ว เธอเลี้ยงรพีพงษ์มาหลายปีดีดัก ต่อให้ จะทุบจะตีบ้าง เขาก็ต้องรับ

สีหน้าอารียาเปลี่ยน เธอจะยื่นมือมาขวางศศินัดดาไว้ ในเวลานี้ รพีพงษ์ยกมือขึ้น ขัดมือศศินัดดาเอาไว้ ศศินัดดาคิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะมีปฏิกริยาที่ว่องไว ขนาดนี้ สิ่งที่ทำให้เธอตกใจคือ

รพีพงษ์กล้าต่อต้านเธอ

“แกสมควรโดนมีดอีโต้สับพันครั้ง ปล่อยฉัน แกกล้าดียังไง แม้แต่ฉันแกก็กล้าลงมือ” ศศินัดดาพูดอย่างร้อนใจ

สีหน้ารพีพงษ์นิ่งขรึม เขาจ้องศศินัดดาเขม็ง พูดน้ำ เสียงเย็นชา”ที่ผมเคารพคุณเพราะเป็นแม่ของแคลร์ ผม เลยยอมคุณทุกอย่าง แต่อย่าทำเกินไป ผมรพีพงษ์ไม่ใช่ ว่าทุกคนจะรังแกได้”

“ในเมื่อกล้าหือกับฉัน แกไอ้สวะ ยังมีหน้ามาพูดกับฉัน อีกเหรอ”ศศินัดดาไม่ยอมรามือ แต่เธอก็ยังคงชักมือ กลับไม่ได้

เมื่อศักดาเห็นสถานการณ์ไม่เข้าที จึงรีบเดินขึ้นหน้า พูดโน้มน้าว”คุณก็อย่าไปถือสามันเลย เรื่องนี้ค่อยว่ากัน แล้วกัน”

“รพีพงษ์ อย่าวู่วามไป เธอเป็นผู้ใหญ่ จะว่าบ้างกี่คำก็ สมควร”

รพีพงษ์คลายมือศศินัดดา ไม่พูดอะไร

ศศินัดดาคลึงข้อมือตนเบาๆ หันกลับไปมองศักดา ด่าทอว่า”ก็เพราะคุณน่ะมีปัญญาแค่รพีพงษ์ ถ้าคุณมี น้ำยาสักหน่อย บ้านเราจะต้องถูกรบกวนด้วยเรื่อง หยุมหยิมแบบนี้ เหรอ!

ศักดาถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าศศินัดดาจะมาระบายใส่

ตน

ในช่วงที่หลายคนแข็งขึนไม่ไหว จู่ๆก็มีเสียงเคาะประตูมา

ศักดาก้มหน้าเดินออกจากประตูไป ด้านนอกประตูมี คนยืนกลุ่มหนึ่ง โดยมากเป็นพงศา

คณาญาติตระกูลฉัตรมงคล อาซิ้มอาม่ามาทั่วสารทิศ

ทุกคนต่างเข้าข้างศศินัดดา แต่ละคนมองดูรพีพงษ์ อย่างไม่วางตา

“พี่ใหญ่ พี่สอง มาทำอะไรกันคะ ไม่บอกไม่กล่าว ฉัน จะได้ต้อนรับ”ศศินัดดาเห็นสถานการณ์ จึงรีบปรับสีหน้า พูดขึ้น

“ไม่ต้องต้อนรับขับสู้หรอก ที่พวกเรามาครั้งนี้ มา เพราะเรื่องรพีพงษ์กับหนูแคลร์นี่แหละ ครั้งนี้รพีพงษ์ ทำลายความร่วมมือระหว่างตระกูลฉัตรมงคลกับซัน บับเบิล ตัวซวยแบบนี้ ไม่ควรเหลือไว้ในตระกูล ฉัตรมงคล มันจะต้องหย่ากับหนูแคลร์” ผู้หญิงที่นำหน้า พูดขึ้น

“พูดส่งเดข การร่วมมือกับซันบับเบิลครั้งนี้ ไม่ใช่ความ ผิดของรพีพงษ์สักหน่อย! ”

อารียาคิดไม่ถึงว่าจู่ๆตระกูลฉัตรมงคลจะแห่กันมา มากมายเพราะเรื่องนี้ แล้วมาพูดคัด

ค้าน

“จะไม่เป็นความผิดมันได้ไง การเติบโตของตระกูล ฉัตรมงคลต้องมาติดขัด ก็เพราะตัวซวยนี่แหละ! “ตอนนี้เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ขึ้นมากันเต็ม

อารียาหันหลังไป เห็นชรินทร์ทิพย์พอดี

ชรินทร์ทิพย์มองอารียาอย่างลำพองใจ เดิมทีเธอแค่ อยากหาเรื่องรพีพงษ์ก็แค่นั้น แต่สิ่งที่เธอคาดไม่ถึงคือ ตระกูลฉัตรมงคลจะมีปฏิกริยาใหญ่โตเช่นนี้

เธอจึงถือโอกาสยุยงส่งเสริม จะหาทางไล่รพีพงษ์ออก จากบ้าน เป็นการแก้แค้น

อย่างไรเสีย ไม่มีใครเชื่อคำรพีพงษ์หรอก ชรินทร์ ทิพย์จึงไม่มีการหวั่นเกรงใดๆ

เอาเป็นว่าก็คือคนหนึ่งคนโกหก ก็คือโกหก ส่วนตอนที่ มีคนเชื่อเป็นร้อยนั้นคือความจริง

“หนูเจนพูดถูก จะให้รพีพงษ์อยู่ในตระกูลฉัตรมงคล ไม่ได้ ตอนนี้ก็ไล่เขาออกไป!

“ให้รพีพงษ์หย่ากับหนูแคลร์ สวะแบบนี้ ไม่คู่ควรกับ หนูแคลร์แม้แต่น้อย!

“ฉันว่าเขาต้องชดใช้ที่ทำให้ตระกูลฉัตรมงคลเสียหาย เสียดายที่สวะแบบนี้ทำอะไรไม่ได้”

ศศินัดดาเห็นกลุ่มคนมาไล่ให้รพีพงษ์หย่ากับอารียา ก็ รู้สึกตัวเองมีบารมีขึ้นมา จึงหันไปแค่นยิ้มเย็นชาให้รพี พงษ์
“รพีพงษ์ ตอนนี้คนทั้งตระกูลฉัตรมงคลต่างอยากให้ แกเลิกกับหนูแคลร์ แกยังมีอะไรจะพูดอีก ฉันว่าวันนี้แก ไปอำเภอกับหนูแคลร์เถอะ ไปจัดกรให้เรียบร้อย ทุกคน จะได้ไม่มีเรื่องพะวงใจ “ศศินัดดาเปิดปากพูด

อาซิมอาม่าจากทั่วสารทิศเริ่มแสดงความเห็นกัน บอก ว่าให้รพีพงษ์กับอารียาไปที่ว่าการอำเภอ

อารียายืนกำบังอยู่ด้านหน้ารพีพงษ์ และคัดค้านสุดตัว แต่กำลังของเธอเพียงลำพังช่าง

น้อยเหลือเกิน จะไปสู้รบปรบมือกับพวกผู้หญิงพวกนี้ ไม่ไหวหรอก

รพีพงษ์ฟังกลุ่มคนส่งเสียงจ้อกแจ้กจอแจ ช่างน่าปวด หัว ในใจคิดว่าชรินทร์ทิพย์คนนี้

ช่างร้ายกาจจริง หาพวกกลุ่มผู้หญิงที่ไม่คุยเหตุผลมา

“รพีพงษ์ ยังจะยืนงงอะไรอีกล่ะ รีบไปหย่ากับอารียาสิ ไม่อย่างนั้น พวกอาซิ้มอาโกวทั้งหลาย จะไม่ไปไหนแน่ วันนี้”ชรินทร์ทิพย์มองรพีพงษ์อย่างสมน้ำหน้า

“ฉันจะดูว่าหน้าไหนมันกล้าให้รพีพงษ์หย่ากับหนูแค ลร์! “ในเวลานี้ เสียงทุ้มเสียงหนึ่งดังขึ้นด้านหลัง “ใครกันที่ไม่รู้ผิดชอบชั่วดี มีหน้ากล้าพูดแทนรพี

พงษ์! “ชรินทร์ทิพย์หันหน้าไป ทำหน้าดุร้าย

เวลานี้ด้านนอกประตูมีเลขาคนหนึ่งเข้ามา พยุงคนเข้า มาคนหนึ่ง คนๆนั้นคือนภทีป์ที่หน้าบึ้งอย่างเห็นได้ชัด!

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท