พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 139

บทที่ 139

บทที่ 139 คุณมันเป็นตัวอะไร

“เกิดอะไรกันขึ้น ทำไมทุกคนถึงมากองกันอยู่ตรง นี้” กุนลโรจน์รู้สึกประหลาดใจที่คนมายืนมะรุมมะตุ้ม อยู่ในสวน จึงถามคนที่อยู่ข้างๆ

“ท่านตระกูลกุลสวัสดิ์ สองคนที่อยู่ตรงนั้นลอบ เข้ามาครับ คุณชายกำลังจะจับพวกเขาครับ แล้วสั่ง สอนสักตั้ง”คนๆนั้นตอบอย่างนอบน้อม

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”กุนลโรจน์รู้สึกประหลาด ใจ คิดไม่ถึงว่ายังจะมีคนกล้าลอบเข้ามาในบ้านของ

ตน

เมื่อกี้พวกจารุพิชญ์ก็ยืนดูเหตุการณ์อยู่ในห้อง โถง แม้ว่าทุกคนต่างรู้ดี ว่ารพีพงษ์กับ อารียาเป็น อาคันตุกะที่กุนลโรจน์เชิญมา แต่พวกเขาก็ไม่คิดที่จะ

ไปบอกกุมุทแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าพวกเขาอยากเห็นรพีพงษ์กับกุมุท ทะเลาะกัน อย่างไรเสีย แค่งานเลี้ยง ก็จะน่าเบื่อหน่ายไปหน่อย

ธรรมดาๆ มัน

จารุพิชญ์ยิ้มเย็นชาให้รพีพงษ์ พร้อมพูดกับตัวเอง ว่า”คิดไม่ถึงว่าเจ้านี่จะมีบุญคุณความแค้นกับคุณชาย ด้วย คราวนี้มีของสนุกดูแล้วล่ะ ไม่รู้ว่าพี่กุนลโรจน์จะ ช่วยฝั่งไหน”

“ยังจะต้องพูดอีกเหรอครับ ท่านตระกูลกุลสวัสดิ์ก็ต้องช่วยลูกชายตัวเองอยู่แล้ว คราวนี้รพีพงษ์ชวย แน่”จารุกิตติ์พูดอย่างไม่ต้องสงสัย

ยามรายล้อมรอบตัวรพีพงษ์กับอารียา หัวหน้ายาม มองรพีพงษ์ด้วยสายตาเย็นชา พูดขึ้น”ในเมื่อกล้าบุก บ้านตระกูลกุลสวัสดิ์ ก็รีบยอมจำนวนซะ ไม่งั้นอย่าหา ว่าพวกเราไม่เกรงใจ! ”

“รพีพงษ์คะ พวกเราจะทำไงดี พวกเขาไม่ยอมเชื่อ ว่าเราได้รับเชิญมาจริงๆ”อารียาสีหน้าร้อนใจ

รพีพงษ์ป้องให้อารียาไปอยู่ด้านหลัง”อย่าวิตกไป เลย พวกเขาทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก”

หัวหน้ายามเห็นว่ารพีพงษ์ไม่มีทีท่าจะยอมจำนน จึงพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ แล้วควัก ไม้ตะบองออก มาพุ่งเข้าหารพีพงษ์

รพีพงษ์หันตัวกลับ ตวัดขาเตะไม้ตะบองหลุดออก จากมือยาม ไม้ตะบองตกใส่ใจกลางฝูงชน

ฝูงชนตกตะลึง คิดไม่ถึงว่ารพีพงษ์จะฝีไม้ลายมือ ดีขนาดนี้

นกที่ป์เห็นรพีพงษ์ลงมือกับคนบ้านตระกูลกุล สวัสดิ์ จึงร้อนใจมาก ตะคอกขึ้น”รพีพงษ์ ไอ้ฉิบหาย! แกกล้าลงมือกับคนบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์เชียวเหรอ รน หาที่ตายนักใช่ไหม! ”

รพีพงษ์จ้องมองนภทีป์ พูดเสียงเย็นชา “หรือว่าผม ต้องปล่อยให้พวกเขาซ้อมผมครับ”
ธายุกรพูดซักนำ”คุณปู่ครับ อย่าไปสนใจไอ้สวะนี่ เลย มันรนหาที่ตายเอง โทษคนอื่นไม่ได้”

กุมุทเห็นรพีพงษ์ถีบหัวหน้ายาม จึงหรี่ตาลง พร้อม ขู่กรรโชก”ไอ้นี่มันบุกรุกบ้าน ยังลงมือทำร้ายคน มันไม่ เห็นแกหน้าใครจริงๆ ทุกคนลุย เอามันให้ตาย! ”

ในเวลานี้กุนลโรจน์บุกขึ้นไปอยู่ตรงหน้าฝูงชน พอเห็นยามกำลังรุมล้อมรพีพงษ์กับอารียา สีหน้าจึง เปลี่ยนขึ้นมาทันที

“หยุดเดี่ยวนี้นะ! “กุนลโรจน์คำราม

ยามพวกนั้นเห็นว่าประมุขของบ้านมา จึงวางมือลง พอทุกคนเห็นว่ากุนลโรจน์มาแล้ว ต่างก็คิดว่ารพี พงษ์กับอารียาคงจะซวยหนักกว่าเก่า

นภทีปัถอนหายใจ รู้สึกว่าวันนี้รพีพงษ์กับอารียา คงจะทำให้บ้านฉัตรมงคลของเขาขาย หน้าอีกเช่นเคย ประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์มาหยุดอยู่ตรงหน้า เรื่องนี้ คงไม่มีอะไรต้องคุยแล้วล่ะ

ธายุกรกับชรินทร์ทิพย์ยิ้มให้รพีพงษ์และอารียา อย่างเย็นชา ในใจลุ้นหนักหนาว่าให้พวกเขาโดน ลงโทษเสียที “คุณพ่อครับ ครั้งที่แล้วคุณพ่ออบรมผมเพราะไอ้

สวะนี้ แต่ปรากฏว่ามันบุกรุกบ้านเรา เรื่องนี้คงไม่มี

อะไรต้องคุยแล้วมั้งครับ ครั้งนี้ผมจะต้องแก้แค้นที่คุณ

พ่อซ้อมผมครั้งที่แล้ว เอาคืนกับมันทั้งหมด! “กุมุทพูดอย่างแข็งกร้าว

นภทีปรีบรุดขึ้นหน้า ค้อมตัวให้”ท่านตระกูลกุล สวัสดิ์ ไอ้ฉิบหายสองคนนี้เป็นคนบ้านฉัตรมงคลของ กระผมเอง แต่เรื่องที่พวกมันลอบเข้ามา ผมไม่ได้รู้เห็น เป็นใจด้วย ท่านตระกูลกุลสวัสดิ์จะลงโทษพวกมันยัง ไงก็ได้”

กุนลโรจน์มองทั้งสองคน สีหน้าเคร่งจนเขียว เขา เห็นท่าทีแข็งกร้าวของกุมุท รู้สึกเสียใจที่มีลูกโง่ๆแบบ นี้

“ไอ้โง่! พวกเขาเป็นอาคันตุกะคนสำคัญที่พ่อ เชิญมาเอง แกเสือกไปจับพวกเขาไว้ ทำไมฉันถึงได้ เลี้ยงลูกสมองพิการอย่างแกนะ! ”

กุนลโรจน์ยกมือขึ้น ตบฉาดใหญ่ลงบนหน้ากุมุท

ผัวะ!

เสียงตบฉาดดังก้องกังวาลขึ้น สวนทั้งสวนเงียบ สนิทลง

ทุกคนในงานต่างตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดว่า กุน ลโรจน์ไม่เพียงแต่จะไม่เอาผิดรพีพงษ์กับอารียา แต่ยัง ลงมือกับกุมุทอีกด้วย

พวกเขาสองคนเป็นอาคันตุกะที่กุนลโรจน์เชิญมา

ด้วยตนเองจริงๆหรือ มิน่าละถึงได้ไม่มี บัตรเชิญ

นภทีป์เซ่อไปเลย ธายุกรกับชรินทร์ทิพย์ถลึงตา จนแทบถลนออกมาจากเบ้า เหม่อลอย อยู่เป็นนานกว่าจะคืนสติ

กลุ่มจารุพิชญ์ก็ประหลาดใจเช่นกัน คิดไม่ถึงว่า เพื่อรพีพงษ์กุนลโรจน์จะซ้อมลูกตัวเองแบบนี้ “รพีพงษ์เป็นใครกันแน่ ทำไมพี่กุนลโรจน์ถึงยอม

ลงมือกับลูกชายตัวเองโดยไม่ไว้หน้าเพื่อเขา”จารุ

พิชญ์พีมพำ

“ผมว่ามันน่าจะดวงดีมากกว่า ท่านตระกูลกุล สวัสดิ์ก็จริงๆเลย ในเวลาแบบนี้ ต่อให้รพีพงษ์ไม่ได้ ลอบเข้ามาก็เถอะ ก็ไม่ควรจะลงมือกับลูกชายตัวเองนี่ นา”จารุกิตติ์บ่นอย่างรู้สึกไม่ยุติธรรม

กุมุทเอามือกุมหน้า จงใจร้องไห้ออกมาต่อหน้าคน

หมู่มาก

เขารู้สึกอึดอัดจริงๆ พ่อตัวเองแท้ๆ แต่กลับลงมือ เพื่อคนอื่นมาสองครั้งแล้ว แถมยังต่อ หน้าคนหมู่มาก ด้วย

ไม่ว่าจะเป็นใคร ก็ต้องรับไม่ได้ทั้งนั้นแหละ

“พ่อครับ ตกลงผมเป็นลูกแท้ๆของพ่อหรือเปล่า ทำไมพ่อต้องทำกับผมแบบนี้ด้วย รพีพงษ์มันเป็น แค่สวะตัวหนึ่ง ทำไมพ่อถึงดีกับมันมากกว่าผม หรือว่า มันเป็นลูกแอบของพ่อ”กุมุทร้องไห้พลางพูด

คนรอบตัวเห็นว่ากุมุทคุณชายแห่งบ้านตระกูลกุล สวัสดิ์ร้องไห้งอแงขึ้นมาราวกับเด็กน้อย ต่างก็ รู้สึก ขบขัน
พอรพีพงษ์กับอารียาได้ยินกุมุทพูดว่าสงสัยว่ารพี พงษ์จะเป็นลูกแอบ ต่างก็ขำพรวด กันออกมา

สีหน้ากุนลโรจน์ดูน่าเกลียด เขาตะคอก”พูดซี้ซัวะ อะไรนะ! ฉันซ้อมแกเพื่อให้แกหลาบจำ คุณรพีพงษ์ เป็นแขกคนสำคัญของฉัน ฉันขอเตือนแกว่าอย่าไปก่อ ความเดือดร้อนให้เขาอีก แกก็ไม่ฟัง”

“มันมีสิทธิอะไรที่มาเป็นแขกสำคัญบ้านเรา มันก็ คือสวะคนหนึ่ง บ้านเราต้องมาเสวนากับสวะ มันจะไปมี อะไรดี! “กุมุทยังคงไม่สบอารมณ์

กุนลโรจน์ไม่รู้ว่าจะอธิบายอย่างไรดี เขาไม่ สามารถบอกต่อหน้าทุกคนได้ว่า รพีพงษ์เป็นคนของ ตระกูลลัดดาวัลย์แห่งเกียวโต

แบบนั้นโยษิตาจะไม่ปล่อยเขาแน่ๆ

“ต่อไปห้ามว่าคุณรพีพงษ์เป็นสวะอีก ไม่งั้นอย่า โทษว่าฉันไม่เห็นแกเป็นลูก แกยังไม่สำนึกผิดเลย ตอน นี้รีบกลับห้องไปขังตัวเองเดี่ยวนี้” กุนลโรจน์เลี่ยงตอบ

คำถามของกุมุท

เขาส่งสัญญาณสายตาให้ยาม ยามสองสามคนนำ ตัวกุมุทที่ร้องไห้ไม่เป็นท่าออกไป นภทีป์เห็นกุนลโรจน์ไม่อธิบายถึงสาเหตุที่ปกป้อง

รพีพงษ์ จึงคิดว่ากุนลโรจน์เห็นแก่หน้าตน เอง

แม้ว่าความคิดนี้จะทำให้เขาเหลิงไปไม่น้อย แต่ใน มุมมองเขาแล้ว ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้
ถ้าเป็นแบบนั้น ถ้าคนบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์จะไว้ หน้าเขาขนาดนั้น เขาก็ต้องไม่ให้ตระกูลกุลสวัสดิ์เสีย หน้าอยู่แล้ว

ว่าแล้วนภทีป์จึงเดินไปหยุดตรงหน้ากุนลโรจน์

พูดขึ้น”ท่านตระกูลกุลสวัสดิ์ ผมรู้ว่าท่านอาจจะเข้าใจ

ผิด แม้ว่ารพีพงษ์กับอารียาจะเป็นคนบ้านฉัตรมงคล แต่ผมไม่ได้พาพวกเขามา ท่านไม่ต้องไว้หน้าผมแล้ว ปล่อยพวกเขาไปก็ได้ครับ”

กุนลโรจน์กำลังโกธรควันออกหู เห็นนกที่ป์จู่ๆก็มา พูดแบบนี้ จึงหรี่ตาตะคอกอย่างดูแคลน

“อย่างคุณนับเป็นตัวอะไรได้ คุณรพีพงษ์ผมเป็น คนเชิญมาเอง ทำไมผมต้องไว้หน้าคุณด้วย หน้าคุณ ใหญ่มากนักหรือไง”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท