พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่140

บทที่140

บทที่140 อาจารย์ของนายสู้ฉันไม่ได้หรอก

นภทีปคิดไม่ถึงว่าจู่ๆกุนลโรจน์จะไม่เกรงใจขนาด นี้ เขาแสดงสีหน้ากระอักกระอ่วนเต็ม กลืน ตัวแข็งที่อ อยู่ที่เดิม ไม่ไหวติง

ธายุกรกับชรินทร์ทิพย์และคนบ้านฉัตรมงคลต่าง ยืนมองกุนลโรจน์ด้วยความตกตะลึง กุนลโรจน์เป็นคน เชิญพวกเขามาแท้ๆ แต่ตอนนี้เขากลับมาฉีกหน้านภ ที่ปัต่อหน้าคนจำนวนมาก ช่างเกินไปจริงๆ

ชรินทร์ทิพย์ไม่สบอารมณ์ เดินขึ้นหน้าแล้วพูด ว่า”ท่านตระกูลกุลสวัสดิ์คะ ในเมื่อท่านเป็นคนให้บัตร เชิญกับครอบครัวฉัตรมงคลของเรา ก็เท่ากับว่าเรา มีหน้ามีตาระดับหนึ่งแล้ว ตอนนี้ท่านกลับมาพูดแบบนี้ หมายความว่าอย่างไรคะ”

“นั่นสิครับ บ้านฉัตรมงคลเราสู้บ้านตระกูลกุล สวัสดิ์ไม่ได้ก็จริง แต่ก็ไม่ควรจะมาสร้างความอับอาย ให้กันแบบนี้นะครับ ในเมื่อท่านไม่เห็นพวกเราอยู่ใน สายตา แล้วท่านจะเชิญพวกเรามาทำไมครับ”ธายุกรก็ รู้สึกโกธรจัดเช่นกัน

กุนลโรจน์ยิ้มเย็นชามองไปทางพวกเขา ท่าทีที่ พวกเขามีต่อรพีพงษ์เมื่อครู่ เขารับรู้ได้หมด แล้ว คน พวกนี้ไม่รู้ฐานะที่แท้จริงของรพีพงษ์ ถ้ารู้ก็คงไม่กล้า

ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องเกรงใจบ้านฉัตรมงคล มากมายเท่าไหร่นัก
“พวกคุณอย่ามาไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีอยู่ตรงนี้เลย ที่ผมเชิญพวกคุณมา เพราะเป็นความต้องการของคุณ รพีพงษ์ ถ้าไม่ใช่เขาเอ่ยปาก คุณคิดว่าตระกูลเล็กๆ อย่างฉัตรมงคล จะมีสิทธิ์มาร่วมงานหรือ”กุนลโรจน์ พูดเสียงเย็นชา

คำพูดของเขาราวกับสายฟ้าฟาด ที่ฟาดเปรี้ยงลง กลางใจคนในตระกูลฉัตรมงคลแต่ละคน ร่างที่แข็งที่อของนกที่ป์ถอยผงะ โอนเอนไปมา

ราวกับจะล้มฟาดลงบนพื้น

ธายุกรกับชรินทร์ทิพย์สองคนรีบเข้าไปพยุง ใน ใจต่างก็รู้สึกเหลือเชื่อ

“นี่ นี่เป็นไปได้ไง พวกเราได้รับเชิญมางาน

เลี้ยง เป็นเพราะรพีพงษ์อย่างนั้นเหรอ” ชรินทร์ทิพย์

บ่นพึมพำ

“มันเป็นแค่สวะแท้ๆ ทำไมประมุขบ้านตระกูลกุล สวัสดิ์ ถึงได้ให้ความสำคัญมันนัก”ธายุกรรู้สึกผิดหวัง

“หรือว่าประมุขบ้านฉัตรมงคลอย่างปู่ จะสู้สวะคน นึ่งไม่ได้”นภทีป์เสียงสั่น

ตอนนี้ในใจคนบ้านฉัตรมงคลต่างรู้สึกสับสน พวก เขาไม่อยากเชื่อว่าสู้รพีพงษ์ไม่ได้

และเมื่อกี้ประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์ก็ได้พูดแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะรพีพงษ์ พวกเขาไม่มีสิทธิ์มาด้วย ซ้ำ

นี่เป็นการตบหน้าพวกเขาอย่างแรงชัดๆ
คนรอบๆเมื่อๆได้ฟังคำพูดของกุนลโรจน์ ต่างก็ตี ตัวออกห่างจากบ้านฉัตรมงคล

ประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์ยังไม่อินังขังขอบกับ พวกเขาเลย คนอื่นๆยิ่งตีตัวออกห่าง

กุนลโรจน์หันตัวกลับ มองไปทางรพีพงษ์กับอารี ยา แสดงแววตาที่อ่อนน้อม พูดขึ้น “ขอโทษจริงๆนะ ครับ สร้างความเดือดร้อนให้คุณอีกแล้ว ผมดูแลไม่ดี เอง ถ้ามีอะไรที่ไม่พอใจ ก็พยายามบอกผมนะครับ ผม จะพยายามชดเชยให้”

“ไม่ต้องหรอกครับ ผมไม่เป็นอะไร”รพีพงษ์เอ่ย

ปาก

เห็นรพีพงษ์ ไม่ถือสา กุนลโรจน์จึงโล่งอกไปที

“คุณรพีพงษ์ครับ เมื่อกี้ผมเห็นคนบ้านฉัตรมงคลดู เหมือนจะไม่เป็นมิตรกับภรรยาคุณสักเท่าไหร่นะครับ จะให้ผมไล่ออกไปไหมครับ “กุนลโรจน์เปิดปากถาม รพีพงษ์ส่ายหน้า พูดขึ้น”ไม่ต้องหรอกครับ ให้พวก

เขาอยู่ในงานเลี้ยงต่อเถอะครับ อย่างไรก็เป็นบ้าน

ฉัตรมงคลของเรา ไม่อยากจะเสียน้ำใจต่อกันมากไป”

“ครับ งั้นผมไม่ยุ่งกับพวกเขาแล้วนะครับ”กุนล โรจน์พยักหน้า

รพีพงษ์กับอารียาไม่อยากจะวุ่นวายใจกับเรื่องนี้ พอเดินไปตรงระเบียงทางเดิน ทั้งสองคนจึงพูดขึ้นมา หลังจากที่ธายุกรหายตกใจ สีหน้าก็แสดงความชิงชังขึ้น

เขาจ้องไปที่รพีพงษ์ผู้เดินอยู่ตรงระเบียงทางเดิน กัดฟันกรอดๆ “ไม่รู้จริงๆว่าไอ้สวะนั่นมีโชคอะไรของมัน ถึงได้เกาะประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์แจขนาดนี้ เห็น ท่าลำพองมันแล้วน่าหมั่นไส้”

“หี ได้ประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์เป็นพวกแล้วไง ก็เป็นแค่หมาตัวนึงอยู่ดี รอให้ประมุขบ้านตระกูลกุล สวัสดิ์อารมณ์ไม่ดีก่อนเถอะ จะได้โดนถีบออกมา ไม่ เห็นมีอะไรน่าโอ้อวดเลย”ชรินทร์ทิพย์พูด

ทั้งสองคนต่างคิดว่า รพีพงษ์สามารถเกาะติด ประมุขบ้านตระกูลกุลสวัสดิ์ขนาดนี้ เป็นแค่โชคเฉยๆ ส่วนโชคนั้นก็แค่แป๊บเดียว แล้วรพีพงษ์ก็จะถูกไสหัว ไปเอง

ส่วนคนบ้านฉัตรมงคลต่างแอบโทษรพีพงษ์อยู่ใน ใจเงียบๆ คิดว่าวันนี้ที่งานเลี้ยงเขาพลาดบุคคลสำคัญ ขนาดนี้ เป็นเพราะรพีพงษ์คนเดียว

นภทีป์ใช้เวลาอยู่นานกว่าจะฟื้นคืนสติ เขาถอนใจ ออกมาอย่างอ่อนใจ พูดขึ้น”พวกเราไปกันเถอะ ในเมื่อ เขาไม่ได้ตั้งใจเชิญพวกเรา พวกเราก็ไม่ควรอยู่ให้ขาย หน้า”

“แต่เขาไม่ได้ไล่เรานี่คะ คุณปู่ งานเลี้ยงแบบนี้

โอกาสหายาก พวกเราอยู่ต่ออีกหน่อยเถอะค่ะ”ชรินทร์

ทิพย์เอ่ยปาก
นกที่ป์จ้องเขม็ง เปิดปากพูด”อยู่ต่ออะไรล่ะ แกไม่ กลัวขายหน้าเหรอ ไปให้หมด!

พูดจบ นภทีป์จึงหมุนตัวกลับเดินออกไปด้านนอก โดยไม่มีใครเข้ามารั้งพวกเขาเอาไว้

“เชอะ เพราะสวะรพีพงษ์คนเดียวแท้ๆ”ชรินทร์ ทิพย์บ่นพึมพำ แล้วรีบเดินตาม ออกจากบ้านตระกูล กุลสวัสดิ์ไป

ไม่นานนัก กุนลโรจน์เริ่มแนะนำคนที่เชิญมาให้

แต่ละคนรู้จัก งานเลี้ยงมีไว้เสาะหาคอนเนคชั่น มีการ

แนะนำจากกุนลโรจน์ คนพวกนั้นจะมีค่าขึ้นมามาก

ทันที และอยากจะมีแต่คน สมาคมด้วย

กุนลโรจน์เดิมที่จะแนะนำรพีพงษ์ แต่รพีพงษ์ไม่ ได้อยากคบหาสมาคมกับใครที่นี่ จึงปฏิเสธกุนลโรจน์ ไป

“คิดไม่ถึงเลยว่าปรมาจารย์วัตถุโบราณมือหนึ่ง ของเมืองริเวอร์จะมาร่วมงานด้วย ได้ยินชื่อเสียงมา นาน ท่านอาจารย์จาง พวกเราก็ชอบสะสมของเก่า เหมือนกันครับ แต่ด้านการพิสูจน์ พวกเราสู้ท่าน อาจารย์จางไม่ได้แน่นอน วันนี้ท่านอาจารย์แสดงฝีมือ ให้เราชมหน่อยได้ไหมครับ ให้พวกเราได้เปิดหูเปิด ตา”มีคนเอ่ยขึ้น

คนจำนวนไม่น้อยเห็นด้วย

จารุพิชญ์เห็นทุกคนแห่เข้ามา จึงหัวเราะ พูดขึ้น”ในเมื่อทุกคนมีน้ำใจ ผมก็จะแสดงให้ดูแล้วกัน ใคร ที่นำของโบราณที่ไม่รู้วันเดือนปีมาแล้วไม่รู้ว่าเป็นของ จริงหรือปลอม เอาให้ผมดูได้นะครับ”

“ผมนำมาครับ ไปได้มาจากตลาดโบราณพอดีวันนี้ งั้นรบกวนอาจารย์ดูให้หน่อยครับ! “ชายวัยกลางคน ร่างท้วมคนหนึ่งพูดขึ้น

เขาจึงให้ผู้ติดตามรีบยกลังเข้ามา พอเปิดลัง ด้าน ในมีของโบราณเต็มไปหมด

เวลานี้จารุกิตตี้มองไปทางรพีพงษ์ จำคำพูด โผงผางที่รพีพงษ์พูดตอนอยู่ในห้องโถงได้ ใน ใจไม่ สบอารมณ์

แม้ว่าเขาจะสู้รพีพงษ์ไม่ได้ แต่จารุพิชญ์สู้ได้

แน่นอน ตอนนั้นรพีพงษ์เป็นคนบอกว่าจะประลองเอง

และนี่ก็เป็นโอกาสที่จะให้รพีพงษ์ขายหน้า

เขาเดินขึ้นหน้าก้าวหนึ่ง เดินไปกระซิบข้างหูจารุ พิชญ์ พูดขึ้น”อาจารย์ครับ ตอนนั้นที่รพีพงษ์บอกจะ แข่งกับอาจารย์ ใช้โอกาสนี้ประลองสิครับ วัดฝีมือกัน”

จารุพิชญ์เองก็นึกถึงคำพูดรพีพงษ์ในห้องโถง คราวนั้น ในฐานะผู้คร่ำหวอดในวงการ ย่อมไม่เกรงชน รุ่นหลังอยู่แล้ว จึงพยักหน้าให้จารุกิตติ์

จารุกิตติ์ยิ้มอย่างมีความหวัง แล้วพูดกับทุกคน ว่า”ทุกท่านครับ ทุกท่านคงไม่รู้ว่า ตอนที่คุณชายจับ รพีพงษ์ ที่จริงเขาเป็นนักพิสูจน์มือฉมัง ตอนนั้นเขายังท้าทายอาจารย์ของผมอยู่เลย”

“ในเมื่อตอนนี้อาจารย์ผมกำลังจะแสดงฝีมือพอดี ก็ลองให้เขาสองคนประลองกันสักตั้ง พวกเราจะได้ดู ชมด้วย เป็นไงครับ”

ทุกคนต่างเห็นด้วย ตะโกนก้องให้ประลองกัน

จารุกิตตี้หันไปหารพีพงษ์ พูดว่า”รพีพงษ์ นายกล้า ประลองกับอาจารย์ไหม”

รพีพงษ์ยิ้ม พูดขึ้น”อาจารย์คุณสู้ผมไม่ได้หรอก คุณกำลังขุดหลุมพรางให้ท่านด้วยมือคุณเอง”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท