พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่189

บทที่189

บทที่189 ไม่ใช่ของดีอะไร

รพีพงษ์จ้องมองไปที่หมาป่าดำแล้วพูด: “พวกมันสี่ คน คือนายเป็นคนส่งมาเหรอ?”

หมาป่าดำพูดขึ้นทันที : ” ไม่ใช่นะครับ คุณรพี ผม ยังไม่ทราบเลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น”

ชายหัวโจกคนนั้นเห็นว่าหมาป่าดำสุภาพกับรพี พงษ์ ก็พูดขึ้นมาทันที: “พี่ใหญ่ พี่จะสุภาพกับมันทำไม ไอ้หมอนี่ก็เป็นแค่คนต่างถิ่น ที่สำคัญได้ยินมาว่าเป็น แมงดาที่เกาะชายกระโปรงผู้หญิงกินด้วย พี่ใหญ่แค่สั่ง สอนมันแทนพวกเราก็พอ”

เมื่อหมาป่าดำได้ยินชายคนนั้นพูดเช่นนี้สีหน้าก็ เปลี่ยนไปทันที เขาหันกลับไปมองชายคนนั้น แล้วตบ หน้าเขาไปแรงๆหนึ่งที

“โง่ ไอ้เวรไอ้ระยำ นี่มันคือตัวอะไร ก็กล้ามาพูด

แบบนี้กับคุณรพี?”หมาป่าดำด่าว่า

ชายนั้นคนก็ตกตะลึงเลย เอามือปิดหน้าแล้วมอง ไปที่รพีพงษ์อย่างเหลือเชื่อ

“พี่ใหญ่ พี.พี่เป็นอะไร? อยู่ที่อำเภอหยก พี่

ไม่ใช่ว่ากลัวแค่ท่านยุดคนเดียว ทำไมตอนนี้ก็กลัวเขา ไปด้วยแล้วละ?”ชายคนนั้นถามอย่างไม่เข้าใจ

“ต่อให้เป็นท่านยุด ก็ไม่กล้ามีปัญหากับเขา ตัวตนของเขานั้นไม่ใช่เหมือนอย่างที่แกคิด รอบนี้พวกแก สร้างเรื่องมาให้ฉันอย่างใหญ่หลวง” หมาป่าดำกล่าว ขึ้นอย่างเข้มงวด

ชายหัวโจกคนนั้นขนลุกทั้งร่าง สีหน้าไม่เชื่อมอง ไปที่รพีพงษ์ พึมพำ: “ท่าน….ท่านยุดยังไม่กล้ามีเรื่อง ด้วย นี่ผมมีเรื่องกับคนที่ไม่สมควรมีปัญหาด้วยจริงเห รอเนี่ย?”

หมาป่าดำจ้องมองเขาด้วยแววตาที่โกรธ แล้วอด ไม่ได้ตบเขาไปอีกที แล้วหันไปมองที่รพีพงษ์ กล่าว ขอโทษ: “คุณรพีครับ โปรดอธิบายให้ผมฟังด้วยว่าเกิด เรื่องอะไรขึ้นครับ? ผมจะได้รู้ว่าสาเหตุครับ”

รพีพงษ์เล่าเรื่องทั้งหมดที่ทั้งสี่คนมาหาเรื่องให้ฟัง

หลังจากที่หมาป่าดำฟังจบก็เบิกตากว้างทันที คิด ไม่ถึงว่าคนของเขาจะทำอะไรเรื่องที่ไม่ยั้งคิดแบบนี้ วิ่ง มาสร้างความเดือดร้อนให้กับรพีพงษ์

“คุณรพี คุณรอสักครู่ครับ ผมของระบายความ

โกรธในใจก่อน”หมาป่าดำพูดกับรพีพงษ์อย่างเคารพ

จากนั้นก็หันกลับไป สีหน้าเปลี่ยนทันที กลายเป็น ปีศาจที่เพิ่งออกมาจากนรก

เขาจ้องมองทั้งสี่คนที่มาหาเรื่องรพีพงษ์ จากนั้นก็ พุ่งไปข้างหน้า และทุบตีพวกเขา

“ไอ้เวรไอ้ระยำ ฉันแมร่งให้ข้าวให้น้ำเลี้ยงดูพวก แกเป็นอย่างดี พวกแกกลับแมร่งมาสร้างปัญหาที่ข้างนอกแบบนี้ ที่สำคัญยังกล้ามาลวนลามภรรยาของคุณ รพีอีก ดูเหมือนว่าพวกจะไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป แล้ว!”

หมาป่าดำลงมืออย่างหนัก ชกๆสองสามที ชาย หัวโจกคนนั้นก็เริ่มมีเลือดไหลออกมา

ลูกน้องที่หมาป่าดำพามาด้วยใบหน้าก็กระตุกไป ด้วย พวกเขาเพิ่งเห็นหมาป่าดำลงไม้ลงมือกับคน กันเองครั้งแรก

“พวกแกยืนเฉยอยู่ได้ มาจัดการพวกมันให้ฉัน ทุบตีให้ตายเลย ใครกล้าออมมือ ฉันก็จะจัดการไป

ด้วย!”หมาป่าดำขู่คำราม คนพวกนั้นไม่เชื่องช้า รีบเข้ามาช่วยหมาป่าดำ

และทุบตีคนทั้งสี่

เมื่ออารียาเห็นเหตุการณ์นี้ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึก หวาดกลัวเล็กน้อย ในขณะเดียวกันเธอก็ชื่นชม และ ยังเทิดทูน แม้ว่าจะอยู่ต่างถิ่น รพีพงษ์ก็สามารถจัดการ กับปัญหาได้ ผู้ชายคนนี้ คือคนที่เธอไว้วางใจได้

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสี่คนก็ถูกทุบตีจนเลือดไหล และเหมือนกำลังจะตาย

รพีพงษ์ก็รู้สึกว่าพอสมควรแล้ว จึงพูดว่า: “พอได้ แล้ว ยั้งมือได้แล้ว”

หมาป่าดำถึงสั่งให้คนพวกนั้นหยุด เขาเดินไปหา ตรงหน้ารพีพงษ์อย่างเคารพอีกครั้ง และกล่าวขอโทษ: “คุณรพี ขอโทษด้วยจริงไปครับ ผมไม่ทราบ

ว่าพวกเขาจะมาสร้างความเดือดร้อนให้กับคุณ หาก หลังจากนี้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก คุณรพีก็จัดการ ผมไปด้วยเลยครับ”

“พูดแบบนี้ แสดงว่าพวกเขาไม่ใช่นายเป็นคนส่ง มา?”รพีพงษ์ถาม

“ผมไม่กล้าหรอกครับ คนของผมปกติทำอะไรผม ไม่ค่อยได้ถามไถ่”หมาป่าดำกล่าว

“อย่างนั้นนายไปถามพวกเขาตกลงว่าใครเป็นคน สั่ง ตอนนั้นพวกเขาพุ่งตรงมาที่เราอย่างเห็นได้ชัด ไม่ เหมือนปกติทั่วไป “รพีพงษ์กล่าว

หมาป่าดำพยักหน้าทันที เดินไปตรงหน้าชาย

หัวโจกคนนั้น แล้วถาม: “บอกมา ใครสั่งให้พวกนายมา

หาเรื่องคุณรพี?”

ชายหัวโจกคนนั้นถูกทุบตีจนกลัว ในตอนนี้เขาก็ ไม่กล้าโกหก ดังนั้นจึงสารภาพออกไปหมดว่าเป็น โมไนย

เมื่อรพีพงษ์ได้ยินเช่น นี้ แววตาก็เผยออกมาให้เห็น ทันที ว่าตอนนั้นเองเขาก็สงสัยโมไนยและปรางทิพย์ ทั้งสองคนนี้ คิดไม่ถึงว่าจะเป็นพวกเขาสองคนทำ จริงๆ

อารียาสีหน้าเต็มไปด้วยความแปลกใจ ตอนนั้นที่ ปรางทิพย์ชวนเธอไปด้วย เธอนึกว่าปรางทิพย์เห็นแก่ว่าพวกเธอเป็นญาติกัน ถึงเป็นห่วงเธอ แต่คิดไม่ถึงว่า เพียงการแสดงออกถึงความรู้สึกผิดของปรางทิพย์

หลังจากที่รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด รพีพงษ์จึง ให้หมาป่าดำพาคนของเขากลับ

หมาป่าดำอยากแสดงความรับผิดชอบต่อรพี พงษ์ โดยบอกว่าจะไปจับตัวโมไนยมาด้วยตัวเอง แล้ว หักแขนหักขาเขาต่อหน้ารพีพงษ์

รพีพงษ์ปฏิเสธหมาป่าดำ บอกว่าเรื่องนี้เขาจะ

จัดการเอง

หมาป่าดำไม่มีทางเลือก จึงพาคนของเขาออกจาก ที่ลานจอดรถ ก่อนจะไปก็ยังขอโทษนะรพีพงษ์ไม่ หยุด

รพีพงษ์และอารียาก็ไม่ได้อยู่ที่ลานจอดรถต่อ ก็ เดินออกมาพร้อมกัน แล้วเรียกรถ แล้วกลับไปที่ชุมชน

บ้านของบจี

“คิดไม่ถึงเลยว่าโมไนยจะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ แถมยังตั้งใจหาคนเพื่อมาจัดการเราน่ารังเกียจ จริงๆ”อารียาพูด

“เรื่องนี้ก็คงจะขาดปรางทิพย์ไปไม่ได้ พวกเขาทั้ง สองก็ไม่ใช่คนดีอะไร ” รพีพงษ์กล่าว

อารียาหันไปมองรพีพงษ์ แล้วถาม: “นายจะ จัดการเรื่องนี้ยังไง?”

รพีพงษ์ยิ้มให้อารียา แล้วพูด: “เรื่องนี้เธอไม่ต้องกังวล ถึงเวลาฉันจะเป็นคนให้บทเรียนกับพวกเขาเอง

โมไนยหาคนมาลงมือกับอารียา รพีพงษ์ทนไม่ได้ แต่เขาไม่รีบร้อน ตอนที่เดินเที่ยวห้าง รพีพงษ์ได้ยิน โมไนยและปรางทิพย์คุยกันเรื่องหมั้น ทั้งสองคนน่าจะ หมั้นกันในไม่กี่วันข้างหน้านี้

เนื่องจากโมไนยและปรางทิพย์ทำกับอารียาแบบนี้ อย่างนั้นเขาก็ไม่รังเกียจที่จะทำให้เลี้ยงฉลองงานหมั้น ของโมไนยและปรางทิพย์ตื่นเต้นขึ้นไปอีก

อารียาพยักหน้า ครั้งนี้โมไนยและปรางทิพย์ทั้ง สองทำเกินไปจริงๆ ตอนนี้อารียาก็ไม่เห็นว่าปรางทิพย์ เป็นญาติแล้ว

ญาติพวกนี้ บางครั้งยังเทียบกับคนแปลกหน้าไม่ ได้เลย อารียาไม่ได้มีความรู้สึกใดๆกับพวกเขา ดังนั้น ถ้ารพีพงษ์จะลงโทษพวกเขา เธอก็ไม่ห้าม

ขณะที่ทั้งสองกำลังกลับ บ้านบจี ศศินัดดาและบจี ก็ต่างคนต่างไม่ยอมใคร

“บจี เธอนี่มันไร้ยางอายจริงๆ สร้อยข้อมือของฉัน อันนี้ซื้อมาในราคาสองแสนกว่า เธอกลับทำมันหลุด เธอรีบชดใช้คืนฉันมาเลยนะ!”ศศินัดดาจ้องมองไปที่บ จีอยู่ข้างหน้าตัวเอง

เป็นเพราะวันนี้อารียาและศศินัดดาตกลงกันว่าจะ ไปเที่ยวห้างด้วยกัน ดังนั้นความสัมพันธ์ระหว่างศศินัด ดาและบจีจึงคลี่คลายดีขึ้น
แต่เมื่อกี้ สีหน้าของบจีเต็มไปด้วยความชอบใจที่ พาศศินัดดามาดูเครื่องประดับที่โมไนยซื้อให้เธอ บจีบ อกว่าโมไนยและปรางทิพย์อีกกี่วันข้างหน้าก็จะหมั้น กัน เครื่องประดับพวกนี้คือโมไนยตั้งใจซื้อให้เธอเป็น พิเศษ

เครื่องประดับพวกนี้ไม่ถูกเลย แต่ละชิ้นมีราคา หลายพัน หลายหมื่น และยังมีอีกไม่กี่ชิ้นไม่กี่หมื่น ใน สถานที่อย่างอำเภอหยก สวมใส่เครื่องประดับเช่นนี้ ถือว่ามีเกียรติมากอยู่แล้ว

บจีคิดว่าเครื่องประดับพวกนี้มาทำให้ศศินัดดา อิจฉาตาร้อน ก็เพื่อทำให้หล่อนรู้ว่าหล่อนเทียบกับตัว เธอไม่ได้ ตัวเองมีโมไนยที่เป็นลูกเขยดีขนาดนี้ แต่รพี พงษ์ของบ้านศศินัดดาก็เป็นแค่เศษสวะ ยังไงก็ซื้อ เครื่องประดับให้เธอไม่ได้

แต่ก็มีเรื่องที่ทำให้เธอคิดไม่ถึง หลังจากตอนที่ศศิ นัดดาฟังเธอแนะนำเครื่องประดับจบ ศศินัดดาก็แสดง สีหน้าดูถูกเหยียดหยาม

บจีก็กังวลทันที โดยบอกว่าเครื่องประดับหลาย พันพวกนี้ดูโทรมเกินไป นี่คือศศินัดดาอิจฉาเธอ

ครั้งนี้ศศินัดดาเตรียมตัวมาดี รพีพงษ์อยู่ที่อำเภอ หยก แต่เธอได้รับเครื่องประดับที่มีราคาแพงมากมาย จากประดับดาวจิวเวลรี่ ส่วนใหญ่ราคาแสนสองแสน ของพวกนั้นของบจีสู้ของที่รพีพงษ์ให้เธอให้มาไม่ได้

เธอหยิบเครื่องประดับสองสามชิ้นที่รพีพงษ์มอบให้เธอ มาให้บจีดู และบอกราคาของเครื่องประดับพวก นี้ บจีก็ตะลึงอึ้งไปเลย

เธอไม่เคยเห็นเครื่องประดับที่แพงขนาดนี้มาก่อน ท่าทางอย่างแรกเลยรู้สึกว่าศศินัดดากกำลังโกหกเธอ

แต่หลังจากที่เธอดูคุณภาพของเครื่องประดับของ ศศินัดดาเธอ ก็พบว่ามันดีกว่าที่โมไนยซื้อให้เธอมาก และเธอก็เริ่มอารมณ์เสียทันที เดิมที่เธอต้องการอวดให้ศศินัดดา และทำให้ศศิ

นัดดาอิจฉาเธอ แต่สุดท้ายแล้วเธอก็กลับกลายมาเป็น

อิจฉาศศินัดดา

ศศินัดดาสีหน้าเต็มไปด้วยชัยชนะ เธอยังคงยิ้ม เมื่อมองไปที่ใบหน้าที่บูดเบี้ยวของบจี

บจีโกรธมาก ตอนที่ดูเครื่องประดับอยู่เลยแสร้ง ทำเป็นมือลื่น ทำให้สร้อยข้อมือของศศินัดดาหัก

ศศินัดดาก็ระเบิดทันที สร้อยข้อมือเส้นนั้นคือ สร้อยที่เธอชอบมากที่สุด ราคาอยู่ที่สองแสนกว่า เธอ คิดไม่ถึงว่าบจีจะทำหล่น ดังนั้นจึงทะเลาะกับบจี

สีหน้าของบีจีเต็มไปด้วยความถูกแล้วมองไปที่ศศิ นัดดา และพูด: “ฉันไม่ได้ตั้งใจ ที่สำคัญเธอจะมาเรียก ร้องแบบนี้ก็ไม่ได้ ก็แค่สร้อยข้อมือธรรมดา เธอกล้า พูดว่าตั้งสองแสนกว่า ฉันดูเธอแล้วน่าจะอยากเรียก ร้องเงินจากบ้านฉันมากกว่า”

“พูดจาเหลวไหล! สร้อยข้อมือนี้เป็นเครื่องประดับชั้นนำ บ้านเธอมีเงินอยู่แค่นั้น ฉันจะไปสนใจทำไมกับ เงินแค่นั้นของบ้านเธอ เธอรีบชดใช้คืนเงินฉันมานะ ไม่ อย่างนั้นฉันจะโทรแจ้งตำรวจ!”ศศินัดดาตะโกน

บจีเบะปาก พูด: ” เชอะ คำพูดของเธอใครจะไป เชื่อกันละ เธอก็รู้สึกอิจฉาที่ครอบครัวของฉันร่ำรวย กว่า จงใจเรียกร้องเงินจากฉัน จะบอกเธอให้นะ สร้อย ข้อมือนี้ฉันไม่ชดใช้คืนให้หรอก เธอแจ้งตำรวจไปก็ ไม่มีประโยชน์ ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจ”

ศศินัดดาโกรธ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเจอคนที่หน้า ด้านกว่าเธอ

“เธอไม่ได้ตั้งใจก็ต้องชดใช้คืน ไม่อย่างนั้นเธอก็ รอให้ตำรวจมาจับเธอไปเลย”ศศินัดดาตะโกน

“เชอะ อย่างนั้นฉันก็จะแจ้งความว่าเธอหลอกลวง แค่สร้อยข้อมือหักเธอขอกับฉันสองแสน

เธอคิดว่าฉันโง่เหรอ? จะมีสร้อยข้อมือราคาแพง แบบนี้ได้ยังไงในโลกนี้มัน เป็นของปลอมทั้งนั้น!” บจี

พูด

ศศินัดดาเริ่มใช้กำลังกับบจี เธอไม่สามารถกลืน ความโกรธนี้ไม่ไหวแล้ว

ตุลยวัตและศักดาทั้งสองคนเฝ้าดูอยู่ข้างบน เมื่อ เห็นว่าทั้งสองเริ่มใช้กำลัง ก็รีบลงมาห้าม

“คุณจะมาห้ามฉันทำไม ให้ฉันสั่งสอนผู้หญิงคนนี้ ให้รู้จักผิดชอบชั่วดี เธอทำสร้อยข้อมือของฉันหักยังไม่ชดใช้ ฉันเกิดมาไม่เคยเห็นใครที่หน้าด้านเท่านี้มา ก่อน!”ศศินัดดาพูด

“เธอนี่มันคือการขู่กรรโชกเรียกร้องทรัพย์! ทำไม ฉันต้องให้เงินเธอ”บจีไม่อ่อนแอไปกว่าแรงผลักดัน ของศศินัดดา

“พอได้แล้ว พวกคุณสองคนหยุดได้แล้ว ก็แค่ สร้อยข้อมือเส้นเดียวเอง ก็ไม่ได้แพงขนาดนั้น เดี๋ยว ฉันให้อารีเอาเงินพวกเธอไม่กี่พัน คุณเองก็อย่ามาส ร้างปัญหาที่นี่”ตุลยวัตกล่าวขึ้นมา

ศักดานึกว่าตุลยวัตจะเคลียร์เรื่องทั้งหมดให้ ชัดเจนกว่านี้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าเขาจะคิดว่าไม่เงินกี่ พันก็ฟาดหัวพวกเขาได้แล้ว ในใจก็รู้สึกไม่พอใจขึ้น มา:”ตุลยวัต นัดดาไม่ขู่กรรโชกเงินพวกนาย แต่สร้อย ข้อมือนั้นราคาอยู่ที่สองแสนกว่า”

“อย่ามาพูดจาไร้สาระที่นี่ พวกนายทั้งบ้านก็ไม่ใช่

ของดีอะไร”บจีด่าว่า

ตอนนั้นประตูก็ถูกเปิดออก อารียาและรพีพงษ์

เดินเข้ามา

เมื่อศศินัดดาเห็นว่าอารียากลับมา แววตาก็เปล่ง ประกายขึ้น รีบเข้าไปหา แล้วพูดว่า ” ลูก ลูกช่วยมา ยืนยันให้แม่หน่อยว่าสร้อยข้อมือนี้ใช่ซื้อมาในราคา สองแสนกว่าหรือเปล่า?”

อารียามองไปสร้อยข้อมือที่หักนั้น สีหน้าก็เต็มไปด้วยความแปลกใจ แล้วพูด: “ใช่แล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้น ค่ะ?”

ศศินัดดาเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อกี้ให้กับอารี ยาฟัง จากนั้นก็มองไปที่บจี พูดจาอย่างโกรธๆ: “เธอ ได้ยินไหม ลูกสาวฉันก็บอกอยู่สร้อยข้อมือนี้ซื้อมาใน ราคาสองแสนกว่า เธอยังไม่ชดใช้เงินคืนอีก!”

บจีเบะปาก แล้วพูด: “พวกแกมันครอบครัว เดียวกัน เธอก็ต้องช่วยพวกแกอยู่แล้ว อย่าคิดว่าฉัน เป็นเด็กสามขวบที่จะรังแกได้ง่ายๆนะ”

“สร้อยข้อมือนั้นราคาสองแสนจริงๆ ฉันไม่ได้ โกหกพวกคุณ”อารียาขมวดคิ้วแล้วพูด “แคลร์ คิดไม่ถึงว่าเธอจะยิ่งโตยิ่งเรียนรู้แต่สิ่งไม่

ดีเหมือนกับแม่เธอไม่มีผิด รู้จักโกหก”ตุลยวัตกล่าวขึ้น

มา

ในตอนนั้นรพีพงษ์ก็เดินเข้ามา มองไปที่ศศินัดดา แล้วพูด: “แม่ครับ ผมจำได้ว่าตอนที่แม่มาเก็บใบเสร็จ เครื่องประดับพวกนั้นไว้ในกระเป๋าเดินทาง แม่ไปเอา ใบเสร็จมา แล้วเอาให้พวกเขาดูก็จบแล้ว”

ศศินัดดาก็เพิ่งนึกออกว่าเธอยังพกใบเสร็จมาด้วย ดังนั้นจึงรีบไปที่กระเป๋าเดินทางเอาใบเสร็จเครื่อง ประดับพวกนั้นออกมา หาใบเสร็จสร้อยข้อมือนั้นเจอ แล้วและใบรับรอง แล้วเอาตรงไปให้บจี

“ใบเสร็จและใบรับรองอยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้ฉันจะดูว่าเธอปฏิเสธมันอย่างไร! ถ้ามีความสามารถพอก็โทร แจ้งตำรวจเลย ฉันจะดูว่าตำรวจจะช่วยใคร!”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท