พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่210 กราบคำนับให้เขาสองสามทีอย่างรวดเร็ว

บทที่210 กราบคำนับให้เขาสองสามทีอย่างรวดเร็ว

บทที่210 กราบคำนับให้เขาสองสามทีอย่างรวดเร็ว

คนรอบข้างคิดว่ารพีพงษ์และอารียาแต่งตัวเสื้อผ้า ธรรมดามาก คิดว่าพวกเขาไม่มีเงิน

แต่เมื่อได้ยินเสียงตะโกนของหญิงสาวที่แต่งตัวดีเธอ ก็ ตกใจทันที คิดไม่ถึงเสื้อผ้าที่อารียาถืออยู่ในมือนั้นจะแพง ขนาดนี้

“เชอะ ใครจะไปรู้ว่าเสื้อผ้าพวกนี้เป็นของปลอมหรือของ

จริง ไม่แน่อาจซื้อของปลอมร้านข้างทางมาก็ได้ จะบอก

เธอให้นะ ฉันภูษิตาใส่เสื้อผ้าดีๆมานับไม่ถ้วน เสื้อผ้าของ

เธอไม่มีมูลค่านี่แน่นอน!”ภูษิตาพูดจายืนยัน อารียาก็กัดริมฝีปากทันที คิดไม่ถึงจะมีคนที่ไร้เหตุผล เช่นนี้อยู่ด้วย

“เราเพิ่งซื้อชุดนี้มาจากในห้างสรรพสินค้าเมื่อกี้นี้เอง ถ้า คุณไม่เชื่อคุณสามารถไปถามที่ห้างสรรพสินค้าได้ ฉัน ไม่มีความจำเป็นต้องโกหกคุณ คุณทำแบบนี้กับคุณพี่คนนี้ มันมากเกินไป” อารียาพูดอย่างโกรธ ๆ

“ฉันทำมากเกินไปแล้วเธอยุ่งอะไรด้วย? จะบอกเธอให้ รีบไสหัวออกไปให้พ้นๆเลยนะ ไม่อย่างงั้นจะด่าเธอด้วย ไม่ ดูให้มันดีๆก่อน เรื่องของฉันยังจะกล้ามายุ่งอีก”ภูษิตาพูด อย่างโกรธ

สีหน้าจองรพีพงษ์ก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมทันทีที่ เขาจ้อง มองไปที่ภูษิตา แล้วกล่าวอย่างเย็นชา : “ถ้าคุณยังไม่หยุดสร้างปัญหาอีก อย่าหาว่าผมไม่เกรงใจ”

“โอ๊ยยยย แกกล้าไม่เกรงใจฉันด้วย? แกมันคือตัวห่าไร กล้ามาว่าฉันสร้างปัญหา เชื่อไหมฉันเตะแกตายทีเดียว!” ภูษิตากล่าว พร้อมกับเตะไปที่รพีพงษ์

เมื่อรพีพงษ์เห็นสิ่งนี้ ก็ตะคอก แล้วรีบยกเท้าขึ้น แล้วเตะ ตรงเข่าของภูษิตา ภูษตาก็รีบขยับถอยหลังทันที เธอเสีย การทรงตัว และนั่งลงข้างหลังในหลุมต้นไม้

ภูษิตาลุกขึ้นจากพื้น ใบหน้าของเต็มไปด้วยความโกรธ

ดวงตาทั้งคู่ของเธอจ้องมองไปที่รพีพงษ์ และพูดว่า: “แกรอ

ฉันอยู่ตรงนี้เลยนะ ฉันจะโทรหาสามีของฉัน และให้เขามา

จัดการแก!”

รพีพงษ์ไม่ได้สนใจภูษิตา แต่กลับหันไปมองผู้หญิงที่อยู่ ด้านหลัง แล้วถาม: “คุณพี่ ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย?”

ผู้หญิงคนนั้นส่ายหัว สีหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วงแล้ว พูด: “ฉันไม่เป็นอะไรคะ พวกคุณอย่ายุ่งเรื่องนี้ดีกว่า ฉันไม่ อย่าทำให้พวกคุณเดีือดร้อน คนคนนี้ดูแล้วไม่ควรมีเรื่อง ด้วย พวกคุณรีบออกไปจากที่นี่เถอะค่ะ”

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูด: “ไม่ต้องกังวล ไม่มีปัญหาแน่ อยู่ เมืองริเวอร์ ยังมีใครที่ผมไม่สามารถมีเรื่องด้วยได้ ใช่แล้ว คุณพี่ คุณชื่ออะไรครับ?”

“ฉัน…ฉันชื่อชนิสรา”ชนิสราไม่มีทางเลือดจึงเปิดปาก บอล วันนี้เธอไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย

“พี่สา ไม่เป็นไร พี่ไม่ต้องกังวล”อารียาพูดปลอบ
ชนิสราไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงพยักหน้า

ภูษิตาโทรหาสามีของหล่อน หลังจากนั้นก็จ้องมองรพี พงษ์อย่างเคียดแค้น แล้วพูด: “เดี๋ยวสามีของฉันก็มาถึง แก รอเลยนะ เมื่อเขามา แกตายแน่ กล้าเตะฉัน แกรอเลย นะ!”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร เขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้ทำเกินไป แล้ว คิดว่าถ้าหากเธอยังอยากจะสร้างปัญหาอีก ก็จะสั่ง สอนเธอ ให้เธอได้หลาบจำ

ในตอนนี้เอง มีคนมาตบไหล่รพีพงษ์ รพีพงษ์หันกลับไป มอง พบว่านั่นคือธฤตญาณนี่เอง

“นายมาทำอะไรที่นี่?”รพีพงษ์ถามด้วยรอยยิ้ม

“มีคนต้องการขอความช่วยเหลือจากฉัน และนัดฉันไป เจอที่ร้านอาหารตรงข้างหน้านี้ ฉันเห็นว่ามีคนรุมล้อมอยู่ แถวนี้ ไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ จึงเดินมาดู คิดไม่ถึงว่าจะ ได้เจอนายที่”ธฤตญาณยิ้ม

รพีพงษ์มองไปที่ภูษิตา แล้วพูด: “เจอคนไร้เหตุผล อยาก พูดคุยกับหล่อนอย่างมีเหตุผล”

“แกว่าใครไม่มีเหตุผล ไอ้เชี้ย แกพูดใหม่อีกครั้งซิ ฉันฉีก ปากของแกแน่”ภูษิตาระเบิดทันที

ธฤตญาณหันไปมองหล่อน แล้วพูด: “คุณพี่ พอได้แล้ว นะ คุณไม่ควรมีเรื่องกับเขา ผมว่านะคุณรีบไปจะดีกว่า”

เมื่อภูษิตาได้ยินคำพูดของธฤตญาณ สีหน้าก็เต็มไปด้วย ความดูถูก แล้วพูด: “แล้วมันคือตัวอะไร ทำไมฉันถึงมีเรื่องด้วยไม่ได้? พวกแกรู้หรือเปล่าว่าสามีของฉันทำอะไร จะ บอกว่าพวกแกให้นะ ถ้าสามีฉันมาถึง พวกแกอย่าคิดหนี แม้แต่คนเดียว!”

“ไม่สนว่าสามีคุณจะเป็นใคร ถ้าหากคุณยังหาเรื่องเขา

ต่อไป พวกคุณเองที่จะเสียใจ”ธฤตญาณกล่าว

“แกบ้าไปแล้วหรือเปล่า? แกกับมันมาด้วยกันใช่ไหม ฉัน ว่าพวกแกสามคนสมองน่าจะมีปัญหา เรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็ เสือกมายุ่ง ฉันก็ไม่ชอบคนแบบนี้แล้วจะทำไม แบบนี้ผิด กฎหมายด้วยเหรอ? จะบอกพวกแกให้นะ อยู่ที่เมืองริเวอร์ ก็มีแค่คนที่ชื่อธฤตญาณเท่านั้นที่สามีฉันกลัว นอกจากเขา แล้ว คนยากจนอย่างพวกแกสามคน ต่อให้เขาทำร้ายจน พิการก็ไม่มีใครกล้ายุ่งด้วย”ภูษิตมาตะโกน

ธฤตญาณและรพีพงษ์มองตากัน และทั้งคู่ก็ยิ้มอย่างขึ้ เล่น

“ถ้าพวกแกกลัวเขา ก็รีบขอโทษฉันเดี๋ยวนี้เลย ให้ผู้หญิง จนคนนั้นคุกเข่าลงมาแล้วเลียรองเท้าให้ฉัน ฉันก็จะไม่เอา เรื่องพวกแก ไม่อย่างนั้น พวกแกต้องรับผิดต่อผลที่ตาม มา!”ภูษิตากลอกตาแล้วพูด

“อย่างนั้นพวกเราก็รอสักพักดีกว่า”ธฤตญาณกล่าวด้วย รอยยิ้ม ไชยพศเดินไปที่หน้าห้างสรรพสินค้าอย่างรีบร้อน เดิมที่

เขาวางแผนจะไปหาธฤตญาณเพื่อขอความช่วยเหลือ และ เชิญธฤตญาณทานอาหารด้วย
แต่เมื่อกี้เขาได้รับสายจากภรรยาของตัวเอง บอกว่าตัว เองถูกคนทำร้าย ให้เขารีบไปหา เขาไม่มีทางเลือก คิดว่าธ ฤตญาณยังมาไม่ถึง ดังนั้นจึงรีบออกมาดู

ไกลออกไปไม่มากนัก เขาเคยเห็นกลุ่มคนรุมล้อม แล้ว

เขาเดินไปยังกลุ่มคนอย่างรวดเร็ว และแวบเดียวเห็นก็

ภรรยาของตัวเอง

“ภรรยา คุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ไชยพศเดินเข้าไป แล้วถาม

เมื่อภูษิตาเห็นสามีของตัวเองมา ก็เริ่มร้องไห้ทันที ความ เย่อหยิ่งที่เป็นอยู่เมื่อกี้หายไปหมด

“สามี คุณมาสักที ถ้าคุณยังไม่มาอีก ฉันก็คงถูกพวกเขา ทำร้ายจนตายแน่ คุณต้องจัดการสั่งสอนพวกเขาทั้งหลาย พวกเขาทั้งหลายก็แค่คนยากจน ยังกล้ามาท้าทายฉัน มัน น่าโมโหจริงๆ “ภูษิตาคร่ำครวญ

ผู้คนรอบข้างต่างประหลาดใจ เพราะคิดว่าฝีมือการ แสดงของภูษิตานั่นสามารถนำไปแสดงได้เลย และใบหน้า ก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วยิ่งกว่าท้องฟ้า

ไชยพศมองไปที่ภูษิตาท่าทางก็ไม่เหมือนคนที่ถูก ทำร้าย ก็รู้ทันทีว่าเธอแสร้งทำเป็นน่าสงสาร เพื่อให้เขาแก้ แค้นให้

เขารู้ดีว่านิสัยภรรยาตัวเองนั้นเป็นเช่นไร

เขามองไปที่รพีพงษ์และคนอื่นๆอย่างไม่เต็มใจ และเมื่อสายตาของเขาตกอยู่ที่ธฤตญาณ ร่างกายของก็แข็งที่อ

“ธฤตญาณมองเขาอย่างข่าๆ แล้วพูด: “ไชยพศ ภรรยา ของคุณดูแลได้ไม่ค่อยดีเลยนะ” ไชยพศก็รีบเดินไปหาธฤตญาณ สีหน้าเต็มไปด้วยความ

เคารพ: “พี่ธฤต ทำไมพี่มาอยู่ที่นี่ล่ะครับ เรานัดเจอกันที่

ร้านอาหารไม่ใช่เหรอครับ?”

ธฤตญาณตะคอกอย่างเย็นชา ว่า: “ภรรยาแกหาเรื่อง น้องชายฉัน แกว่าฉันยังมีกะจิตกะใจจะไปกินข้าวอยู่เห รอ?”

สีหน้าของไชยพศเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่า ภรรยาตัวเองมีเรื่องกับน้องชายของธฤตญาณ และเขาก็มี เรื่องจะขอความช่วยเหลือธฤตญาณ ดังนั้น ถ้าธฤตญาณ ไม่ช่วยเขา เขาก็จะเดือดร้อนแน่

“พี่ธฤต น่าจะเป็นเรื่องเข้าใจผิดกัน ผมจะจัดการเมียบ้า ของผมเป็นอย่างดี ขอพี่ธฤตอย่าได้ถือสาเลยครับ”ไชยพ ศร้องขอด้วยความเมตตา

ภูษิตตาเห็นว่าไชยพศไม่ช่วยเธอจัดการคนพวกนี้ แต่ กลับพูดจาสุภาพเกรงอกเกรงใจธฤตญาณ ก็ไม่พอใจ ทันที: “สามีคุณทำอะไรของคุณ คุณรีบช่วยฉันสั่งสอน พวกเขาสิคะ โดยเฉพาะผู้ชายที่เพิ่งเข้ามาทีหลังคนนี้ ยัง มาพูดจาเหลวไหล บอกว่าฉันไม่ควรมีเรื่องกับพวกเขา บ้า ไปแล้ว คนโง่อย่างเขา ทำไมฉันจะมีเรื่องด้วยไม่ได้”

เมื่อไชยพศได้ยินคำพูดของภูษิตา ก็ตบหน้าเธอไปหนึ่งครั้ง แล้วด่า: “คุณนี่มันตาบอดจริงๆ พี่ธฤตบอกว่าคุณไม่ ควรมีเรื่องด้วย ก็คือคุณไม่ควรมีเรื่อง เธอมาตอแหลอะไร ตรงนี้?

ภูษิตาจับหน้าของตัวเอง มองไปที่ไชยพศอย่างอึ้งๆ แล้ว

พูด: “คุณกล้าตบฉันเหรอ คุณบ้าไปแล้วเหรอ!”

“ผมบ้าหรือคุณบ้ากันแน่? คุณมีเรื่องกับใครไม่มี!”ไชยพ ศตะโกน

ภูษิตามองไปที่ธฤตญาณพวกเขา แล้วพูด: “มันก็แค่เป็น ไอ้พวกคนจนไม่กี่คนเอง ยังเป็นใครได้?”

“ท่านนี้ก็คือธฤตญาณ ที่วันนี้ฉันจะมาขอความช่วยเหลือ ที่สำคัญตำแหน่งของเขาที่อยู่ในเมืองริเวอร์ คุณมีเรื่องกับ เขา ยังคิดว่าจะมีชีวิตที่ดีอยู่เหรอ?”ไชยพศถอนหายใจ

ภูษิตาเบิกตากว้างทันที และอุทานทันที: “คุณว่าอะไรนะ เขาก็คือธฤตญาณเหรอ?”

“ไม่อย่างงั้นคุณคิดว่าเขาเป็นใคร วันนี้เธอก่อเรื่องให้ ฉันใหญ่หลวงมาก!”ไชยพศกล่าว

ผู้คนที่รุมล้อมสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตกใจ พวกเขาคิด ไม่ถึงเลยว่าคนธรรมดาๆคนนี้คือธฤตญาณ

“ที่แท้เขาก็คือธฤตญาณนี่เอง ไม่แปลกเลยที่เขาดู

เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น”

“เขาเป็นคนใหญ่คนโตของเมืองริเวอร์ ก็ไม่กลัวผู้หญิงที่น่ารังเกียจคนนี้อย่างแน่นอน

“พูดแบบนี้ วันนี้ก็มีคนที่จัดการกับผู้หญิงบ้าคนนี้ได้ ตอน นั้นที่ดูอยู่ฉันก็โมโหมาก น่าเสียดายที่เราไม่กล้ายุ่ง”

“สามี คุณกำลังโกหกฉันอยู่หรือเปล่า คนคนนี้ดูไปแล้ว ธรรมดามาก ดูไปแล้วก็เหมือนคนยากจน จะเป็นคนใหญ่ โตอย่างธฤตญาณไปได้ยังไง คุณน่าจะจำคนผิดแล้ว ล่ะ”ภูษิตากล่าว

ไชยพศโมโหจนจะระเบิดออกมา แล้วตบหน้าภูษิตาไป อีกครั้ง และด่า: ” คุณนี่แมร่งสมองบ้าไปแล้วจริงๆ ทำไม ฉันถึงได้แต่งงานกับคนหน้าโง่แบบนี้เนี่ย ถ้าไม่ใช่ธฤต ญาณ อย่างนั้นคือคุณเหรอ? ผมจะไม่ยุ่งเรื่องนี้ของคุณ คุณจัดการเองแล้วกัน!”

ภูษิตาถึงค่อยรู้ตัวว่า ตัวเองคงจะมีเรื่องกับธฤตญาณคน ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองริเวอร์จริงๆแล้ว

สีหน้าเธอเต็มไปด้วยความเสียใจ หันไปมองธฤตญาณ แล้วพูด: “พี่ธฤต ฉันผิดไปแล้วจริงๆ ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าคือ พี่ ขอร้องล่ะพี่ปล่อยฉันไปเถอะ”

“คุณขอโทษฉันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว คนที่คุณมีเรื่องด้วย ไม่ใช่ฉัน”ธฤตญาณกล่าว

ภูษิตาหันหน้าไปมองชนิสรา จากนั้นก็กัดฟัน เดินไปตรง หน้าหล่อน แล้วพูด: “ฉันผิดไปแล้ว ฉันขอโทษเธอด้วย ฉัน ขอโทษเธอแล้ว เธอยกโทษให้ฉันได้หรือเปล่า”
ไชยพศเดินตามไปที่ด้านหลังภูษิตา แล้วเตะลงไปที่ขา ของหล่อน ภูษิตาก็คุกเข่าลงตรงหน้าชนิสรา

“จะขอโทษก็ขอโทษดีๆ ถ้าไม่แสดงความจริงใจออกมา เขาจะยกโทษคุณได้ยังไง รีบกราบคำนับให้เขาเลย ไม่แน่ ถ้าเขาดีใจ ก็ยกโทษให้คุณ”ไชยพศกล่าวอย่างโกรธ เกรี้ยว

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท