พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่194

บทที่194

บทที่194 กูให้โอกาสถึงแล้ว

ก่อนหน้านี้ในห้องส่วนตัวเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ อบอุ่น แต่ทว่าเมื่อเสียงที่อยู่ในคลิปดังขึ้น สีหน้าของ ทุกคนก็เปลี่ยนไป

พวกเขาหันไปมองที่หน้าจอทุกคน เมื่อเห็นรูปบน หน้าจอแล้ว พ่อของโมไนยและบจียังมีตุลยวัตใบหน้า ของทั้งหมดเปลี่ยนเป็นสีแดง

ต่อมา ในคลิปปรากฏภาพของโมไนยและ พนักงานหญิง

ปรางทิพย์ชะงัก เธอหันไปดู โมไนยที่อยู่ข้างๆ ใน ตาก็เต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมา

โมไนยเครียดขึ้นมาทันที เขารีบเดินไปข้างๆทีวี อยากจะใช้ร่างกายของตนเองบังหน้าจอเอาไว้ แต่ทว่า หน้าจอแบนราบ ร่างกายของเขาบังได้เพียงเล็กน้อย เท่านั้น

แล้วตอนนี้ ไม่ว่าเขาจะบังอย่างไร ก็ไม่มีประโยชน์ ใดๆแล้ว

“โมไนย แกไอ้สัตว์นรถ ฉันก็ว่าทำไมเมื่อกี้สายตา แกกับไอ้พนักงานผู้หญิงนั้นดูกันไปมา ไม่คิดมาก่อนว่า แกกับเธอ..” ปรางทิพย์พูดถึงตรงนี้ ก็ร้องไห้ออกมา ทันที ยังไงเธอก็คิดไม่ถึงว่าโมไนยจะทำเรื่องแบบนี้ ลับหลังเธอได้ แล้วยังอัดคลิปไว้ด้วย
ที่สำคัญที่สุดคือ คลิปนี้ยังถูกเปิดในวันงานหมั้น ของพวกเขาอีกด้วย

ปรางทิพย์ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไป แล้ว ความจริงเธอยังจินตนาการอยู่ว่าหลังจากที่ แต่งงานกับโมไนยแล้วจะไปฮันนีมูนที่ไหนดี จะมีลูก ตอนไหน ดูๆแล้วตอนนี้สิ่งเหล่านี้เป็นแค่เรื่องตลก เท่านั้น

หลังจากที่บจีเห็นคลิปนี้แล้ว ก็เกือบจะแตกสลาย ในคลิปนี้ท่าทางของโมไนยและพนักงานหญิงคนนั้น มันชั่งไม่งามเอาเสียเลย ที่สำคัญคือทั้งคู่เหมือนกำลังมี ความสุขด้วยกันอยู่ นี่เหมือนดูถูกครอบครัวของเขา

จริงๆ

“โมไนย แกอธิบายให้ฉันฟังสิ นี่มันเกิดอะไรขึ้น กันแน่ แกพูดเสียดิบดีว่ารักลูกสาวฉันคนเดียว นี่ยัง ไม่ทันได้แต่งงาน แกก็ทำเรื่องแบบนี้ได้ จิตใจแกไม่รู้ สึกเจ็บปวดบ้างหรอ!” บจีด่าไม่ยั้ง

LEGO สีหน้าของตุลยวัตก็บูดบึ้ง อยากที่จะทำลายทีวี ผนังนั้นทิ้งซะ

“แกทำให้พวกเราผิดหวังมากจริงๆ ถึงแม้ลูกสาว ฉันจะไม่แต่งงานกับใครตลอดชีวิต ก็ไม่มีทางแต่งกับ ไอ้สัตว์นรกอย่างแกแน่ๆ!”

สีหน้าของพ่อโมไนยก็ดูไม่ดีเช่นกัน พวกเขาก็คิด ไม่ถึงว่าลูกชายของตนเองจะทำเรื่องแบบนี้ได้ แน่นอน ว่าถ้าพวกเขารู้เรื่องนี้เป็นการส่วนตัว ก็ต้องปิดตาข้างหนึ่ง พวกเขาคิดว่าลูกชายของตนเก่งกาจ มีผู้หญิง หลายคนชอบก็ไม่แปลก โมไนยยับยั้งต่อสิ่งยั่วยวน จิตใจไม่ได้ จะโกรธเขาก็ไม่ได้ ทำได้เพียงโทษผู้หญิง ที่ยั่วยวนเขาเท่านั้น

แต่ทว่าตอนนี้อยู่ในงานหมั้นของเขาและปราง ทิพย์ ไม่ว่าจะยังไงพวกเขาก็เข้าข้างลูกชายตัวเองไม่ ได้

“โมไนย แกไอ้เด็กเปรตมานี่ กูจะต่อยมึงให้ตาย!” พ่อของโมไนยเดินไปที่โมไนย

โมไนยรีบหลบ แล้วกล่าว “พวกคุณฟังผมอธิบาย ก่อน นี่มันไม่เป็นความจริง ตัดต่อออกมา นี่มีคน ต้องการทำร้ายผม ผมไม่เคยทำเรื่องแบบนี้จริงๆ”

“แกคิดว่าพวกเราโง่หรือไง? นี่มันคลิปไม่ใช่รูป ถ่าย แกตัดต่อให้ฉันดูสิ!” ปรางทิพย์ตะโกนด่า

โมไนยรู้ว่าอยาก โกหกไปก็ทำไม่ได้แล้ว ตอนนี้ เขาอยากรู้ว่า ใครกันแน่ที่เปิดคลิปนี้ออกมา

พ่อของโมไนยกระชากเสื้อของโมไนยมา แล้วตบ ไปที่หน้าของเขาโดยตรง บจีเห็นดังนี้ ก็ตามเข้าไป อยากจะตบโมไนยสักฉาด

โมไนยกัดฟัน แล้วรีบหันหลังเดินออกไปนอกห้อง ส่วนตัวแล้ววิ่ง

เขากลัวบจีไล่ทัน แล้วเลี้ยวไปที่ทางเดินอีกเส้น แล้ววิ่งขึ้นไปชั้นบน
ตอนนี้เขาเห็นรพีพงษ์กำลังหัวเราะแล้วเดินไปทาง เขา ในใจคิดขึ้นมาทันทีว่าคลิปนั้นรพีพงษ์เป็นคนเปิด แน่ๆ

“รพีพงษ์ แมร่ง! ไอ้คลิปนั้นจึงเป็นคนเปิดใช่ไหม? จึงให้พวกกูไปห้องส่วนตัวVIP เพื่อที่จะมีโอกาสได้เปิด คลิปใช่ไหม!” โมไนยกัดฟันพูด

รพีพงษ์หัวเราะเขา แล้วกล่าว “กูให้โอกาสมึงแล้ว แต่ถึงไม่คว้าไว้”

“ให้แมร่งอะไร ถึงเป็นใครถึงได้กล้าพูดแบบนี้กับกู วันนี้กูจะฆ่ามึง!”

โมไนยนัยน์ตาแดงก่ำมองไปที่รพีพงษ์แล้วพุ่ง เข้าไป ท่าทีอย่างกับจะฆ่ารพีพงศ์

รพีพงษ์เห็นดังนี้ สีหน้าก็บิ้งขึ้นมา เริ่มตั้งแต่ โมไนยไม่ขอโทษเขาและอารียา รพีพงษ์ก็ได้เอาเขา

เข้าในแบล็กลิสล์แล้ว

ในตอนที่โมไนยพุ่งเข้าหารพีพงษ์นั้น ร่างกายของ

รพีพงษ์ก็เริ่มขยับ เขาขยับตัวอย่างเร็ว แล้วยกแขนขึ้น

ลงไปที่คอของโมไนย โมไนยคู้ตัวลง รพีพงษ์ยกเข่า

ขึ้น แล้วกระแทกไปที่ท้องของโมไนย โมไนยไม่มีเรี่ยวแรง ทั้งร่างกายใช้การไม่ได้ แล้ว ล้มตัวลงพื้นโดยตรง

ยังไงเขาก็ไม่คาดคิดว่ารพีพงษ์จะเก่งกาจขนาดนี้ “ถึง…ถึงไอ้สวะ ทำไมมีฝีมือดีขนาดนี้!” โมไนยกล่าวออกมาอย่างไม่เข้าใจ

“ถึงให้คนไปลวนลามอารียา เรื่องนี้มันหนักกว่าที่ จึงคิดไว้มาก ที่กูลงโทษมึง ไม่เพียงแค่ทำลายงานหมั้น จึงลงง่ายๆแค่นั้น ถ้าวันนั้นกูไม่อยู่ อารียาต้องถูกไอ้ พวกนั้นปู๋ยี่ปุ่ยำไปแล้ว ความผิดนี้ ต้องแลกกับชีวิตมึง” รพีพงษ์กล่าว

“ถึง ….ถึงกล้า! หรือมึงคิดว่าถ้ามึงฆ่ากูแล้ว ครอบครัวของกูจะไม่ตามหากหรอ!” โมไนยตะโกน ออกมา

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “คนของครอบครัวมึงก็แค่ คิดว่าเพราะมึงกลัวถูกจับ เลยหนีหายไป ถึงทำเรื่องที่ ทำให้พวกเขางามหน้า ถึงแม้ไม่กลับไปทั้งชีวิต ก็ยัง เป็นไปได้”

สีหน้าของโมไนยซีดลง รพีพงษ์พูดไม่ผิด ถ้าเขา ไม่กลับไปเวลานาน พ่อแม่ของเขาต้องคิดว่าเขาทำ เพื่อหนีไม่กล้ากลับมาเท่านั้น

แต่ไม่นานเขาก็ยิ้มขึ้นมา แล้วกล่าว “ถึงหยุดขู่กูได้ แล้ว จึงก็แค่ไอ้สวะ กล้าฆ่าคนหรอ? กูเห็นแค่ไก่ตัว เดียวถึงยังไม่กล้าฆ่าเลยมั้ง!”

รพีพงษ์ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่มองไปที่โมไนย อย่างเยือกเย็น แล้วมองไปที่นาฬิกา

ไม่นาน ก็มีคนเดินออกมาจากทางเดิน

โมไนนสงสัย เขาอดทนกับความเจ็บปวดบนร่างกาย แล้วลุกขึ้นมาจากพื้น มองไปยังคนที่เดินมา

หลังจากที่ดูชัดเจนลักษณะคนที่เดินมาแล้ว ใบหน้าของโมไนยก็ดีใจขึ้นมา

“ท่านยุด! ไม่คาดคิดว่าคุณจะอยู่ที่นี่ มันชั่งดีจริงๆ คุณช่วยผมหน่อยนะ ไอ้บ้านี่บอกว่าฆ่าผม คุณช่วยผม สั่งสอนมันหน่อยนะ” โมไนยกล่าว

เขามองไปที่รพีพงษ์อย่างดูแคลน แล้วกล่าว “กูจะ บอกอะไรถึงให้ นี่คือท่านยุด กูเป็นคนของท่านยุด ถึง ยั่วโมโหกู ท่านยุดจะต้องจัดการถึงแทนกูแน่นอน!”

จิรายุศมองไปที่โมไนย แล้วกล่าว “ถึงพูดเชี้ย อะไรตรงนี้ ถึงอย่าบอกกูนะ ว่าถึงคือคนนั้นคนที่ยั่ว โมโหลูกพี่ก”

ตอนนั้นรพีพงษ์โทรหาเขา ให้เขารีบมา บอกว่ามี คนยั่วโมโหตน อยากให้เขาช่วยจัดการให้หน่อย

จิรายุศไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นโมไนย

โมไนยผู้ช่วยเขา ปกติจะช่วยเขาจัดการเรื่อง วุ่นวายของบริษัท เขาและโมไนยมีความสัมพันธ์เพียง เจ้านายลูกน้องเท่านั้น แต่ไหนแต่ไรก็ไม่เคยคิดที่จะ ฝึกโมไนยให้เป็นมือซ้ายและมือขวาของเขา ถาม คำถามแบบนี้ ก็เพียงแค่รู้จักกันเท่านั้น

ถ้าคนที่รพีพงษ์อยากให้จัดการนั้นคือโมไนย งั้น เขาก็จัดการไม่มีพลาด

“อะไรพี่รพี? ท่านยุด ไอ้เด็กนี่มันก็แค่ไอ้สวะตัวหนึ่งนะ มันมาจากต่างแดน โอ้อวดในถิ่นของคุณ คุณ ลืมแล้วหรอไอ้คนนั้นที่ครั้งที่แล้วที่ชับรถปอร์เช่เข้าไป ในทางที่คุณเปิดไว้ ก็มันนี่แหละ ครั้งนี้คุณไม่ต้องเห็น แก่ผมแล้ว คุณจัดการมันได้เลย ผมรับรองว่าผมจะไม่ ขัดขวางใดๆ”

จิรายุศตบไปที่หน้าของโมไนยโดนตรงหนึ่งฉาด แล้วด่า “มึงแม่งพูดไร้สาระอะไรตรงนี้ เขาคือพี่รพีของ กู ถึงดูถูกได้ตามสบาย? ครั้งที่แล้วที่กูเปิดทางก็เปิด เพราะเขา ยังเห็นแก่ถึง? ถึงเป็นตัวอะไร กล้าพูดแบบนี้

กับก”

โมไนยงงในทันที ยังไงเข้าก็ไม่คาดคิด ว่าผลลัพธ์ จะเป็นแบบนี้

แม้แต่ท่านยุดก็เรียกรพีพงษ์ว่าพี่ นั้นรพีพงษ์มัน

เจ๋งขนาดไหนเนี่ย?

ตอนนี้โมไนยเพิ่งจะเข้าใจ แท้ที่จริงแล้วครั้งนั้นที่ รพีพงษ์ขับไปทางที่ท่านยุดเปิดไว้นั้น ท่านยุดมิได้เป็น เพราะเห็นแก่เขาถึงได้ไม่หาเรื่องมัน

แล้วครั้งนั้นที่ร้านอาหาร ดรณ์จู่ๆก็ก้มหัวสารภาพ ผิดกับพวกเขา ก็ไม่ใช่เพราะเห็นแก่เขา

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นเพราะให้เกียรติรพีพงษ์ทั้งนั้น เพราะแม้แต่ท่านยุดก็ต้องเคารพเขา คนใหญ่คนโต แบบนี้ เขาแตะต้องไม่ได้เป็นอันขาด

หลังจากรู้สึกตัวแล้ว โมไนยก็คุกเข่าลงต่อหน้าของรพีพงษ์ มองเขาด้วยความรู้สึกผิดทมีทำไป แล้ว ขอร้อง “รพีพงษ์ ผมรู้สึกผิดแล้ว คุณปล่อยผมไปเถอะ นะ ต่อไปผมไม่กล้าทำอีกแล้ว”

รพีพงษ์ก้มหน้าลงไปมองเขา แล้วกล่าวอย่างเยือก เย็น “มึงลืมไปแล้วหรอว่าตอนนั้นกูพูดว่าอะไร กูให้ โอกาสถึงแล้วหนึ่งครั้ง แต่ถึงไม่รู้จักฉวยมันไว้”

จิรายุศถีบเข้าไปที่ร่างของโมไนยโดยตรง ทำเอา เขาล้มลงไปนอนกับพื้น

“พี่รพี คุณจะจัดการกับมันยังไง” จิรายุศถาม

“จัดการซะ คนเลวแบบนี้ อยู่บนโลกก็เปลือง อากาศหายใจ” รพีพงษ์กล่าวอย่างเยือกเย็น

เขาพูดออกมา ก็สามารถตัดสินชีวิตของโมไนยได้ โมไนยมีสิทธิ์อะไรที่จะสู้กับรพีพงษ์

โมไนยหน้าซีด ขอให้รพีพงษ์ปล่อยตนไปอีกครั้ง แต่ทว่าไม่ว่าเขาจะพูดยังไง รพีพงษ์ก็ไม่สน

จิรายุศเรียกลูกน้องเข้ามาทันที คนพวกนั้นจับ โมไนยเอาไว้ แล้วพาออกไปจากRose&Mary Hostel

จิรายุศมาถึงจุดนี้ได้ ฝีมือก็ไม่เบาแล้ว รพีพงษ์ก็ไม่ กังวลว่าจิรายุศจะทำไม่สำเร็จ ดังนั้นเมื่อจิรายุศให้คน พาโมไนยออกไปแล้วนั้น เขาก็กลับไปยังห้องพัก

ขณะนี้ในห้องส่วนตัว ปรางทิพย์กำลังร้องอย่า โอดครวญ บจีและตุลยวัตปลอบโยนอยู่ใกล้ๆ
ฟอของโมไนยขอร้องอยู่ข้างๆ แต่บจีไม่ฟังอะไร ทั้งนั้น เกือบจะลงมือกับพวกเขาแล้ว

“ไอ้สัตว์นรกโมไนย ไม่รู้ว่าหนีไปไหนแล้ว เพิ่งออก ไปเมื่อกี้ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว”

“ถ้าจะให้ดีอย่ากลับมาเลยตลอดชีวิต เขามันเลว ตระกูลธัญวรรณ์ของพวกเราไม่ควรจะผู้ทำให้เสียชื่อ เสียงแบบนี้” พ่อของโมไนยด่า

เขาคาดไม่ถึง ว่าคำพูดที่ไม่น่าฟังนี้ จากวันนี้ไป

โมไนยจะไม่กลับมาอีกต่อไป แล้วก็จะไม่มีใครรู้ว่าเขา

ไปไหน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท