พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 206 กลับเมืองริเวอร์

บทที่ 206 กลับเมืองริเวอร์

บทที่ 206 กลับเมืองริเวอร์

ระหว่างทางกลับไปยังเมืองริเวอร์ ศศินัดดาและศักดา ทั้งสองคิดไปถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ในใจก็เกิดรู้สึก กลัวขึ้นมา

“ลูก พวกคนเมื่อวานนี้ ตกลงต้องการทำอะไร? ตรวจ สอบรู้หรือยัง?”ศศินัดดาถามอารียา

“แม่ค่ะ แม่ก็ไม่ต้องไปคิดเรื่องนี้แล้วค่ะ คนพวกนั้นแค่ ดูคนผิดไปเอง ไม่เกี่ยวกับเราค่ะ”อารียาพูดปลอบ

ศศินัดดาพยักหน้า แล้วก็ไม่คิดเรื่องนี้อีก แค่ไม่อะไร เป็นไร ก็ถือว่าโชคดีแล้ว

อยู่ที่อำเภอหยกเกิดเรื่องขึ้นมากมาย ศศินัดดากลัว ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเขมพงศ์ ซึ่งทำให้ศศินัดดาไม่ สบายใจ

โชคดีที่สุดท้ายเป็นครอบครัวของบจีที่ถูกขับไล่ออก ไปจากตระกูลเขมพงศ์ ถึงแม้ว่าศศินัดจะไม่ค่อยถูกกับ ครอบครัวบจี แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ เนื่องจากครอบครัวของบจีก็น่ารังเกียจ

ถ้าตอนนี้เธอรู้ว่าครอบครัวของบจีไปเป็นขอทานที่ข้าง ถนน เธอคงจะแปลกใจและพูดไม่ออกแน่

“นี่ก็จะกลับไปแล้ว น่าเสียดายที่ลูกแม่ไม่มีงานทำแล้วอีกหน่อยไม่รู้ว่าพวกเราใช้ชีวิตอย่างไร”ศศินัดดาพูด ด้วยอารมณ์

“แม่ค่ะ ต่อให้หนูไม่มีงานทำก็ไม่เป็นไรค่ะ ยังมีรพีพงษ์ ที่เลี้ยงดูพวกเราอยู่ค่ะ”อารียาพูด

ศศินัดดาก็หัวเราะเยาะทันที และกล่าวว่า: “แค่ตอนนี้ เขายังมีเงินอยู่ แต่เขาเป็นเศษสวะสิ้นเปลือง และเขาใช้ เงินฟุ่มเฟือยมาก เงินแค่นั้นของเขา ไม่ช้าก็เขาใช้หมด”

มองไปที่ศศินัดดาอย่างไม่น่าเชื่อ เธอคิดไม่ถึงว่าใน

ช่วงไม่กี่วันที่ไปอำเภอหยก การกระทำของรพีพงษ์จะ

เปลี่ยนมุมมองของศศินัดดาที่มีต่อเขาไม่ได้

“แม่ค่ะ การกระทำของรพีพงษ์ตอนที่อยู่อำเภอหยกแม่ มองไม่เห็นเลยเหรอคะ? ถ้าเขาเป็นเศษสวะจริง แม่คิด ว่าท่านยุดจะช่วยเขาแบบนี้เหรอคะ ที่สำคัญถ้าเกิดไม่มี รพีพงษ์ ตอนนี้เราก็ถูกขับไล่ออกจากตระกูลเขมพงศ์ แล้วค่ะ”อารียาพูด

“เชอะ มันก็แค่โชคดีเอง ถ้าเกิดมันไม่ใช่เพื่อนสมัยเด็ก ของเขา ลูกคิดว่าเขาจะช่วยมันขนาดนี้เหรอ ท่านยุดเขา สุดยอดอยู่แล้ว เกี่ยวอะไรกับมันด้วย กลับถึงเมืองริเวอร์ มันก็ไม่มีอะไรแล้ว”ศศินัดดาวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล

อารียาถอนหายใจ เธอรู้ดีว่า การเปลี่ยนมุมมองของ ศศินัดดาที่มีต่อรพีพงษ์ นั้นยังเป็นเรื่องอีกยาวไกล

รพีพงษ์มองไปที่พวกเขาด้วยรอยยิ้ม แล้วพูด: “ยังไงแคลร์ก็หางานใหม่ได้แน่นอน เรื่องนี้ก็ไม่ต้องเป็น

กังวล”

“อารีของเราเก่งขนาดนี้ ยังไงก็หางานใหม่ได้แน่นอน แล้วเกี่ยวอะไรกับแกด้วย แกก็ขับรถของแกไปดีๆ ถ้า ไม่ใช่ว่าศักดาขับรถไม่เป็น ฉันไม่ยอมให้แกแตะต้องรถ คันนี้แน่”ศศินัดดาพำพึม

ศักดามองไปที่ศศินัดดาอย่างระมัดระวัง เขาไม่กล้ามี ปัญญากับศศินัดดา ไม่ว่าศศินัดดาจะพูดอะไร เขาทำได้ เพียงแค่ยอมรับมันอย่างเงียบๆ

“ไร้ประโยชน์สิ้นดี ตอนนี้ฉันรู้สึกว่ารพีพงษ์ยังดีกว่าซะ คุณอีก คุณดูท่าทางของคุณสิ แม้แต่พูดยังไม่กล้าพูด เลย ไม่มีอะไรดีจริงๆ”ศศินัดดาจ้องมองไปศักดา

ศักดาถอนหายใจ คิดไม่ถึงว่าขนาดเขาไม่พูด ก็ถูกดุ

บริษัทของตระกูลฉัตรมงคล

ห้องประชุม ธายุกรสวมสูท และนั่งสบายๆ ที่เบาะ ตำแหน่ง เขาใช้เจลทาผม เพื่อให้ตัวเองดูดีมากขึ้น

เต็มไปด้วยผู้คนที่เป็นญาติของตระกูลฉัตรมงคล ตั้ง แต่ที่ธายุกรกลายเป็นประธาน บริษัทของตระกูล ฉัตรมงคล เขาได้เปลี่ยนผู้บริหารระดับสูงทั้งหมดใน บริษัทให้เป็นคนของตระกูลฉัตรมงคลทั้งหมด คนที่ได้ รับการจ้างมาก่อนนี้ถูกธายุกรไล่ออกไปทั้งหมด .

ด่า
เหตุที่ธายุกรทำแบบนี้ ก็เพื่อจะสะดวกในการโกงเงิน จากโครงการของบริษัท เมื่อก่อนนภทีป์เป็นผู้รับผิด ชอบ เรื่องแบบนี้เป็นที่ต้องห้าม

ดังนั้นทุกคนก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องแบบนี้ในที่เปิดเผย และพวกเขาทำอย่างลับๆ และโกงเงินได้เพียงเล็กน้อย

เท่านั้น

ที่สำคัญถ้าเปิดเผยออกมาแม้แต่นิดเดียว ก็จะถูกคน รายงาน แบบนี้ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่

ตอนนี้ธายุกรเองก็โกงเงินได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ที่ บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปร่วมลงทุนด้วย เขาเปลี่ยนผู้ บริหารระดับสูงทั้งหมดของบริษัทเป็นคนตระกูล ฉัตรมงคล เพื่อให้ทุกคนมีเสียงที่เป็นหนึ่งเดียวกัน หาก มีคนถามขึ้นมา พวกเขาจะสามารถตอบเป็นเอกฉันท์ได้ จะได้ไม่มีใครรบกวนแผนการโกงเงินครั้งใหญ่ของพวก เขาได้

ธายุกรก็จะไม่ผลาญเงินที่เขาโกงมาได้ เขาแค่เอาเงิน เล็กน้อยให้แก่ญาติของตระกูลฉัตรมงคล ซึ่งเพียงพอที่ จะทำให้พวกเขาพอใจอย่างมาก

แม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าดำเนินสิ่งนี้ต่อไป สำหรับบริษัท แต่ ก็ใช้เวลาไม่นาน คนในตระกูลฉัตรมงคลก็เอาแต่คิดถึง แต่ตัวเอง ใครจะมาสนใจความอยู่รอดของบริษัทของ ตระกูลฉัตรมงคล ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถโกงเงิน ได้ พวกเขาจะไม่ไปสนใจสิ่งเหล่านี้
ดังนั้นทุกคนจึงพอใจกับการแต่งตั้งธายุกรเป็น ประธานคนใหม่ และทุกคนเต็มใจที่จะให้ธายุกรดูแล กิจการบริษัทของตระกูลฉัตรมงคล

สำหรับนภทีป์ ภายใต้ข้อเสนอแนะของญาติทั้งหมด ของตระกูลเป็นเอกฉันท์ เขาจึงเลือกที่จะเกษียณ และ พักอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของเขา

นภที่ป์สูญเสียอำนาจที่มีอยู่พูดได้ว่าเป็นเรื่องที่น่า

สังเวช เมื่อก่อนผู้คนนับไม่ถ้วนจะเดินผ่านคฤหาสน์หลัง

นั้นของเขาทุกวัน และตอนนี้จะเห็นเงาคนยังยาก

“ธายุ มีคุณมาดูแลกิจการของบริษัท ถือเป็นความโชค ดีของบริษัทเราจริงๆ คุณดูซิคุณเพิ่งขึ้นรับตำแหน่ง ประธานได้ไม่นาน พวกเราทุกคนขับรถหรู และอาศัยอยู่ ในบ้านที่ดี”

“ใช่แล้ว อายุเป็นประธานของพวกเรา ไม่มีอะไรจะติ ได้ ถ้ารู้ว่าเขามีความสามารถขนาดนี้ พวกเราน่าจะให้ เขามารับช่วงดำรงตำแหน่งตั้งนานแล้ว”

“ธายุนำผลประโยชน์มาให้เราอย่างไม่รู้จบ ฉันเชื่อว่า ตราบใดที่มีธายุอยู่ เราจะสามารถรุ่งโรจน์ต่อไปได้ ตลอดไป ในปีหน้าเวลานี้ คาดว่าเราจะสามารถได้อยู่ใน คฤหาสน์”
ธายุกรรับฟังคำชมของทุกคน ใบหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความภาคภูมิใจ และรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้นำที่ยอด เยี่ยม เขาลืมไปเสียสนิทว่าเขาทำให้ทุกคนร่ำรวยจากการ

โกงเงินจากโครงการต่างๆของบริษัท ซึ่งไม่มีผลอะไรกับ

ความสามารถของเขาเลย

แต่ใครจะสนใจเรื่องนี้ ตราบใดที่เขาสามารถทำเงินได้ เขาก็จะได้รับความเคารพจากคนอื่นๆ เขาเป็นฮีโร่ของ ตระกูลฉัตรมงคล และมีความสุขกับการได้รับความ เคารพจากผู้อื่น

เขาเคยเป็นคู่แข่งกับอารียามาก่อน บางครั้งแม้แต่รพี พงษ์ยังเทียบไม่ได้ สิ่งนี้ทำให้เขาอยากพิสูจน์ตัวเอง มาก ตอนนี้อารียาออกจากบริษัทแล้ว และตอนนี้เขา สามารถพูดได้ว่ามั่งคั่งร่ำรวย เขาคิดว่าในที่สุดก็ได้ พิสูจน์ตัวเองแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นอารียาหรือเศษสวะอย่างรพีพงษ์ ก็เทียบ เขาไม่ได้

“ทุกคนก็อย่าชมผมมาก เรามีความรุ่งโรจน์แบบนี้ มัน ขึ้นอยู่กับการทำงานหนักของทุกคน ไม่ใช่คุณงามความ ดีของผมเอง แน่นอน ผมคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ก็ เพราะว่าอารียาออกจากบริษัท เธอและสามีเศษสวะ ของเธอออกไปแล้ว ความโชคร้ายของพวกเราก็จะหาย ไป และพัฒนาดีขึ้นมาเอง”ธายุกรกล่าวด้วยรอยยิ้ม
พวกเขาก็เห็นด้วยไปพร้อมๆกัน และแสดงออกมาว่า ธายุกรพูดถูก

“ใช้แล้ว ก่อนหน้านี้อารียาอยู่ที่บริษัทหยิ่งผยองมาก แต่ก็ไม่เห็นว่าหล่อนจะทำผลงานออกมาใหญ่ได้แบบนี้ ธายุก็คือดีต่อบริษัทอย่างแท้จริง”

“เมื่อคิดท่าทางของอารียาก่อนหน้านั้นฉันก็หงุดหงิด หล่อนคงคิดว่าถ้าบริษัทไม่มีหล่อน ก็จะไม่มีทางพัฒนา ได้ น่าขำสิ้นดี”

“หล่อนเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในบริษัท หล่อนอยู่ ในบริษัท ก็จะขัดขวางการพัฒนา บริษัท เราน่าจะไล่ ออกหล่อนออกไปตั้งนานแล้ว”

ธายุกรเมื่อเห็นทุกคนพูดถึงอารียา ก็รู้สึกภาคภูมิใจอยู่ ในใจ โดยคิดว่าในที่สุดเขาก็ได้เหยียบย่ำอารียา

ในขณะนี้ มีคนวิ่งเข้าไปในห้องประชุมอย่างเร่งรีบ

ธายุกรเห็นเขาตื่นตระหนก ก็พูดขึ้นทันทีว่า: “ตื่น ตระหนกอะไร ดูไม่เหมือนพนักงานบริษัทเลย ไม่ว่าจะ เรื่องอะไร ยังไงคุณก็ไม่ควรตื่นตระหนกขนาดนี้”

ชายคนนั้นหายใจเข้าลึกๆ และกล่าวว่า: “คนจาก บริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปมาบอกว่า ต้องการพบกับ อา…อารียาและพูดคุยเกี่ยวกับความร่วมลงทุนล่าสุดคนคนนั้นได้มาถึงบริษัทแล้ว”

ธายุกรเดิมคิดว่าตอนนี้ตัวเองเป็นคนที่ประสบความ สำเร็จ และไม่ควรตื่นตระหนกเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น แต่หลัง จากได้ยินคำพูดของคนคนนั้น ก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้

“คุณว่าอะไรนะ? คนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป ต้องการพบอารียา? คุณไปบอกเขาว่าอารียาไม่อยู่ ให้ คนอื่นไปคุยกับเขาเรื่องสถานการณ์ล่าสุด”ธายุกรพูด

ชายคนนั้นส่ายหัว แล้วพูด: “คนของบริษัทซันบับเบิล

กรุ๊ปยังบอกด้วยว่าอารียาเป็นคนที่ได้รับมอบหมายให้

ดูแลความลงทุนในครั้งนี้ถูกเขียนไว้ในสัญญา ดังนั้น

ต้องให้อารียามาคุยด้วยตัวเองเท่านั้น” ธายุกรรู้เรื่องสัญญานี้ เป็นเพราะสัญญาข้อนี้ ทำให้นภ ที่ป์ไม่กล้าเปลี่ยนอารียา

แต่คราวนี้อารียาออกไปแล้ว คือหล่อนขอลาออกเอง และไม่ได้บังคับให้หล่อนออกไป ดังนั้นธาตุกรจึงไม่ได้ คิดถึงเรื่องสัญญานี้

เมื่อเรื่องนี้ถูกพูดขึ้นมา เขาก็รู้สึกกังวลเล็กน้อยในใจ ถ้าบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ปต้องการทำให้เรื่องนี้มาเป็นข้อ ต่อรอง เขาก็ไม่สามารถแก้ปัญหาได้

ที่อารียาลาออก ถูกกดดันจากคนของตระกูล

ฉัตรมงคล
“พาฉันไปพบคนของบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป อารียา เป็นคนของลาออกเอง ไม่เกี่ยวกับพวกเรา ถ้าบริษัทซัน บับเบิล กรุ๊ปจะโทษ ก็โทษพวกเราไม่ได้”ธายุกรกล่าว และออกไปกับชายคนนั้น

หลายคนจากตระกูลฉัตรมงคลก็เดินติดตามออกไป เช่นกัน ท้ายที่สุดโครงการทำโกงเงินได้มากที่สุดของ พวกเขา ก็คือบริษัทซันบับเบิล กรุ๊ป หากโครงการนี้มี อะไรผิดพลาดเกิดขึ้น สำหรับพวกเขา มันจะเป็นการสูญ เสียครั้งใหญ่

ทุกคนมาที่ห้องรับรอง และเธียรวิชญ์ก็นั่งอยู่ที่นี่แล้ว

“ประธานเธียรวิชญ์ คิดไม่ถึงว่าท่านจะมาด้วยตัวเอง เลย เรื่องเล็กน้อยแค่นี้เอง ท่านให้คนที่บริษัทมาเองก็ได้ ครับ”ธายุกรเมื่อเห็นว่าเธียรวิชญ์มาด้วยตัวเอง ก็นึก แปลกใจ

เธียรวิชญ์ยิ้ม แล้วกล่าว: “เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย คนในบริษัทของผมและผมเองก็ไม่เจออารียามาตั้งนาน เธอเป็นคนรับผิดชอบโครงการนี้ ทำไมนานขนาดนี้ถึง ยังไม่แสดงตัวออกมา คุณว่าไหม ดังนั้นวันนี้ผมก็เลยมา ดู ช่วงนี้เธอมัวแต่ยุ่งกับอะไร”

ธายุกรสีหน้าเต็มไปด้วยความอึดอัด แล้ว พูด: “ประธานเธียรวิชญ์ คือเรื่องมันเป็นแบบนี้ ก่อนหน้า นี้ไม่นาน อารียารู้สึกว่าตัวเองไม่มีความสามารถพอ จึง ขอลาออกเอง เรื่องนี้ท่านสามารถถามเธอเองได้ บริษัทของเราจะหาคนที่ดีกว่ามาแทนที่เธออย่างแน่นอน”

เดิมทีเธียรวิชญ์ยังคงยิ้มอยู่ หลังจากได้ยินคำพูดของ ธายุกร สีหน้าก็เย็นชาทันที

เขารู้ดีว่าอารียาไม่ได้อยู่ที่บริษัทของตระกูล ฉัตรมงคลแล้ว วันนี้ที่เขามา ก็มาตามความประสงค์ของ รพีพงษ์ รพีพงษ์ก็กลับมาจากอำเภอหยกแล้ว ก็ถึงเวลา ที่พวกเขาจะคิดวิธีหาทางซื้อกิจการบริษัทของตระกูล ฉัตรมงคล

“สัญญาก่อนหน้านั้นของพวกเราก็เขียนไว้อย่าง ชัดเจน โครงการนี้ยังไงก็ต้องเป็นอารียารับผิดชอบ ผม ไม่สนว่าเธอทำไมถึงลาออกจากบริษัทพวกคุณ ตอนนี้ มาเปลี่ยนคนที่รับผิดชอบ พวกคุณก็ผิดสัญญา ถ้าเรื่อง นี้จัดการไม่ได้ พวกคุณก็รอทีมทนายความของบริษัท เราได้เลย”เธียรวิชญ์กล่าวอย่างเย็นชา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท