พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 237 ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน

บทที่ 237 ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน

บทที่ 237 ฉันคิดถึงพี่เหลือเกิน

เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้ง รพีพงษ์รู้สึกว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ บนพื้นเย็น ซึ่งล้อมรอบไปด้วยเสียงของกลุ่มคนหนึ่ง เมื่อมี คนเดินผ่านเขาก็จะรู้สึกว่าเขาขวางทาง ก็จะเตะขาของ เขาออก

รพีพงษ์ลืมตาขึ้น ก็พบว่าตัวเองอยู่ในห้องมืดและชื้น ห้องนี้เหมือนกับคุก มีกำแพงสามด้าน และรั้วเหล็กอีกด้าน หนึ่ง

คนรอบตัวเขาดูเลอะเทอะเล็กน้อย คนเหล่านี้ส่วนใหญ่ มีหน้าตาโหด เมื่อมองแวบเดียว ก็รู้ว่าที่นี่ไม่มีคนดีเลย

ที่นี่คือคุกลับกักขังศัตรูของหอการค้าสมน. ผู้คนที่ รุกรานหอการค้าสมน. หลังจากถูกจับมาแล้ว จะถูกขังที่นี่ เป็นระยะเวลาหนึ่ง จะไม่มีอิสรภาพ หอการค้าสมุน. จะทำ ยังไงกับคนพวกนี้ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาเอง

หลายปีผ่านไป มีคนจำนวนนับไม่ถ้วนที่มีปัญหากับหอ การค้าสมน. และมีเพียงส่วนเล็กๆเท่านั้นที่ถูกขังอยู่ที่นี่ มี หลายคน หายไปจากโลกนี้นานแล้ว

พวกที่สามารถอยู่ที่นี่ ทำผิดเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หอการ ค้าสมน.ขังพวกเขาไว้ที่นี่ ซึ่งถือเป็นการลงโทษสำหรับพวก เขา และถ้ายังมีพวกที่มีมูลค่าผลประโยชน์ ถึงจะถูกปล่อย ออกไป
เมื่อคืนก่อน รพีพงษ์ติดกับดักของวีธรา หลังจากสลบไป แล้ว ก็ถูกส่งมอบให้กับหอการค้าสมน.

ตามหลักคือความผิดของรพีพงษ์คือฆ่าคุณหนูใหญ่ของ หอการค้าสมน. ดังนั้นหลังจากที่คนของหอการค้าสมน.จับ ตัวรพีพงษ์ได้ ก็คงไม่ปล่อยเขาไปอย่างง่ายๆแน่

แต่ว่าหลายวันมานี้ประธานของหอการค้าสมน. ไม่ได้อยู่ ที่เกียวโต คนของหอการค้าสมน.ก็ไม่มีใครกล้าที่จะกำจัด เขา ดังนั้นเขาจึงถูกคุมขังไว้ในคุกแห่งนี้ รอให้ประธาน กลับมาก่อน ค่อยมาลงมือจัดการกับรพีพงษ์เอง

หลังจากที่รพีพงษ์ลืมตาขึ้น เขาก็ยืนขึ้นจากพื้น เขารู้สึก ว่าตัวเองยังคงมีความรู้สึกที่ไร้เรี่ยวแรงอยู่ ดูเหมือนว่ายาที่ เขาถูกจักรพันธ์วางนั้นไม่เหมือนปกติทั่วไปจริงๆ รพีพงษ์ รู้สึกว่าในขณะนี้เขาสามารถใช้เรี่ยวแรงได้เพียงเล็กน้อย เท่านั้น

ก็ไม่รู้ว่าฤทธิ์ยานี้อยู่ได้นานแค่ไหน

เมื่อผู้คนรอบข้างเห็นรพีพงษ์ฟื้นขึ้นมา พวกเขาก็ล้อม รอบเข้ามาทันที จ้องมองไปที่รพีพงษ์อย่างดุร้าย

พวกเขาถูกขังอยู่ในคุกแห่งนี้ และไม่มีอะไรทำทั้งวัน สิ่ง ที่มีความสุขที่สุด คือการกลั่นแกล้งผู้มาใหม่

รพีพงษ์ดูผอมและอ่อนแอ เนื่องจากฤทธิ์ยา ดูไปแล้วคน ทั้งคนเหมือนอ่อนแอมาก คนพวกนี้คิดว่ารพีพงษ์คือไก่อ่อน ดังนั้นรอรพีพงษ์ฟื้นขึ้นมา จะทำลายเขา
“ในที่สุดไอ้ไก่อ่อนก็ฟื้นขึ้นมา กรอมาตั้งนานแล้ว นานแค่ ไหนที่ไม่มีคนใหม่เข้ามาที่นี่ ครั้งที่แล้วคนที่ถูกเราทุบตีสอง ครั้ง ก็ตาย หวังว่าคนนี้จะทนการทุบตีได้ ให้พวกเราได้ สนุกกันสองสามวันเถอะ”

“ดูเหมือนจะบอบบางอ่อนแอ เกรงว่าทุบตีครั้งเดียวก็ตาย เดี๋ยวเราลงมือคงต้องเบามือกันหน่อย อย่าชกหมัดเดียวก็ ทำให้เขาตายล่ะ”

“เชี่ย ชกหมัดเดียวก็ตาย ทุกวันนี้พวกเราก็มีของกินกัน แค่นิดเดียว เพิ่มมาอีกหนึ่งปาก ก็ยังแบ่งของกินออกไป หนึ่งคำ ชกให้ตายก็ดี”

รพีพงษ์จ้องมองคนเหล่านี้ แววตานิ่งสงบ แม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้เรี่ยวแรงได้เล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้น ต้องการที่จะ จัดการกับคนพวกนี้ที่นี่ก็เกินพอแล้ว

จากรูปลักษณ์ของคนพวกนี้ จะเห็นได้ว่าคนพวกนี้ไม่มี อะไรพิเศษ และรพีพงษ์ไม่จำเป็นต้องกลัว

“ที่นี่คือที่ไหน?”รพีพงษ์จ้องมองไปที่คนเหล่านั้นและ

ถาม

“แกถูกจับตัวมา ยังไม่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหนอีกเหรอ ที่นี่คือคุก ของหอการค้าสมน. เอาไว้ขังคนที่ชอบหาเรื่องหอการค้า สมน.โดยเฉพาะ ไอ้น้อง แกทำไมถึงเข้ามาได้? หรือว่าไป ลวนลามป้าคนกวาดพื้นของหอการค้าสมุน. ดังนั้นจึงถูก ขังเข้ามา?”
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าของเขากล่าวด้วยรอยยิ้ม และเมื่อคนรอบข้างได้ยินคำพูดของเขา ก็หัวเราะเสียงดัง มาทันที

“ระวังปากเน่าๆของแกหน่อย ไม่อย่างนั้นฉันจะทำให้แก หัวเราะไม่ออกทั้งชาติเลย”รพีพงษ์กล่าวอย่างเย็นชา

เมื่อชายคนนั้นได้ยินคำพูดของรพีพงษ์ ก็จ้องมองมาที่ เขาทันที และด่า: “เย็*แมร่ง กล้าอวดเก่งกับกู แกรู้หรือไม่ ว่าเมื่อทำอะไรมาก่อน? กูตัดคนของหอการค้าสมุน.ถึง ได้เข้ามา แกเองก็อยากจะลิ้มลองรสชาติของการถูกตัด ด้วยใช่มั้ย?”

ผู้คนรอบข้างต่างก็จับจ้องไปที่รพีพงษ์ ผู้มาใหม่กล้าที่จะ ตะโกนใส่พวกเขาแบบนี้ และพวกเขาก็ต้องทำให้ผู้ที่มา ใหม่คนนี้มีสีสันขึ้นมาหน่อย

“รุมมันพร้อมกัน ทำให้ผู้ที่มาใหม่คนนี้รู้กฎของที่นี่”

“แมร่ง ตีมันให้ตายเลย ก็เป็นแค่ไอ้ไก่อ่อนยังกล้ามาอวด เก่ง ดูเหมือนตอนนี้เขาจะยังไม่รู้ว่าตัวเองอยู่ใน สถานการณ์ไหน”

“ทุบตีมันก่อน จากนั้นให้เขาไปเลียห้องน้ำให้สะอาด ดูสิ มันยังจะกล้าอวดเก่งอีกหรือเปล่า”

ไอ้หน้าบากและคนกลุ่มหนึ่งที่เห็นความวุ่นวายแล้วไม่ กังวลต่างก็พุ่งไปหารพีพงษ์ จะไปจับตัวรพีพงษ์ไว้
รพีพงษ์ตะคอกอย่างเย็นชา และไม่ได้ที่จะเกรงใจคน พวกนี้ อยู่ในสถานที่แบบนี้ มีเพียงหมัดเท่านั้นที่เป็นคำพูด ที่มีเหตุผล ปล่อยให้พวกเขาลิ้นลองความทรมานสักหน่อย และพวกเขาก็ไม่กล้าจะหาเรื่องอีกแล้ว

“หีนี้ แขนขาผอมๆแบบนี้ ฉันชกหมัดเดียวก็….”

ไอ้หน้าบากยังอยากจะพูดจาโอ้อวด น่าเสียดายที่คำพูด ยังพูดไม่หมด ก็ถูกรพีพงษ์ชกไปหนึ่งหมัดตรงบนหน้า ฟัน ทั้งปากของเขาก็หลุดออกมาหมด คนทั้งคนก็หมุนรอบตัว อยู่ในอากาศสามร้อยหกสิบองศา แล้วก็ตกลงไปที่พื้น อย่างรุนแรง

ทุกคนตกตะลึง และพุ่งเข้าหาตะครุบจับรพีพงษ์ แม้ว่า รพีพงษ์จะไม่สามารถใช้เรี่ยวแรงได้จนถึงขีดจำกัด แต่เขา ก็ยังมีเล่ห์เหลี่ยม และทักษะบางอย่างด้วย เหล่านี้ก็กรีด ร้องขึ้นมาครั้งแล้วครั้งเล่า

ในไม่ช้า ผู้คนที่ต้องการจะลงมือจัดการกับรพีพงษ์ก็ล้ม ลงกับพื้น ส่วนคนที่เหลือทั้งหมดก้าวถอยหลังสองก้าวด้วย ความกลัว ไม่กล้าที่จะก้าวไปข้างหน้ารนาหาที่ตาย

“ยังมีใครอยากจะเป็นเหมือนพวกเขาอีก?”รพีพงษ์กล่าว อย่างเย็นชา

ในเวลานี้ลมหายใจของเขาก็อ่อนลงเล็กน้อย และไม่ สามารถออกแรงได้ ทำให้ความทนทานของเขาแย่ลงเล็ก น้อย เพียงแค่จัดการกับคนพวกนี้ ทำให้รพีพงษ์รู้สึกว่าใช้แรงไปมาก

ถ้าหากคนอื่นๆที่เหลืออยู่ในคุกนี้จะลงมือกับ เขาจะ จัดการกับคนพวกนี้ก็ไม่ใช่ปัญหา แต่ร่างกายของเขาก็จะ ล้มเหลวกะทันหัน

กลุ่มคนจ้องไปที่รพีพงษ์อย่างระมัดระวัง ชายร่างผอมๆ สูงๆคนหนึ่งก็พูดว่า: “แก.. แกอย่าได้ใจไปหน่อยเลย บอกแกให้นะ ว่าลูกพี่ของเรานั้นสุดยอดมา ในตอนนั้นเป็น เพราะเขาทำร้ายประธานหอการค้าสมน. จึงถูกคุมขัง ความแข็งแกร่งของเขาเป็นสิ่งที่แกคาดไม่ถึง พวกเรา ทั้งหมดที่อยู่ที่นี่ เป็นคนขอลูกพี่ แกทำร้ายพี่น้องของเรา มากมายขนาดนี้ ลูกพี่ของเราจะไม่มีวันปล่อยแกไปแน่!”

รพีพงษ์จ้องมองเขาอย่างเย็นชา และพูดว่า: “อย่างนั้นก็ เรียกลูกพี่ของพวกแกมาหาฉัน ฉันอยากเห็นว่า เขาจะทำ อะไรกับฉันได้บ้าง”

ชายร่างผอมสูงรีบวิ่งไปที่มุมคุกทันที และทุกคนก็หลีก ทางให้เขาอย่างรวดเร็ว ทุกคนจ้องมองไปที่ด้วยความยินดี ในความโชคร้ายของรพีพงษ์

“ลูกพี่ไม่ได้ออกแรงมือมาตั้งนาน คราวนี้ไอ้ไก่อ่อนนี้ก็ ถือว่ามีฝีมือไม่เบา ลูกพี่ต้องสนใจเขาอย่างแน่นอน ถึงเวลา ไอ้ไก่อ่อนนี้แย่แน่ๆ”

“ตั้งแต่ฉันมาอยู่ที่นี่ เคยเห็นลูกพี่ออกแรงมือไปแค่สอง ครั้ง สองครั้งนั้น สุดท้ายคู่ต่อสู้ของเขาถูกแบกออกไป แม้แต่คนของหอการค้าสมน.เจอเขา ก็ไม่กล้าเข้าใกล้ง่ายๆ เลย”
“ลูกพี่แค่ออกแรงมือ ไอ้เด็กนี่ก็จะไม่สามารถอวดเก่งได้ อีกแล้ว ต่อให้ไอ้เด็กนี่จะสู้ได้แล้วยังไง ลูกพี่เราก็สามารถ จัดการเขาได้ในหมัดเดียว”

รพีพงษ์ฟังคนพวกนี้พูดถึงคนที่เรียกว่าลูกพี่ และในส่วน ลึกของใจก็ไม่แน่ใจ ถ้าหากอยู่ในที่สภาพปกติ รพีพงษ์จะ ไม่กลัวสิ่งใด แต่ตอนนี้เรี่ยวแรงในร่างกายยังไม่ฟื้นตัว ถ้า หากเขาเจอกับคนที่สามารถสู้ได้จริงๆ ผลจะเป็นอย่างไร คาดเดาไม่ได้จริงๆ

เขาเหลือบมองไปยังสถานที่ที่ชายร่างผอมสูงวิ่งผ่านไป ตรงหัวมุม ชายคนหนึ่งผมแสกกลาง และเสื้อผ้าซอมซ่อ ดู ไปแล้วเหมือนกับผู้ชายที่จรจัดนอนกรนอยู่ที่นั่น

หลังจากที่ชายร่างผอมสูงวิ่งไป ก็ใช้มือสะกิดชายคนนั้น เบาๆ แล้วพูดเบาๆ: “ลูกพี่ เรามีคนเข้ามาใหม่ที่นี่ อวดเก่ง มาก และก็ทุบตีคนของพวกเรา มันยังท้าทายลูกพี่ด้วย พี่ ว่าน่าจะออกแรงมือสั่งสอนเขาหน่อยมั้ย?”

ชายคนนั้นหยุดกรนทันที จากนั้นยกมือขึ้นตบหน้าชาย รูปร่างผอมสูง และก่นด่าว่า: “เย็*แมร่ง ใครกล้ารบกวน การนอนของกู ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่มั้ย”

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นนั่ง ชายร่างผอมสูงชี้ไปที่ รพีพงษ์ ด้วยใบหน้าที่ไม่พอใจ และพูดว่า: “คือมัน ลูกพี่ ไม่เกี่ยวกับ ผม ถ้าพี่จะสั่งสอน ก็น่าจะไปสั่งสอนเขา”
พี่ใหญ่หันหน้ามองไปที่รพีพงษ์ ใบหน้าของเขาเต็มไป ด้วยฝุ่น รพีพงษ์ก็เลยมองไม่ออกว่าหน้าตาเขาเป็นยังไง

หลังจากที่พี่ใหญ่คนนั้นมองเห็นรพีพงษ์ ก็ลุกขึ้นยืนทันที แล้วรีบเข้าไปหารพีพงษ์

เมื่อทุกคนมองไปที่ท่าทางของพี่ใหญ่ ต่างยินดีกับความ โชคร้ายของรพีพงษ์ โดยคิดว่าลูกพี่ของพวกเขาจะต้อง จัดการรพีพงษ์อย่างแน่นอน “ลูกพี่ไม่เคยมีท่าทางแบบนี้มาก่อน ดูเหมือนว่าเขาจะ

โกรธไอ้เด็กนี้มาก ตอนนี้ไอ้เด็กนี้จบแน่”

“พวกแกดูสายตาของลูกพี่ มันเหมือนเห็นเหยื่อเลย เป็น สิ่งที่ลูกพี่ชอบมากที่สุด ก็คือสั่งสอนคนที่คิดว่าตัวเอง %3D แข็งแกร่ง ไอ้เด็กคนนี้เป็นผู้ท้าชิงที่ดีที่สุด”

“แมร่งเอ้ย ให้ลูกพี่ทุบตีเขาตายไปเลยก็ดี ฟันที่เต็มปาก ของฉัน เจ็บปวดมาก”ไอ้หน้าบากลุกขึ้นจากพื้น แล้วพูด อย่างเบลอๆ

รพีพงษ์จ้องไปที่ลูกพี่คนนี้ด้วยความประหม่าเล็กน้อย

เขาสามารถสัมผัสถึงรัศมีที่ฝีมือที่ยอดเยี่ยมจากลูกพี่คนนี้

ได้ และดูเหมือนว่าจะเป็นลูกพี่ที่มีฝีมือยอดเยี่ยม

ผู้ๆ อย่างน้อยเขาก็เป็นคนที่ฝีมือยอดเยี่ยมที่ตอนนี้ไม่ สามารถเอาชนะได้ในสำหรับสถานการณ์เช่นนี้

หลังจากที่ลูกพี่เดินไปข้างหน้ารพีพงษ์ ก็หยุด จากนั้นมือ สั่นทั้งสองของเขายกขึ้นมา พยายามจับมือของรพีพงษ์

สีหน้ารพีพงษ์เต็มไปด้วยความสงสัย ไม่ร้ว่าลกพี่คนนี้จะมาแนวไหน

ทุกคนในคุกต่างก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยว่า นี่ คงจะเป็นวิธีใหม่ที่พี่ใหญ่ของพวกเขาคิดขึ้นมา

“นี่คงเป็นวิธีใหม่ของพี่ใหญ่ ค่อยดูเถอะ ไอ้เด็กนี่ถูกพี่ ใหญ่สั่งสอนให้เป็นผู้เป็นคนแน่”คนคนหนึ่งตะโกน

ในขณะนี้ ลูกพี่คนนั้นจู่ๆก็จับมือของรพีพงษ์ สีหน้าเต็ม ไปด้วยความดีใจแล้วเรียก: “พี่รพี ใช่พี่หรือเปล่า ฉันคิดถึง พี่เหลือเกิน”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท