พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่242 กล้าพนันกันไหม

บทที่242 กล้าพนันกันไหม

บทที่242 กล้าพนันกันไหม

ตอนนี้ในคฤหาสน์ของใจกลางอำเภอนกฟ้า คนที่มีชื่อ เสียงโด่งดังในใจของชรินทร์ทิพย์กำลังต้มยาให้รพีพงษ์ เมื่อกี้ รฟ์พงษ์บอกว่าจะออกไปกับจารุณี เขากลัวว่ารฟีพงษ์ตอน กลางวันจะไม่กลับมา จึงให้รพีพงษ์ดื่มยาไปก่อน

ประดิพัทธ์ในใจชื่นขมรที่พงษ์เป็นอย่างมากเขาคิดว่า ระยะเวลาการรักษาตนเองถือว่าดีแล้ว พอมาเทียบกับรพีพงษ์ เขาคิดว่าเขาเป็นแค่ขยะ

ที่แท้หมอบอกว่ารพิพงษ์ยังไงก็ต้องรักษาครึ่งเดือน และ ต้องอีกหนึ่งสัปดาห์ถึงจะลงเตียงได้

แต่รพิพงษ์ใช้เวลาแค่หนึ่งวัน ก็สามารถลงเตียงขยับ เคลื่อนไหวแล้ว ความสามารถพิเศษแบบนี้ ทำให้ประดิพุทธิ์ อิจฉามาก

หลังจากต้มยาให้รพีพงษ์เสร็จ ประดิพุทธิ์รีบถือไปให้รพี พงษ์ดื่ม แล้วให้เบอร์โทรศัพท์กับรพีพงษ์ พี่รพี นี่เป็นเบอร์ โทรของเลขาผม เดียวผมต้องไปทำงานในบริษัท ก็ไม่ไปเป็น เพื่อนแล้ว ถ้ามีอะไรก็โทรหาเลขาผม เขาจะจัดการทุกอย่าง ให้ ”

รพีพงษ์ไม่ได้รับกระดาษนั่น จารุณีได้หยิบไป

” พุดจำเรื่องแบบนี้คราวหน้าให้ฉันเถอะ ฉันเป็นพี่ใหญ่ รพีพงษ์ก็ต้องฟังฉัน ได้ยินไหม ” ประดิพุทธิ์ไม่รู้จะทำอะไรกับจารุณี ตอนนี้เขาก็รู้สึกไม่

น่าพาเธอกลับมา นี่เหมือนพาเจ้านายกลับมาจริงๆ

รพีพงษ์ก็เหมือนกัน ตอนนี้เขาเชื่อฟังจารุณีทุกอย่าง ถ้า เขาไม่ฟัง จารุณีก็จะพูดว่ารพีพงษ์ไม่รักเค้าแล้ว ประโยคนี้ทำให้รพีพงษ์จะเป็นบ้า

หลังเตรียมตัวเสร็จ รพีพงษ์ก็ออกไปกับจารุณี ประดิพ ทธิ์ได้สั่งรถไปส่งพวกเขาที่ห้างสรรพโกลเด้นฟาเวอร์

S ได้ยินว่าในห้างสรรพโกลเด้นฟาเวอร์มีการแข่งรถระดับ มืออาชีพ นายพาฉันไปเล่นได้ไหม” จารุณีขอร้อง

” ไม่ได้ ตอนนี้ผมยังไม่หายเป็นปกติเล่นกีฬาที่มีความ รุนแรงไม่ได้ รพีพงษ์ปฏิเสธ

” ไม่ต้องมาทำแบบนี้ที่นี่ ฉันว่านายไม่เห็นมีอะไร ก็แค่ขับ รถเองไม่แค่นี้ก็ไม่กล้าหรือ คนขี้ขลาดกลัว นายไม่รักฉัน แล้ว” จารุณีโกรธ

รพิพงษ์ไม่รู้จะยิ้มหรือร้องไ องไห้ดี รีบพูดว่า :” ผมหาคุณไป ได้หรือยัง คุณเห็นผมตอนนี้ยังหายไม่ปกติแล้วพาคุณมาขับ รถ ต่อไปอย่าพูดประโยคนั้นได้ไหม ผมกลัวว่าคนอื่นเขาจะ เข้าใจผิด ”

ได้สิ นายพาฉันไปแข่งรถ ฉันก็จะไม่พูดประโยคนั้น 1 วัน จารุณีพูดอย่างดีใจ

รพีพงษ์ไม่คิดว่า เขาพาจารุณีไปแข่งรถด้วยร่างกายที่ไม่

พร้อม ที่แลกได้มาก็มีแต่ความสงบในระยะเวลา 1 วัน ขาดทุน

จริงๆ

หลังจากที่ได้ดื่มยาเมื่อกี้แล้ว รพีพงษ์รู้สึกว่าสภาพ ร่างกายของเขาในตอนนี้ ไปแข่งรถไม่มีปัญหาแน่นอน แต่สิ่ง ที่ทำให้เขาคิดไม่ถึงคือเขายังรู้สึกเมื่อยล้า

นี่ก็หมายความว่า ถึงบัตรแผลบนร่างกายเขาจะหาย แต่ กำลังของเขายังจะสามารถออกแรงได้แค่ครึ่งนึงของปกติ

รพีพงษ์ไม่รู้ว่าโยษิตาไม่ใช้ยาอะไร แค่นิดนึงก็ทำให้เขา ปรับสภาพนานขนาดนั้น
ตอนนี้อาจจะมีแค่ชุติเทพที่จะช่วยเขารักษาได้ แต่ขุติ เทพอยู่เมืองริเวอร์ รพีพงษ์ไม่สามารถให้เขามาได้มีแต่ให้ ประดิพุทธิ์หาหมอที่มีความสามารถหน่อย มาดูสภาพของเขา ว่าจะสามารถรักษาหายได้ไหม

ไม่นานนักก็ถึงห้างสรรพโกลเด้นฟาเวอร์ รฟีพงษ์ลงจาก รถกับจารุณี จารุณีเดินเข้าไปอย่างดีใจ และเดินตรงไปทาง สนามแข่งรถ

รพีพงษ์เห็นจารุณีเหมือนจะดีใจมาก หน้าของเขาก็มีรอย ยิ้มขึ้นมาด้วย หญิงสาวคนนี้ยังชอบเกมแบบนี้ด้วยหรือ

พูดถึงแข่งรถ ในใจของรพีพงษ์ก็คิดถึงอยู่ เมื่อก่อน ตระกูลฉัตรมงคลเคยมีสนามแข่งรถ ตัวของรพีพงษ์สามารถ เรียกได้ว่าเป็นแขกประจำที่นั่น สถิติที่เขาสร้างแม้กระทั่งตอน นี้ก็ไม่มีใครทำลาย

ตอนนั้นเขาไปแข่งรถ มักจะเป็นช่วงที่เจตดิลกสอนพวก เขามวยจีน ดังนั้นเจตดิลกจึงคิดว่ารพีพงษ์เป็นคนสอนไม่รู้ เรื่อง ในมุมมองของเจตดิลก ถึงรพีพงษ์จะขับรถเร็วขนาดไหน ก็ไม่มีด้านดีต่อกำลังของตนเอง

ขับรถซิ่ง ก็เป็นฉลากของลูกหลานเศรษฐี ดังนั้นถึงฝีมือ การขับรถจะมืออาชีพขนาดไหน แต่ในตระกูลฉัตรมงคล ตระกูลใหญ่แบบนี้ ก็ไม่ได้รับการยอมรับ

และแน่นอน การแข่งรถเป็นแค่งานอดิเรกการผ่อนคลาย

ของรพีพงษ์ เขาไม่เคยคิดว่าการมีฝีมือแข่งรถระดับมีอาชีพ

จะเป็นความสามารถพิเศษอะไร * เมื่อกี้นายบอกว่าจะพาฉันไปแข่งรถ แต่ฉันยังไม่รู้ว่า นายแข่งรถเป็นหรือเปล่า พอถึงเวลาแล้วอย่าอวดเก่งนะ ขับ ไม่เป็นก็ไม่ต้องขับ ” จารุณีหันไปพูด

รพีพงษ์ยิ้มแล้วพูดว่า ” ไว้ใจผมเถอะ สถิติเมื่อก่อนของผมยังไม่มีใครทำลายได้” “ี้โม้อีกแล้ว ฉันไม่เชื่อแน่นอน ” จารุณีกล่าว

ถึงเธอจะขับรถไม่เป็น แต่เมื่อก่อนก็มีคนเคยพาเธอลอง เธอรู้สึกว่าทั้งตื่นเต้นทั้งสนุก จึงอยากขับเองบ้าง แต่คุณฟอ ของเธอคิดว่าการแข่งรถอันตราย ห้ามให้เธอเรียน เธอก็มีแต่ ตอนที่คนอื่นแข่งรถก็แอบไปด้วย เพื่อประสบความตื่นเต้น แบบนี้อีก

ตอนนี้อยู่ด้านนอก ไม่มีใครมาสนใจเธอ ดังนั้นเมื่อออก บ้าน สิ่งที่เธอคิดได้เรื่องแรกก็คือการแข่งรถ ให้รพีพงษ์พาเธอ มาที่นี่

ตอนที่ 2 คนกำลังเดินไปทางสนามแข่งรถ ลิปตาและ ชรินทร์ทิพย์2 คแก็เดินไปทางนั้น ” วันนี้จะพาคนไปประสบความตื่นเต้นและรวดเร็ว ทั้งนั้น เป็นสนามแข่งรถระดับมืออาชีพที่โด่งดังในอำเภอนกฟ้า ผม

เป็นคนดังที่นี่ ที่ 1 ของลำดับการแข่งรถในสนามนี้ก็คือผม ลิ

ปตาพูดกับชรินทร์ทิพย์อย่างภูมิใจ ชรินทร์ทิพย์รีบมองลิปตาอย่างนับถือลิปตา สุดยอด จังเลย ได้หาสามีอย่างนายได้ ฉันโชคดีจริๆ”

ลิปตากอดไหล่ของ กระซิบข้างหูของเธอว่า :” พวกเราไป ประสบความเร็วก่อน เดี่ยวถ้ามีโอกาสค่อยไปตื่นเต้นใน ห้องน้ำที่นี่ เป็นไง ?

ชรินทร์ทิพย์อายมาก แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ พยักหน้าใส่ลิป ตา

ตอนนี้ ชรินทร์ทิพย์ได้เห็นจารุณีและรพีพงษ์ที่เดินอยู่ ด้านหน้า เธออึ่งหลังจากเห็นรพีพงษ์ ตอนนี้รพีพงษ์หันไปมอง ด้านข้าง ชรินทร์ทิพย์แน่ใจว่าคนนี้คือรพีพงษ์
คุณพี่ ขา พี่ยังจำได้หรือเปล่าว่าคนที่ชื่อรพีพงษ์คน นั่น ?” ชรินทร์ทิพย์กาม

“จำได้สิ ก็คนที่แต่งเข้าบ้านคุณไม่ใช่หรือผู้ชายจะเป็น แบบนี้ได้อย่างไร คุณพูดถึงเขาทำไม ?” ลิปตาซักถาม

” ผู้ชายด้านหน้าคนนั้นอาจจะเป็นเขา “ชรินทร์ทิพย์ตอบ

ลิปตามองได้ด้านหน้า :” คนนั้นหรือเขามาที่นี่ทำไม ?”

“ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ตอนนี้เขาน่าจะไปสนามแข่ง คุณพี่ ครอบครัวทางโน้นของฉันได้อนาถขนาดนั้น ก็เป็นเพราะรพี พงษ์ วันนี้เขาปรากฏทีนี่ต้องช่วยหนูแก้แค้นให้ได้นะคะ ชรินทร์ทิพย์เศร้ามากๆ

ลิปตาทองชรินทร์ทิพย์ : ไว้ใจเถอะ ผมจะทำให้คุณ เสียใจได้อย่างไร ก็เป็นแค่คนแบบนั้น เขาได้มาที่อำเภอนกฟ้า งั้นก็รอโชคร้ายเถอะ ในอำเภอนกฟ้า ผมยังมีอำนาจอยู่บ้าง พวกเราจะไปดูพวกเขาจะไปแข่งรถหรือเปล่าไม่ใช่หรือ ถ้าใช่ ผมจะทำให้อับอายขายขี้หน้าในสนามแข่งรถ

ชรินทร์ทิพย์พยักหน้าอย่างดีใจ เดินตามลิปตาไปทาง สนามแข่งรถ

หลังจากที่จารุณีและรพีพงษ์ได้มาถึงสนามแข่งรถแล้ว เห็นรถแข่งที่ซึ่งไปบนทางแห่ง จารุณีตื่นเต้นทันที

” รพีพงษ์ นายดูเร็ว ตรงนั้นมีลำดับด้วย คนที่ชื่อลิปตา

เป็นลำดับที่ 1 สุดยอดจริงๆ “จารุณีขี้จอใหญ่ที่อยู่ไม่ไกล

ข้างบนนั้นนอกจากชื่อยังมีรูปถ่ายด้วย ” ก็แค่น้ำจิ้มน้ำจิ้ม ถ้าผมขับรอบนึง ก็สามารถทำลาย สถิตินี้ได้รพีพงษ์ยิ้ม

” โอ้โหจริงหรอ ครั้งแรกนะที่ฉันได้ยินแบบนี้ว่า คนไร้ ค่าที่ดังขณะนี้ สามารถทำลายสถิติของฉัน มีเสียงดังขึ้นจากด้านหลัง

จารุณีและรพีพงษ์พันไปมอง ได้อึ้งหลังจากที่เห็นชรินทร์ ทิพย์ที่อยู่ข้างลิปตา

” รพีพงษ์ ไม่กลัวขายขี้หน้าจริงๆ กล้าโม้ถึงที่นี่ นายคิด ว่าอำเภอนกฟ้าไม่มีใครรู้ฉายาของนายหรือ ?” ซรินทร์ทิพย์ ดูถูกฟัพงษ์มาก

คุณทำไมถึงอยู่นี่ได้2″รพีพงษ์ถาม

” ต้องเป็นฉันสิที่ถาม ไม่อยู่เมืองริเวอร์ มาหาสาวที่นี ไม่ กลัวว่าอารียาจะหักขานายหรือ?” ชรินทร์ทิพย์ขำ

สีหน้าของรพิพงษ์เปลี่ยนไป :” พูดดีๆสิ !

* ไม่คิดว่าเขายังจะอวดขนาดนี้ ตอนนี้ซรินทร์ทิพย์เป็น แฟนกู แกไปสืบดูสิว่าในอำเภอนกฟ้ามีใครไม่รู้จักลิปตา เมื่อกี้ บอกว่าจะทำลายสถิติของกูไม่ใช่ งั้นกล้าแข่งกับกูไหม แค่ การแข่งรถ กูก็สามารถให้แกแพ้ได้”

” พี่คะ เขาก็จะอวดเท่ห์หน้าผู้หญิงเฉยๆ เขาจะเทียบกับ พี่ได้อย่างไร ชรินทร์ทิพย์ชม

” ได้ ถ้านายอยากแข่ง พอดีเลยจารุณีก็อยากลองดูว่า ความรู้สึกของการทำลายสถิติเป็นอย่างไร ” รพีพงษ์ยิ้ม เขา ไม่ชอบชรินทร์ทิพย์ ถึงอยู่ด้านนอก ชรินทร์ทิพย์ก็ดูถูกเขา ขนาดนี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องให้เกียรติ

ชรินทร์ทิพย์เห็นรพีพงษ์ตกลง รีบหัวเราะทันที : แกอยู่ นอกพื้นที่แล้ว ก็กล้าขึ้นมาเลย ถึงคนอื่นจะไม่รู้สภาพนาย ฉัน ยังไม่รู้หรือ ฉันยังรู้ ก็แค่นาย อยากจะทำลายสถิติของสามีฉัน เป็นแค่ความฝัน”

รพีพงษ์พูดอย่างเย็นชาว่า :” ถ้ามั่นใจขนาดนี้ งั้นก็เดิมพัน กันไหม ถ้าผมชนะ คุณก็เห่าเหมือนสุนัขต่อหน้าทุกคน ถ้าคุณชนะ ผมก็ทา กล้าไหม?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท