พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 238 ประดิพุทธิ์

บทที่ 238 ประดิพุทธิ์

บทที่ 238 ประดิพุทธิ์

ผู้คนในคุกทั้งหมดตกตะลึง ใครก็คิดไม่ว่า พี่ใหญ่ของ พวกเขา จะพูดแบบนี้กับรพีพงษ์

“นี่…นี่คือวิธีการใหม่เหรอ? เข้าไปประชิดตัวคู่ต่อสู้โดย ไม่ทันได้ตั้งตัวแล้วค่อยต่อยด้วยหมัดพิฆาตเหรอ? วิธีการ ของลูกพี่ ยังไงพวกเราก็มองไม่ออกเลย”ชายร่างผอมสูง พูดอย่างตกตะลึง

รพีพงษ์ก็ยังมองคนตรงหน้าด้วยใบหน้าแปลกใจ เดิมที่ เขาคิดว่าวันนี้จะมีการต่อสู้ที่ดุเดือด แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจะ เกิดเหตุการณ์เช่นนี้

ยิ่งไปกว่านั้นอีกฝ่ายยังเปิดปากแล้วเรียกตัวเองว่าพี่รพี ซึ่งดูเหมือนจะจำตัวเองได้ด้วย

เพียงแต่ว่ารพีพงษ์กลับนึกไม่ออก คนที่เขารู้จักมีคนแบบ

นี้ด้วยเหรอ

“นายคือ?”รพีพงษ์กล่าว

ลูกพี่มองไปที่รพีพงษ์อย่างดีใจ เอื้อมมือไปดึงผมยุ่งๆ ของตัวเองไปด้านข้าง จากนั้นใช้แขนเสื้อเช็ดหน้า แล้วพูด ว่า: “พี่รพี ผมพูดเอง พี่จำผมไม่ได้เหรอ?” ในตอนนี้รพีพงษ์ถึงเพิ่งจะมองหน้าตาของลูกพี่คนนี้ออก

ในหัวก็มีร่างหนึ่งขึ้นมา

ประดิพุทธิ์ เพื่อนเล่นตอนเด็กๆของรพีพงษ์ ตอนที่รพี

พงษ์ฝึกศิลปะการต่อสู้ แทบจะอยู่กับประดิพุทธิ์ทุกวัน นนทภูบอกกับรพีพงษ์เสมอว่าอย่าแสดงออกถึงความ สามารถของตัวเองในด้านบูโดให้ผู้คนเห็นเด็ดขาด รพี พงษ์ก็ไม่สามารถฝึกซ้อมกับคนในตระกูลลัดดาวัลย์ ดัง นั้นประดิพุทธิ์ก็กลายเป็นกระสอบทรายที่ดีที่สุด

ในตอนนั้นเมื่อรพีพงษ์เรียนรู้ใหม่กลวิธีใหม่ได้ ก็จะเอา ประดิพุทธิ์มาเป็นคู่ซ้อม ประดิพุทธิ์ต้องทนกับการระเบิด ทุบตีของรพีพงษ์ทุกวัน เมื่อเวลาผ่านไป พูดได้ว่าฝึกซ้อม กันจนร่างกายแข็งแกร่งมาก ความแข็งแกร่งของร่างกายก็ แข็งแรงกว่าครอบครัวที่อัจฉริยะที่ได้รับการปลูกฝังมา

ที่สำคัญกว่านั้นคือรพีพงษ์หวังที่จะมีคู่ต่อสู้ที่เข้ากันกับ ตัวเองได้ดี ประดิพุทธิ์ยังสู้ได้ไม่ดีพอ เขาต้องการให้ประดิ พุทธิ์แข็งแกร่งขึ้นด้วยเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงสอนกลวิธีการ ต่างๆทั้งหมดที่ตัวเองเรียนรู้มาให้ประดิพุทธิ์ด้วย

เดิมทีประดิพุทธิ์ไม่อยากฝึก แต่เมื่อเขาไม่ฝึก แต่ถ้าฝึก ได้ช้า ก็จะถูกรพีพงษ์ทุบตีอย่างแรง วันรุ่งขึ้นรพีพงษ์กลวิธี ที่สอนให้เขาก็รับรองได้ว่าเรียนรู้ได้

ในสถานการณ์เช่นนี้ ประดิพุทธิ์ได้รับการฝึกฝนจากรพี พงษ์เลยกลายเป็นยอดฝีมือที่ทรงพลัง ต่อมาหลังจากรพี พงษ์ถูกขับไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ ประดิพุทธิ์ ต้องการติดตามรพีพงษ์ไปด้วย

แต่ว่าตอนนั้นโยษิตาพยายามป้องกันไม่ให้กลับรพีพงษ์ มา ก็จัดการกับทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับรพีพงษ์ ในตอนนั้น ผู้คนที่ใกล้ชิดกับนนทภู ไม่ถูกขับไล่ออกจากตระกูลลัดดาวัลย์ ก็ถูกบังคับให้ออกจากเกียวโต ประดิพุทธิ์เองก็โดน ไปด้วย

เพราะเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับรพีพงษ์ โยษิตาเคย ตั้งใจส่งคนไปฆ่าประดิพุทธิ์ แต่ประดิพุทธิ์ใช้ความ สามารถจากการฝึกฝนมากับรพีพงษ์ จึงหลบมาจากการไล่ ฆ่าได้ และหนีไปที่อำเภอรอบๆเกี่ยวโตเพียงคนเดียว

ในตอนนั้นเขาไม่รู้ว่ารพีพงษ์ไปอยู่ที่ใด ที่สำคัญเขาคิด ว่าความแข็งแกร่งระดับรพีพงษ์ ยังไงก็ไม่มีเรื่องแน่ ไม่แน่ ถ้าตอนนี้เขาไปหารพีพงษ์ ก็คงจะนำพาความเดือดร้อนไป ให้รพีพงษ์

ดังนั้นเขาจึงหักห้ามใจไว้ และพัฒนาฝีมือของตัวเอง อย่างจริงจัง คิดว่ารอสักวันหนึ่ง เพียงพอที่จะช่วยรพีพงษ์ ได้ เขาเชื่ออยู่เสมอ ยังไงรพีพงษ์ก็จะกลับมา และเมื่อวัน หนึ่งที่รพีพงษ์กลับมา ก็ถึงเวลาที่เขาจะได้ใช้ประโยชน์

เมื่อสามเดือนก่อน ประดิพุทธิ์ได้ยินมาว่าคุณหนูใหญ่ ของหอการค้าสมน.ถูกฆ่า และคนที่ฆ่าคุณหนูใหญ่ของหอ การค้าสมน. มีข่าวลือว่าคือรพีพงษ์

เมื่อหลังจากประดิพุทธิ์ได้รับข่าวนี้ ก็คิดว่ารพีพงษ์กลับ มาที่เกียวโตแล้ว ดังนั้นจึงรีบข้ามคืนข้ามวันกลับมาที่นี่ เพื่อตามหาว่ารพีพงษ์อยู่ที่ไหน

เมื่อเขารู้ว่าหอการค้าสมุน.กำลังตามหารพีพงษ์ และออก หมายจับ ใครก็ตามที่สามารถจับรพีพงษ์มาได้ รับรางวัล นำจับจำนวนมาก หรือจะเอาแต่หัวของรพีพงษ์กลับไป ก็ได้เช่นกัน
ประดิพุทธิ์รู้สึกว่ารพีพงษ์ฆ่าคุณหนูใหญ่ของหอการค้า สมน. น่าจะเป็นเพราะหอการค้าสมน.เป็นศัตรูแน่ๆ เนื่องจากตอนนี้หอการค้าสมน.กำลังไล่ล่าตัวรพีพงษ์อยู่ ในตอนนั้นเขาก็หาไม่เจอว่ารพีพงษ์อยู่ที่ไหน ดังนั้นเขาจึง ตัดสินใจจะไปจัดการหอการค้าสมน.ที่สร้างปัญหาให้รพี พงษ์แทน

ศัตรูของรพีพงษ์ ก็คือศัตรูของเขา แม้ว่าเขาจะถูกรพี พงษ์ทุบตีตั้งแต่เล็กจนโต แต่เขาก็ถือว่ารพีพงษ์เป็นพี่ชาย แท้ๆของเขาเสมอ ต่อให้จะต้องลุยน้ำลุยไฟเพื่อรพีพงษ์ เขาก็จะไม่ลังเล

แน่นอนว่า อาจจะโดนรพีพงษ์ทุบตีมากเกินไป ประดิพ ทธิ์ค่อนข้างเป็นคนหัวดื้อ ตอนนั้นเขาไม่ได้คิดไปถึงว่า ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ยังต้องให้เกียรติกับหอการค้าสมุน. จึงไปลอบสังหารประธานหอการค้าสมน.เพียงลำพัง

แม้ว่าสุดท้ายเขาจะทำให้ประธานของหอการค้า สมน.บาดเจ็บเล็กน้อย ในที่สุดก็ไม่พ้นการถูกคนของหอ การค้าสมน.จับตัวเข้ามา และถูกขังไว้ในคุกแห่งนี้ ถูกคุม ขังไปสามเดือน

ประดิพุทธิ์พยายามที่จะทำลายกุญแจที่ล็อกประตูของที่ นี้ แต่กุญแจล็อกนี้ถูกหอการค้าสมน.ทำขึ้นพิเศษโดย เฉพาะ นอกจากจะมีเครื่องมือและลูกกุญแจพิเศษ ไม่อย่าง นั้นก็ไขไม่ออก

วันนี้ตอนที่นอนอยู่ ประดิพุทธิ์ยังคิดอยู่ว่ารพีพงษ์น่าจะ ถูกหอการค้าสมน.จับตัวได้ คิดไม่ถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ เขาก็เจอกับตัวรพีพงษ์

รพีพงษ์เองก็แสดงท่าทางดีใจออกมา พูดได้ว่าประดิพุ ทธิ์เป็นเพื่อนเล่นตอนเด็กๆของเขาคนเดียว แม้ว่าญาดามัก จะติดรพีพงษ์ แต่ตอนนั้นรพีพงษ์ไม่สนใจเด็กผู้หญิง เขาก็ ยังรู้สึกว่าญาดาโง่ แล้วก็ไม่อยากเล่นกับญาดา

ดังนั้นประดิพุทธิ์ถือได้ว่าเป็นเพื่อนเล่นตอนเด็กของรพี พงษ์ แต่ต่อมาตระกูลลัดดาวัลย์เกิดการเปลี่ยนแปลง รพี พงษ์ถูกขับไล่ออกมาจากตระกูลลัดดาวัลย์ ก็เลยไม่ได้ ติดต่อกับประดิพุทธิ์อีกเลย

“พุด ในที่สุดเราก็ได้เจอกันอีก เพียงแต่คิดไม่ถึงว่าจะมา เจอกันในที่แบบนี้”รพีพงษ์พูดอย่างดีใจ เขาไม่เคย กระตือรือร้นกับใครมากขนาดนี้

ประดิพุทธิ์เกาหัวเล็กน้อยอย่างเขินอาย และพูดว่า: ” ผม ก็พยายามไล่ตามรอยเท้าของพี่ พี่ฆ่าคุณหนูใหญ่ของหอ การค้าสมุน. พวกเขาต้องการตัวพี่ ผมเลยจัดการปัญหา พวกนี้แทนพี่ ใครจะไปคิดว่า จะถูกจับเข้ามา”

หลังจากที่ผู้คนรอบข้างได้ยินคำพูดของประดิพุทธิ์ ต่าง ก็หายใจกันลึกๆ มองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เชื่อ คิดไม่ถึงว่า เขาจะฆ่าคุณหนูใหญ่ของหอการค้าสมน.

ถึงว่าเมื่อหลังจากประดิพุทธิ์เห็นรพีพงษ์ก็กลายเป็นคน เรียบร้อย ตอนที่รพีพงษ์ยังไม่มา อยู่ที่ก็เป็นเหมือนปีศาจผู้ ยิ่งใหญ่ที่ทำผิดกฎทุกอย่าง ไม่มีความเรียบร้อยแบบนี้เลย

รพีพงษ์ฝืนยิ้มมองไปที่ประดิพุทธิ์ แล้วพูด: “ฉันไม่ได้เป็น คนฆ่าคุณหนูใหญ่ของหอการค้าสมน. มันเป็นเรื่องเข้าใจ ผิด มันเป็นแผนลับๆของคนในตระกูลลัดดาวัลย์”

ประดิพุทธิ์ตกตะลึงไปชั่วขณะ แล้วพูด: “เฮ้ยยย พูดแบบ นี้ ก็กลายเป็นว่าที่ผมไปฆ่าประธานหอการค้าสมน. ก็ เท่ากับหาเรื่องให้กับตัวเองเหรอ?”

รพีพงษ์พยักหน้าให้กับเขา แล้วพูด: “เป็นแบบนั้น”

หน้าของประดิพุทธิ์ก็แดงขึ้นมาทันที เดิมทีเขายัง กระตือรือร้นอยากที่จะช่วยรพีพงษ์ทำอะไรบ้าง แต่กลับ คิดไม่ถึงว่าจะกลายเป็นทำเรื่องโง่ๆที่สร้างปัญหา เดิมที่ต้องการจะช่วยเรียกร้องชื่อเสียงให้กับรพีพงษ์

อย่างประดิพุทธิ์ตอนนี้รู้สึกอับอาย ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรสัก

พัก

รพีพงษ์เหลือบมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้ม แล้วพูด: “ความ หวังดีของนายฉันก็รับรู้แล้ว ยังดีที่ครั้งนี้นายไม่ถูกหอการ ค้าสมน.กำจัด ก็ถือว่าโชคดีแล้ว”

ประดิพุทธิ์ก็แสดงรอยยิ้มอย่างภูมิใจออกมา แล้วตบลงที่ หน้าอกตัวเองทันที: “แม้ว่าหอการค้าสมน.จะมีอำนาจเพียง ใด แต่พวกเขาอยากจะจัดการกับผม ก็คงไม่ง่ายขนาด นั้น พวกเขาก็อยากส่งคนมาจับตัวผมออกไป น่าเสียดายที่ ถูกผมทุบตีจนหนีไป พวกเขาไม่มีทางเลือก ก็เลยขังผมไว้ ที่นี่”
“พวกแกยืมเฉยกันอยู่ทำไม นี่คือพี่ใหญ่ของฉัน ยังไม่รีบ ทำความเคารพพี่ใหญ่อีก!”ประดิพุทธิ์หันหน้าไปมองพวก คนที่ยืนตกตะลึง

กลุ่มคนตะโกนพร้อมเพรียงกันทันที: “สวัสดีครับพี่ ใหญ่!”

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดกับประดิพุทธิ์: “นายอยู่ที่มานาน ขนาดนี้ หาวิธีออกจากที่นี่ได้มั้ย ฉันต้องรีบออกจากที่นี่ ไม่ สามารถเสียเวลาอยู่ที่นานมาก”

คำพูดเมื่อคืนของจักรพันธ์ทำให้รพีพงษ์กังวลถึงความ ปลอดภัยของอารียา ถ้าหากว่าจักรพันธ์ต้องการจะลงมือ กับอารียาจริงๆ อย่างนั้นเขาก็ต้องรีบกลับไปที่เมืองริเวอร์ ถ้าเกิดอารียาถูกจักรพันธ์รังแกจริงๆ เขาก็จะทำให้ทุก

คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ถูกฝังทั้งหมด รวมทั้งวีธราและโย

ษิตาทั้งสองคนนี้ด้วย

“กุญแจล็อกที่นี่ทำขึ้นเป็นพิเศษ ไม่สามารถเปิดออกได้ พวกเราอยากออกไป ก็ต้องรอเมื่อตอนที่มีคนมาพาพี่ออก ไป จัดการคนพวกนั้น และใช้โอกาสนี้หลบหนีไป”ประดิพ ทธิ์พูด

รพีพงศ์ฟันหน้าเหลือบมองกุญแจที่ล็อกอยู่บนรั้วกรง จากนั้นหันหน้ากลับมามองประดิพุทธิ์ แล้วถาม: “มีลวด มั้ย?”

ประดิพุทธิ์ดึงเข็มกลัดออกจากเสื้อผ้าของคนคนหนึ่งทันที และส่งให้รพีพงษ์ แล้วพูด: “ไม่มีลวด มีเพียงแค่นี้”

รพีพงษ์งอเข็มกลัดเป็นรูปพิเศษ จากนั้นเดินไปที่กุญแจที่ ล็อกอยู่บนรั้วกรง

ประดิพุทธิ์เห็นว่ารพีพงษ์จะใช้วิธีนี้ไปปลดล็อกกุญแจ ก็ พูดขึ้นมาทันที: “พี่รพี พี่อย่าเสียแรงเปล่าเลย ผมลองมา แล้วหลายวิธีแล้ว พวกเขามีบางคนมีความเชี่ยวชาญใน การปลดล็อกกุญแจ แต่ก็ไม่สามารถเปิดล็อกกุญแจนี้ได้ เลย ไม่งั้นเราคงออกไปนานแล้ว”

ในตอนนี้ชายร่างท้วมเดินออกมา ดูแล้วซื่อบื้อเล็กน้อย และพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “พี่ใหญ่ ได้รับฉายาว่าเป็นจอมโจร อันดับหนึ่งในเกียวโต ไม่มีกุญแจล็อกใดในโลกนี้ที่ฉันเปิด ไม่ได้ แต่กุญแจล็อกนี้มันมีเอกลักษณ์ที่แปลกที่สุดเท่าที่ ฉันเคยเห็นมา ถ้าไม่มีลูกกุญแจ ใช้วิธีนี้ มันเป็นไปไม่ได้

เลย…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ มีเสียงแกรักดังขึ้นในคุก จากนั้นรพีพงษ์ก็เปิดประตู และเดินออกไป

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท