พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่244ผู้มีฝีมือระดับขั้นเทพ

บทที่244ผู้มีฝีมือระดับขั้นเทพ

บทที่244ผู้มีฝีมือระดับขั้นเทพ

ลิปตามองรถที่ขับซึ่งไปด้านหน้าของเขาอย่างอึ้ง มอง แทบไม่ชัดเลยว่ารพีพงษ์ปฏิบัติยังไงถึงได้แค่ใช้เวลาพริบตา ก็ขับถึงด้านหน้าของเขา

ตอนนี้ถึงจุดจบก็เหลือแค่ต้องโค้ง 2 รอบ ลิปตาพยายาม มีสติ รีบขับตามไปอย่างรวดเร็ว

แล้วเขาก็สังเกตเห็นว่าเขาไม่สามารถตามรพีพงษ์ทัน โดยเฉพาะตอนที่ขับเส้นโค้ง ระยะระหว่างเขาและรพีพงษ์ยิ่ง ขับยิ่งไกล

ผู้ชมทั้งหลายได้เปลี่ยนแปลงอารมณ์ต่อรพิพงษ์อยาก ดูถูกใจเป็นอึ้งที่ง มีคนได้ตบมือและเชียร์ขึ้นมา

สุดยอดเลย ทีแรกได้พูดว่าเขาเป็นคนไร้ค่า กูยังคิดว่า เขาขับรถไม่เป็นอีก ตอนนั้นเห็นเขายังจับล้อหมุนไม่ได้เลย ก็ คิดว่าเขาขับไม่เป็นจริงๆ ใครจะคิดได้ว่าเขาได้ขับทัน สุด ยอดเหลือเกิน

” ครั้งนี้เขาต้องทำลายสถิติของรพีพงษ์แน่นอน และยัง ถูกล่าช้าไประยะหนึ่ง ฝีมือการขับรถแบบนี้ถือว่าขั้นเทพแล้ว

” หล่อจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นการขับรถที่ตื่นเต้น ขนาดนี้ สามารถเทียบได้กับหนังที่แสดงแล้ว ในตอนนี้ฉัน สามารถตะโกนได้แค่ว่าสุดยอด เพื่อแสดงความตื่นเต้นของ ฉัน สุดยอด !!”

เวลาแค่พริบตา รถของรพีพงษ์ก็มาถึงจุดจบ ลำดับบน หน้าจอได้แสดงสถิติใหม่ ได้กดสถิติของลิปตาลง

ทุกคนได้โหร้อง ในสนามแข่งรถมีแต่เสียงเชียร์
เจ้าของได้อึ่งอยู่กับที่ ยังไงก็คิดไม่ถึง เขาได้ให้รถที่มี ปัญหาแก่รพิพงษ์ แต่เขาหลับชนะและยังทำลายสถิติของลิป ตาได้ นี่เป็นฝีมือขนาดไหน!

เขามองรอบๆอยากอาย บนหน้ามีรอยยิ้มที่อายมาก แล้ว ก็ร้องตะโกนตามคนทั้งหลาย

รถของลิปตาก็ขับไปถึงจุดจบ แต่ครั้งนี้ไม่มีใครสนใจลิป ตา ขอแค่มีสถิติใหม่เกิดขึ้น ก็จะดึงดูดความสนใจของผู้ชม พวกนี้

ทุกคนจะสนใจแต่คนที่ชนะ ส่วนคนที่พ่ายแพ้ก็จะหายไป จากสายตาของผู้ชม

รพีพงษ์จอดรถ จารุณีที่นั่งข้างอึ่งอยู่ที่เดิม เธอจะคิดถึง ไงยังไงว่า ในสภาพที่ถูกเปรียบขณะนี้ ยังจะสามารถชนะได้

จารุณีเป็นผู้ชมผู้เดียวที่สามารถเห็นถึงฝีมือการขับรถ ของรพีพงษ์

ความตื่นเต้นนั้นบนรถเมื่อกี้นี้เป็นครั้งแรกที่จารุณีสะใจ มาก รพีพงษ์ยิ้มแล้วหันไปมองจารุณี : เป็นไง ตอนนี้เชื่อมั่น

ในฝีมือผมหรือยัง ?”

จารุณีถึงจะกลับมามีสติ แล้วกรี๊ดกระโดดไปกอดรพีพงษ์ อยากจะหอมจูบเขา

” รพีพงษ์ นายสุดยอดจริงๆ สมแล้วที่เป็นผู้ชายที่ฉันชอบ ให้ฉันจูบหน่อย” รพีพงษ์มองเธอเหมือนมองคนบ้า มองหมวกกันน็อคของ

จารุณีชนกับหมวกกันน็อคของตนเอง

จารุณีถึงจะจำได้ว่าตนเองยังไม่ถอดหมวก อับอายขายขี้ หน้าจริงๆ
เธอยังอยากจะถอดหมวกลง แต่รพีพงษ์ลงรถไปไม่ให้

โอกาสเธอเลย

ผู้ชมได้เห็นจารุณีและรพีพงษ์ลงจากรถ ผู้ชมแม่ส่งเสียง เชียร์อีกครั้ง และมีคนมากมายที่ได้เรียกชื่อของรพีพงษ์ขึ้น จารุณีอยากจะจูบรพีพงษ์ แต่เห็นด้านนอกมีคนมากมาย

ขนาดนี้กำลังจ้องฟอเขาอยู่ เธอรู้สึกอายขึ้นมาทันที คิดในใจ

ว่าพอกลับไปตอนกลางคืนค่อยทำเรื่องนี้

เพราะว่าในโทรทัศน์ไม้กจะมีพระเอกเมื่อทำเรื่องใดเรื่อง หนึ่งสำเร็จแล้วก็นางเอกก็จะจูบพระเอก

จารุณีสามารถพูดได้ว่าเชื่อทุกอย่างในโทรทัศน์แล้ว จูบ นี้ขาดไปไม่ได้

ตอนนี้รพีพงษ์และจารุณีได้ลงจากรถ สีหน้าของลิปตาไม่ ดี ชรินทร์ทิพย์ลงมารีบถอดหมวกบนหัวตัวเองลงแล้วอ้วก ข้างๆถังขยะ

เมื่อเทียบกับจารุณีอยู่ข้างๆ ก็สามารถเห็นได้ชัดว่าฝีมือ การขับรถของรพีพงษ์และลิปตาคนไหนดีกว่า

ลิปตากัดฟันมองรพีพงษ์ ปาหมวกของตัวเองลงบนพื้น ผู้ชมรอบๆได้มีเสียงโห่นิ้ว เห็นได้อย่างชัดมากไม่พอใจ กับการกระทำของลิปตา

“ลิปตา นายแพ้แล้ว รีบทำตามเดิมพันเร็ว

” ใช่ๆ ฝีมือไม่พอยังจะไปเอาหมวกอีก แพ้ไม่ได้ก็อย่าไป แข่งกับคนอื่น ๆ

” รีบหาเร็วๆ พวกเรากำลังรออยู่”

ลิปตาได้ยินเสียงตะโกนจากรอบๆ กำหมัดไว้ เขาเป็นบ

เยาวชนดีเด่นของอำเภอนกฟ้า ถ้าเขาทำแบบนี้จริงๆก็ไม่มี หน้าอยู่ที่อำเภอตากฟ้าอีก

ดังนั้นเขาตัดสินใจไม่ยอมเด็ดขาด เป็นคนยอมแพ้ไม่ได้ ศึกว่าเท่าเหมือนสุนัข

” ลิปตา หาเร็วๆ ยืนอยู่ตรงนั้นทำไมจารุณีตะโกนกับ ลิปตา

ลิปตาไม่ยอมแน่นอน ” พูดมั่วอะไร อะไรเลียนแบบหมา เท่า อย่าคิดว่าโชคดีชนะฉันแล้ว ฉันก็จะยอม เมื่อกี้รถมีปัญหา ดังนั้นรอบนี้สละสิทธิ์ ก็ไม่ต้องทำตาม”

จารุณีโกรธมาก : ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ รถเราต่าง หากที่เกิดปัญหา อย่างมาโกงที่นี่ หน้าด้านจริงๆเลย

ตอนนี้ชรินทร์ทิพย์ก็เดินมาแล้ว สีหน้าของเธอชีตมาก สามารถเห็นได้ชัดว่าการแข่งขันครั้งนี้ได้ตกใจมาก

” ใครโกง รถของเรามีปัญหา ถ้าคุณบอกว่ารถของคุณก็ เกิดปัญหา งั้นรอบที่ก็ถือว่าสละสิทธิ์ไปชรินทร์ทิพย์พูด ชรินทร์ทิพย์กัดริมฝีปาก มองชรินทร์ทิพย์และลิปตา จากนั้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา โทนหาเบอร์ที่ประดิพุทธิ์ให้

ผู้ชมทั้งหลายเห็นลิป และชรินทร์ทิพย์ไม่ยอมว่าตัวเอง แพ้ ปีหน้าก็เต็มไปด้วยความโมโห คนไม่น้อยที่เริ่มเรียกร้องถ้า ไม่ทำเหมือนหมา วันนี้พวกเขาจะเรียกร้องคืนเงิน!

เจ้าของได้ยินพรุ่งนี้จะขึ้นเงิน รีบรีบร้อนทันที เดินเข้ามา ถึงด้านหน้าของชรินทร์ทิพย์และลิปตา : ลิปตา ผลการพนัน นายเป็นคนที่คุยกับฉันนะ คนทั้งหมดได้ยินหมด ตามฉันว่า นายก็ยอมแพ้เถอะ ไม่งั้นทุกคนต้องคืนเงินแน่นอน ”

“ พวกเขาคืนเงินเกี่ยวอะไรกับพวกฉัน สามีฉันเป็นผู้ใหญ่ ที่มีหน้ามีตา เขาจะทำแบบนี้ต่อหน้าคนพวกนั้นได้อย่างไร ต่อไปเขาจะอยู่ในอำเภอนกฟ้าอีกนะ ชรินทร์ทิพย์กดดัน

เจ้าของสนามก็อาย หลังจากจารุณีที่อยู่ข้างๆโทรเสร็จ มองไปหางชรินทร์ทิพย์ : คนที่มีหน้ามีตาก็จะเป็นคนที่พูดไม่ จริงหรือ ผลของการพนันวันนี้พวกคุณต้องปฏิบัติตาม ไม่งั้น วันนี้ก็อย่าคิดจะออกไปได้”

ชรินทร์ทิพย์มองจารุณีอย่างดูถูก: แต่เด็กผู้หญิงอย่าง แก กล้าพูดแบบนี้กับพวกฉัน ฉันว่าแกยังไม่รู้ว่าสามีฉันเป็น ใคร เขาเป็นลูกน้องของประติพุทธิ์นะ ถ้าพวกแกทำให้ประดิพ ทธิ์โมโหขึ้นมาแล้วก็ อย่าคิดว่าจะอยู่ในอำเภอนกฟ้าได้อีก !”

จารุณีไม่ขอบใจ : ประดิห์แล้วยังไง เขายังต้องฟังฉัน

เลย ไม่เชื่อก็เรียกประดิพุทธิ์มาสิ”

ชรินทร์ทิพย์ทำท่าดูถูกใส่จารุณี คิดว่าจารุณีกำลังโม้อยู่ เธอหันไปมองไม่อยากสนใจจารุณี : รพีพงษ์ นายต้องรู้ ว่านายมีฐานะอะไร เป็นแค่คนไร้ค่า สามีฉันเป็นผู้ใหญ่ใน อำเภอนกฟ้า นายต้องรู้ว่าอะไรเป็นคำว่าพอแล้ว”

” ตอนนี้นายรีบอธิบายให้ชัดเจนกับคนอื่น ไม่มีการพนัน ใดใด ไม่งั้น สามีฉันจะให้นายเดินออกจากอำเภอนกฟ้าไม่ได้ แบบนี้นายก็อาจจะไม่ได้เจออีอารียาอีก !”

สีหน้าของรพีพงษ์เสียไปทันที : แกดาใคร

“ฮะ ! ด่าใครใครรู้ รีบพูดชัดเจนกับคนอื่น อย่ามาเปลือง เวลาอยู่ที่นี่ “ชรินทร์ทิพย์ไม่สนใจ

รพีพงษ์หลับตานิด ชรินทร์ทิพย์ยังไม่ยอมทำตามสัญญา งั้นวันนี้เขาก็จะให้เธอรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ

การเห่าเหมือนสุนัขของวันนี้ ลิปตาต้องทำแน่นอน

“เมื่อกี้คุณโทรไปหาเลขาของประดิพุทธิ์ ?” รพีพงษ์ถาม
131 O

จารุณีพยักหน้า : โมโหจริงๆ ไม่รู้ว่าประดิพุทธิ์ทำไม ต้องหาคนแบบนี้มาทำงาน

รพีพงษ์กิ้ม : งั้นก็รอเลขาของประดิพัทธิ์มาจัดการ

ไม่นานนัก เสียงโวยวายในสนามยังไม่หยุด ลิปตาและ ชรินทร์ทิพย์สองคนยังไงก็ไม่ยอม

ตอนนี้ มีผู้ชายที่ใส่เสื้อสูทได้เดินมาทางนี้ คนนี้ก็คือเลขา ของประดิพัทธ์ ชื่อกิตติเดช

ผู้จัดการด้านหน้าของบริษัทของประดิพุทธิ์เป็นลิปตา ที่ จริงแล้วแผนกผู้จัดการนี้ ก็เป็นแค่จัดการเรื่องกระจิบกระจอก และการเคลื่อนไหวของบริษัทเฉยๆ อำนาจที่แท้จริงของ บริษัทอยู่ในมือของกิตติเดช

ลิปตาก็รู้กิตติเดชมีอำนาจเท่าไหร่ ดังนั้นปกติอยู่ใน บริษัทก็เคารพกิตติเดชเป็นอย่างมาก

ลิปตาเห็นกิตติเดช เขาไม่คิดว่าเวลานี่กิตติเดชยังจะมา แต่เขาคิดว่ายังไงก็เป็นลูกน้องของประดิพุทธิ์ จะช่วยเขา แน่นอน

มีกิตติเดชมาช่วยเขา คนในนี้ก็ไม่กล้าพูดอะไรแน่นอน

ยังไงคนในอำเภอนกฟ้ารู้หมดว่าเลขาธิการของประดิพัทธิ์

รังแกไม่ได้

ดังนั้นลิปตารีบเดินไปทางกิตติเดช ยิ้มแล้วพูดว่า : คุณ กิตติเดช บังเอิญจริงๆ ไม่คิดว่าจะได้พบคุณที่พอดีผมได้มี ปัญหานิดนึง ไม่คิดว่าคุณจะสามารถช่วยแก้ไขหน่อยได้ไหม

ชรินทร์ทิพย์เคยได้ยินลิปตาพูดถึงคุณกิตติเดช ดังนั้น พอเห็นกิตติเดชเดินมา ก็แอบดีใจ ในใจคิดว่าถ้ามีคุณกิตติ เดช รพีพงษ์กับผู้หญิงคนนี้ต้องตายแน่นอน

กิตติเดชมองไปทางลิปตา ไม่ได้สนใจ จากนั้นก็เดินตรงไปทางชรินทร์ทิพย์รและฟีพงษ์ แล้วก้มลงพร้อมพูดอย่าง เคารพว่า : คุณจารุณี คุณรพิพงษ์ ขออภัยที่ผมมาช้า ไม่ ทราบว่าพวกคุณไม่พบปัญหาอะไร ผมจะจัดการให้แน่นอน”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท