พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 263 โทรแค่สายเดียวก็ทำให้นายล้ม ละลายได้

บทที่ 263 โทรแค่สายเดียวก็ทำให้นายล้ม ละลายได้

บทที่ 263 โทรแค่สายเดียวก็ทำให้นายล้ม ละลายได้

ศศินัดดาหันไปมองที่หน้าประตู เห็นธีรศานติ์อยู่ ในชุดสูท บนตัวของเขามีรัศมีที่ไม่เหมือนคนทั่วไป เธอพอเดาได้ว่าคนคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดา แน่นอน แต่ตอนนี้เธอมีนคินทร์คอยหนุนหลังอยู่จึง ไม่กลัวอะไรทั้งนั้น

นคินทร์เป็นคนของหอการค้าสมน. ในเกียวโต หอการค้าสมน.มีอิทธิพลเทียบเท่ากับตระกูลลัดดา วัลย์ ถึงแม้นคินทร์จะเป็นเพียงผู้รับผิดชอบหอการ ค้าสมน.สาขาเมืองริเวอร์ แต่ใครจะมายั่วโมโหเขาก็ ไม่ใช่เรื่องง่าย

สำหรับศศินัดดา ผู้รับผิดชอบสาขาอย่าง นคินทร์ยังเก่งกว่าหัวหน้าตระกูลอันดับหนึ่งในเมืองริ เวอร์อย่างตระกูลกุลสวัสด์เสียอีก

“คุณอบรมลูกยังไง ไม่มีมารยาทแม้แต่น้อย คุณ รู้ไหมว่าตอนนั้นยัยเด็กนี่มันผลักฉัน เกือบทำให้ฉัน เอวหัก คุณรีบให้ลูกสาวที่ไม่รู้ความขอโทษฉันเดี่ยว นี้ อีกอย่างพวกคุณต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ฉันห้า แสน ไม่งั้นวันนี้พวกคุณไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น!” ศศิ นัดดาพูดด้วยท่าทีโมโห
ธีรศานติ์ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “คุณว่าใครไม่ได้รับ การสั่งสอน ถ้าลูกสาวของผมทำผิด ผมจะให้เธอ ขอโทษคุณ แต่ตอนนี้ท่าทางของคุณดูเหมือนคนที่ ไม่ได้รับการสั่งสอนยิ่งกว่าลูกสาวผมอีกนะ”

“พ่อ ที่หนูผลักเขาเพราะเขาหน้าไม่อาย รั้งไม่ให้ พวกเราไปช่วยคน แถมยังขอเงินจากรพีพงษ์ หนูคิด ว่าหนูไม่ได้ทำอะไรผิด หนูจึงไม่ขอโทษ” จารุณีเอ่ย ขึ้น

“นังเด็กนี่ แกว่าใครหน้าไม่อาย แกมานี่เลยนะ ถ้าวันนี้ฉันไม่ได้ตบแก แกคงไม่รู้ฤทธิ์ของฉัน”

ศศินัดดาพูดพลางยกมือจะตบจารุณี ธีรศานติ์ จับข้อมือของศศินัดดาเอาไว้ จากนั้นจึงใช้แรงผลัก เธอกลับไป

ศศนัดดาเกือบจะล้มลงบนพื้น หลังจากที่เธอยืน ได้อย่างมั่นคง เธอมองสองพ่อลูกด้วยสายตา เคียดแค้น “นี่มันพ่อลูกอะไรกัน พวกแกสองคนคง ไม่ใช่คนดีอะไรสินะ แกกล้ามาผลักฉัน ไอ้พวกตา ต่ำ!”

“ฉันจะบอกแกให้นะ คนที่ยืนอยู่ข้างฉันคือคน ของหอการค้าสมน. แกเคยได้ยินชื่อหอการค้า สมน.หรือเปล่า ชื่อเสียงของที่นั่นเทียบเท่าตระกูล ลัดดาวัลย์เลยนะ เขาคือเพื่อนเก่าของฉัน เมื่อกี้เขาบอกว่าจะช่วยฉันจัดการพวกแก พวกแกรีบขอโทษ ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นไม่ว่าพวกแกจะทำอะไร เพื่อนของ ฉันแค่ยกหูโทรศัพท์ครั้งเดียวก็สามารถทำให้พวก แกล้มละลายได้!”

พูดจบศศินัดดาก็ทำหน้าเย่อหยิ่ง เธอเข้าใจว่า หลังจากที่ธีรศานติได้ยินว่านคินทร์เป็นคนของหอ การค้าสมน. แล้วจะรีบมาขอโทษเธอ

แต่เธอไม่ได้สังเกตว่านคินทร์ที่ยืนอยู่ข้างเธอ ตอนนี้เขาพูดอะไรไม่ออก สีหน้าซีดเผือด

นคินทร์คิดไม่ถึงว่าคนที่เดินเข้ามาจะเป็น ประธานของหอการค้าสมน. วันนี้เขาเตรียมรถให้ ประธาน เขานึกว่าประธานจะไปทำเรื่องสำคัญอะไร คิดไม่ถึงว่าจะมาโผล่ที่บ้านของศศินัดดา

และเด็กสาวที่ศศินัดดาจะจัดการก็คือลูกสาว ของประธาน ถึงจะมอบความกล้าให้นคินทร์ขนาด ไหน เขาก็ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับลูกสาวของประธาน หอการค้าสมุน.อย่างแน่นอน

ธีรศานติ์หันไปมองนคินทร์แล้วแสยะยิ้ม “เหรอ ฉันจะรอดูว่าเขาจะทำยังไงให้ฉันล้มละลาย”

ศศินัดดาเห็นธีรศานติไม่เป็นเดือดเป็นร้อน จึง หงุดหงิดขึ้นมาทันที เธอหันไปพูดกับนคินทร์ที่ยืน อยู่ข้างๆ “เพื่อนรัก มันยังไม่เชื่อ ในเมื่อมันรนหาที่ตาย งั้นนายทำให้มันรู้ฤทธิ์ของนายหน่อย โทรไปหา คนของหอการค้าสมุน. ให้มันล้มละลายซะ”

นคินทร์ยังไม่พูดอะไร ตอนนี้เขาโดนคำพูดของ ศศินัดดาทำให้ตกใจนเป็นใบ้ไปแล้ว อยากพูดแต่ก็ พูดไม่ออก

ศศินัดดาเห็นนคินทร์ยังไม่พูดอะไร จึงรู้สึก ประหลาดใจเล็กน้อย “เพื่อนรัก นายเป็นอะไรไป เมื่อ กิ้นายบอกว่าจะช่วยฉันจัดการมันไม่ใช่เหรอ พวกหอ การค้าสมน.เก่งมาไม่ใช่หรือไง ทำไมถึงไม่พูดอะไร เลยล่ะ”

นคินทร์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก “คน ที่อยู่ตรงหน้าเธอคือประธานหอการค้าสมน. เขาพูด แค่คำเดียวก็กำจัดฉันได้แล้ว ครั้งนี้เธอทำให้ฉันซวย แล้ว หาเรื่องใครไม่หา ไปหาเรื่องลูกรักของประธาน ฉันว่าเธอสมควรโดนแล้วล่ะ”

พูดจบ นคินทร์รีบเดินเข้าไปหาธีรศานติ์ “ประธานครับ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าเป็นคน นี่มันเป็นเรื่อง เข้าใจผิดครับ เพื่อนของผมสมองมีปัญหา คุณอย่า ไปอะไรมากกับเธอเลยครับ”

“ใครสมองมีปัญหา นคินทร์ นายบอกว่านายเป็น ผู้รับผิดชอบสาขาเมืองริเวอร์ไม่ใช่เหรอ แล้ว ประธานนี่โผล่มาจากไหน” ศศินัดดาเอ่ยถามด้วยความงุนงง

“เขาคือประธานสำนักงานใหญ่ของหอการค้า สมน. มาจากเกียวโต คนในหอการค้าทั้งหมดต้องฟัง เขา ตอนนี้เธอรู้แล้วหรือยังว่ากำลังยั่วโมโหใครอยู่!” นคินทร์ตะโกนด้วยความโกรธ

ศศินัดดาอึ้งไป คนทั้งหอการค้าสมน.ต้องฟังเขา เหรอ อย่าบอกนะว่าคนคนนี้มีฐานะเทียบเท่ากับ ตระกูลลัดดาวัลย์อย่างนั้นเหรอ

ศศินัดดาคร่ำครวญอยู่ในใจ คิดว่าตัวเองซวย แล้ว ไม่ว่าเธอจะทำอะไรก็เจอแต่พวกมีอำนาจ คน แรกก็โยษิตา นี่ก็ประธานหอการค้าสมน.อีก เธอคง ไม่สามารถผ่านวันนี้ไปได้อีกแล้ว

เธอหันไปมองรพีพงษ์ เห็นใบหน้าที่เต็มไปด้วย รอยยิ้มได้ใจ เธอโมโหขึ้นมาในใจ คิดในใจว่าการที่ เธอซวยขนาดนี้ก็เพราะว่ารพีพงษ์ ไม่แน่รพีพงษ์อาจ จะจงใจก็ได้

“เธอรีบขอโทษประธานกับลูกสาวของเขาเลย นะ ถ้าฉันต้องโดนไล่ออกเพราะเธอ เรื่องนี้ไม่จบแน่!” นคินทร์ตะโกนใส่ศศินัดดาท่าทางแตกต่างกับตอน ที่นั่งคุยกันที่โซฟาโดยสิ้นเชิง

ศศินัดดาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเธอมองไปยัง สองพ่อลูกแล้วพูดออกมาว่า “ขะ ขอโทษ”
จารุณีเห็นศศินัดดาขอโทษ เธอรีบแลบลิ้นปลิ้น ตาใส่ศศินัดดา “เมื่อกี้เธอเก่งมากไม่ใช่เหรอ ยังจะ ทำให้บ้านฉันล้มละลาย ทำไมตอนนี้ถึงไม่กล้าพูด แบบนั้นแล้วล่ะ”

สีหน้าของศศินัดดาเต็มไปด้วยความลำบากใจ ตอนที่รู้ตัวตนที่แท้จริงของจารุณี เธอไม่กล้าพูด อะไรจริงๆ

“ขอโทษจริงๆ นะคะท่านประธาน เธอเป็นแม่ ของฉันค่ะ บางครั้งเธอก็ไม่มีเหตุผล หวังว่าคุณจะไม่ ถือสานะคะ” อารียาพูดกับธีรศานติด้วยสีหน้ารู้สึก ผิด

หลังจากที่ธีรศานติ์รู้ว่าศศินัดดาเป็นแม่ของอารี ยา เขาจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า “ถ้าเคลียร์กันได้ก็ พอแล้ว ฉันไม่ได้อยากทำให้แม่ของเธอลำบากใจ เหมือนกัน”

“ประธานเป็นคนใจกว้าง แน่นอนว่าเขาไม่มาคิด เล็กคิดน้อยกับเรื่องเล็กๆ แบบนี้หรอก” รพีพงษ์ยิ้ม แล้วพูดออกมา

ศศินัดดาจ้องเขา คิดในใจว่าตอนนั้นเขาไม่พูด แต่ตอนนี้กลับเสแสร้ง ตอนนี้เธอกำลังอดกลั้นความ โกรธ หลังจากนี้จะระบายกับเขาอย่างแน่นอน

นคินทร์เห็นว่าเคลียร์เรื่องนี้ได้แล้ว เขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“ในเมื่อเคลียร์กันได้แล้ว งั้นเราก็ไม่จำเป็นต้อง อยู่ที่นี่อีกแล้ว ฉันต้องรีบกลับเกียวโต ครั้งนี้มาสร้าง ความวุ่นวายให้พวกคุณแล้ว” ธีรศานติ์มองรพีพงษ์ “กลับไปครั้งนี้ ฉันจะต่อสู้กับตระกูลลัดดาวัลย์อย่าง ถึงที่สุด ถึงลูกสาวของฉันจะไม่เป็นอะไร เรื่องนี้ก็ไม่ ควรปล่อยไปแบบนี้”

รพีพงษ์พยักหน้า เรื่องนี้แลกกับการได้ผู้ช่วยที่ มากความสามารถอย่างหอการค้าสมน. สำหรับเขา แล้วถือเป็นเรื่องที่ดี

ขณะที่รพีพงษ์กำลังส่งธีรศานติ์กับจารุณีกลับ จู่จารุณีก็วิ่งเข้ามาจับแขนของรพีพงษ์

“พ่อ หนูไม่กลับ หนูจะอยู่กับรพีพงษ์ เขาไปไหน หนูก็ไปด้วย พ่ออย่าได้คิดแยกเราออกจากกัน”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท