พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 471 ชาติหน้าเถอะ

บทที่ 471 ชาติหน้าเถอะ

บทที่ 471 ชาติหน้าเถอะ

ชั้นบนสุดของ W H กรุ๊ป

ภายในห้องที่แสงส่องไม่ถึง เมื่อมองผ่านหน้าต่าง จะเห็นไซต์งานก่อนสร้างอยู่ข้างหลัง ในเวลานี้กำลังหยุดงานจึงไม่ค่อยมีคนทำงานเยอะเท่าไรนัก

รพีพงษ์ ธฤตญาณและคนอื่นๆ ยืนอยู่ตรงข้ามธายุกร ระหว่างทางที่กลับมา ธายุกรขัดขืน ทำให้ไตรทศต่อยเขาไป ตอนนี้เขาหน้าบวมและมีรอยฟกช้ำจนไม่เหลือเค้าเดิม

“พวกแกมันอันธพาล ไอ้พวกโจร ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ พวกแกทำแบบนี้มันผิดกฎหมาย ต้องโดนลงโทษ!” ธายุกรไม่มีปัญญาสู้กับรพีพงษ์ เขาจึงเอาแต่ตะโกน

“ให้ตายเหอะ อย่างกับผู้หญิง ยังมาบอกว่าพวกเราเป็นอันธพาล ทำไมแกโดนพวกเราทำผิดผีเหรอ หรืออยากชิมรสหมัดของฉันอีก” ไตรทศเบิกตาโตมองธายุกร

ธายุกรกลัวไตรทศจนคอหด

รพีพงษ์เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าธายุกร เขากำคอเสื้อของธายุกรแล้วยกตัวธายุกรขึ้นมา

“ปล่อยฉันนะ แกไม่มีสิทธิ์มาขังฉันไว้ที่นี่ ถ้าคนข้างนอกรู้ แกได้ติดคุกแน่ แกจะละเมิดกฎหมายเหรอ!” ธายุกรจ้องรพีพงษ์แล้วพูดออกมา

“ฉันเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในเมืองริเวอร์ ถึงฉันจะฆ่าแกก็ไม่มีใครมาทำอะไรฉันได้” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

เมื่อธายุกรได้ยินดังนั้น เขารู้สึกเย็นยะเยือกไปทั้งตัว เขาไม่สงสัยในคำพูดของรพีพงษ์เลยแม้แต่น้อย คนที่สามารถทำให้ W H กรุ๊ปล้มละลายได้ภายในสิบนาที อำนาจที่เขามี มันไม่สามารถคาดเดาได้เลย

“ระรพีพงษ์ จริงๆ เราไม่จำเป็นต้องทะเลาะกันถึงขนาดนี้ เรามาพูดกันดีๆ เถอะ เมื่อก่อนฉันมีส่วนผิดจริง ถ้านายไม่พอใจ ฉันขอโทษนายก็ได้” จู่ๆ ธายุกรก็พูดประนีประนอม เขารู้ดีว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าของรพีพงษ์ เขาไม่มีสิทธิ์พูดเงื่อนไขใดๆ

“ขอโทษ? บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลล้มละลาย อารียาก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน จารุณีโดนรถชนกระเด็นไปสิบกว่าเมตร แกคิดว่าแค่ขอโทษแล้วจะจบเหรอ แกคิดว่าทำได้เหรอ” รังสีอาฆาตแผ่ออกมาจากตัวของรพีพงษ์ จนทำให้ธายุกรกลัวจนตัวหด

ธายุกรตัวสั่นเทิ้ม เขารีบพูดออกมาว่า “ฉะ ฉันไม่ได้เป็นคนทำ ฉันแค่ทำให้บริษัทของตระกูลฉัตรมงคลล้มละลายเท่านั้น เรื่องอื่นฉันไม่ได้เป็นคนทำ ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนทำต่างหาก ทั้งหมดนั่นเป็นฝีมือของเธอ ที่ฉันทำให้บริษัทล้มละลาย ก็เพราะคำสั่งของผู้หญิงคนนั้น ไม่เกี่ยวกับฉัน!”

รพีพงษ์รู้ว่าผู้หญิงที่ธายุกรหมายถึงคือโยษิตา แต่ถึงธายุกรจะโดนโยษิตาหลอกใช้ เขาก็ผิดอย่างไม่สามารถให้อภัยได้

คนที่โดนคนอื่นยุยงให้ฆ่าคน มันผิดทั้งคนที่ยุยงและคนที่ลงมือ

ยิ่งไปกว่านั้นธายุกรเอาแต่คิดอคติกับอารียมาตลอด ถ้าเขาไม่คิดแบบนี้ตั้งแต่แรก คงไม่โดยโยษิตาหลอกใช้ง่ายๆแบบนี้หรอก

รพีพงษ์ไม่มีทางปล่อยโยษิตาไปแน่ แต่เขาก็ไม่ปล่อยธายุกรไปเช่นกัน

“ทำให้บริษัทล้มละลายยังไม่พอเหรอ ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ อารีก็คงไม่แตกหักกับศศินัดดาแล้วหนีไปเพียงลำพัง แกคิดว่าแกไม่มีส่วนผิดเหรอ”

รพีพงษ์พูดพลางเอามืออีกข้างจับนิ้วของธายุกร เขาใช้แรงบีบจนนิ้วมือของธายุกรหัก

ธายุกรร้องออกมาอย่างเจ็บปวด และเอาแต่ขัดขืน รพีพงษ์จึงเอามือจับเขาเอาไว้จนเขาไม่สามารถขัดขืนได้อีก

“นี่คือบทลงโทษที่แกร่วมมือกับศศินัดดาจนทำให้บริษัทล้มละลาย”

หลังจากนั้นรพีพงษ์ก็จับและหักนิ้วของธายุกรอีก

“นี่คือบทลงโทษที่แกทำให้อารียาเจ็บปวดแล้วหนีไปจนได้รับบาดเจ็บ”

เขาหักนิ้วของธายุกรอีก ธายุกรหน้าซีดเผือด ตัวสั่นเทิ้ม วันนี้เขาได้สัมผัสถึงความน่ากลัวของรพีพงษ์แล้ว

ถ้าเขามีโอกาสอีกครั้ง เขาจะเลือกไม่เป็นศัตรูกับรพีพงษ์ และไม่ไปหาเรื่องอารียา

แต่น่าเสียดายที่ไม่มีโอกาสนั้น

“นี่คือบทลงโทษที่แกไม่สำนึกผิดและเอาแต่หาเรื่องอารียา”

….…

ในช่วงเวลาสั้นๆ นิ้วทั้งสิบของธายุกรหักทั้งหมด เขาทรมานจนเกือบจะเป็นลม แต่เขายังมีสติอยู่ นิ้วสุดท้ายของเขาถูกหักเป็นที่เรียบร้อย ทำให้เขาไม่สามารถเป็นลมเพราะความเจ็บปวดนี้

“ตอนนี้อารีหายตัวไป ฉันกระวนกระวายใจมาก ฉันต้องทุกข์ทรมานทุกวินาทีที่ไม่ได้พบเธอ แกไม่เข้าใจจิตใจของฉันหรอก ความผิดของแกทั้งหมด แค่หักนิ้วมันยังชดใช้ไม่ได้หรอก” รพีพงษ์พูดกับธายุกร

“ปะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันไม่กล้าอีกแล้ว ขอร้องล่ะ ฉันสำนึกผิดแล้ว” ธายุกรหายใจรวยริน

“ชาติหน้าเถอะ”

รพีพงษ์พูดคำนั้นกับธายุกร จากนั้นเขาจึงยกธายุกรเดินไปที่หน้าต่าง

ธายุกรเหมือนจะมีลางสังหรณ์ถึงอันตราย เขาเอาแต่ขัดขืนไม่หยุด แต่ก็ถูกรพีพงษ์กดเอาไว้

รพีพงษ์เปิดหน้าต่าง ธายุกรกลัวจนหัวหด หน้าของเขาซีดเผือด เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดออกมา แต่ทว่าพละกำลังของรพีพงษ์ ทำให้เขาไม่สามารถทำอะไรได้

วินาทีต่อมา รพีพงษ์โยนธายุกรออกไปนอกหน้าต่างอย่างไม่ลังเล เสียงร้องอันน่าเวทนาดังขึ้นในอากาศ แต่น่าเสียดายที่ไซต์งานก่อสร้างข้างหลังไม่มีคนทำงาน รพีพงษ์หันหลังกลับมามองธฤตญาณกับคนอื่นๆ แล้วพูดว่า “พวกเราไปกันเถอะ”

สีหน้าของธฤตญาณและคนอื่นๆ หนักแน่น เมื่ออยู่ต่อหน้ารพีพงษ์พวกเขาอดไม่ได้ที่จะยืนหลังตรง จากนั้นจึงพยักหน้าแล้วเดินตามรพีพงษ์ออกไป

ชนิสรารออยู่ใต้ตึก เห็นรพีพงษ์กับคนอื่นๆ เดินเข้ามา เธอจึงรีบเดินเข้าไป

“เป็นยังไงบ้างรพีพงษ์ ธายุกรยอมรับผิดไหม คนอย่างเขาไม่ว่ายังไงก็ไม่ยอมสำนึกผิด ถ้าคุณทำอะไรเขา เขาจะมาหาเรื่องคุณอีกไหม” ชนิสราถามขึ้น

รพีพงษ์ยิ้มให้ชนิสราแล้วพูดว่า “วางใจเถอะพี่สา จากนี้เขาไม่มีโอกาสมาหาเรื่องผมอีกแล้ว”

ชนิสราพยักหน้า แล้วเดินตามรพีพงษ์ออกไป เธอเดินพลางคิดถึงคำพูดที่รพีพงษ์พูดเมื่อครู่ จู่ๆ เธอก็เบิกตาโตแล้วมองรพีพงษ์ด้วยความตกใจ ไม่มีโอกาสมาหาเรื่องรพีพงษ์อีกงั้นเหรอ มีแต่คนที่ตายเท่านั้นแหละ ที่ไม่มีโอกาสอีกแล้ว

เธอตกใจมาก แต่ทว่าดูท่าทางของรพีพงษ์เหมือนจะไม่เป็นเดือดเป็นร้อน เธอจึงไม่กล้าพูดอะไร เธอรู้ถึงความเก่งกาจของรพีพงษ์ เพราะฉะนั้นไม่ว่ารพีพงษ์จะทำเรื่องอะไร เธอจึงไม่ได้ตกใจมากนัก

เพราะว่าศศินัดดาไล่ชนิสราออกจากบ้าน ก่อนหน้านี้ศศินัดดาก็โดนรพีพงษ์ตบ ถ้าให้ชนิสรากลับไปที่ชุมชนคำแหงในตอนนี้ ไม่รู้ว่าศศินัดดาจะทำอะไรกับชนิสรา รพีพงษ์จึงให้ธฤตญาณเตรียมห้องที่สถานบันเทิงสตาร์กายให้ชนิสราพักก่อน

ระหว่างทางไปสถานบันเทิงสตาร์กาย ชนิสราเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้รพีพงษ์ฟัง และบอกเรื่องที่ศักดาโดนศศินัดดาไล่ออกจากบ้านด้วย

หลังจากที่ฟังจบ รพีพงษ์ยิ่งรู้สึกว่าศศินัดดาเหมือนคนบ้า ถ้าตอนนั้นธฤตญาณไม่บอกเรื่องชนิสรา ไม่แน่เขาอาจจะฆ่าศศินัดดาก็ได้

การที่ได้จัดการธายุกร ทำให้เขาได้ระบายความโกรธออกไปไม่น้อย ความอยากฆ่าศศินัดดาจึงลดลงไปด้วยเช่นกัน

ถึงแม้ว่าเรื่องที่ศศินัดดาทำจะสามารถทำให้เขาฆ่าเธอได้เป็นร้อยครั้ง แต่ยังไงศศินัดดาก็เป็นแม่ของอารียา ถ้ารพีพงษ์จะลงมือกับเธอจริงๆ ก็จำเป็นต้องหาอารียาให้เจอเสียก่อน

ระหว่างนี้เขากะว่าจะไม่ไปที่ชุมชนคำแหง รอให้เขาใจเย็นลงก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะจัดการกับศศินัดดาอย่างไร

หลังจากที่กลับมาถึงสถานบันเทิงสตาร์กาย และจัดหาห้องให้ชนิสราเรียบร้อยแล้ว รพีพงษ์ ธฤตญาณและคนอื่นๆ นั่งดื่มเหล้าด้วยกัน

ตอนที่กลับมา รพีพงษ์ได้แจ้งคนที่กิสนาแล้วว่าให้พวกเขาช่วยหาเบาะแสของอารียา จากฝีมือของคนที่กิสนา มีโอกาสสูงที่จะเจออารียา

แต่ทว่าเมื่อไม่ได้เจออารียาแค่หนึ่งนาที รพีพงษ์ก็ไม่สบายใจ ทำให้เขาต้องดื่มเหล้าเพื่อคลายความกังวล

ดื่มไปได้สักพัก รพีพงษ์รู้สึกว่าความกังวลยังคงไม่หายไป เขาเงยหน้ามองธฤตญาณแล้วพูดว่า “หาสนามประลองให้ฉันหน่อย ฉันอยากระบาย”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท