พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่500 ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย

บทที่500 ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย

บทที่500 ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย

“เป็นไปไม่ได้!”จิรเวชที่กำลังลำพองใจพอได้ยินผลประกาศเรื่องรพีพงษ์ สีหน้าจึงเปลี่ยนทันที เขาตะโกนออกมาอย่างความคุมตัวเองไม่อยู่

โยษิตา นิรมัทและญาดาทั้งสามคนผู้ที่ยืนอยู่ข้างเขาเบิ่งตาโพลงโตขึ้นมา สีหน้าแสดงความไม่อยากจะเชื่อ

“รพีพงษ์ไม่มีทางที่จะมีสามแสนล้าน จะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ!”นิรมัทหันไปมองไกรเดช มองเขาด้วยสายตาแสดงความสงสัย

“อย่างนั้นเหรอ ความหมายของคุณคือ สมุห์บัญชีของผมไม่น่าเชื่อถือสินะ”ไกรเดชทำหน้านิ่ง พูดใส่นิรมัท

ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการบูรณะเมืองเก่า ไกรเดชก็ต้องวางท่าเอาไว้บ้าง เขาก็แค่ทำตัวสบายๆเวลาอยู่ต่อหน้ารพีพงษ์นิดหน่อย พอเขาพูดแบบนี้ออกไป นิรมัทก็ตกใจจนตัวสั่น

“เปล่า……เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น”นิรมัทพูดกระอ้อมกระแอ้ม

คนในงานต่างก็คิดแบบนิรมัท แต่หลังจากที่เห็นท่าทีของไกรเดชแล้ว ก็ไม่มีใครกล้าเปิดปากพูดอะไรอีก

“ผู้ถือหุ้นสามคนของโครงการบูรณะเมืองเก่าในครั้งนี้ได้บทสรุปแล้ว มีท่านไหนที่อยากจะแสดงความเห็นอีกบ้างครับ”ไกรเดชกวาดตามองไปรอบๆแล้วถามขึ้น

จิรเวชได้แต่กำหมัดทั้งสองแน่น เขากัดฟันกรอดๆมองไปทางรพีพงษ์ ส่วนรพีพงษ์ก็ยิ้ม ให้เขาอย่างหยอกล้อ ทำให้เขายิ่งเดือดดาลมากขึ้น

“ผมกรุ๊ปKIN ไม่สมัครใจที่จะเป็นตัวเสริมให้ตระกูลลัดดาวัลย์!”จิรเวชตะโกนออกไป

ไกรเดชมองไปทางเขา พูดขึ้นว่า “ได้ครับ เพียงแค่คุณลงเงินสามแสนล้านขึ้นไป ผู้ถือหุ้นใหญ่ ก็จะเป็นกรุ๊ปKIN”

จิรเวชสามารถควักเงินสองแสนล้านออกมา ก็เป็นขีดจำกัดของเขาแล้ว มากกว่าสามแสนล้านเป็นไปไม่ได้ นอกเสียจากว่าเขาจะยื่นขออนุมัติจากตระกูลอีกครั้ง แต่ถ้าแบบนั้น คนในตระกูลก็จะสงสัยในความสามารถของเขา กับแค่รับมือกับตระกูลเล็กๆอย่างลัดดาวัลย์ ต้องใช้เงินทุนมากขนาดนั้นเชียวหรือ แบบนี้จะมีผลกระทบต่อตำแหน่งเขาในวงตระกูล

แต่ถ้าควักเงินมากกว่าสามแสนล้านไม่ได้ ตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะกลายเป็นหุ้นใหญ่อย่างแน่นอน กรุ๊ปKINได้แต่เป็นลูกมือ การร่วมมือแบบนี้ไม่มีความหมายอะไร

สับสนอยู่นาน จิรเวชได้แต่ด่าทออยู่ในใจ จากนั้นพูดกับไกรเดชว่า“งั้นกรุ๊ปKINขอถอน ตัวจากโครงการนี้ครับ โอกาสนี้ ผมสละสิทธิ์ให้ท่านอื่น”

ไกรเดชหรี่ตาลง พูดเสียงเย็นชา“ถอนตัวงั้นเหรอ งั้นจะเสนอราคามาทำไม คุณคิดว่าทุกสิ่งอย่างในวันนี้ เป็นการเล่นเกมส์เด็กหรือไง กรุ๊ปKINจะถอนตัวได้ แต่ผมไม่รับประกันว่า พวกคุณจะมีที่ยืนในเกียวโตต่อไปในวันข้างหน้าหรือเปล่านะ!”

ทุกคนในงานต่างตกตะลึงกับคำพูดของไกรเดช ในฐานะผู้รับผิดชอบโครงการ คำพูดนี้มีน้ำหนักอยู่

แววตาจิรเวชหดลงทันที คิดไม่ถึงว่าไกรเดชจะขู่ด้วยคำพูดแบบนี้ แต่มาคิดดูเขาก็พอเข้าใจอยู่ เดิมทีพวกเขารอให้รพีพงษ์ยั่วโมโหไกรเดช ทำให้บ้านลัดดาวัลย์เดือดร้อน ตอนนี้จิรเดชเล่นไม่ไหว อยากถอนตัว ไกรเดชก็จะทำให้กรุ๊ปKINพินาศเหมือนกัน

เขารู้ดีว่า ตอนนี้เจอความยากลำบากสองเรื่อง ถ้าหากร่วมมือต่อไป เรื่องที่จะกำจัดตระ กูลลัดดาวัลย์ก็จะไม่มีความหมายอะไรแล้ว แต่ถ้าถอนตัวออก ตั้งตัวเป็นศัตรูกับไกรเดช จิรเดชเองอาจจะไม่เป็นอะไร แต่ว่ากรุ๊ปKINไม่ได้จบสวยแน่ ถึงเวลานั้นเงินที่เขาลงไปในกรุ๊ปKINทั้งหมด ก็เท่ากับตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

เมื่อเทียบกันแล้ว การเป็นผู้ถือหุ้นต่อ แม้ว่าจะซ้ำเติมบ้านลัดดาวัลย์ต่อไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็ยังมีผลกำไรที่ดี

เมื่อลองเปรียบเทียบดู จิรเดชได้แต่ยิ้มขออภัยกับไกรเดช แล้วพูดขึ้น“ขออภัยครับ เมื่อกี้ผมวู่วามไปหน่อย กรุ๊ปKINจะเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นแน่นอนครับ และจะพยายามอย่างเต็มกำลังสำหรับโครงการนี้”

ไกรเดชได้ฟัง จึงพยักหน้ายิ้มให้อย่างพึงพอใจ แล้วหันไปยิ้มให้กับฝูงชน พูดอย่างสดใสว่า“ในเมื่อเป็นแบบนี้ การร่วมมือในครั้งนี้ก็ลงมติแล้วนะครับ ถัดไปจะมีรายการแสดงและเชฟก็ได้เตรียมอาหารรสเลิศไว้ให้เราพร้อมสรรพแล้วครับ หวังว่าทุกท่านคงจะถูกใจนะครับ!”

งานเลี้ยงได้เริ่มขึ้น คนที่มาแสดงที่นี่จริงๆแล้วมีไม่กี่คน คนส่วนมากเริ่มกล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ผลสรุปในค่ำคืนนี้อยู่เหนือความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ พวกเขาล้วนคิดว่า เป็นไปไม่ได้ที่รพีพงษ์จะมาเป็นผู้ถือหุ้น แต่รพีพงษ์ดันตะโกนขึ้นมาว่าสามแสนล้าน

ทำให้ผู้คนตะลึงไปทั้งงาน

ที่สำคัญที่สุดคือ สมุห์บัญชีที่ไกรเดชเชิญมายังยืนยันอีกด้วยว่ารพีพงษ์มีทรัพย์สินจำนวนนั้นจริง ทำให้คนที่สงสัยในตัวรพีพงษ์หุบปากลงในบัดดล

รพีพงษ์กับธีรศานติ์ต่างเดินไปหาจิรเวช ในมือของทั้งคู่ถือจอกเหล้า ใบหน้ามีรอยยิ้มด้วยกันทั้งคู่

ตอนนี้จิรเวชโกธรจนหน้าเขียว พอเห็นรพีพงษ์กับธีรศานติ์เดินมาหา สีหน้ายิ่งดูไม่ได้

“ต่อไปพวกเรานับว่าอยู่ในสมรภูมิเดียวกันแล้วนะ ก็ยังคงหวังว่าจิรเวชจะคอยช่วยเหลือตระกูลลัดดาวัลย์พยายามร่วมกันสร้างโครงการบูรณะเมืองเก่านี้ให้เสร็จ”รพีพงษ์พูดพลางยิ้มให้จิรเวช

จิรเวชถลึงตาจ้องรพีพงษ์พร้อมพูดเสียงเย็นชา“แม้จะไม่รู้ว่าแกได้เงินมากมายนี้มาจากไหน แต่แกอย่าคิดนะว่าเรื่องจะจบง่ายๆ ตระกูลลัดดาวัลย์ของพวกแกจะต้องพินาศลงในมือของกรุ๊ปKINของเรา!”

รพีพงษ์เองก็หรี่ตา รัศมีในตัวเริ่มเปลี่ยน พูดกับจิรเวชว่า“แค้นของเมียฉันยังไม่ได้ชำระ เรื่องนี้ก็ไม่จบง่ายๆแน่นอน พวกแกเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ จะไม่มีใครหนีรอดสักคน!”

พูดจบ เขาก็ส่งสายตาไปทางโยษิตา

โยษิตาตัวสั่นงันงก เดิมทีเธอคิดว่าในงานเลี้ยงนี้ กรุ๊ปKINจะเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ส่วนตระกูลลัดดาวัลย์จะพังพินาศ แบบนี้เธอจะได้ยืมมือจิรเวช ทำให้รพีพงษ์แม้ตายก็ไม่มีที่ฝัง

แต่เรื่องวันนี้อยู่เหนือความคาดหมาย ตระกูลลัดดาวัลย์ไม่เพียงแต่จะไม่พินาศ แต่ยังได้มาแทนที่กรุ๊ปKIN อีกด้วย กลายมาเป็นผู้ถือหุ้นที่ใหญ่ที่สุด ส่วนกรุ๊ปKINได้เป็นเพียงตัวสำรอง

แบบนี้ การที่กรุ๊บKINต้องการกำจัดตระกูลลัดดาวัลย์ ก็กลายเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แล้วสิ กลับกลายเป็นว่าตระกูลลัดดาวัลย์สามารถใช้โอกาสนี้ในการเกทับกรุ๊ปKIN

โยษิตาไม่เข้าใจว่าทำไมเหตุการณ์ถึงกลับตาลปัตรมาเป็นแบบนี้ เมื่อครู่นี้รพีพงษ์เห็น แววตาของเธอ ทำให้เธอรู้สึกได้ถึงทูตมรณะได้อย่างแท้จริง

โยษิตาผู้ที่รักตัวกลัวตายสัมผัสได้ถึงความรู้สึกแบบนั้นจากรพีพงษ์ เดิมทีเธอคิดอยากจะหนีออกจากเมืองนี้อยู่แล้ว เธอมีลางสังหรณ์ ถ้าเธออยู่ที่นี่ต่อไป เธอจะต้องตายด้วยน้ำ มือรพีพงษ์

ตอนนี้สีหน้าญาดาทั้งเสียใจและสับสน เธอคิดไม่ถึงว่าตระกูลลัดดาวัลย์นอกจากจะไม่ได้พินาศเพราะรพีพงษ์ หากแต่ยังกลายเป็นหุ้นใหญ่ที่สุดของโครงการบูรณะเมืองเก่าอีก ด้วยอานุภาพในอนาคตจะมหาศาลแค่ไหนไม่ต้องบอก

คนที่เดินไปตามทิศทางลมอย่างเธอ ในใจกำลังคิดจะกลับไปเอาใจรพีพงษ์

เพียงแต่ในใจเธอรู้ชัด ไม่ว่าเธอจะอธิบายยังไง รพีพงษ์ก็คงไม่ให้เธอกลับบ้านลัดดาวัลย์แน่นอน ทรยศครั้งเดียวก็เพียงพอแล้ว

นิรมัทคิดไม่ออกจริงๆว่ารพีพงษ์เอาสามแสนล้านมาจากไหน เรื่องของวันนี้ ไม่เป็นดังที่เขาคิดเลย ในใจของเขา รพีพงษ์มีแต่จะนำความพินาศมาสู่บ้านลัดดาวัลย์ มีเพียงเขาเท่านั้นที่จะเป็นความหวังของบ้านลัดดาวัลย์

เสียดายที่ตอนนี้รพีพงษ์เหมือนตบหน้าเขาอย่างจัง ต่อให้เขาไปพึ่งพิงกรุ๊ปKINก็เถอะ เขาก็ไม่มีกำลังที่จะไปต่อกรกับรพีพงษ์อยู่ดี

ความโกธรแค้นชิงชังของมนุษย์ ล้วนมาจากการไร้ความสามารถของตัวเองทั้งสิ้น ตอนนี้ในใจของนิรมัทมีแต่ความชิงชังอย่างบอกไม่ถูก

เขาอยากเห็นรพีพงษ์วอดวาย เพื่อยืนยันว่าตวเองนั้นเก่งกล้า แต่รพีพงษ์ก็เหนือกว่าที่เขาคิดตลอดมา ในใจเขาเริ่มยอมรับการมีตัวตนของรพีพงษ์ไม่ได้แล้ว

สองตาแดงก่ำของเขาจ้องไปทางรพีพงษ์ กัดฟันกรอดพูดขึ้นว่า “รพีพงษ์ แกเอาสามแสนล้านมาจากไหน แกไม่มีทางมีเงินเยอะขนาดนั้นแน่ ฉันสงสัยว่าแกกำลังหลอกพวกเราทุกคน ฉันจะจับแกให้ได้ ทำความลับทั้งหมดของแกให้กระจ่าง แกสู้ฉันไม่ได้เลยสักนิด ที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ แกก็แค่โชคดีเท่านั้น ฉันจะต้องพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น!”

พูดจบ นิรมัทจึงยื่นมือออกไปทางรพีพงษ์

รพีพงษ์จ้องมองเขาทีหนึ่ง จากนั้นตบฉาดใหญ่ลงบนใบหน้าของนิรมัท นิรมัทคอเกือบหันไป ร่างหันไปเกือบสามร้อยหกสิบองศา ล้มกระแทกพื้นอย่างแรก เป็นลมพับไป

รพีพงษ์สะบัดข้อมือ ยิ้มให้จิรเวช พูดว่า“โทษทีนะ พอดีเห็นเขาดูคัน ก็เลยอยากช่วยสักที ไม่ทันระวังออกแรงมากไปหน่อย แต่ยังดีที่คุมอาการเขาไว้ได้ ปกติเวลาฉันรักษาคน มักจะฟรีเสมอ พวกแกไม่ต้องให้ค่ารักษาฉันหรอกนะ”

พูดจบ รพีพงษ์จึงหันตัวกลับออกจากที่นี่ ทิ้งให้พวกจิรเวชนิ่งอึ้ง พูดอะไรไม่ออกเป็นนานสองนาน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน