พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 527 ค่อนข้าง”ปลอดภัย” กว่า

บทที่ 527 ค่อนข้าง"ปลอดภัย" กว่า

บทที่ 527 ค่อนข้าง”ปลอดภัย” กว่า

“นี่ … คนเหล่านี้คือคนที่คุณหามาทั้งหมดหรือ?” ชายสกินเฮดจ้องไปที่รพีพงษ์ด้วยสายตาที่ไม่น่าเชื่อ ขาของเขาเริ่มอ่อนแรงและเริ่มสั่น

เดิมที เขาคิดว่ารพีพงษ์จะหาอันธพาลไม่กี่คนมา เพราะว่าเขามาจากต่างถิ่น จะหาคนที่เก่งกาจขนาดนี้ได้อย่างไร

แต่ตอนนี้ มีคนมากกว่าร้อยคนมารวมตัวกันที่ชั้นล่าง รพีพงษ์แค่โทรศัพท์ ก็สามารถเรียกคนมากมายเยอะขนาดนี้ พวกเขาทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นนักเลงอาวุโสที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับนักเลงทั่วไปเหล่านั้น สิ่งนี้ทำให้ความกลัวในใจของชายสกินเฮดปรากฏขึ้น

รพีพงษ์พยักหน้าให้ชายสกินเฮดและกล่าวว่า “น่าจะเป็นพวกเขาแหละ”

ชายสกินเฮดกลืนน้ำลาย อะไรคือน่าจะ หรือรพีพงษ์จะมีเส้นสายที่นับไม่ถ้วนในเซี่ยงไฮ้จนเขาจำไม่ได้ จนเขาเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเรียกใครมาเหรอ?

ในเวลานี้ มีชายสองคนในชุดสูทออกมาคนหนึ่ง เป็นชายวัยกลางคนในวัยสี่สิบที่ดูสงบและเด็ดขาด ส่วนอีกคนเป็นชายหนุ่มในชุดกีฬา

ชายสกินเฮดตกใจเมื่อเห็นชายสองคนนี้ แทบจะกระโดดจากพื้น

เขารู้จักสองคนนี้ ชายวัยกลางคนซึ่งเป็นผู้นำกองกำลังมาเฟียในเซี่ยงไฮ้ โสธร ในนำท่ามกลางกองกำลังมาเฟียในเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบัน อาจกล่าวได้ว่าโสธรเป็นผู้นำ มีไม่กี่คนที่สามารถเทียบได้กับเขาในเซี่ยงไฮ้ ไม่ว่าจะยั่วยุใคร ก็อย่าไปยั่วยุโสธร

ชายหนุ่มที่ติดตามโสธรมีชื่อว่ากายทิพย์เป็นลูกน้องที่เก่งกาจของโสธร ชายสกินเฮดโชคดีที่ได้ทานอาหารกับกายทิพย์จึงถือว่ารู้จักเขา

โสธรกลับพาคนมาที่นี่ด้วยตนเอง!

ทั้งเซี่ยงไฮ้ คนที่ได้รับการปฏิบัติได้เช่นนี้ เกรงว่าสามารถนับได้ด้วยมือเดียว

ชายสกินเฮดรู้สึกว่าหนังศีรษะของเขาชา ถ้าโสธรและคนเหล่านี้ถูกเรียกโดยรพีพงษ์จริงๆวันนี้เขาซวยแน่

“ มันไม่ใช่อย่างนั้นแน่นอน ไอ้หนุ่มคนนี้มีปัญญาขนาดนั้นได้ไง จะสามารถเรียกคนอย่างโสธรมาได้ ยังได้พาคนกลุ่มใหญ่ขนาดนี้มาอีก มันคงเป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ ที่โสธรและคนอื่นๆมาที่นี่ คาดว่าคงเป็นเพราะมีธุระอื่น เรามีเพียงไม่กี่คน เป็นไปไม่ได้ที่โสธรจะพาคนมาเยอะขนาดนี้เพื่อมาจัดการเราแค่ไม่กี่คน ”

“ใช่ มันต้องบังเอิญแน่ๆ คนที่ไอ้หนุ่มคนนี้เรียกมา คงกลัวโสธรจนหนีไปแล้ว เขาก็เลยพาผมลงมา เพื่อต้องการใช้คนของโสธรทำให้ผมกลัว”

“ฮิฮิ มันน่าเสียดายที่เขาไม่รู้ ผมรู้จักลูกน้องของโสธร บางทีผมอาจจะสามารถฉวยโอกาสใช้พวกเขาจัดการไอ้หมอนี่”

ความคิดบางอย่างแวบขึ้นมาในหัวของชายสกินเฮด จากนั้นเขาก็โบกมือให้กายทิพย์ซึ่งอยู่ข้างๆ โสธรและตะโกนว่า “กายทิพย์ ผมเองญิบพันไง เราเคยกินข้าวด้วยกัน ไอ้หนุ่มที่จับผมไว้หาเรื่องผม คุณสามารถช่วยผมจัดการมันหน่อยได้ไหม! ”

กายทิพย์หันศีรษะและมองไปที่ชายสกินเฮด พบว่าเขารู้จักคนๆนั้นจริงๆ แต่คนที่จับเขาในเวลานี้คือคนที่พวกเขาจะมาช่วยในครั้งนี้

ก่อนมา โสธรก็ได้บอกพวกเขาแล้ว ว่าคนที่พวกเขาจะช่วยในครั้งนี้สำคัญมาก ไม่ควรมีข้อผิดพลาดใดๆ ตัวตนของคนๆนี้ มาถึงจุดที่พวกเขาไม่สามารถจินตนาการได้

นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขามาที่นี่โดยตรง พร้อมกับผู้คนมากกว่าร้อยคน

ตอนนี้ชายสกินเฮดขอให้เขาจัดการบุคคลสำคัญคนนี้ หนังศีรษะของกายทิพย์เริ่มชาด้วยความตกใจ

โสธรหันหน้าไปมองกายทิพย์แล้วถามว่า “คุณรู้จักคนนี้เหรอ?”

กายทิพย์รีบส่ายหัวและพูดว่า “พี่ใหญ่ ผมไม่รู้จักเขาเลย ใครจะไปรู้ว่าเขารู้จักชื่อผมมาจากที่ไหน”

โสธรจึงพยักหน้าและกล่าวว่า “งั้นก็ดี”

ชายสกินเฮดตะลึงในทันที เขาคิดไม่ถึงว่ากายทิพย์จะบอกว่าเขาไม่รู้จักเขา ราวกับว่าเขากำลังพยายามตัดความสัมพันธ์กับเขา

ในตอนนี้ โสธรเดินไปหารพีพงษ์แล้วคำนับรพีพงษ์อย่างเคารพและกล่าวว่า “คุณรพี หลังจากที่เราได้รับแจ้ง เราก็รีบมาโดยเร็วที่สุด ผมหวังว่ามันจะไม่ได้มาสาย ผมไม่รู้ว่าคุณรพีเจอปัญหาอะไร ถ้าคนที่ผมพามาไม่เพียงพอ ผมจะโทรเรียกมามากกว่านี้ ”

รพีพงษ์โบกมือและพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว แค่มาหาเรื่อง คุณพามาเยอะขนาดนี้ มากพอแล้ว”

นอกจากนี้ เขาคิดไม่ถึงว่าวิไลพรจะจัดหาคนจำนวนมากขนาดนี้มา ถือเป็นยกทัพมาเลยทีเดียว แต่ในเมื่อมาแล้ว รพีพงษ์ก็ไม่ได้พูดอะไร แบบนี้สามารถทำให้ชายสกินเฮดตกใจ เชื่อว่าหลังจากวันนี้ เขาจะไม่กล้าที่จะไปหาเรื่องเยาวเรศอีกต่อไป

“คุณรพี คุณสามารถบอกเกี่ยวกับปัญหาที่คุณพบเจอได้ไหม เพื่อเราจะได้ช่วยคุณจัดการไอ้พวกไม่รู้ฟ้าไม่รู้ดิน” โสธรถาม

รพีพงษ์พูดเรื่องราวคร่าวๆทันทีเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ บอกว่ามันเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย ให้คนเหล่านี้ได้ลิ้มรสบทเรียนหน่อยก็พอแล้ว

ชายสกินเฮดจ้องไปที่ฉากตรงหน้าเขาอย่างว่างเปล่า เขาคิดไม่ถึงว่าโสธรจะนำคนจำนวนมากมาเพื่อช่วยรพีพงษ์ อีกอย่างท่าทีของโสธรที่มีต่อรพีพงษ์นั้นกลับเต็มไปด้วยความเคารพ ราวกับว่ารพีพงษ์เป็นเจ้านายของเขา เขาไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าใครจะมีหน้ามีตาต่อหน้าโสธรเช่นนี้

เมื่อตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้ ชายสกินเฮดก็หันศีรษะและชำเลืองไปที่รพีพงษ์ หลังจากนั้น เขาก็คุกเข่าลงต่อหน้า รพีพงษ์โดยไม่ลังเล ร้องไห้และกล่าวว่า “พี่ใหญ่ ผมรู้ว่าผมผิดไปแล้ว ผมคิดไม่ถึงว่าคุณจะเก่งกาจขนาดนี้ ได้โปรดยกโทษให้ผมเถอะ ผมจะไม่กล้าอีกแล้ว ”

รพีพงษ์มองเขาอย่างเย็นชา ไม่พูดอะไร เขารู้ว่า เรื่องต่อจากนี้โสธรจะช่วยเขาจัดการเอง

กายทิพย์หมุนดวงตาของเขา เมื่อเขาเห็นชายสกินเฮดคุกเข่าต่อหน้า รพีพงษ์ที่กำลังขอความเมตตาตอนนี้ เขาต้องรีบตัดความสัมพันธ์ของเขากับชายสกินเฮด ถ้าบุคคลสำคัญคนนี้รู้ เขาต้องซวยแน่

ดังนั้น เขาจึงเดินตรงไปที่ชายสกินเฮด คว้าคอเสื้อของเขาและลากเขาไปยังกลุ่มคนหนึ่งร้อยคน

“ตอนที่คุณหาเรื่องคุณรพี ทำไมไม่คิดถึงสิ่งนี้ มาอ้อนวอนขอความเมตตาตอนนี้ จะบอกคุณนะว่ามันสายไปแล้ว! ทุกคน ไอ้โง่คนนี้กล้าสร้างปัญหาให้คุณรพี ต้องให้เขารู้ความร้ายกาจของพวกเรา! ”

กายทิพย์ลากชายสกินเฮดเข้าไปในฝูงชนโดยตรง

ก่อนที่เสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชายสกินเฮดจะดังออกมา ทั้งใบหน้าของเขาก็ถูกกำปั้นท่วมท้น

เสียงกรีดร้องดังออกมาจากฝูงชน แต่น่าเสียดายที่ไม่มีใครเห็นอกเห็นใจชายสกินเฮดพวกเขาทั้งหมดอยากจะชกเขาสักสองสามครั้ง

โสธรยิ้มแล้วเดินไปหารพีพงษ์ ยื่นนามบัตรให้เขาหนึ่งใบ นามบัตรทำมาอย่างประณีตและมีขอบสีทอง มีเพียงหมายเลขโทรศัพท์เท่านั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ให้นามบัตรประเภทนี้แก่ใคร

“คุณรพี ประธานวิไลพรสั่งแล้วว่า ในอนาคตเรื่องของคุณก็คือเรื่องของเรา นี่คือนามบัตรของผม คุณสามารถโทรหาผม ไม่ว่าคุณจะเจอปัญหาอะไรในเซี่ยงไฮ้ในอนาคตก็ตาม”

รพีพงษ์ไม่ปฏิเสธและหยิบนามบัตร พยักหน้าให้โสธร

เมื่อเทียบกับการหาวิไลพร รพีพงษ์รู้สึกว่าหาโสธรจะ”ปลอดภัย”กว่า

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน