พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 537 ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ

บทที่ 537 ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ

บทที่ 537 ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ

“รพีพงษ์! คุณกำลังทำอะไร ลงมาเร็วๆ เดี๋ยวศาสตราจารย์เขาก็จะมาแล้ว อย่ามาประชดประชันที่นี่เพียงเพราะความโกรธชั่วขณะ!” นิษฐามองไปที่รพีพงษ์ที่กำลังยืนอยู่บนเวที ปฏิกิริยาแรกคือคิดว่าไอ้หมอนี้มาหาเรื่อง

ทุกคนในห้องเรียนจดจ่อไปที่รพีพงษ์ เพราะเสียงตะโกนของนิษฐาพวกเขาต่างก็จ้องมองเขาอย่างสงสัย โดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“นักศึกษาคนนี้ ผมมาสอน ผิดอะไรหรือ?” รพีพงษ์เหลือบมองนิษฐาและพูด

คำพูดของเขาทำให้นักศึกษาทั้งห้องเดือดดาล พวกเขาทุกคนมองไปที่รพีพงษ์ ซึ่งมีอายุไม่มากนักด้วยใบหน้าที่น่าทึ่ง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเด็กคนนี้จะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญจากมหาวิทยาลัย

มีเพียงไผทสันต์และอาจารย์คนอื่นๆยังนิ่งหน่อย เพราะพวกเขาทั้งหมดได้พบกับรพีพงษ์ ก่อนหน้าแล้ว รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นศาสตราจารย์ที่ผู้อำนวยการเชิญมาจริงๆ

“แม่เจ้า นี่คือศาสตราจารย์รับเชิญจากผู้อำนวยการเหรอ นี่อายุน้อยเกินไปแล้วมั้ง แน่ใจใช่ไหมว่าเขาไม่ได้ขึ้นไปบนเวทีเพื่อทำเรื่องตลก ”

“ หรือว่าเป็นเรื่องจริงใช้เงินซื้อเข้ามาหาชื่อเสียงในมหาวิทยาลัยของเรา แต่ศาสตราจารย์คนนี้ได้รับเชิญจากผู้อำนวยการเป็นการส่วนตัวไม่ใช่เหรอ ผู้อำนวยการของเรามักจะดูถูกเรื่องการโกงไม่ใช่หรอกเหรอ?”

“นี่มัน คนๆนี้น่าจะพึ่งจบได้ไม่นานมั้ง ดูจากอายุของเขา ดูเหมือนว่าเขาจะอายุน้อยกว่าอาจารย์ไผทสันต์อีก การเลื่อนตำแหน่งของอาจารย์ไผทสันต์นั้นถือว่าน่าทึ่งมากแล้ว ยังไม่สามารถขึ้นสู่ระดับศาสตราจารย์ได้เลย คนนี้กลับเป็นศาสตราจารย์รับเชิญได้ ซึ่งไร้สาระเกินไป ”

……

“รพีพงษ์คุณอย่าหน้าด้านได้ไหม คุณคิดว่าพวกเราทุกคนเป็นคนโง่หรือ คุณอายุเท่าไหร่กัน คุณจะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญในมหาวิทยาลัยของเราได้อย่างไร!” นิษฐาดูกังวลและคิดว่ารพีพงษ์เล่นใหญ่เกินไปแล้ว

“นักศึกษาท่านนี้ โปรดนั่งลงก่อน เดี๋ยวก็จะเริ่มเรียนแล้ว อย่ารบกวนชั้นเรียนของผม” รพีพงษ์พูดให้นิษฐา

นิษฐารู้สึกโกรธมากขึ้นไปอีก เธอคิดว่ารพีพงษ์แสดงจนติดใจแล้ว วางแผนที่จะฉีกหน้าที่แท้จริงของรพีพงษ์ออกมา ให้เขาอับอายต่อหน้าทุกคน

ในขณะนี้นี่เอง มโนชาเดินเข้ามาในห้องเรียน ขมวดคิ้วใส่นิษฐาและพูดว่า “คุณกำลังยืนทำอะไรอยู่ ดร.รพีให้คุณนั่งลง คุณยังอยากจะหาเรื่องอีกเหรอ?”

นิษฐาเห็นมโนชาเข้ามา ดวงตาของเธอก็เบิกกว้างทันทีและเธอก็พึมพำ“ รุ่นพี่ เขา … ”

“ไม่ต้องพูดแล้ว รีบนั่งลง อย่าส่งผลกระทบต่อคาบเรียนของดร.รพี” มโนชาพูดกับนิษฐา

นิษฐารู้สึกเพียงเสียงฟ้าร้องในหูของเธอ เธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ เธอนั่งอยู่ลงบนเก้าอี้โดยไม่รู้ตัวและจ้องไปที่รพีพงษ์ที่อยู่บนเวทีอย่างเหม่อลอย ในหูมีคำสามคำวนซ้ำไปมา “ดร.รพี” ที่มโนชาพูด

มโนชาเห็นว่ายังมีคนมากมายในห้องเรียนสงสัยในตัวตนของรพีพงษ์ เธอจึงกระแอมในลำคอและตะโกนว่า”เรียนนักศึกษาและอาจารย์ทุกท่าน นี่คือแขกที่ได้รับเชิญจากผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยเรา ศาสตราจารย์ รพีพงษ์ คุณรพี คลาสนี้จะสอนโดยคุณรพี ฉันหวังว่าทุกคนจะสามารถแสดงความกระตือรือร้นและทัศนคติที่จริงจังในการมาฟังการสอนของคุณรพี”

หลังจากพูดเสร็จ มโนชาก็รีบนั่งบนที่นั่งว่างในแถวแรก

“เขา … เขากลับเป็นศาสตราจารย์ที่ได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยจริงๆ เป็นไปได้ยังไง เห็นได้ชัดว่าเขาอายุแค่ยี่สิบกว่าเท่านั้น อีกอย่าง … อีกอย่างเขายังได้รับการเลี้ยงดูจากผู้หญิง … หรือว่าฉันเข้าใจเขาผิดจริงๆ ? “นิษฐารู้สึกว่าตัวเองทำอะไรผิด ท่าทีที่พิจารณาผู้อื่นก่อนคิดถึงถูกผิด ทำให้เธอเข้าใจผิดรพีพงษ์หลายอย่างมาก

หลังจากยืนยันว่ารพีพงษ์เป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่ผู้อำนวยการเชิญมา นักศึกษาทุกคนก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น พวกเขาคิดไม่ถึงว่าบุคคลที่ดูแก่กว่าพวกเขาเพียงไม่กี่ปีจะเป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยเชิญมา

ไผทสันต์เห็นปฏิกิริยาของทุกคน สีหน้าเยาะเย้ยบนใบหน้าก็ยิ่งมากขึ้น ดูเหมือนว่าการรับรู้ของทุกคนจะเหมือนกัน คนในวัยนี้ มีคุณสมบัติอะไรในการเป็นศาสตราจารย์รับเชิญ?

เดี๋ยวหากการบรรยายของรพีพงษ์ ไม่มีเนื้อหาที่แท้จริง เขาจะร้องเรียนต่อผู้อำนวยการและขอให้ผู้อำนวยการถอนตำแหน่งศาสตราจารย์ของรพีพงษ์

ไม่นาน เสียงกริ่งในมหาวิทยาลัยก็ดังขึ้น ทุกคนก็เงียบลง รอให้ รพีพงษ์เริ่มการบรรยาย

รพีพงษ์หยุดชั่วคราวแล้วเงยหน้าขึ้น ยิ้มให้ทุกคนและพูดว่า “สวัสดีทุกคน ผมชื่อรพีพงษ์ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสเปิดสอนที่นี่ … ”

เขาแนะนำตัวเองสั้นๆก่อน จากนั้นใช้สิ่งที่เขาคิดในหัว โดยใช้วิธีที่ตลกขบขัน นำเข้าไปสู่เนื้อหาหลักของชั้นเรียนนี้

ในมุมมองของรพีพงษ์ ไม่ว่าจะเป็นการบรรยายหรือการพูดสุนทรพจน์ จุดประสงค์หลักคือการทำให้ผู้ฟังสามารถตั้งใจฟังไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงมีทักษะมากมายที่อยู่ในนั้น เพียงแค่เชี่ยวชาญทักษะเหล่านี้ คุณก็สามารถทำให้บุคคลในชั้นเรียนจดจ่อกับการฟังในสิ่งที่เขากำลังพูดถึง

ไม่มีนักศึกษาที่ไม่เป็น มีเพียงอาจารย์ที่สอนไม่เป็น

ในฐานะผู้ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ รพีพงษ์คุ้นเคยกับทักษะเหล่านี้มานานแล้ว หากเขาไม่มีความสามารถที่จะให้คนอื่นฟังเขา หัวหน้าตระกูลลัดดาวัลย์ก็จะถูกแทนที่ไปนานแล้ว

ในคาบแรกนี้ของเขา พูดถึงบทสรุปของโบราณวัตถุในประวัติศาสตร์เป็นหลัก ตามลำดับเวลา เขาพูดคร่าวๆเกี่ยวกับบทบาทหลักของโบราณวัตถุในประวัติศาสตร์อันยาวนาน ในระหว่างนั้นเขาจะแทรกความตลกขบขันเข้าไปด้วย ทำให้ทุกคนที่มาเข้าเรียนหัวเราะอย่างขบขัน

เขาได้แทรกความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัตถุอารยธรรมทางประวัติศาสตร์และเนื้อหาต่างๆเข้าไปในการบรรยายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ในระหว่างนี้เขายังแนะนำวัตถุอารยธรรมทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจมากมายที่ไม่ได้กล่าวถึงในหนังสือเรียนและเล่าเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับวัตถุทางวัฒนธรรม

ไม่เพียงแต่นักศึกษาถูกดึงดูดโดยสิ่งที่รพีพงษ์พูด แต่อาจารย์หลายคนที่อยู่ในนี้ต่างก็จ้องมองรพีพงษ์ ไม่กล้าที่จะละทิ้งคำพูดใดๆที่รพีพงษ์พูด

แม้ว่าอาจารย์หลายคนที่นั่งอยู่ที่นี่ ล้วนมาจากคณะประวัติศาสตร์พวกเขาคิดว่าพวกเขามีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พวกเขามาที่นี่ เพื่อรอดูรพีพงษ์ขายหน้า แต่ตอนนี้ พวกเขาได้ฟังการบรรยายของรพีพงษ์แล้ว ทันใดนั้นก็ตระหนักว่าความเข้าใจของพวกเขาเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมยังหยุดอยู่แค่ผิวเผินเท่านั้นและโบราณวัตถุทางวัฒนธรรมและเรื่องราวที่รพีพงษ์กล่าวมานั้น ในพวกเขาไม่มีใครเคยได้ยินเลย ทุกคนต่างตกตะลึงกับสิ่งที่รพีพงษ์ได้บรรยาย

ไผทสันต์จ้องมองรพีพงษ์ที่กำลังบรรยายบนเวทีอย่างมั่นใจด้วยความเหม่อลอย ความรู้สึกในใจของเขาเหมือนกับอาจารย์คนอื่นๆ เขาไม่เคยได้ยินการบรรยายเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ที่ชัดเจนเช่นนี้ ในความรู้สึกของเขา แม้ว่าผู้อำนวยการจะมาบรรยายเอง ก็คงไม่มีทางพูดได้ดีที่เกือบจะสมบูรณ์แบบเหมือนรพีพงษ์

เดิมทีเขาเตรียมคำถามที่ยากไว้มากมาย วางแผนที่จะถามรพีพงษ์กลางชั้นเรียน เพื่อทำให้รพีพงษ์อับอายขายหน้า ในความคิดของเขา คำถามเหล่านี้ มีระดับสูงมาก ถ้ารพีพงษ์เป็นศาสตราจารย์รับเชิญปลอม ก็จะตอบไม่ได้อย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังคำบรรยายของรพีพงษ์แล้ว ไปดูคำถามที่เขาเตรียมมา ดูแล้วเหมือนคำถามของนักเรียนประถม

ความรู้สึกนี้ทำให้ไผทสันต์รู้สึกอายจนไม่รู้จะทำยังไง ก่อนหน้านี้เขาคิดว่ารพีพงษ์ ชายหนุ่มในวัยยี่สิบกว่าปี เป็นศาสตราจารย์รับเชิญนั้นช่างเป็นเรื่องที่ตลกสิ้นดี ได้ล้อเลียนรพีพงษ์หลายต่อหลายครั้ง

ตอนนี้ดูเหมือนว่า เขาเป็นคนที่น่าตลกที่สุดต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท