พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 580 การได้พบคุณคือความโชคดีที่สุดของฉัน

บทที่ 580 การได้พบคุณคือความโชคดีที่สุดของฉัน

บทที่ 580 การได้พบคุณคือความโชคดีที่สุดของฉัน

ณ อาคารลานคอน

รพีพงษ์ยืนอยู่ริมหน้าต่าง มองทิวทัศน์ออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้นเขาก็บิดขี้เกียจและถอนหายใจยาวๆอย่างโล่งใจ

การสังหารตระกูลธาดาวรวงศ์ครั้งนี้ เอาอารียาคืนกลับมาได้สำเร็จ สิ่งที่ติดอยู่ในใจของรพีพงษ์ก็ได้ถูกปลดปล่อยออกไปแล้ว และหัวใจของเขาก็ผ่อนคลายลงทันที

และสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจที่สุดก็คือ อารียากำลังตั้งท้องลูกของเขาและเขาก็กำลังจะกลายเป็นพ่อคนแล้ว

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ รพีพงษ์ก็อดไม่ได้ที่จะแสดงรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

แน่นอน ความทรงจำของอารียายังไม่กลับมาในสภาพเดิม เขาต้องหาวิธีช่วยรื้อฟื้นความทรงจำของเธอ แม้ว่าที่จริงแล้วความรู้สึกของรักครั้งแรกก็ดี แต่รพีพงษ์ก็ยังต้องการอารียาคนเดิม

“ยืนยิ้มคนเดียวอะไรตรงนี้ล่ะ?” ในเวลานี้มีเสียงดังขึ้น

รพีพงษ์หันศีรษะไปมอง พบว่าวิไลพรมาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้

“ไม่มีอะไร ฉันคิดว่าการมาจัดการเรื่องที่เมืองเซี่ยงไฮ้ครั้งนี้ได้จบลงแล้ว โล่งใจไม่เบาเลย” รพีพงษ์กล่าว

“แล้วคุณคิดที่จะกลับเลยไหม?” วิไลพรถาม

รพีพงษ์พยักหน้า พูดว่า: “รอจัดการเรื่องนี้จบ ก็ถึงเวลากลับแล้ว พาอารียากลับสู่สภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย และมันเป็นเรื่องดีสำหรับเธอที่จะได้รื้อฟื้นความทรงจำ”

“คุณไม่รู้สึกอะไรจริงๆเลยเหรอ? คุณจะทิ้งกันไปแบบนี้งั้นเหรอ?” วิไลพรแสดงสีหน้าน้อยใจทันที ทำหน้าตาบ๊องแบ๊วแบบนั้น ไม่ว่าใครมาเห็นเข้า เกรงว่าต่างก็จะทำให้หลงรักทั้งนั้น

รพีพงษ์สีหน้าเจื่อนๆและกล่าวว่า : “อย่ามาวุ่นวาย”

วิไลพรยิ้มทันที จากนั้นก็โน้มตัวไปข้างหน้ารพีพงษ์ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน: “ยังไงคุณก็ต้องไป ก่อนออกเดินทางเราจัดกันสักรอบไม่ดีกว่าเหรอ และทำให้คนรู้สึกถึงความคิดถึงที่เนิ่นนาน ฉันรับรอง ว่าจะไม่บอกเรื่องนี้ให้ใครฟัง มันจะเป็นเพียงความลับระหว่างเราสองคน คุณเจียดเวลาแค่ครึ่งชั่วโมงเท่านั้นเอง…..”

รพีพงษ์ยกมือขึ้น ตบหน้าผากของวิไลพร ในใจทำอะไรไม่ถูก ความสามารถของวิไลพรเก่งมากจริงๆ นั่นก็คือมีความต้องการ……มากเกินไปหน่อยหนึ่ง

“ถ้ายังวุ่นวายอีก ฉันจะจับเธอโยนออกนอกหน้าต่างนะ” รพีพงษ์พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

วิไลพรหน้าแตก ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นถึงความเสียหน้าทันที จากนั้นเธอก็พูดกับรพีพงษ์ว่า “ช่างเถอะๆ ผู้ชายทื่อๆอย่างคุณ ทั้งชาตินี้คงจะใส่ถุงยางไม่เป็นหรอก ฉันคิดว่าคุณทนจนถึงครึ่งชั่วโมงไม่ไหวหรอก ดังนั้นก็เลยปฏิเสธสินะ”

รพีพงษ์ฝืนยิ้มไม่ไหว สำหรับวิไลพรไม่มีทางอื่น

“ที่ฉันมาหาคุณ เพราะมีข่าวอยากจะบอกคุณ คุณอยากฟังไหม?” วิไลพรเอ่ยปากพูด

“ข่าวอะไร?” รพีพงษ์ตอบ

“ภรรยาของคุณ เหมือนว่าความทรงจำของเธอกลับมาแล้ว น่าจะถูกกระตุ้นด้วยภาพถ่ายที่คุณทำ ตอนนี้เธออยู่คนเดียวในห้อง” วิไลพรกล่าว

ดวงตาของรพีพงษ์เป็นประกาย กล่าวอย่างตื่นเต้นว่า :” คุณพูดจริงเหรอ?”

“คุณไปดูก็รู้แล้ว” วิไลพรกล่าว

รพีพงษ์หันกลับทันที วิ่งไปที่ลิฟต์อย่างรวดเร็ว และลงไปชั้นล่าง

วิไลพรมองที่ด้านหลังของรพีพงษ์ อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ บ่นพึมพำกับตัวเองว่า: “ถ้าผู้ชายคนนี้เจอฉันตั้งแต่แรกก็คงจะดี บางทีนี่อาจจะเป็นโชคชะตาสินะ”

……

ณ ในห้องของอารียา

อารียานั่งอยู่ข้างเตียง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความรู้สึกหดหู่ ร่องรอยของความสับสนในดวงตาของเธอ ในขณะนี้ได้หายไปแล้ว

ในเวลานี้ ประตูห้องถูกผลักให้เปิดออก รพีพงษ์เดินเข้าไป เขามองอารียาด้วยความตื่นเต้น และเอ่ยปากถามว่า “อารี ความทรงจำของคุณกลับมาแล้ว ใช่ไหม? ดีจังเลย ผมยังคิดว่าจะคุณไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่ต้องแล้ว”

อารียาลุกขึ้นนั่งตัวตรงทันที เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย จ้องมองรพีพงษ์และพูด: “รพีพงษ์ คุณหยุดตะคอกเสียงดังแบบนี้ทุกวันจะได้ไหม เสียมารยาท คุณรู้ไหมว่าครอบครัวของเราเป็นเพราะคุณทำให้คนไม่น้อยมองด้วยสายตาเย็นชา ต่อไปนี้คุณจะทำให้ภูมิใจหน่อยได้ไหม?”

รพีพงษ์ผงะไปชั่วขณะ รู้สึกถึงน้ำเสียงคำพูดของอารียา ราวกับย้อนกลับไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อารียาอยู่ในอาการที่ไม่แยแสกับเขาเลย

“อารี คุณ….คุณเป็นอะไรไป?” รพีพงษ์ถามอย่างระมัดระวัง

“ฉันไม่เป็นไร คุณรีบ คุณรีบไปขอเสื่อปูพื้นสิ ที่นี่มีเตียงแค่เตียงเดียว หรือว่าคุณอยากจะนอนเตียงเดียวกับฉันเหรอ อย่าลืมสิ เวลาอยู่ที่บ้านคุณนอนพื้นอยู่ตลอด” อารียากล่าว

รพีพงษ์รู้ได้ทันที ความทรงจำของอารียากลับมาแล้ว ความทรงจำของเธอเมื่อไม่กี่ปีก่อนก็กลับมาหมดแล้ว

สิ่งนี้ทำให้รพีพงษ์รู้สึกมีพลังทันที

อารียาเห็นใบหน้าที่ยุ่งเหยิงของรพีพงษ์ เธอเอ่ยปากกล่าวว่า: “คุณมานี่ เอาหน้ามาหาฉันหน่อย”

รพีพงษ์รู้สึกสงสัยเล็กน้อย จากท่าทางของอารียาที่มีต่อเขาในตอนนั้น เธอคงจะไม่ตบเขาจริงๆหรอกนะ

“คุณจะทำอะไร?” รพีพงษ์ถาม

“ให้คุณยื่นหน้ามาก็ยื่นหน้ามาสิ พูดไร้สาระทำไมกัน” อารียาจ้องไปที่รพีพงษ์และกล่าว รพีพงษ์ทำหน้าไม่ถูก แต่ก็ยังคงยื่นหน้าเข้าไปหาเธอ ใจคิดว่าตอนนี้อารียาเป็นผู้ป่วย เขาเองไม่สามารถโต้เถียงกับเธอได้

เขาหลับตาลง รู้สึกว่าอารียาอาจจะตีเขาจริงๆ

ในขณะนี้ เขารู้สึกถึงสัมผัสที่นุ่มชุ่มชื่น เขาลืมตาขึ้นมาทันที แล้วพบว่าอารียาจูบใบหน้าของเขาแล้ว

รพีพงษ์อึ้งทันที เขามองไปที่อารียาอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วเอ่ยปากถามว่า “อารี นี่คุณ…..”

อารียาหัวเราะคิกคักทันที แสดงใบหน้าของความสุข และพูดว่า: “เด็กโง่ ฉันโกหกคุณต่างหากล่ะ ความทรงจำของฉันกลับคืนมาหมดแล้ว ฉันจำได้แล้ว เมื่อกี้ฉันอยากล้อคุณเล่น”

รพีพงษ์จ้องมองเธอ ไม่คิดว่าอารียาจะกำลังหยอกเล่น จากนั้นก็จับอารียากอดไว้ในอ้อมแขน แล้วพูดว่า: “ใช้ได้นะคุณ ในที่สุดก็กล้าหลอกฉัน มาดูว่าผมจะจัดการคุณยังไง!”

“ไอ้หยา คุณเบาๆหน่อยสิ ฉันมีลูกอยู่ในท้องนะ” อารียารีบพูด

รพีพงษ์รีบดึงมือกลับ ตอนนี้เขาถือว่าอารียามีค่ามากกว่าเขา ดังนั้นเขาจึงดูแลเธออย่างดี

อารียาเงยหน้าขึ้น มองดูรพีพงษ์ด้วยสีหน้าที่จริงจัง และเอ่ยปากว่า: “รพีพงษ์ ขอบคุณนะ การได้พบคุณคือความโชคดีที่สุดของฉัน”

รพีพงษ์ค่อยๆกอดอารียาไว้ในอ้อมแขนของเขา เขาก้มศีรษะลงและจูบริมฝีปากที่ใสพร่างพราวของเธอ

หลังจากนั้นไม่นานรพีพงษ์และอารียาก็ปล่อยจากกัน แล้วถามว่า “ในเมื่อคุณอยากขอบคุณฉัน เราควรทำอะไรกันหน่อยไหม?”

อารียาอึ้ง ถาม: “ทำอะไร?”

รพีพงษ์มองตรงไปที่คอเสื้อของอารียา และแลบลิ้นเลีย

อารียาหน้าแดงทันที เธอเอื้อมมือไปตีรพีพงษ์ แล้วพูดว่า “คนบ้า คุณไม่กลัวว่าส่งผลกระทบต่อลูกเหรอ?”

รพีพงษ์ไอเล็กน้อย ไม่เหมือนผู้ชายที่แข็งทื่ออีกแล้ว ใช้น้ำเสียงที่ลามกพูดกับอารียา:

“นอกจากวิธีเดิม แต่ก็ยังใช้…….”

เมื่อพูด รพีพงษ์ก็ใส่มือเข้าไปในริมฝีปากนุ่มๆของอารียา

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท