พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่661 ตอนนี้วางใจได้แล้วยัง

บทที่661 ตอนนี้วางใจได้แล้วยัง

บทที่661 ตอนนี้วางใจได้แล้วยัง

ช่วงบ่ายของวันต่อมา รพีพงษ์เป็นเพื่อนอารียาในห้อง แป๊ปๆก็ไปซบที่หน้าท้องของอารียา ฟังเสียงเคลื่อนไหวของลูก

“เมียจ๋า ลูกสาวเรียกผมว่าพ่อแล้ว” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าวต่ออารียา

อารียามองรพีพงษ์ด้วยสายตาแปลกๆ ลูกยังไม่คลอดออกมา จะเรียกพ่อได้ไง

หลายเดือนก่อนหน้าที่จะฝากครรภ์ อารียารู้แล้วว่าตั้งท้องลูกสาว

“งั้นคุณช่วยฉันถามเธอหน่อยสิ ว่าทำไมตอนกลางคืนมักจะเตะท้องฉัน ทำเอาฉันนอนไม่หลับเลยล่ะ” อารียาร่วมกับรพีพงษ์

รพีพงษ์ได้แนบกับท้องของอารียาอีกครั้ง จากนั้นก็กล่าว “เธอบอกว่าเธออยากออกมาหาผมเร็วๆ ที่เธอเตะท้องคุณ หมายถึงการเคาะประตูหนะ”

อารียาหัวเราะออกมา คิดว่ารพีพงษ์ก็มีด้านมุ้งมิ้งกับเขาด้วย ไม่รู้ว่าผู้ชายทุกคนที่จะเป็นพ่อจะเป็นแบบนี้เหมือนกันหรือไม่

ไม่นาน รอยยิ้มบนใบหน้าของอารียาก็หายไป เปลี่ยนเป็นกังวล แล้วกล่าว “คืนนี้ งานเลี้ยงที่ตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมจัดขึ้นจะเริ่มต้นแล้ว พวกเราเอาอยู่ไหม?”

รพีพงษ์ลูบหน้าอารียาเบาๆ ยิ้มพลางกล่าว “ผมจมลงในทะเลยังไม่ตาย ปัญหาเล็กน้อยแค่นี้ทำอะไรผมไม่ได้ แล้วผมก็ได้บอกคุณแล้ว ช่วงครึ่งปีมานี้ผมได้เรียนวิชามามากมาย คนในเมืองเกียวโต ในสายตาผม ก็เป็นแค่พวกหนอน ตบทีเดียวก็ตาย”

รพีพงษ์มีความลับอยู่ไม่น้อย ที่ไม่สามารถให้ใครรู้ได้ นอกจากอารียาเพียงผู้เดียว ที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของรพีพงษ์ที่ขาดไม่ได้ เธอจึงมีสิทธิ์รับรู้

ได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ อารียาก็สบายใจขึ้นมาหน่อย จากนั้นก็กล่าว “คุณต้องระวังให้มากนะ พวกเขามียอดฝีมือ แม้แต่ดัมพ์รงค์ก็ไม่ใช่คู่ต่อกลอนของพวกเขา

“รู้แล้ว คุณรอคลอดก็พอแล้ว หลังจากคนนี้ไป วิกฤตทั้งหมดของตระกูลลัดดาวัลย์จะหายไป” รพีพงษ์ยื่นมือไปลูบที่ท้องของอารียา “แม่หนูขี้บ่นเหลือเกิน อนาคตมีหนูเท่านั้นแหละที่จะรับได้”

อารียาคับแค้นใจ ถ้าไม่ใช่เพราะกำลังตั้งครรภ์อยู่ เธอจะกินรพีพงษ์เข้าไปทันที

ในสวนมี ท่านคทา ธฤตญาณ เธียรวิชญ์และคนอื่นๆเดินไปมาอย่างร้อนรน ดัมพ์รงค์ก็ยืนอยู่อีกฝั่ง ด้วยความกังวล

ขณะเดียวกันนี้รพีพงษ์เดินออกมาจากห้องของอาีรียา ทุกคนเห็นดังนี้ ก็รีบล้อมเข้าไป

“รพีพงษ์ งานเลี้ยงคืนนี้ มันอันตรายมาก แกจะไปคนเดียวได้ไง ไม่ว่ายังไง ก็ต้องให้พวกเราไปด้วย” ธฤตญานกล่าว

“ใช่พี่รพี ไม่ว่าจะยังไง ต้องให้พวกเราไปด้วยนะ ถ้ามีเรื่อง พวกเราจะได้ต่อต้านได้ พี่ไปคนเดียว อันตรายมากนะ” เธียรวิชญ์พูดต่อ

รพีพงษ์เห็นหลายคนเป็นห่วงเขา ยิ้มพลางกล่าว “ไม่จำเป็นจริงๆ แล้วตอนนี้สิ่งสำคัญไม่ใช่ความปลอดภัยของผม แต่เป็นความปลอดภัยของอารียา พวกคุณอยู่ที่นี่ ผมถึงจะไปงานเลี้ยงได้อย่างไรกังวล”

ได้ยินรพีพงษ์พูดแบบนี้ ทุกคนก็เซ็ง รู้สึกเหมือนรพีพงษ์จะไปตายอย่างไรอย่างนั้น

“ลูกพี่ ไม่ใช่ว่าผมไม่เชื่อฝีมือพี่นะ แต่หกคนที่พวกมันหามาฝีมือเยี่ยมมากจริงๆ พี่ไตรทศยังอยากที่จะต่อกลอนเลย พวกเราเกรงว่าพี่จะได้รับอันตราย” ไตรทศกล่าว

“ถูก หกคนนั้นฝีมือเยี่ยมมาก มองข้ามไม่ได้เลยนะ” ดัมพ์รงค์พูดต่อ

รพีพงษ์รู้สึกเซ็งเล็กน้อย ไม่รู้จะพูดโน้มน้าวอย่างไรดี ให้พวกเขาอยู่บ้านอย่างสงบ รอฟังข่าวจากเขา

ในขณะเดียวกันนี้เอง มีคนหนึ่งวิ่งมาที่นี้อย่างร้อนใจ หายใจไม่ทันแล้วกล่าว “ไม่ได้การแล้ว คนของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมมาแล้ว บอกว่าให้พวกเราจัดคนไปงานเลี้ยง มิเช่นนั้นจะทำลายคฤหาสน์ใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ซะ!”

ทุกคนได้บินก็ตกใจ รพีพงษ์ตากระตุก แล้วกล่าวทันใดว่า “พาพวกเราไป”

คนนั้นรีบพยักหน้า พาพวกรพีพงษ์ไป

ในสวนของคฤหาสน์ใหญ่ตระกูลลัดดาวัลย์ การ์ดของตระกูลลัดดาวัลย์ล้มลงกับพื้น และคนที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา มีเพียงสองคน เป็นสองคนที่อนันยชจัดมา

ขณะนี้สองคนมีสีหน้าไม่พอใจ จ้องไปยังคนพวกนั้นที่ล้มลงนอนกับพื้นอย่างกับกำลังดูฝูงมดอยู่อย่างไรอย่างนั้น แล้วตะโกนออกมาว่า “รีบให้นายใหญ่ของพวกแกไปกับพวกเราซะ มิเช่นนั้นพวกเราจะทำลายตระกูลลัดดาวัลย์ให้ราบเป็นหน้ากลอง!”

“ชั่งกล้าพูด คิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะกลัวพวกแกจริงๆหรอ!” ในขณะนี้พวกของรพีพงษ์มาถึง ท่านคทากล่าวออกมา

ทั้งสองมองไปที่ทางนั้น หนึ่งในนั้นกล่าวอย่างดูแคลนว่า “ไอ้แก่ หญิงนั้นใกล้จะคลอดลูกแล้ว ตอนนี้คงเป็นแกสินะที่เป็นนายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ไปกับพวกเราซะ”

พูดจบ คนนั้นก็เดินไป เพื่อจะบีบท่านคทาให้ไปด้วย

ขณะเดียวกันนี้รพีพงษ์ก็ได้ขวางหน้าของท่านคทาไว้ แล้วกล่าว “หมาขี้เรื้อนที่ตระกูลวรโชติธีรธรรมเลี้ยงไว้กล้ามาทำอะไรตามใจที่ตระกูลลัดดาวัลย์ พวกแกไม่กลัวตายหรือไง?”

คนนั้นมองรพีพงษ์หัวจรดเท้า ดูไม่คุ้นเคย จึงถาม “แกเป็นใครวะ กล้าขวางฉัน?”

“ฉันคือรพีพงษ์” รพีพงษ์ตอบไปทันที

ทั้งสองชะงัก หนึ่งในนั้นถาม “นายใหญ่ของตระกูลลัดดาวัลย์?”

“ใช่”

“แกตายไปแล้วไม่ใช่หรือไง?” ทั้งสองรู้สึกแปลกใจ

“ทำพวกแกผิดหวังล่ะ ถ้าฉันตาย จะจัดการกับพวกแกได้ไง” รพีพงษ์ยิ้มพลางกล่าว

“ตลกจริงๆ แม้แกจะไม่ตายแล้วไงวะ วันนี้ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ยังคงพินาศอยู่ดี แกไปกับพวกเรา คืนนี้หลังจากที่แกได้โอนกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์แล้วนั้น พวกเราจะค่อยๆฆ่าแก!”

ท่านคทามองไปที่รพีพงษ์อย่างรู้สึกกังวล แล้วกล่าว “คุณไม่ควรบอกตัวตนให้พวกมันรู้เร็วขนาดนี้ เดี๋ยวพวกมันกลับไป ป่าวประกาศเรื่องนี้ จะไม่ดีต่อตระกูลลัดดาวัลย์มากเข้าไปอีก

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “เรื่องนี้ไม่น่าเป็นห่วง พวกมันทั้งสอง ไม่มีทางมีชีวิตรอดกลับไปแน่”

สองคนนั้นหัวเราะเสียงดัง รู้สึกดูถูกรพีพงษ์อย่างมาก

“มึงเป็นใคร คิดจะฆ่าพวกกู? กูว่ามึงเอาตัวเองให้รอดก่อนเหอะ!”

เมื่อพูดจบ ก็พุ่งไปที่รพีพงษ์

สีหน้าของท่านคทาและดัมพ์รงค์เปลี่ยนไป แล้วได้เข้าไปขวางหน้าของรพีพงษ์ไว้ทันที

ในขณะเดียกวันนี้ ร่างกายของรพีพงษ์เริ่มขยับ อย่างรวดเร็วเร็วถึงขั้นพวกเขาคาดไม่ถึง

คนที่ลงมือกับรพีพงษ์ รู้สึกรับรู้ได้ถึงภัยที่จะมาถึง แต่ตอนนี้จะถอยหลัง ก็ไม่ทันแล้ว

หมัดของคนนั้นต่อยไปที่ร่างของรพีพงษ์ รพีพงษ์รับหมัดเขาเอาไว้

“มีพลังแค่นี้เองหรอ?” รพีพงษ์ยิ้มมุมปาก ตอนแรกเขาคิดว่าความสามารถของคนที่อนันยชจัดมานั้นก็มีกำลังภายใน แต่เมื่อได้แลกหมัดกันแล้วถึงได้รู้ว่ายังห่างไกลจากกำลังภายในอีกเยอะ

จากความรู้สึก คนพวกนี้ก็แค่เก่งกว่าคนฝีมือดีเล็กน้อย แม้พลังของพวกเขาคล้ายกับจะมีกำลังภายใน แต่ความจริงแล้วยังห่างกันอีกมาก

ใบหน้าของคนนั้นแสดงออกถึงความคาดไม่ถึง แล้วกล่าว “นี่……นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

“ให้พวกแกได้เห็นถึงพลังที่แท้จริง” รพีพงษ์พูดต่อ อีกมือหนึ่งผลักหมัดนั้นออกไป หลังจากที่ไปอยู่บนท้องของคนนั้นแล้ว กำลังภายในก็ได้ระเบิดออก คนนั้นรู้สึกเพียงแค่ความว่างเปล่า จากนั้นก็ลอยกลับหลังไป ล้มลงกับพื้น และไม่ขยับ

ทุกคนมองเหตุการณ์ด้วยความงง โดยเฉพาะดัมพ์รงค์ ฝีมือของทั้งสองเป็นยังไงพวกเขารู้ดี รพีพงษ์ใช้แค่หมัดเดียวก็ต่อยจนมันลอยไป ชั่งน่ากลัวอย่างนี่กระไร

หลังจากที่จัดการเสร็จไปหนึ่ง รพีพงษ์ก็ไปที่อีกคน คนนั้นรู้สึกแปลกประหลาด คิดไม่ถึงว่าอีกคนจะโดนแค่หมัดเดียวแล้วล้มลงทันที

เขารับรู้ได้ถึงภัยอันตราย คิดจะหันหลังหนี รพีพงษ์พุ่งเข้าไป ต่อยเข้าไปหนึ่งหมัดที่หลัง จากนั้นเขาก็เลือดพุ่งออกมา นอนกับพื้น ไม่ขยับ

จัดการสองคนได้ รพีพงษ์ก็มองไปที่ท่านคทาแล้วคนอื่น ยิ้มแล้วถาม “ตอนนี้ผมไปงานเลี้ยงคนเดียว พวกคุณวางใจได้หรือยัง?”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท