พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่664 จุดจบ

บทที่664 จุดจบ

บทที่664 จุดจบ

ทุกคนกำลังมองจณัตว์ที่ล้มชักอยู่บนพื้นจนกระทั่งค่อยๆนิ่งไป ความกลัวภายในใจได้ถึงขั้นขีดสุด

จากที่รพีพงษ์ปากริชไปที่หัวใจของคนนั้น ถึงกำจัดจณัตว์ ใช้เวลาแค่ยี่สิบกว่านาที

วรยศนายใหญ่ตระกูลวรโชติธีรธรรม และจณัตว์อีกสี่คน บวกกับอีกคนที่ไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดี ในยี่สิบนาที ได้เสียชีวิตไปทั้งหมด นี่ทำให้ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เข้าใจ ว่ารพีพงษ์ไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเขา

พลชยืนแข็งทื่อที่เดิม ทุกๆกี่วินาที ร่างจะสั่นคลอสักครั้ง ในสมองเขาปรากฏแต่ภาพที่วรยศถูกรพีพงษ์ตบตาย ปากซีดเซียว เหงื่อไหลย้อย

งานเลี้ยงครั้งนี้เป็นเขาและวรยศร่วมกันจัด แม้แต่วรยศรพีพงษ์ก็ได้ฆ่าแล้ว แล้วจะปล่อยเขาไปได้อย่างไร

แล้วจณัตว์ที่ฝีมือดี สู้กับรพีพงษ์ยังไม่ถึงสามท่าก็ไปไม่ไหวแล้ว นี่หมายความว่า แม้เขาจะวิ่งหนีเร็วขนาดไหน ก็ไม่สามารถหนีออกไปจากความอาฆาตในใจของรพีพงษ์ได้

ตอนนี้รพีพงษ์หันไปมองพลช พลชกลืนน้ำลาย ปากสั่น

รพีพงษ์เดินถึงหน้าของพลช ด้วยรอยยิ้มที่มีเลศนัย แล้วถาม “เหลือแค่มึงล่ะ มีคำพูดอะไรจะฝากไว้ไหม?”

พลชสูดหายใจเข้าลึกๆ คิดว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องตาย สู้ตายอย่างมีศักดิ์ศรีหน่อยดีกว่า

“รพีพงษ์ มึงไอ้ปีศาจ! ฆ่าคน โดยไม่เคารพกฎหมาย มึงคิดว่าการทำแบบนี้ จะสามารถรักษาตระกูลลัดดาวัลย์ในตอนนี้ได้หรือ ฝันไปเถอะ!”

รพีพงษ์บึนปาก แล้วกล่าว “แล้วที่มึงจะทำอะไรกับลูกเมียกู เคารพกฏหมายหรือไง? กูก็แค่เลียนแบบมึง แต่กลายเป็นพวกมึงที่เสียเปรียบ แล้วตอนนี้จะมาพูดให้ดูดี?”

“เหอะ ยังจะชี้แจงอีก มึงก็แค่ไอ้บ้าบิ่น วันนี้มึงอาจได้ชีวิตกูไป แต่ตระกูลลัดดาวัลย์ของมึงกำลังจะจบลง ถึงกูจะตาย แต่ตระกูลลัดดาวัลย์ก็ยังต้องพังลงอยู่ดี มันถูกกำหนดไว้แล้ว ไม่ว่าแกจะทำยังไง ก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้แล้ว!” พลชกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด

รพีพงษ์ยิ้ม แล้วกล่าว “มึงคิดว่าตระกูลลัดดาวัลย์จะเรียบง่ายอย่างที่มึงคิดจริงๆหรือไง ในเมื่อเป็นแบบนี้ กูจะให้มึงถอดใจ แล้วไปเฝ้ายมบาลซะ”

พูดจบ รพีพงษ์หยิบมือถือขึ้นมาโทร

“ลงมือ”

“รับทราบ”

แค่ไม่กี่คำ รพีพงษ์ก็ได้เก็บมือถือไว้

พลชมองไปที่รพีพงษ์อย่างไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่าเขาทำอะไร แต่ในใจของเขา ตระกูลลัดดาวัลย์ถูกเพ่งเล็งในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ก็ได้มีกำลังเสริมมาช่วยจากอเมริกา แม้ตระกูลลัดดาวัลย์ยังคงยืนหยัดได้ แต่ก็มีจุดอ่อนมากมายแล้ว รพีพงษ์เพียงคนเดียว ทำให้กลับมาเหมือนเดิมไม่ได้

“ทุกท่าน สิบนาที ตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมจะหายไปจากเมืองเกียวโต ผมอยากให้พวกคุณรู้ แม้ตระกูลลัดดาวัลย์สุดที่จะรับได้ แต่ก็ไม่ใช่ใครจะรังแกได้ง่ายๆ สิบนาทีให้หลัง ถ้าพวกคุณมีใครที่ยังจะเพ่งเล็งตระกูลลัดดาวัลย์อีกล่ะก็ เตรียมตัวมีความสุขได้เลย!” รพีพงษ์ตะโกนให้ทุกคนในงานรับรู้

ก่อนหน้าที่จะมาที่นี่ รพีพงษ์ได้รับการติดต่อกับเทือกเขากิสนา และได้รู้ว่าเทือกเขากิสนากำลังสแตนด์บายเพื่อเขาอยู่

ด้วยความสามารถของเทือกเขากิสนา จะล้างบางตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมนั้น สิบนาที ถือว่าเยอะไป

หลังจากที่พลชได้ยินคำพูดของรพีพงษ์แล้วนั้นก็เหยียดหยามทันที “ทุกท่านอย่าไปฟังมัน สถานการณ์ของตระกูลลัดดาวัลย์ในปัจจุบันเป็นยังไงทุกคนรู้ดี แม้รพีพงษ์จะกลับมาแล้วยังไง ตระกูลลัดดาวัลย์ได้ให้เงินทุกบาททุกสตางค์กับหอการค้าสมน.แล้ว แค่เขาคนเดียว ไม่สามารถเรียกคืนตระกูลลัดดาวัลย์ได้

“ดังนั้นแม้วันนี้มันจะฆ่าผม พวกคุณต้องร่วมใจกันทำให้ตระกูลลัดดาวัลย์พัง มีเพียงวิธีนี้ พวกเราถึงจะได้ของที่ควรจะเป็นของพวกเรากลับมา!”

ทุกคนโต้ตอบพลชทันใด แล้วยังกล่าวโทษรพีพงษ์ ว่ารพีพงษ์ก็แค่คุยโวโอ้อวด

รพีพงษ์ไม่พุดอะไร ได้แต่ยืนเงียบๆอยู่ตรงนั้น

ประมาณสิบนาทีผ่านไป พลชได้รับข้อความรัวๆ

“บัตรธนาคารหมายเลขสุดท้ายเลขที่4253ได้ถูกอายัด……”

“เงินกู้ทำกิจการของคุณได้ถูกเพิกถอน……”

“บริษัทXXในนามของคุณทำผิดกฎได้ถูกตรวจสอบ……”

……

ผ่านไปไม่นาน มือถือของพลชก็มีสายโทรเข้ามาอย่างไม่หวาดไม่ไหว

“ลูกพี่ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเงินหมุนของบริษัทชะงัก คุณรีบหาเงินมาหมุน”

“ท่านประธาน บริษัทของเราเกิดช่องว่างกระแสเงินสดยอดหนึ่งห้าพันล้าน ตอนนี้หุ้นหยุดชะงัก ถ้าเงินสดนี้ไม่ได้รับการโปะ บริษัทต้องจบแน่ๆ!”

……

พลชมองเหตุการณ์นี้อย่างเหม่อลอย ยังไงเขาก็คิดไม่ถึง แค่ช่วงระยะเวลาเพียงสิบนาที ตระกูลนฤวัตปกรณ์ของเขาจะเกิดปัญหาขึ้นมากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ตระกูลนฤวัตปกรณ์จะต้องชดใช้อย่างมากมายมหาศาล

มือถือของวรยศก็ดังไม่หยุด ไม่คิดก็รู้ ว่าตระกูลวรโชติธีรธรรมกำลังเจอปัญหาเดียวกับตระกูลนฤวัตปกรณ์

“พวกคุณรีบดู หุ้นของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมหยุดชะงักไปแล้ว บริษัททั้งหมดในนามของพวกเขาราคาลงถึงสามเท่า”

ในขณะนี้ผู้คนกำลังส่งเสียงตะลึง ทุกคนหยิบมือถือขึ้นมา หาสถานการณ์ปัจจุบันของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรม

“นายใหญ่ของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมทั้งสองได้ติดแบล็กลิสต์ ว่าบริษัทของพวกเขา ขาดทุน และคืนเงินกู้ไม่ได้ ทรัพย์สินในนามของพวกเขาถูกอายัดไว้หมดแล้ว”

“บริษัทลูกของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมหลายๆบริษัทถูกตรวจสอบว่าทำผิดกฎหมาย มีผู้เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบแล้ว!”

……

มีข้อความจากคนหลายๆคนพูดกันอย่าไม่หยุด ทุกๆคำพูด ทำลายตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมทั้งหมด

ถึงกระทั่งตอนนี้ ทุกคนเพิ่งจะเข้าใจ ว่ารพีพงษ์ไม่ได้ล้อเล่นกับพวกเขา

พลชถอยหลังไปสองก้าวอย่างเดินไม่ตรงทาง สีหน้าซีดเซียว แววตาของรพีพงษ์สงบ แต่ทว่าเขากลับรับรู้ได้ถึงการบีบบังคับของวัยรุ่นคนนี้

เขาไร้ซึ่งกำลัง เมื่อนึกถึงตระกูลนฤวัตปกรณ์ที่จบลงแล้ว รพีพงษ์ก็ไม่มีทางปล่อยเขาไป เขาถอยหลังไป นอนลงกับพื้น

หลังจากคืนนี้ไป แผนที่จะทำลายล้างตระกูลลัดดาวัลย์ ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก

สิ่งแรกที่คนพวกนั้นที่เข้าร่วมงานเลี้ยงในคืนนั้นทำคือ เตือนคนในครอบครัวของตัวเอง ว่าอย่าไปหาเรื่องตระกูลลัดดาวัลย์

พฤติกรรมทั้งหมดที่กระทำต่อตระกูลลัดดาวัลย์ ราวกับมีสิ่งที่มองไม่เห็นครอบงำอยู่ ในคืนเดียวกันนั้นก็หยุดหมด

วันรุ่งขึ้น เพราะบริหารที่ไม่ยุติธรรม ขาดเงินทุน ทำผิดกฎและอื่นๆ ตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมจึงประกาศล้มละลาย ข่าวสะพัดไปทั้งเมืองเกียวโต

และข่าวการกลับมาของรพีพงษ์ คนที่อยู่ในงานเลี้ยงคืนนั้นไม่มีใครกล้าเอ่ยออกมา หลังจากที่เห็นรพีพงษ์ฆ่าคนแล้ว พวกเขาจึงไม่อยากปลาหมอตายเพราะปาก

ตำแหน่งของตระกูลลัดดาวัลย์ในเมืองเกียวโตมั่นคงอีกครั้ง การล้มละลายของตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรมเป็นข่าวที่ถกเถียงกันอย่างมาก ถูกแปลไปหลายภาษา ถึงกระทั่งทำหนังสือเกี่ยวกับเหตุการณ์ในครั้งนี้

มีคนจำนวนไม่น้อยรู้สึกว่าที่ตระกูลลัดดาวัลย์ผ่านช่วงวิกฤตนี้มาได้นั้น เพราะอารียาใช้วิธีรุนแรง กำจัดการร่วมมือกันระหว่างตระกูลนฤวัตปกรณ์และตระกูลวรโชติธีรธรรม ในหนังสือ เธอได้กลายเป็นธิดาสงคราม

ถึงขั้นมีคนจำนวนไม่น้อยพูดว่าเด็กที่อารียาตั้งครรภ์คือมังกร ดังนั้นจึงสามารถผ่านวิกฤตครั้งนั้นมาได้ ในแต่ล่ะเวอร์ชั่น พูดเกินจริง เพื่อตอบสนองความต้องการของคนส่วนมาก

หน้าประตูบริษัทตระกูลวรโชติธีรธรรม

หญิงวัยกลางคนพาเด็กอายุราวๆเจ็ดแปดปีเดินมาที่นี่ ด้วยความตื่นเต้น

“จำเริญ อีกเดี๋ยวพวกเราก็จะได้เจอคุณลุงแล้ว คุณลุงของเธอคือบุคคลสำคัญของตระกูลวรโชติธีรธรรม บริหารคนอยู่ในบริษัทนี้เป็นร้อยๆคนเลยนะ เดี๋ยวพวกเราจะให้คุณลุงออกหน้า ช่วยหาไอ้นั่นให้เจอ แล้วจัดการมันอย่างรุนแรง” หญิงวัยกลางคนยิ้มพลางกล่าว

เด็กน้อยรีบพยักหน้าคิดว่าอีกเดี๋ยวจะได้ล้างแค้น ก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ทั้งสองเดินไปถึงบริษัท แต่กลับเห็นบริษัทถูกปิด

หญิงวัยกลางคนสงสัย ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น รปภ.ที่อยู่หน้าประตูเก็บของเสร็จพอดี เธอเห็นดังนั้น ก็รีบเดินเข้าไปหา

“น้องชาย พวกเราเป็นญาติของตระกูลวรโชติธีรธรรม มาเพื่อจะพบญาติของฉัน รบกวนพาฉันไปหน่อยได้ไหม?” หญิงวัยกลางคนกล่าว

รปภ.มองไปที่เธอ แล้วเหยียดหยามว่า “ตระกูลวรโชติธีรธรรมล้มละลายไปแล้ว พวกคุณยังจะมาหาญาติที่นี่อีก บางคนถูกจับ บางคนหนี พวกคุณไม่กลัวมีปัญหาไปด้วยหรือไง ยังกล้ารู้จักญาติอย่างตระกูลวรโชติธีรธรรมอีก”

“คุณพูดว่าอะไรนะ? ตระกูลวรโชติธีรธรรมพังลงแล้ว?” หญิงวัยกลางคนตะลึง

“ก็ใช่ไง ไม่เห็นเทปปิดไว้หรอ” รปภ.กล่าว จากนั้นก็ไม่สนใจเธออีก แล้วจากไป

หญิงวัยกลางคนดูเทปปิดอย่างเหม่อลอย ไม่พูดไม่จาอยู่นาน

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท