พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก – บทที่ 687ปรมาจารย์เน่ยจิ้ง

บทที่ 687ปรมาจารย์เน่ยจิ้ง

เมื่อชาลิสาเห็นว่าแม้แต่ปรมาจารย์เน่ยจิ้งรพีพงษ์ก็ไม่รู้จัก รู้สึกว่าเหมือนกำลังเผชิญหน้ากับไก่อ่อนมือใหม่

ภาพในหัวของหล่อน เจ้านายของเทือกเขากิสนาเป็นคนที่มองการณ์ไกล จิตใจซับซ้อน เป็นคนคนหนึ่งที่มีอำนาจควบคุมทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์ นี่คือเหตุผลที่หล่อนมองดูเทือกเขากิสนาดี ดังนั้นจึงตกลงที่จะเป็นผู้รับผิดชอบของเทือกเขากิสนาในบริเวณอเมริกา

คราวนี้หล่อนได้รับคำสั่ง ว่าลูกชายของเจ้านายเทือกเขากิสนาจะมาที่อเมริกา รับช่วงอำนาจของเทือกเขากิสนาที่นี่ จัดการกับตระกูลนิธิวรสกุล

ในใจของหล่อน ลูกชายของนนทภูอย่างน้อยต้องมีความสามารถพิเศษที่ยอดเยี่ยมเหนือกว่า ไม่อย่างนั้นนนทภูคงจะไม่มอบเรื่องสำคัญเช่นการจัดการกับตระกูลนิธิวรสกุลไว้ในมือของเขา

อย่างไรก็ตามรพีพงษ์ที่อยู่ตรงหน้าหล่อนทำให้มีความรู้สึกผิดหวังมาก คนคนนี้ดูไปแล้วธรรมดา แม้ว่าจะบรรลุถึงระดับเน่ยจิ้งตั้งแต่อายุยังน้อย ถือได้ว่าหนึ่งในหมื่นคน แต่หล่อนก็อยู่ในช่วงอายุนี้บรรลุถึงระดับเน่ยจิ้ง ดังนั้นสิ่งนี้ไม่ได้ทำให้หล่อนคิดว่ารพีพงษ์นั้นยอดเยี่ยม

ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ไม่รู้อะไรเลยก็กล้ามาที่อเมริกาประกาศศักดาว่าจะจัดการกับตระกูลนิธิวรสกุล ในความคิดของหล่อน ในตัวของชายคนนี้มีแต่ความประมาทและคิดเองเออเอง

แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังกับรพีพงษ์เป็นอย่างมาก แต่ชาลิสาก็เพียงแสดงทางสายตาและท่าที แต่ไม่ได้พูดอะไรเลย และก็อธิบายให้รพีพงษ์อย่างตั้งใจว่าปรมาจารย์เน่ยจิ้งคืออะไร

รพีพงษ์สังเกตเห็นว่าท่าทีที่ชาลิสาที่มีต่อตัวเองเปลี่ยนไป จริงๆแล้วในใจเขาก็ไม่มีทางเลือก อาจารย์เพียงแค่มีหน้าที่สอนเน่ยจิ้งให้กับเขา แต่ไม่เคยพูดเรื่องปรมาจารย์เน่ยจิ้งกับเขาเลย ดังนั้นสำหรับสิ่งของในแวดวงยอดฝีมือเน่ยจิ้ง จึงไม่ค่อยเข้าใจ

“ปรมาจารย์เน่ยจิ้งคือทีมองค์กรที่คุ้มครองรักษาระเบียบของยอดฝีมือเน่ยจิ้ง เพียงแค่บรรลุถึงระดับเน่ยจิ้ง ถึงจะมีคุณสมบัติที่จะเข้าใจการมีอยู่ของพวกเขา”

“บนทางโลกมากฎหมายมาจำกัดการกระทำของผู้คน แบบนี้โลกก็จะไม่วุ่นวาย ในโลกของยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ก็มีแบบนี้อยู่เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นยอดฝีมือเน่ยจิ้งที่มีความแข็งแกร่งมากกว่าคนธรรมดาหลายพันเท่า เกิดการปรากฏตัวของคนที่มีเจตนาไม่ดี สำหรับคนทั่วไปแล้ว จะเป็นหายนะครั้งใหญ่”

“กฎหมายที่กำหนดไว้ของปรมาจารย์เน่ยจิ้ง ยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ห้ามลงมือกับคนธรรมดา หากละเมิดกฎหมายข้อนี้ จะถูกปรมาจารย์เน่ยจิ้งไล่ฆ่า ถึงเวลานั้นไม่ว่าจะไกลสุดขอบฟ้าโลก พวกเขาก็จะตามหานายจนเจอ”

เมื่อได้ยินคำพูดของชาลิสา ในใจของรพีพงษ์ก็เกิดความเข้าใจทันที ถึงค่อยเข้าใจว่าทำไมแม้แต่ตระกูลชั้นนำของโลก จึงไม่ค่อยมียอดฝีมือเน่ยจิ้งออกมานั่งบัญชาการรักษาการณ์ด้วยตัวเอง ที่แท้ก็เป็นเพราะมีปรมาจารย์เน่ยจิ้งอยู่นี่เอง

อย่างไรก็ตามในไม่ช้าเขาก็คิดว่าประสิทธิภาพของสิ่งที่เรียกว่าปรมาจารย์เน่ยจิ้งไม่น่าจะเร็วเท่าที่คิดขนาดนี้ เรื่องราวมากมาย พวกเขาน่าจะตรวจสอบแล้ว ถึงค่อยลงจับกุมกับคู่กรณี แต่ถ้าตรวจสอบไม่พบ ก็คงจบแบบไม่มีบทสรุปเป็นธรรมดา

หลังจากที่รพีพงษ์กลับมาที่เกียวโต ลงมือฆ่าคนไปไม่น้อย แต่ไม่มีสิ่งที่เรียกว่าปรมาจารย์เน่ยจิ้งไปตัดสินความผิดของเขาถึงที่

เขาเดาว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ปรมาจารย์เน่ยจิ้งจะไม่ปฏิบัติต่อเขาในฐานะยอดฝีมือเน่ยจิ้ง เนื่องจากว่าคนคนหนึ่งที่หายตัวไปครึ่งปีแล้วกลับมา ความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งนั้นน้อยมาก

ที่สำคัญที่ผ่านมาความแข็งแกร่งของรพีพงษ์ก็ไม่อ่อนแอ ต่อให้หลังจากกลับมาแล้วฆ่าคน ปรมาจารย์เน่ยจิ้งจะปฏิบัติต่อเขาในฐานะยอดฝีมือที่มีพลังมากในหมู่คนธรรมดาเท่านั้น

แน่นอนว่า ส่วนใหญ่คงจะต้องเป็นเพราะรพีพงษ์โชคดี อย่างไรก็ตามปรมาจารย์เน่ยจิ้งประกอบด้วยยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ความแข็งแกร่งคงจะไม่ต่ำเกินไป ไม่แน่ในหมู่ผู้คนมากมาย ถึงจะปรากฏคนที่รอดพ้นได้อย่างรพีพงษ์

ที่สำคัญตอนที่ตัวเองอยู่อำเภอคีงเมนต่อสู้กับปีติภัทรและโสจกร ถือเป็นความแค้นระหว่างยอดฝีมือเน่ยจิ้ง ไม่ได้ทำให้คนธรรมดาได้รับบาดเจ็บ ดังนั้นปรมาจารย์เน่ยจิ้งก็ไม่ได้ไต่สวน

“นอกจากกฎข้อนี้แล้ว ภายในหน่วยงานปรมาจารย์เน่ยจิ้งยังมีข้อบังคับอีกมากมาย ฉันจะไม่บอกกับนายทีละข้อล่ะ นายเพียงต้องจำไว้ว่า ห้ามฆ่าคนธรรมดา ห้ามใช้เน่ยจิ้งไปทำความชั่ว เพียงแค่ทำสองสิ่งนี้ได้ โดยทั่วไปแล้วปรมาจารย์เน่ยจิ้งก็จะไม่ค่อยยุ่งด้วย”ชาลิสาพูดต่อ

“ปรมาจารย์เน่ยจิ้งเหล่านี้มีอยู่ทุกหนทุกแห่งหรือเปล่า?”รพีพงษ์เอ่ยปากถาม

“แน่นอนว่าไม่ใช่ ปรมาจารย์เน่ยจิ้งจะรับผิดชอบแต่จอมยุทธ์เน่ยจิ้งในประเทศจีนเท่านั้น สิ่งที่ผู้คนในประเทศอื่นทำนั้น ไม่อยู่ในความควบคุมดูแลของพวกเขา ดังนั้นในประเทศจีนและไชน่าทาวน์ทั่วโลกจึงมีปรมาจารย์เน่ยจิ้งอยู่”ชาลิสาตอบ

รพีพงษ์ขมวดคิ้ว และพูดว่า: “กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ฉันไปล้างแค้นที่ตระกูลนิธิวรสกุล นอกจากจะจัดการกับอนันยชได้แล้ว คนที่เหลือฉันก็สามารถทำได้เพียงแค่กระทืบระบายความโกรธ แต่ไม่สามารถเอาชีวิตพวกเขาได้เหรอ?”

“สามารถเข้าใจแบบนี้ได้ อย่าได้ดูถูกการมีอยู่ของปรมาจารย์เน่ยจิ้ง แม้ว่าอำนาจของปรมาจารย์เน่ยจิ้งที่อยู่ในไชน่าทาวน์จัดสรรไว้น้อยกว่าในประเทศมาก แต่ว่าคนในทุกทีมของปรมาจารย์เน่ยจิ้งล้วนเป็นชนชั้นทรงพลังในกลุ่มชนชั้นที่ทรงพลัง สามารถเป็นปรมาจารย์เน่ยจิ้งได้ อย่างน้อยมันจะเป็นความแข็งแกร่งของเน่ยจิ้งชั้นต้น และหัวหน้าทีมของปรมาจารย์เน่ยจิ้งในอเมริกา ก็ยิ่งเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลาง”ชาลิสาเอ่ยปาก

เลิกคิ้วอย่าง ไม่คาดคิดว่าปรมาจารย์เน่ยจิ้งนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ แค่ในทีมปรมาจารย์เน่ยจิ้ง ก็มียอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลางอยู่หนึ่งคน ดูเหมือนจากนี้ไปตัวเองคงจะต้องระวัง เนื่องจากว่าไม่ได้โชคดีไปตลอด

ไม่ใช่ว่าวันไหนเขากำลังเล่นกับขวัญนลินอยู่ จู่ๆก็มีคนมาจับตัวเขาไป อย่างนั้นก็จะเป็นเรื่องที่กระอักกระอ่วน

“ในเมือง ไม่ว่านายอยากจะลงมือกับคนธรรมดาหรือว่ายอดฝีมือเน่ยจิ้ง ทางที่ดีที่สุดก็คืออยู่บนเวทีประลอง เพียงแค่มีคนเป็นพยาน ต่อให้คู่ต่อสู้เป็นคนธรรมดา ถูกนายฆ่าตาย ปรมาจารย์เน่ยจิ้งก็จะทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น เนื่องจากอยู่บนเวทีประลอง เป็นหรือตายขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งของตัวเอง คู่ต่อสู้ตายแล้ว สามารถพูดได้ว่าความสามารถไม่เท่าคนอื่น”ชาลิสาเตือนอีกครั้ง

รพีพงษ์ครุ่นคิดสักพัก และถามว่า: “ดังนั้นคุณเลยต้องการให้ฉันขึ้นเวทีประลอง แล้วฆ่าอนันยชเหรอ?”

“นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนายแล้ว”ชาลิสาเอ่ยปาก

รพีพงษ์พยักหน้า ไม่ได้ตอบโต้ นี่เป็นความคิดที่ดี แน่นอนว่า หลักๆเลยเขาต้องหาโอกาสที่จะได้ขึ้นเวทีประลองกับอนันยช

“ขอบคุณนะคุณที่ตั้งใจเล่าเรื่องพวกนี้ให้กับฉัน ถ้าคุณไม่บอก ไม่แน่ฉันอาจพุ่งไปถึงที่ตระกูลนิธิวรสกุลแล้ว ฆ่าคนของตระกูลนิธิวรสกุลให้หมด”รพีพงษ์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

ชาลิสากลอกตาใส่เขา แล้วพูดว่า: “ฉันไม่อยากถูกคนมุทะลุอย่างนายลากไปลำบากด้วย”

“อยากให้อนันยชขึ้นเวทีประลองกับนายมีโอกาสไม่น้อย นายไม่ต้องรีบร้อน ช่วงหลายวันนี้นายก็ทำความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมที่นี่ก่อน ทำความเข้ากับพื้นฐานพวกนี้ แล้วค่อยพูดถึงเรื่องแก้แค้นตระกูลนิธิวรสกุล”

“ตกลง ฉันจะทำตามที่เตรียมการไว้”รพีพงษ์หัวเราะขึ้นมา ในเมื่อมาถึงถิ่นฐานของคนอื่น งั้นก็ทำตามที่เขาเตรียมการไว้

นี่เหมือนกับตอนที่อยู่ที่เมืองเซี่ยงไฮ้เลย แม้ว่าวิไลพรจะชอบยั่วยวนเขา แต่สำหรับคำสั่งของเขาก็ยังคงเชื่อฟังอยู่ ตอนนี้มาถึงที่อเมริกา ทั้งหมดกลับตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง นี่ยังคงทำให้รพีพงษ์ทอดถอนใจอยู่บ้าง

ดูเหมือนว่านายน้อยเทือกเขากิสนาของเขา จะต้องแสดงความแข็งแกร่งเพียงพอออกมา ถึงจะโน้มน้าวผู้รับผิดชอบในบริเวณอเมริกาเชื่อมั่นนับถือให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะถูกดูถูก

ชาลิสายืนขึ้น หันหลังแล้วเดินออกไปข้างนอก

รพีพงษ์รีบเดินตาม และเอ่ยถามว่า: “ตอนนี้เราจะไปที่ไหนกันเหรอ?”

“ฉันไม่ได้จัดเตรียมโรงแรมให้นาย ดังนั้นช่วงนี้นายก็พักที่บ้านของฉันไปก่อน”

“เตือนนายไว้ก่อนเลย พ่อของฉันไม่ได้มองเทือกเขากิสนาดี ไปบ้านของฉัน ทางที่ดีนายควรฉลาดหน่อย ไม่อย่างนั้นก็รอให้โดนพ่อของฉันกระทืบได้เลย พ่อของฉันเป็นยอดฝีมือเน่ยจิ้งขั้นกลาง”

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

พลิกชีวิต ผมเป็นคนรวยแล้ว / แมงดา? ผมเป็นสายเปย์ต่างหาก

อ่านนิยาย เรื่อง พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว ฟรี ได้ที่ novel-fast 


บทนำ
โดยนำเนื้อเรื่องมาจากบางส่วนของ พลิกชีวิตผมเป็นคนรวยแล้ว
ผมเป็นเป็นเขยแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงมาสามปี ทุกคนต่างก็ คิดว่าสามารถเหยียบย่ำผมได้ ในวันนี้ เพื่อเธอ ผมจะต่อต้าน กับโลกนี้

เรื่องย่อ
“คุณชาย คุณจำเป็นจะต้องกลับไปเกียวโตกับ พวกเรา เพื่อสืบทอดกิจการของตระกูลลัดดาวัลย์

“คุณแม่ของคุณอยากจะขอโทษกับเรื่องที่ทำ ผิดพลาดในปีนั้น อีกทั้งยังหวังว่าคุณจะไม่คิดเล็ก คิดน้อยกับเรื่องบาดหมางครั้งก่อนเก่าและเห็นแก่ ส่วนรวม”

“ตระกูลลัดดาวัลย์ถือเป็นตระกูลชั้นนำของ ประเทศ จะขาดคนสานต่อไม่ได้ครับ” รพีพงษ์ มองไปยังชายชราตรงหน้าที่กำลังโค้ง

ตัวด้วยท่าทีนอบน้อม จากนั้นก็แสยะยิ้มออกมา

“ตอนแรกผู้หญิงใจดำอำมหิตคนนั้นต้องการจะ ควบคุมตระกูลลัดดาวัลย์ เธอขับไล่ฉันออกจากบ้าน อย่างไร้ความเมตตา แถมยังใส่ร้ายว่าฉันทรยศ เธอ กลัวว่าฉันจะแก้แค้นเลยบังคับให้ฉันมาอยู่ในเมือง เล็กๆ อย่างเมืองริเวอร์แถมยังโดนคนเยาะเย้ยว่าเป็น ลูกเขยที่ไม่มีปัญญาแต่งภรรยาเข้าบ้าน ต้องยอมไป เป็นเขยบ้านคนอื่น”

“ตอนนี้เธอป่วยหนัก พวกนายถึงจะคิดถึงฉัน ไม่ คิดว่าสายเกินไปหน่อยเหรอ”

“ฉันชินกับการเป็นลูกเขยที่ต้องมาอยู่ในตระกูล ฉัตรมงคล ชินแล้วกับการที่โดนคนพูดว่าเกาะผู้หญิง กิน ฉันไม่สามารถไปยุ่งกับเรื่องของตระกูลลัดดา วัลย์ได้อีก พวกนายกลับไปเถอะ”

พูดจบรพีพงษ์ ก็หมุนตัวโยนขยะถุงขยะในมือ ลงถัง แล้วเดินจากไป

ถึงแม้การที่ได้เป็นคนสืบทอดตระกูลลัดดาวัลย์ จะเป็นเรื่องช็อกโลก แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรเกี่ยวกับ เรื่องนี้

ในปีนั้นเขาโดนคนในตระกูลลัดดาวัลย์ไล่ออก จากบ้าน เขาก็ไม่เหลือเยื่อใยอะไรกับตระกูลลัดดา วัลย์อีกแล้ว

ตอนนี้เขาเป็นลูกเขยที่ไม่เอาไหนในตระกูล ฉัตรมงคลตระกูลอันดับสองของเมืองริเวอร์อีกทั้ง เขายังเป็นไอ้สวะที่รู้จักกันในเมืองริเวอร์

ไม่มีใครรู้ว่าเขาเคยเป็นคุณชายของตระกูลลัด ดาวัลย์แห่งเกียวโต

แต่ทว่าเรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว ถึงแม้ว่าตอนนี้เขา จะใช้ชีวิตอย่างอนาถ ทั้งตัวของเขามีเงินฝากไม่ถึงสี่หลัก แต่เขากลับไม่เสียใจ

รพีพงษ์ เดินถือผลไม้ในมือไป บ้านของตระกูล ฉัตรมงคล วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของคุณปู่ ญาติ สนิทของตระกูลฉัตรมงคลจะมารวมตัวกันที่นี่ แน่นอนว่างานนี้หลีกเลี่ยงการพูดเปรียบเทียบไม่ได้ อยู่แล้ว แต่ทว่ารพีพงษ์ กลับทำให้ครอบครัวของ อารียาเป็นเรื่องตลก

งานเลี้ยงเริ่มขึ้น ทุกคนในตระกูลฉัตรมงคลต่าง พากันนำของขวัญมามอบให้คุณปู่

“คุณปู่ ผมรู้ว่าคุณปู่ชอบของโบราณ รูปภาพนี้ คือ (ภาพฤาษีตกปลาในซีชาน) ของ ถางหูโป์เป็น รูปภาพจริงที่ผมตั้งใจหามาให้คุณปู่ นี่ครับคุณปู่” หลานคนโตธายุกร ยิ้ม แล้วมอบม้วนรูปภาพหนึ่งให้ ชายชรา

“คุณปู่ หยกชิ้นนี้เป็นของที่ผมขอร้องให้เพื่อนที่ อยู่ต่างประเทศซื้อให้ ราคาไม่เบาเลยค่ะ” หลานรัก คนเล็กอย่างชรินทร์ทิพย์ยื่นหยกให้ชายชรา

ต่างคนต่างก็แย่งกันมอบของขวัญ เพื่อที่จะเอา อกเอาใจคุณปู่

“คุณปู่ ปู่พอมีเงินให้ผมยืมสักห้าแสนไหมครับในปีนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่ได้รับเงินบริจาค จากผู้ที่มีเมตตา มันใกล้จะไปต่อไม่ได้แล้วครับ ขีน เป็นแบบนี้ต่อไป เด็กๆ ในนั้นก็จะไร้ที่อยู..

ขณะนั้นเอง รพีพงษ์ที่นั่งอยู่ท้ายโต๊ะก็เอ่ยขึ้นมา เกิดความโกลาหลขึ้น

ศศินัดดาแม่ของภรรยาลุกขึ้นมาในทันที เธอชี้ หน้าของเขาแล้วต่อว่าทันที “นี่สมองแกมีปัญหาหรือ ไง รู้ไหมว่าแกกำลังพูดอะไรอยู่”

สาวงามแห่งเมืองริเวอร์อย่างอารียา ผู้เป็นซึ่ง เป็นภรรยาของรพีพงษ์ ก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดแบบ นั้นออกมาเหมือนกัน เธอถึงกับต้องลุกขึ้นยืนแล้วพูด ว่า “คุณปู่ เขาคงจะไม่ค่อยมีสติ คุณปู่อย่าไปใส่ใจ กับคำพูดของเขาเลยค่ะ”

พูดจบเธอก็ยื่นมือออกไปบีบแขนของสามีอย่าง รุ่นแรง

สามปีก่อน ก่อนที่คุณย่าฉัตร จะจากไป เธอรีบ บังคับให้อารียา แต่งงานกับรพีพงษ์เทพธิดาผู้ซึ่งเปล่งประกายระยิบระยับใน สายตาของชาวโลก พลันต้องตกลงสู่พื้นดิน

สามปีมานี้ รพีพงษ์ไม่ทำการทำงานอะไรเลย วันๆ ทำแค่เพียงซักผ้า ทำกับข้าว ทิ้งขยะ ผู้คนใน เมืองริเวอร์ ขนานนามเขาว่าไอ้สวะ เดิมที่เคยภาค ภูมิใจว่าเป็นเทพธิดา ก็กลายเป็นคำเย้ยหยันไปโดย สิ้นเชิง

ตอนนี้ รพีพงษ์ก็มาสร้างความลำบากในงานวัน เกิดของคุณปู่อีก

“น่าตลกสิ้นดี นึ่งานวันเกิดของคุณปู่ ไม่มีของ ขวัญไม่พอ ยังกล้ามาขอเงินห้าแสนอีก รพีพงษ์ ไม่กี่ ปีมานี้นายทำให้ตระกูลฉัตรมงคลขายหน้าไม่พออีก เหรอ นายอุตส่าห์มายืมเงินในงานวันเกิด จะทำให้ คุณปู่โกรธหรือไง” คนที่พูดคือธายุกร ลูกหลานที่ ทำให้ท่านปู่นภทีป์ พึงพอใจมาตลอด

“ฉันว่าไอ้คนสมองพิการมันจงใจ อีกอย่างสถาน เลี้ยงเด็กกำพร้าก็แค่ข้ออ้าง มันต้องการเอาเงินของ คุณปู่ไปใช้เอง ดูจากสมองของมันแล้วคงจะคิด อะไรแบบนี้ไม่ได้หรอก คงจะเป็นอารียาที่สั่งมันมา สินะ”

หลานสาวที่คุณปู่รักที่สุดอย่างชรินทร์ทิพย์พูด เสริม พวกเธอไม่ลงรอยกันอยู่แล้ว เมื่อมีโอกาสก็พูด ใส่ร้าย อารียา

เมื่อมีคนพูดถึง อารียา รพีพงษ์ก็อธิบายขึ้นมา ทันที “ไม่ใช่ ผมแค่ต้องการยืมเงินคุณปู่ ช่วงนี้ผม หมุนเงินไม่ค่อยทัน ผมไม่มีปัญญาหาเงินเยอะขนาด นั้น ผมจะต้องหาเงินมาคืนคุณปู่แน่นอน”

“เลิกพูดไร้สาระสักที คนไร้ประโยชน์อย่างนาย ขนาดงานยังไม่มีให้ทำถ้าให้นายยืม นายจะเอา ปัญญาที่ไหนมาคืน” ธายุกรพูดเย้ยหยัน

“จริงค่ะ ไอ้สวะนี่มันมาจากสถานเลี้ยงเด็ก กำพร้า แกยืมเงินคุณปู่เพื่อไปเลี้ยงพวกสวะแบบแก เหรอ ฉันว่าทางที่ดีแกรีบปิดไอ้สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้านั่นซะเถอะ” ชรินทร์ทิพย์พูดด้วยสีหน้า ประชดประชัน

รพีพงษ์มองคนที่กำลังต่อว่าเขาแล้วกัดฟัน กรอด ตอนที่เขากลายเป็นคนเร่ร่อน สถานเลี้ยงเด็ก กำพร้ามารับตัวเขาไว้ เขาถึงเติบโตเป็นผู้เป็นคนมา ถึงทุกวันนี้ ตอนนี้สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้ากำลัง ลำบาก เขาจึงอยากช่วย แต่เรื่องมันกะทันหันเกินไป เขาไม่มีเงินมากขนาดนั้น เขาคิดได้เพียงการยืมเงิน เท่านั้น

ตอนแรกเขาคิดว่าทุกคนจะมีความเมตตาช่วย เหลือสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้รับสายตาอันเย็นชาแบบนี้ ในใจของเขาคิดถึงวิกฤติ ของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เขาถึงไม่แสดงท่าที เกรี้ยวกราดอะไรออกมา

ชายชราที่ป์ โกรธจนหน้าดำหน้าแดง เขา จ้องรพีพงษ์เขม็ง แล้วพูดเสียงดังออกไปว่า “เลิกทำ ตามอำเภอใจได้แล้ว นี่พวกแกมาอวยพรฉันหรือจะ มาเพิ่มความวุ่นวายกันแน่ รีบไสหัวไปซะ งานเลี้ยง ของฉันไม่ต้องการคนไร้ประโยชน์อย่างแก ต่อไป ถ้าบ้านเรามีงานเลี้ยงอะไร ฉันไม่อนุญาตให้แกเข้า ร่วมอีกต่อไป”

“คุณปู่ ตอนนี้ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าลำบาก มากจริงๆ เด็กพวกนั้นต้องการความช่วยเหลือ” รพี พงษ์กัดฟันพูดอย่างไม่ยอมแพ้ สีหน้าของเขาเต็มไป ด้วยความซื่อสัตย์

อารียาเห็นท่าที่จริงจังของเขาแล้ว ก็ถอน หายใจออกมาอย่างจนปัญญา แล้วพูดกับนภทีป์ “คุณปู่คะ เขาต้องการช่วยสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า จริงๆ ค่ะ เขาเติบโตมาจากที่นั่น เขาผูกพันกับที่นั่น มาก คุณปู่ช่วยเขาด้วยนะคะ”


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท